Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เหตุเพราะน้ำ ติดต่อทีมงาน

ฉากชีวิต

เหตุเพราะน้ำ

เพทาย

ปีนี้ พ.ศ.๒๕๕๔ มีข่าวน้ำท่วมมากกว่าปกติ เพราะฝนจากพายุใต้ฝุ่น และมรสุม ตกติดต่อกันไปเกือบตลอดปี น้ำท่วมภาคใต้ แล้วก็มาภาคอิสาน คราวนี้เริ่มที่ภาคเหนือ และน้ำจำนวนนั้นก็ไหลล่องลงมาทางภาคกลาง จนแทบจะล้นเขื่อนต่าง ๆ จนต้องไม่สามารถกักน้ำไว้ได้ น้ำจำนวนมากจึงไหลลงมาท่วมหลายจังหวัดในภาคกลาง โดยทั่วหน้ากัน แล้วก็จะต้องผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ผ่ากลางกรุงเทพมหานคร ในขณะที่น้ำทะเลขึ้นสูง หากมีฝนตกหนักอีก ก็จะป้องกันไม่ไหว ชาวกรุงต่างวิตกทุกข์ร้อนไม่แพ้ชาวบ้านต่างจังหวัด ที่ชาวกรุงได้ระดมเงินทองสิ่งของเครื่องใช้ ไปบรรเทาทุกข์กันอยู่ ยังไม่ขาดสาย

ข่าวทางโทรทัศน์และวิทยุ และหนังสือพิมพ์ รวมถึงอินเตอร์เนต ก็แจ้งเตือนอยู่ทุกเวลาตลอดวัน ตลอดคืน ผู้คนก็เลยหวาดกลัวว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพ ให้จมเป็นเมืองบาดาลไปเลย ต่างก็พยายามที่จะคุ้มกัน บ้านช่องของตนให้พ้นจากน้ำท่วมคราวนี้ ทั้ง ๆ ที่ทางราชการ กทม.ก็ได้ระดมป้องกันเป็นส่วนรวมอยู่อย่างแข็งขันแล้วก็ตาม ทำให้ผมต้องตื่นตัวคว้ากล้องของลูกชาย ออกไปดูน้ำกับเขาบ้าง

เช้าวันที่ ๘ ต.ค. ไปดูที่ใต้สะพานกรุงธน เขากั้นไว้แค่แนวเขื่อนทั่วไปเท่านั้น น้ำท่วมเข้ามาได้แค่หน้าศาลเจ้าแม่ทับทิม คงจะขึ้นทุกวันจนตะไคร่น้ำจับเขรอะ ทางวัดราชผาติการาม ที่เคยต้องเดินบนสะพาน ปีนี้ ไม่ต้องทำสะพานเลย

เช้าวันที่ ๙ ต.ค.ไปดูที่ท่าพระจันทร์และท่าช้างวังหลวง มีน้ำที่ล้นจากเขื่อนมาตรฐานไหลมา เขาก็เอากระสอบทรายกั้นให้ไหลกลับลงท่อ ไปออกแม่น้ำใหม่ วนเวียนอยู่จนน้ำลงก็หายไป

เช้าวันที่ ๑๐ ต.ค.ไปดูที่สวนสันติชัยปราการ ป้อมพระสุเมรุบางลำพู น้ำก็ท่วมเข้ามาแค่พื้นต่ำที่เคยใช้เป็นบริเวณออกกำลังเต้นแอโรบิคเท่านั้น นอกนั้นก็เป็นเนินสูง ตามตรอกที่ลงไปริมแม่น้ำก็มีเขื่อนซีเมนต์เสริมด้วยกระสอบทราย น้ำไม่รอดออกมาถึงถนนพระอาทิตย์เลย เดินไปตามทางเท้าริมแม่น้ำจากสวนสันติชัยปราการ ไปจนถึงเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ทางเดินลื่นด้วยตะไคร่น้ำ แสดงว่าเวลาน้ำขึ้นจะท่วมทางเดินตลอดทั้งเส้น แต่ก็ยังไม่ถึงขอบเขื่อนของตึกที่อยู่ติดแม่น้ำทุกราย

