ความคิดเห็นที่ 1 ทำให้คิดถึง อยู่เมืองหลวง จะมีรถทำไม? พอดีอายุพึ่งขึ้นเลข3 ไปซื้อบ้านมาใน กทม.2ล้านกว่าๆ พึ่งเก็บเงินได้ด้วยลำแข็งของตัวเอง  รถก้อยังไม่มี เพื่อนบางคนบอกให้ซื้อรถ ก่อนค่อยซื้อบ้าน เพราะปกติก้อทำงาน อยู่ ตจว. นานๆเข้า เมืองหลวงซักที มันบอกว่าซื้อให้แมลงสาป อยู่หรา แต่้พื่อนอีกคน ก้อบอกว่าซื้อเก็บไว้เป็นสินทรัพย์ ไม่ได้อยู่ก้อไม่เป็นไร ตกลงจะเชื่อใครดี   พี่ชาย ทำงานอยู่สีลม มีช๊อบเปอร์ 1คัน แล้วก้อ civic อีก 1คัน แต่ไม่มีบ้าน อยู่คอนโด ไปทำงานก้อขับแมงกะไซด์ ไปทำงานทุกวัน นานๆจะเอา civic ออกซักที บางที 2เดือนก้อจอดทิ้งไว้อย่างนั้น แล้ว จะซื้อมาทำไม งง สรุป ผม คิดถูกไหม ที่ซื้อบ้านใน กทม แต่ ไม่ซื้อ รถ เพราะใน กทม นั่งรถไฟฟ้า เร็วกว่าเยอะ ปล. ในอนาคต จะไปใช้ชีวิตในเมืองหลวง ละ ขอบอก แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 54 00:49:01 จากคุณ : น้ำย่อย เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 00:46:28

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยกับการซื้อบ้าน เพิ่มมูลค่าตลอด  ไม่มากก็น้อย ความเป็นครอบครัว ก็อยู่ในตัวบ้าน อนาคตจะดีจะร้าย ก็อยู่ในตัวบ้าน ความรักก็รออยู่ที่บ้าน เงินดาวน์บ้านเท่ากันกับดาวน์รถ ผมดาวน์บ้านก่อน เสมอ จนปัจจุบันก็ไม่มีรถส่วนตัว ชีวิตก็ดำเนินไปได้ จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 06:54:56

ความคิดเห็นที่ 3 เพราะมันไม่ได้ผิดกฏหมาย และมีนักลงทุนที่พร้อมจะลงทุนครับ หากเขาทำทุกอย่างตามเทศบัญญัติ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้าง, พื้นที่จอดรถ, ระบบกำจัดของเสีย ไปจนถึง การขออนุญาตต่างๆ มันจะไปห้ามเขาได้อย่างไรล่ะในโลกของการค้าเสรี ???? ส่วนรถตู้ผมเห็นด้วยครับ ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของถนน นึกจะเข้าป้ายก็เปลี่ยนเลนทันที หรือบางครั้งจอดเลน 2 เลน 3 เพื่อรับส่ง แต่เรื่องจอดนานเพราะคนขึ้นลงลำบาก มันจะไปว่าเขาไม่ได้ครับหากเขาทำตามกฏจราจร รถตู้เป็นพาหนะที่เติมช่องของ ขสมก. สำหรับคนที่ไม่อยากนั่วรถเมล์ และไม่ชอบมอเตอร์ไซด์วิน แต่ก็ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะนั่งแท็กซี่ในทุกๆครั้งที่จะเดินทาง อีกทั้งไม่สามารถนั่งบีทีเอส หรือว่ารถไฟใต้ดินได้เพราะไม่ผ่านในจุดที่อยากไป แต่ส่วนใหญ่ขับได้เลว "ยำยำ" จริงๆครับ ค่าไฟที่ขึ้นเอาๆ คุณก็แก้ที่ตัวเองซิ หาทางประหยัดและใช้ให้มันน้อยลง ของบางอย่างมันต้องแก้ที่ตัวเราบ้างครับ โซล่าเซลในเมืองไทยไม่ได้รับความนิยม เพราะภาครัฐไม่ได้ให้ความสำคัญกับพลังงานทางเลือก จะเป็นรัฐบาลไหนมาบริหารก็ไม่เห็นใครสนับสนุนโซล่าเซลเลย ทั้งๆที่เมืองไทยมีแดดเยอะ และน่าจะเอามาใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ผมไม่อึดอัดครับ เพราะไม่รู้จะไปอึดอัดให้เป็นทุกข์ทำไม เอ้าาา...ตอบให้คุณครบทุกประเด็นเลย.... จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 08:11:18

