ความคิดเห็นที่ 1 ภาพนี้ผมถ่ายเมื่อวันพุธที่ 28 กันยายน 54 ครับ ขอโทษครับที่ไม่ชัดเพราะรีบถ่าย ตอนนี้มีมากกว่า 10 แผงแล้วนะครับ และบางแผง ตั้งออกมาเลยกึ่งกลางทางเดิน จากคุณ : Paokun เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 16:13:19

ความคิดเห็นที่ 2 ซ้ำครับ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 54 16:16:57 จากคุณ : Paokun เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 16:16:02

ความคิดเห็นที่ 3 อีกรูปครับ ใครมีอะไรจะแชร์ก็เชิญได้เลยครับ ขอความเห็นที่สร้างสรรค์หน่อยนะครับ อย่าก่อดราม่ากันเลย สมาชิกบางคนในที่นี้อาจจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่นั่นก็ได้ครับ เรามาพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์ดีกว่าครับ จากคุณ : Paokun เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 16:16:19

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเองก็เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้นะครับ ถ้าปล่อยให้เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นก็จะแก้ไขยากเนื่องจากไม่ได้ป้องกันอย่างจริงจัง พอลุกขึ้นเอาจริงจะขับไล่ไม่ให้ขาย คนที่เคยทำมาค้าขายเขาก็จะด่ากลับว่าแล้วพวกเขาจะทำมาหากินได้ยังไง กลั่นแกล้งประชาชนบ้างล่ะ (อย่างกรณีที่บนทางเท้าของจุฬา) คือ ถ้าจะอนุญาตให้ขายก็ควรให้เป็นระเบียบไม่ใช่เบียดเบียนทางเดินแบบนี้ หรือถ้าไม่อนุญาตก็ควรป้องกันตั้งแต่ต้น อยู่ใจกลางเมืองซะเปล่า หาความเป็นระเบียบเรียบร้อยอวดชาวต่างชาติไม่ได้เลย จากคุณ : go-out เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 16:28:19

ความคิดเห็นที่ 5 อีกหน่อย  ทางเดินนี้็จะถูกยึดพื้นที่เหมือนฟุตปาธของแทบจะทุกถนนใน กทม. คงจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่ประชาชนเดินบนฟุตปาธไม่ได้ จากคุณ : padivarutda เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 16:30:15

ความคิดเห็นที่ 6 พอ เทศกิจ ไปไล่จับ เดี๋ยวก็... -จับลูก ประท้วง -กระโดด ลงข้างล่างอีก -..ฯลฯ ผมแนะนำ ให้ ตั้ง ป้อม บนนั้นเลย ดูแล ความปลอดภัย คู่กับ จัดระเบียบ ห้ามค้า ไปเลย จากคุณ : 23เอี่ยมวิไล เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 16:33:59

ความคิดเห็นที่ 7 เคยมีเทศกิจมานะครับ มายืนดูเค้าขายของ คิดว่าน่าจะมี something wrong ในกรณีนี้ แต่พูดไม่ได้ เดี่ยวโดนฟ้องครับ จากคุณ : Paokun เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 16:38:56

ความคิดเห็นที่ 8 เพราะ "ทำอะไรตามใจคือไทยแท้"  และเพราะคำว่า "ส่วย" ครับ  มันถึงได้เป็นอย่างที่เห็น  นับวันบ้านเมืองยิ่งไม่เป็นระเบียบมากขึ้น เพราะกฏหมู่อยู่เหนือกฏหมาย เบื่อไม่รู้จะเบื่อยังไงแล้วว่ะครับ  ในเมื่อ จนท. ที่รับผิดชอบกลับละเลยหน้าที่และกลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาซะเอง  แล้วจะไปหวังอะไรได้อีก? จากคุณ : CLK BRABUS เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 16:49:57

