Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 65 ...ที่นี่ไฟกำลังไหม้....โดย "ลุงแอ็ด" ติดต่อทีมงาน

จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี ตอนที่ 65 ...ที่นี่ไฟกำลังไหม้....



ที่นี่ไฟกำลังไหม้..........



“ก่อนเข้ามาทำงาน ผมใช้เวลาสำรวจแล้ว 1 อาทิตย์  สำรวจโปรดักว่า เครื่อง

ยูนิแวคนี่เป็นอย่างไร  สำรวจบริษัทว่าภาพพจน์ดีไหม  แล้วผมก็พบว่า  “ที่นี่

ไฟกำลังไหม้”
 ลูกค้าบ่นอู้กันไปหมด  ไปถึงไหนก็มีคนบอกว่าจะคืนเครื่อง  

ผมทราบดีว่า  มันจะต้องเป็นงานหนักอย่างยิ่งสำหรับผม  แต่ในอีกด้านหนึ่ง  

ผมถือว่า  มันเป็นงานท้าทาย”



“พอเข้ามารับงาน  ทั้งที่ผมขอเวลา 1 เดือน  แต่ผมก็มาทำงานทันที  เป็น 1

เดือนเต็มๆ ที่ไม่ได้เงินสักบาท  แล้วผมก็พบว่า  นอกจากผมแล้ว  ที่นี่ไม่มี

อะไรสักอย่าง  ไม่มีเจ้าหน้าที่  ไม่มีคนซัปพอร์ต  มีแต่เซอร์วิส เซนเตอร์

ข้างล่างที่เขาอยู่เป็นเอกเทศ  ตัดขาดจากการบริหารของบริษัท  และไม่ได้

สนใจว่าจะเซอร์วิสลูกค้า  ข้างนอกก็ร้อนอยู่รุ่มๆ  ข้างในก็มีปัญหา”



สิ่งเหล่านี้สำหรับบริษัทที่ต้องทำธุรกิจดีลละเป็นสิบๆ ล้าน  ถือว่าเป็นปัญหา

ใหญ่หลวงเสียเหลือเกิน  และเมื่อต้องคำนึงถึงจารีตการบริหารแบบ ซี เจ

ฮวง  ที่ไม่ค่อยมอบอำนาจให้ใครอย่างจริงจังแล้ว  สิ่งที่คุณอมรประสพใน

ระยะเริ่มแรกที่เข้าไปบริหารงานนั้น  ต้องเรียกว่า  “ทั้งสุดหินและสุดโหด

จริงๆ”




“ยังโชคดี”



ที่พอผมเข้ามา  ฮวงซึ่งใครมองว่าคบด้วยยากกลับให้อำนาจผมอย่างเต็มที่  

ฮวงเจอผมก็บอกว่า “ยูทำงบค่าใช้จ่ายให้ไอดูหน่อย”  ผมรู้ดีว่า งบค่าใช้จ่าย

ในความหมายของผู้ใหญ่คืออะไร  ผมก็ทำออกมาหนาสักนิ้ว  ในนั้นมีราย

ละเอียดหมด  ตอบปัญหาที่เขาอยากรู้ทุกข้อ  พออ่านเสร็จ ฮวงบอกโอ

เค  “ยูรันเดอะโฮลบิวสิเนส”



แล้วจากนั้นฮวงก็ไม่เคยดูเลยว่า  ผมทำตามงบค่าใช้จ่ายที่ทำไปให้ดูหรือไม่

และจริงๆ แล้ว  ผมก็ทำโดยไม่ได้เบสออนเจ้าบัดเจทนั้นเลย  เรื่องมันอยู่ที่

ว่า  “เมื่อเจ้าของเขาไว้ใจ  เขาเชื่อมือเรา เขาก็มอบอำนาจให้เราจัดการเต็ม

ที่”




สำหรับการแก้ปัญหาซึ่งคุณอมรบอกว่า มีทั้งปัญหาข้างนอกอันได้แก่ ความ

หมดอาลัยตายอยากของลูกค้า เนื่องจากไม่ได้รับบริการเลย  และปัญหา

ภายในซึ่งต้องสร้างระบบระเบียบขึ้นมาใหม่จากไม่มีให้มีนั้น  เขาเล่าออกมา

เป็นด้านๆว่า



“ผมต้องวิ่งออกไปพบลูกค้าของผมทุกคน  สัญญาว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น  

ขอให้เขาอดทน  ให้เวลาผมหน่อย  มีลูกค้ารายหนึ่งตอนนั้นผมยังอยู่เบอร์โร่

ส์  พอเขาเปิดประมูล เขาประกาศเลยว่า “ยูนิแวคไม่ต้องเข้า”  ผมเองยังดีใจ

ว่า หมดคู่แข่งไปอีกราย  อีกไม่นานผมเข้ามาอยู่ซัมมิท  ผมก็ไปพบเขา

ใหม่  บอกเขาว่า  ผมมาอยู่ซัมมิทแล้วนะ  แล้วผมก็ได้ดีลนั้น  ปัจจุบันเขา

เป็นลูกค้าที่แฮปปี้กับเรามาก”