ความคิดเห็นที่ 4 โซล่าเซลราคาต่อหน่วยต้นทุนแพงกว่าไฟบ้านนะครับ มันไม่ใช่ซื้อมาติดเฉยๆแล้วจะใช้ได้ตลอด มันมีเสื่อม มีค่าแบต แดดก็ไม่ได้แรงทุกวัน ช่วงนี้ฝนตก 5-6 วัน/สัปดาห์ก็แทบไม่มีแดดเลย จากคุณ : RyanUtd เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 10:24:20

ความคิดเห็นที่ 5 ห้างสรรพสินค้าไม่ได้เป็นเหตุสำคัญที่ทำให้รถติด แต่รถติดเกิดจากการขนส่งสาธารณะไม่สอดคล้องต่อความต้องการ หากเราจะอ้างอิงต่างประเทศแบบที่หลายๆคนชอบอ้างถึง ก็จะพบว่าห้างสรรพสินค้าก็อยู่ในเมืองเช่นกัน จากคุณ : สัญญาณหางปลา เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 10:52:41

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับห้าง แต่มันอยู่ที่ระบบการจัดการมากกว่า และอีกอย่างคือ นิสัยการขับรถของคนบางคน เมื่อก่อนผมคิดว่ามันต้องมีรถชนกันแน่นอนรถถึงติดขนาดนี้ สุดท้ายพอขับไปใกล้ กลับเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่กี่คน ทำรถติดทั้งถนน ไหนจะการจอดรถสาธารณะอีกหล่ะ ทั้งรถเมล์ รถตู้ รถพวกนี้จะพยายามวิ่งขวา แต่พอจะจอดก็เข้าซ้ายโดยไม่แคร์อะไรทั้งนั้น พอรับคนเสร็จก็ออกขวาอีก รถมันจะไม่ติดได้ไง  แล้วก็มีเรื่องของถนนบ้านเราอีกวิ่งมากัน 3 เลนอยู่ดีๆก็เหลือ 2 เลน รถมันจะไม่ติดได้ไง แต่ที่ที่คาใจสุดคือ ถ.แจ้งวัฒนะ หน้าศุนย์ราชการ สร้างสะพานอยู่เป็นปี รถติดมาก พอสะพานเสร็จก็ งง ว่าจะสร้างทำพระแสงอะไรสะพานนี้ ไม่มีแยก ไม่มีคลอง คือ วิ่งข้างล่าง กับขึ้นสะพาน มีค่าเท่ากัน ตอนนี้ผมอยู่เส้นศรีนคริทร์ครับ ใครจะมาแถวนี้ ก็เตรียมตัวมาล่วงหน้าเผื่อรถติดด้วย รถเยอะ และกำลังมีโครงการขยายถนน ยิ่งตอนเย็นๆ มองไปนึกว่าเป็นลานจอดรถ จากคุณ : วีเท่ากับเอฟแลมด้า เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 11:33:24

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับ คห ที่ 3 ครับ จากคุณ : toyui เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 11:35:35

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่น่าเกี่ยวกับห้า้ง เกี่ยวกับกฏมากกว่า คนไทยกฏมีไว้ แห่ก   ไม่เคารพกัน เห็นแก่ตัว เมืองหลวงเลยเป็นเช่นนี้ คิดถูกแล้วที่ซื้อบ้านิ มีแต่เพิ่ม ซื้อ รถ มีแต่ ลด  ตามชื่อพ้องเสียง ไม่มีเพิ่ม รอมีกะตังค์ก่อน ค่อยลด จากคุณ : sope เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 20:03:25

ความคิดเห็นที่ 9 ประเทศนี้มันหมักหมม มานาน ของแบบนี้ มันต้องออกมาเป็นกฏหมาย ให้ได้ มันถึงจะมีผลในทางปฏิบัติ ... แล้วก็อย่างที่บอก เขาก็ทำถูกกฏ ถ้าอยากเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องเปลี่ยนกฏ ใหม่ จากคุณ : seal เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 22:16:21