ความคิดเห็นที่ 9 น่าจะเอาเรื่องขายของบนทางเท้า และTAXIจอดรถคล่อมบนทางเท้ามาร่วมด้วย พอๆ กันเลยคะ (ขอบ่น) จากคุณ : ณ นานากัญจน์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 17:16:29

ความคิดเห็นที่ 10 เค้าห้ามวางขายหรือเปล่าครับ ถ้าห้าม แต่ยังปล่อยเลยตามเลย นานเข้าก็วางขายกันเต็ม แล้วก็มีปัญหาอีก จากคุณ : ray daddy เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 17:16:53

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยอย่างมากเลยครับ บนถนนตั้งกันยังไม่พออีกเหรอครับ นี้เล่นระบาดขึ้นมาบนทางเดินยกระดับอีก โหจะเอาเปรียบกันมากไปแล้วน่ะครับ จากคุณ : toyui เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 17:17:45

ความคิดเห็นที่ 12 ไปธุระแถวสยามสแควร์ ก็เจอสภาพแทบไม่มีที่จะเดินบนทางเดินเท้าเลย  มีแต่รถเข็นขายน้ำขายก๋วยเตี๋ยวเต็มไปหมด ตกลงกทม.เอาแผงต้นไม้ออกไปแล้วให้ขายของได้แล้วเหรอ จากคุณ : ไม่มีวันหมดอายุ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 17:34:52

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อก่อนผมชอบไปช็อปแถวสยามตอนกลางคืนนะ รู้สึกมีของน่าสนใจเยอะดี แต่หลังจากเห็นข่าวคนพวกนี้ พังรั่วต้นไม้ที่ กทม หรือจุฬาฯ ไม่แน่ใจ เอามากั้นไว้เพื่อไม่ให้ขาย ผมไม่เคยคิดจะอุดหนุนคนพวกนี้อีกเลย ต่อให้เจอของที่ถูกใจก็เหอะ ของแบบนี้คนซื้อต้องร่วมกันแอนตี้ด้วยครับ อยากขายๆไป แต่เรารวมกันไม่ซื้อซะอย่าง เด่วก็หมดไปเอง จากคุณ : se7o1 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 17:45:59

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ตอบ คห.12 ทางจุฬาเอาออกครับ เพราะขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจและเทศกิจไม่ได้ผล ทางจุฬาเลยต้องยอมแพ้ เป็นเจ้าของที่แต้่ไม่สามารถจัดการผู้บุกรุกได้ จากคุณ : วัยละอ่อน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 18:27:22

ความคิดเห็นที่ 15 ป้องกันไม่ได้หรอกครับ ตราบใดที่ยังมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง การตั้งเงินเดือนข้าราชการให้สูงขึ้นก็ไม่อาจแก้ปัญหาเรื่องผลประโยชน์ได้ทางเท้าที่ขีดเส้นไว้ให้ขายเป็นบล๊อค - ล้ำออกมาโดนจับ ก็จับแค่ไม่กี่วันก็เลิกจับ ผู้ค้าหลายคนบอกแต่เพียงว่าสถานที่ๆทาง กทม. จัดไว้ให้ขายโดยเช่าเป็นบล๊อคก็เช่าแล้ว แต่ลูกค้าไม่เดินเข้าไปซื้อก็ต้องหอบเอามาขายกันข้างนอก บล๊อคที่เช่าไว้ก็เอาไว้เก็บของกับโชว์ของตั้งราคาให้สูงกว่าข้างนอกเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีตัวเลือกเพิ่มขึ้น การแก้ไขอยู่ที่การปลูกจิตสำนึกของคนซื้อให้ซื้อแต่ของที่อยู่ในที่สำหรับขายเมื่อทุกคนเข้าไปซื้อข้างในกันหมดแล้วข้างนอกจะอยู่ได้ยังไง  ทุกวันนี้ที่ยังมีคนขายก็เพราะยังมีคนซื้ออยู่ครับ ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ จากคุณ : ทหารเก่า (seasanak) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 20:11:39

