Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ศพพ่อค้าผ้า ติดต่อทีมงาน

เปาบุ้นจิ้นผู้ทรงความยุติธรรม

              ศพพ่อค้าผ้า

                            " เล่าเซี่ยงชุน "

                   กาลครั้งหนึ่งท่าน เปาบุ้นจิ้น ได้เดินทางออกจากเมืองตังเกีย จะไปตรวจราชการที่เมืองฮ่อหนำ ครั้นเดินทางรอนแรมมาได้ประมาณสามพันลี้ ถึงตำบลฮ่องทัน เป็นเส้นทางเล็ก ๆ ทอดไปตามซอกเขา มีต้นไม้หนาแน่นจนดูมืดครึ้มด้วยเงาไม้ แสงแดดส่องไม่ถึงพื้นดิน แม้จะเป็นเวลาเที่ยง  เมื่อเข้าไปถึงกลางย่านนั้น ก็มีแมลงวันฝูงหนึ่งมาบินตอมอยู่ตรงหน้าม้าที่เปาบุ้นจิ้นขี่ เปาบุ้นจิ้นเห็นผิดสังเกต  ด้วยว่าเคยมีเหตุการณ์และลางนิมิตเช่นนี้มาก่อน และมักจะมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นหลายครั้งมาแล้ว จึงสั่งให้นักการคอยติดตามดูแมลงวันฝูงนั้น ว่าจะบินร่อนไปถึงไหน

                   หลีโป๊ นักการเดินตามฝูงแมลงวันไปได้ประมาณสองลี้เศษถึง ละเมาะไม้แห่งหนึ่ง ฝูงแมลงวันก็บินเข้าไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ และวนเวียนอยู่แถวนั้น หลีโป๊ตามเข้าไปดู ก็เห็นมูลดินเป็นรอยกลบหลุมอยู่ จึงกลับมารายงานเปาบุ้นจิ้นให้ทราบ

                   เปาบุ้นจิ้นจึงพักขบวนเดินทางไว้ที่นั้น แล้วตนเองกับนักการอีกหลายคน  ก็เดินเท้าไปยังโคนต้นไม้ใหญ่ที่ว่านั้น  เปาบุ้นจิ้นก็ให้นักการเอาจอบขุดดินที่พูนนั้น ลึกลงไปประมาณสามศอก ก็มีศพคนตายยังไม่นานนัก พิจารณาดูอย่างถ้วนถี่แล้วไม่เห็นมีรอยถูกทำร้าย เป็นบาดแผลหรือชอกช้ำแต่อย่างใด จึงคิดว่าคงจะถูกฆ่าโดยไม่ใช้อาวุธ

                   เมื่อเปาบุ้นจิ้นตรวจคลำดูตามร่างกาย ก็พบดวงตราแกะด้วยไม้อันหนึ่งอยู่ในเสื้อของชายผู้นั้น จึงเอามาล้างน้ำดูก็เห็นเป็นยี่ห้อสำหรับประทับตราผ้า ของพ่อค้าขายผ้ายี่ห้อหนึ่ง เปาบุ้นจิ้นจึงให้นักการกลบหลุมศพนั้นไว้ดังเดิม  แล้วก็กลับมาขึ้นม้าออกเดินทางต่อไป เมื่อพ้นจากเส้นทางทึบออกสู่ที่โล่ง ก็พบผู้เฒ่าคนหนึ่งคอยอยู่ที่ศาลาริมทาง เปาบุ้นจิ้นถามชายชราผู้นั้นว่ามาจากตำบลใด ก็ได้รับคำตอบว่า ตันเล้า กรมการอำเภอตำบลกุ้ยจ๋ายทราบว่าเปาบุ้นจิ้นจะมาถึง จึงให้ออกมาคอยรอรับเข้าไปในเมืองฮ่อหนำ

                   เปาบุ้นจิ้นจึงว่า เวลานี้จวนจะค่ำอยู่แล้วขอพักนอนอยู่ที่ศาลานี้ก่อน รุ่งเช้าจึงจะเดินทางเข้าเมือง ผู้เฒ่านั้นก็คำนับลาไปแจ้งแก่ตันเล้าให้ทราบ เปาบุ้นจิ้นก็ได้อาศัยนอนอยู่ที่ศาลาใกล้ศาลเจ้านั้น ในตอนกลางคืนเปาบุ้นจิ้นก็เอาดวงตรายี่ห้อที่เก็บได้มาพิจารณา  และใคร่ครวญว่าผู้ร้ายซึ่งฆ่าพ่อค้าผ้านั้น  คงจะอยู่ในตำบลกุ้ยจ๋ายนี้เป็นแน่  และธรรมดาโจรผู้ร้ายเมื่อได้สิ่งของ อันเป็นสินค้า คงจะนำออกเที่ยวเร่ขาย  มิในเมืองก็นอกเมือง ไม่หอบเอาไปไกล น่าจะตามหาตัวได้ไม่ยากนัก