“สำหรับปัญหาภายใน  ผมเริ่มจากบัญชีก่อน  ถึงจะไม่ค่อยมีเรคคอร์ดก็ขอดู

หลักฐานมากที่สุดเท่าที่จะมากได้  การดูบัญชีนี่ทำให้เราทราบถึงนโยบาย

ของบริษัทเท่าที่ผ่านมาว่า  คุณขี้เหนียวไหม  ใจกว้างไหม  ดูจากการสต๊อค

ของนี่เราก็พอทราบและทำให้เดินนโยบายแก้ปัญหาเข้าจุด  ต่อมาผมดูเปอร์

ซอนนอล ไฟล์  ศึกษาผู้ร่วมงานทุกคน  เริ่มทำความรู้จักแต่ละคน  สร้าง

เทคนิคคอลซัปพอร์ต  แล้วก็ฟอร์มอัพเดอะคอมปะนี่”



คุณอมรกล่าวว่า  ต้องใช้เวลากว่า 6 เดือน  ทุกอย่างจึงเริ่มเข้ารูปเข้าร่าง  

และยืนผงาดขึ้นมาจนเท่าทุกวันนี้



ผมตั้งใจจะอยู่เพียง 2 – 3 ปี



กับ “ผู้จัดการ”  คุณอมรบอกว่า  ความตั้งใจแรกสุดก่อนจะเข้ามาดำรง

ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดที่ซัมมิทฯ นั้น



“ผมตั้งใจว่าจะอยู่ซัก 2 ปี อย่างมากก็คงไม่เกิน 3 ปี  แต่ถึงบัดนี้  ผมอยู่มา

แล้ว 5 ปี  และยังไม่มีวี่แววว่าจะขยับไปที่ไหน  ทั้งนี้ก็เนื่องจาก  มันยังมี

ปัญหาที่ท้าทายผมอยู่ไม่ได้ขาด”




“หลังจากบริษัทเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง  ได้เพื่อนร่วมงานมีฝีมือเข้ามาเพิ่ม  

ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปด้วยดี  บริษัทแม่ ก็คือ บริษัท ซัมมิท  อินดัสเทรี

ยลก็มีปัญหาเรื่องโรงกลั่นโดนยึดคืนในปี พ.ศ. 2524”



เขากล่าวว่า  ถึงจะแยกตัวมาเป็นอิสระ  แต่ผลสะเทือนทางด้านขวัญกำลังใจ

ทั้งต่อลูกค้าและพนักงานของบริษัทแล้ว  รุนแรงไม่เบา



“ผมต้องตะเวนออกพบลูกค้า  ชี้แจงให้เขาฟังว่า  มันไม่เกี่ยวกัน  เจอหน้า

ลูกค้านี่  ผมบอกเลยไม่ต้องรอให้เขาถาม  เพราะผมทราบดีว่า  เขาต้องถาม

แน่  หลายเดือนทีเดียวกว่าที่ขวัญกำลังใจจะถูกเรียกกลับคืนมา”




เท่านั้นยังไม่พอ......”ต่อมาพอพักหายใจได้อีกนิดหนึ่ง  ซัมมิท  ออยส์ก็เกิด

ขายทรัพย์สินให้คาลเท็กซ์ขึ้นมาอีก ผมกับเพื่อนร่วมงานก็ต้องวิ่งออกไป

อีกรอบ  ชี้แจงให้ลูกค้าฟังอีก  ถึงตอนนี้ก็เข้าสู่สภาพปกติ”



สำหรับวันนี้   หลังจากฟันฝ่าปัญหานานาประการ  สิ่งที่เรียกว่าเป็นงาน

ท้าทายของกรรมการผู้จัดการซัมมิท คอมพิวเตอร์ก็คือ...



“ทำงานให้เข้าเป้าตามที่เราตั้งยอดขายไว้ในปีหน้าถึง 70 ล้านบาท  จาก

แฟกซิลิตี้ที่เรามีอยู่  เราไม่ได้หวังตัวเลขที่สูงกว่านั้น”




สำหรับคนที่เคยฟันฝ่าจากสิ่งที่ไม่มีมาสู่มี  สภาพที่ดำรงอยู่ขณะนี้  แม้จะยัง

ไม่ใช่ความปรารถนาสูงสุด  แต่ก็เป็นสิ่งที่อดภาคภูมิใจเสียมิได้  มิใช่หรือ


........................................................................................................


จากนิตยสาร “ผู้จัดการ”  ฉบับเดือนกันยายน 2526 สัมภาษณ์โดย..

...”คุณไพศาล  มังกรไชยา”

........................................................................................................

จากคุณ : ลุงแอ็ด
เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 13:05:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com