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยครับ ต้องป้องกันไม่ให้ตั้ง จากคุณ : ฯดิ้วฯ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 20:38:21

ความคิดเห็นที่ 17 นึกอยู่แล้วต้องว่าเป็บแบบนี้   ตอนนี้หม่อม เ๋อ  ก็จะทำทางเดินลอยฟ้าแบบนี้อีกมากมายหลายแห่งนะครับ    ผมว่าอีกหน่อยคงเหมือนทางเท้าข้างล่างละครับ จากคุณ : ต้องผ่านไปให้ได้ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 21:15:43

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้ารณรงค์ให้ไม่ซื้อเหมือนการทิ้งขยะเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจฯลฯ ถ้าไม่ซื้อคนขายขายไม่ได้น่าจะมีส่วนให้คนขายไม่สะดวกที่จะขายของได้ทางหนึ่ง เราเองไม่ค่อยได้ใช้บริการรถไฟทั้งบนฟ้าและใต้ดินช่วงนี้ แต่นึกภาพออกว่า ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ การจัดการจะยุ่งยาก  โทษน่าจะมีมากกว่าประโยชน์  นอกจากนี้อาจให้ใช้ได้สำหรับองค์กรต่าง ๆ เช่น คนตาบอด เด็กที่มีปัญหาทางสมองฯลฯ  หรือให้ใช้เป็นจุด ๆ คือต้องเข้าไปจัดการนะคะก่อนที่จะยุ่งยากกว่านี้ ยกตัวอย่างนะคะ ตอนนี้นึกไม่ออกดึกแล้ว อิอิ จากคุณ : เขมิศราสุดสวย เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 00:22:28

ความคิดเห็นที่ 19 พวกที่ขายของริมทางเดินตรงสยาม บางคนรวยกว่าเราๆ ท่านๆ ในนี้อีก เห็นมากับตาเลยครับ วันนั้นผมยืนรอรถเมล์เหงื่อโซมๆ อยู่บนผิวถนน (บาทวิถีถูกพ่อค้าแม่ค้ายึดหมดแล้วหนิ) เจอรถ Nissan March ป้ายแดงขับมาจอดตรงป้ายรถเมล์แล้วเปิดไฟฉุกเฉิน จากนั้นคนขับก็ลงจากรถไปเปิดประตูหลัง พร้อมกับมีแม่ค้าอีกคนหนึ่งเดินมาช่วยกันยกของลงจากรถไปขาย เห็นแล้วแบบ... ลูกค้าบางคนยังขึ้นรถเมล์อยู่เลย พวกคุณๆ ท่านๆ ปากบอกว่า ขอที่ทางให้คนจนทำมาหากิน แต่เจือกขับรถป้ายแดง ช่วงหลังผมเลยไม่ซื้อของพวกนี้จากร้านข้างทางแล้ว ชวนเพื่อนไปเดินแพลตตินั่มแล้วร่วมกันซื้อแบบราคาส่งดีกว่า ถูกแถมสบายใจกว่าเยอะ ป.ล. อีกนิด ระหว่างที่ยืนรอรถเมล์ ยังได้ยินแม่ค้าคุยกันด้วยน่ะ ว่าจะจองตั๋วเครื่องการบินไทยไปเที่ยวที่ไหนซักแห่งกันนี่แหละ เฮ้อ ไหนบอกว่าจนว่ะ จากคุณ : JeZeus เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 01:00:09

ความคิดเห็นที่ 20 ฟุตบาทบนอากาศก็คงไม่ต่างจาก ฟุตบาทบนดินนะ คนขายของให้คน เดินผ่านไปมา พอคนหนี้ไปเดินบนนั้น คนขายก็ต้องตามไป ตอนสร้างเขาก็รู้ แต่ไม่ทำอะไร นี่คือสีงที่คนกทม.ต้อง พูดกัน แต่ระวังเดี๋ยวจะถูกหาว่าลากเข้า เรื่องการเมืองนะ จากคุณ : ทองรำไร เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 06:37:05