เมื่อลงเรือข้ามฟากไปขึ้นท่าฝั่งธนบุรี ก็เห็นว่าเขื่อนชายน้ำที่เคยมานั่งจิบเบียร์ชมวิว มีแต่ตะไคร่น้ำ เขาเอากระสอบทรายกั้นลึกเข้าไปถึงผิวจราจรสำหรับกลับรถที่ใต้สะพานเท่านั้น

เมื่อลงเรือขากลับมาฝั่งพระนคร เป็นเรือที่ไปท่าพระจันทร์ ขณะเดินผ่านสองข้างทางเข้าออกท่าเรือ ซึ่งสร้างสะพานไม้ไว้สูงเลยหัวเข่า ซึ่งห้องแถวขายสินค้าต่าง ๆ ไม่ได้หนีน้ำไปไหน เขาใช้วิธียกพื้นใหม่ให้สูงเกือบเท่าสะพานคนเดิน เอาไว้วางสินค้า บางร้านพื้นนี้เต็มห้องคนขายก็ไม่เปียกน้ำ บางร้านประหยัด ยกแต่สินค้า ตนเองยืนแช่น้ำขาย แสดงว่าพ่อค้าแม่ค้าเหล่านั้น ไม่มีใครกลัวน้ำท่วมเลย เพราะเขาทำเช่นนี้มาทุกปีจนเคยชินเสียแล้ว

เมื่อวันก่อนถ่ายรูปตอนเช้า เขายังไม่เปิดร้านกัน วันนี้มาเกือบเที่ยง ร้านเปิดเกือบตลอดทั้งแถว จึงถ่ายรูปไว้แล้วเดินดูผ่านไปด้วยความชื่นชม ในความอดทนของพวกเขา พอถึงร้านขายรองเท้าสตรี ซึ่งพื้นที่ยกไว้เต็มทั้งห้องนั้นปูด้วยพรมสีเขียว ก็หยุดยืนดูในขณะที่เด็กสาวในร้านกำลังใช้เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก ทำความสะอาดพื้น ด้วยความขำในใจว่า ขนาดทำชั่วคราวยังประณีตถึงขนาดนี้

พอดีเธอซึ่งนั่งยอง ๆ อยู่ ได้เงยหน้าขึ้นเห็นผมยืนอยู่พอดี เธอรีบก้มลงสำรวจดูตนเอง ซึ่งสวมเสื้อคอกลมและนุ่งกางเกงขาสั้น ว่าเผอเรอทำอะไรหลุดรอดออกมาหรือเปล่า ทำให้ผมใจหายวาบ เพราะเพิ่งรู้สึกตัวว่าดันมายืนอยู่ตรงนี้ โดยไม่ได้ตั้งใจเลย พอสบตาเธอก็เลยยิ้มแห้ง ๆ แล้วเสถามว่า

“ ทำไมไม่ทำให้สวยอย่างนี้ตลอดไปล่ะครับ จะได้ไม่ต้องทำทุกปีที่น้ำท่วม “

เธอยิ้มนิดเดียวแล้วก็ก้มหน้าทำงานของเธอต่อไป โดยไม่ตอบประการใด ผมจึงรีบก้าวเดินต่อไป ชักใจหายว่าเคราะห์ยังดี ที่เธอคนนั้นไม่ด่าว่าผมเป็นตาเฒ่าหัวงู

โธ่ถัง.....ผมตั้งใจดูแต่พื้นสีเขียวที่เธอกำลังดูดฝุ่นจริง ๆ ครับ พับผ่าเถอะ....สาบานได้.

########

 
 

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 54 06:12:35




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com