ความคิดเห็นที่ 21 คงจะต้องไปถ่ายรูปเทศกิจที่คุณเห็นเพิ่มเติม เพื่อประกอบการร้องเรียนต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ  นะครับ จากคุณ : กราสิก เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 10:18:44

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่า กทม. ไม่น่าจะได้บทเรียนอะไรจากเรื่องนี้หรอกคับ เพราะไม่เห็นเขากระตือรือร้นอะไรเลย ดูตัวอย่างที่สยามก็ได้ กทม. (เหมือนจะ)ไม่ทำอะไรเลย พอจุฬาจะเอาจริงก็ดันมาอ้างว่าทางเท้าเป็นของ กทม. สุดท้ายจุฬาก็ต้องแพ้ เห็นใจจุฬามากเลย แต่ชื่นชมทางเชื่อม BTS สถานีสนามกีฬากับ MBK นะคับ จำได้ว่าช่วงนึงตรงนั้นคนเยอะมากแทบจะขี่คอกันเพราะพวกตั้งของขายนี่แหละ แต่รู้สึกตอนนี้จะไม่มีเลย เพราะ BTS เขาจัดการงัยคับ จากคุณ : A Boy From The Moon เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 10:44:51

ความคิดเห็นที่ 23 เราคิดว่ากรุงเทพฯตอนนี้ ทุกแห่งที่มีคนเดินไปมาที่นั่นจะเต็มไปด้วยหาบเร่ทุกจุดแล้ว ชวนให้นึกคิดว่าปัญหาแบบเดียวกันนี้คล้ายกับที่ไทเปเมื่อนานมาแล้ว ทางการเลยจัด ให้มีพื้นที่ขายของตอนกลางคืน ปิดถนนชั่วคราวในเส้นทางที่การตราจรไม่หนาแน่น หลังทุ่มนึงถึงเที่ยวคืน เป็น "ไนท์มาร์เก็ต" จัดทำเป็นย่านๆไป เช่น ไนท์มาร์เก็ต กลุ่มร้านอาหารก็เป็นถนนสายหนึ่ง ไนท์มาร์เก็ตเสื้อผ้าก็เป็นถนนสายหนึ่ง ของเบ็ดเตล็ดก็เป็นถนนสายหนึ่ง แล้วก็โปรโมตพร้อมยกระดับเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวตอนกลางคืนได้ด้วย กรุงเทพฯจะมีที่เที่ยวกลางคืนใหม่ๆ อีกมากมาย วันนี้ พอนึกถึงที่เที่ยวกลางคืนในกรุงเทพก็ไม่พ้นสถานบันเทิงผับบาร์ หากเป็น ต่างชาติก็นึกถึงสีลม นานา นวดแผนโบราณแอบแฝง ฯลฯ ตอนนี้ที่เป็นไนท์มาร์เก็ตแล้วก็มีเพียงไม่กี่แห่งอย่างสะพานพุทธ เยาวราช หากจัดโซนนิ่งไนท์มาร์เก็ตดังว่าแล้ว พออย่างเข้าสองสามทุ่มห้างเริ่มปิด เราจะไม่มีเพียงแค่สะพานพุทธ หรือย่าน สถานบันเทิงอโคจรสีลม นานา หรือแหล่งขายของที่ระลึกให้ฝรั่ง กับเสื้อผ้า ของปลอม ทำให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์การค้าแบบโอเพ่นแอร์ยามค่ำคืนในจุดที่กำหนด กลุ่มย่านร้านอาหารไทย กลุ่มย่านร้านอาหารจีนทำให้ฟูลแบบไทเปเลยก็ได้ จัดระเบียบ เวลาเปิดปิดถนน การทำความสะอาด และปรับบทลงโทษให้รุนแรงขึ้น เช่นเดียวกับที่ไทเปทำได้ทำสำเร็จมาแล้ว คนขายหน้าใหม่ ใครอยากขายก็ไปลงทะเบียนกับทางการเพื่อหาพื้นที่ที่ให้วางได้ ทางการจัดสรรพื้นที่ และสำรวจทำเลใหม่ที่สามารถทำไนท์มาร์เก็ตได้ ได้ภาษี เงินนอกระบบเข้าในระบบหมด ส่วยสาอากรอะไรก็จะหายไป พอภาครัฐ เข้ามาจัดการวางแผนเอง คนขายก็แฮปปี้ด้วย เพราะที่ที่ขายก็ถูกโปรโมตให้เป็น ย่านท่องเที่ยวไปในตัว คนซื้อยังไงก็ต้องมาเพราะเป็นกลุ่มร้านค้าเดียวกัน ทำนอง ห้างสรรพสินค้าที่มีแบรนด์มากมายให้เลือกได้ ที่ญี่ปุ่นไม่มีไนท์มาร์เก็ตโดดเด่นแบบนั้น แต่เอาผิดคนซื้อด้วยนะ หากเป็นของ ปลอม บทลงโทษรุนแรงด้วย แต่ก็มีแอบขายกันตอนดีกๆ เอาคนจีนบ้าง รัซเซีย บ้างมาขาย แต่ก็เป็นส่วนน้อยถึงน้อยมาก เวลามีงานเทศกาล (มีบ่อยด้วย) จะเปิดให้คนขายมาลงทะเบียนออกร้าน ขายกันได้ถึงตอนกลางคืน คนขายก็จะหาพื้นที่หมุนเวียนไปตามงานเทศกาลต่างๆ ส่วนบนถนนนี่ตำรวจเดินตรวจตรากันเรียกว่าทุกๆ ชั่วโมงเลย ห้ามคือห้ามไม่มีข้อแก้ตัวใดๆได้เลย อยากให้กรุงเทพฯ ลองเอากรณีศึกษาของไทเปมาลองดู แล้วโปรโมตแหล่ง ท่องเที่ยวตอนกลางคืนใหม่ๆ ให้หลากหลาย เวลาเรากลับไทยเรารู้สึกเลยว่า ที่เที่ยวไทยยามค่ำคืนมีช้อยส์น้อยมาก เวลาออกนอกบ้านหลังสามทุ่มไปแล้ว ไม่แคล้วว่าต้องไปผับบาร์ หรืออะไรอย่างนั้น มีคนไทยที่ทำงานดีก แต่ก็อยากเดินสบายๆ หลังเลิกงานไปแหล่งที่อยากดู ของที่ชอบ อาหารที่อยากทาน และคนต่างชาติที่มีเวลาน้อย เช่น มา เที่ยวระยะสั้นๆ สองสามวัน หรือมาวิสิทดูงานวันสองวัน ไม่มีเวลาตอนกลาง วัน จะได้มีพื้นที่ให้ได้ช้อปปิ้งใหม่ๆ เป็นระเบียบสวยงาม แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 54 10:56:52 จากคุณ : เจอินโอซาก้า (silkroad) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 10:52:47

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ดราม่าหรอกครับ แค่ของ "ประณาม" ทั้งคนขาย ที่เห็นแก่ตัว และ คนซื้อ ที่มักง่าย แม้จะเป็นคนดี มีความรู้ เรียนสูง ทำงานออฟฟิซ แต่ถ้าทำแบบนี้ทั้งคนวางขายและคนหยุดดู/ซ้อ ผมถือว่าเป็น "ขยะสังคม" จากคุณ : RoppongiHills เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 12:23:52 A:124.121.175.17 X: TicketID:288079

ความคิดเห็นที่ 25 เราว่าน่ารำคาญมากค่ะ แล้วแบบนี้มันเสี่ยงต่อการโดนขโมยกระเป๋าอย่างรุนแรง จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 04:59:38

ความคิดเห็นที่ 26 ไล่ก็ไม่ไปหรอก   ถ้ายังขายของได้  ถ้ายังมีคนซื้อ !! จากคุณ : kuk172 เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 06:41:09