                   รุ่งขึ้นเมื่อเดินทางเข้าไปถึงที่ว่าการแล้ว เปาบุ้นจิ้นจึงสั่งให้ กรมการเมืองและนายแขวงนายอำเภอมาประชุมพร้อมกัน  แล้วประกาศว่าต้องการจะซื้อผ้าเป็นจำนวนมาก ให้เป่าร้องไปยังพ่อค้าผ้า ทั้งหลายในเมืองและนอกเมือง มีอยู่มากน้อยก็ให้นำมาให้เลือกดูก่อน เมื่อแจ้งความไปแล้วต่อมาก็มีพ่อค้าผ้า นำผ้ามาให้เปาบุ้นจิ้นเลือกดู

                   พ่อค้าผู้หนึ่งชื่อ เตียปี เป็นพ่อค้าใหญ่มีผ้าอยู่เป็นอันมาก เปาบุ้นจิ้นถามว่า

                   "....ท่านเป็นพ่อค้าใหญ่ รับผ้าพ่อค้าทั้งหลายมาขายส่งให้ท่านนั้น ท่านจดจำยี่ห้อไว้   บ้างหรือไม่....."

                   เตียปีบอกว่า

                    ".....บรรดาพ่อค้าเอาผ้ามาขายส่งแก่ข้าพเจ้า ได้จดยี่ห้อไว้ทุกพ่อค้า....."

                   เปาบุ้นจิ้นจึงตรวจดูผ้าทุกพับที่มียี่ห้อต่างกัน  พบผ้าพับหนึ่งมีตรายี่ห้อเมื่อเทียบกับดวงตราที่ได้จากศพแล้วเหมือนกัน จึงถามว่า

                    "....ผ้าชนิดนี้ยี่ห้ออย่างนี้ มีพับเดียวเท่านี้หรือ เราอยากได้สักสิบพับ ของท่านมีอีกหรือไม่....."

                   เตียปีก็ว่า

                   ".....ผ้าชนิดนี้ข้าพเจ้ารับไว้น้อย มีไม่ถึงสิบพับ หลีสำ ได้มาจากตำบลไทคังกุ้ย มาขายแต่ยังไม่หมด ถ้าท่านจะต้องการเพียงสิบพับยี่สิบพับ ข้าพเจ้าจะตามตัวหลีสำให้เอาผ้ามาขายให้แก่ท่าน....."

                   เปาบุ้นจิ้นก็ทำเป็นยินดีแล้วบอกให้ไปตามหลีสำมาหา  เตียปีจึงไปตามหลีสำ และนำผ้ามาขายให้เปาบุ้นจิ้นยี่สิบพับ  เปาบุ้นจิ้นพิจารณาดูตรายี่ห้อแล้ว เป็นแบบเดียวกันกับตราที่ได้มาจากศพผู้ตายอยู่ในป่าไม่ผิดเพี้ยน  เปาบุ้นจิ้นจึงถามว่ามีพรรคพวกพ่อค้ามาด้วยกันกี่คน   หลีสำบอกว่ามาด้วยกันอีกสามคนพักอยู่ที่โรงเตี๊ยม

                   เปาบุ้นจิ้นจึงให้นักการไปตามตัวพ่อค้าสามคนนั้นมา  แล้วสั่งให้เอาตัวไปขังไว้ก่อน และบอกกับหลีสำว่า

                   ".....เจ้าทั้งสี่คนนี้เป็นโจร  เที่ยวปล้นสดมภ์พ่อค้าเดินทาง  ตัวเจ้าหาใช่พ่อค้าโดยชอบธรรมไม่  เจ้าเห็นพ่อค้าเดินทางมาที่เขาช่องแคบ เจ้าจึงฆ่าเขาเสีย เอาศพไปฝังไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ แล้วเอาผ้าของผู้ตายนั้นมาเที่ยวเร่ขายในเมืองนี้ จริงหรือไม่ รับเสียโดยดีอย่าให้ต้องผูกถือเฆี่ยนตีเลย....."

                   หลีสำก็ปฏิเสธว่า

                    "....ข้าพเจ้าเป็นพ่อค้า มิได้ฆ่าผู้ใด ท่านมากล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นผู้ร้ายนั้น ผู้ใดมาเป็นโจทก์ฟ้องหาว่าข้าพเจ้าเป็นผู้ร้ายมีหลักฐานสิ่งสำคัญอันใดบ้าง....."

                   เปาบุ้นจิ้นเห็นหลีสำตอบเป็นถ้อยคำ สำนวนยอกย้อนดังนั้นก็โกรธ  จึงหยิบดวงตรายี่ห้อที่เก็บมาจากศพ มาประทับเทียบเคียงกับตรายี่ห้อที่พับผ้า  ก็เหมือนเป็นยี่ห้ออันเดียวกัน แล้วสำทับว่าเราเป็นโจทก์เอง ว่าแล้วก็ให้ผู้คุมผูกตีพวกผู้ร้ายทั้งสี่คนละห้าสิบที ทั้งหมดก็รับเป็นสัตย์ว่า ได้ฆ่าเจ้าทรัพย์ตาย เก็บเอาผ้ามาขายจริง

                   เปาบุ้นจิ้นจึงตัดสินให้เอาตัวหลีสำไปประหารชีวิตเสีย  ส่วนพรรคพวกอีกสามคน ให้เนรเทศไปอยู่เมืองไกล ไม่มีกำหนดกลับ

                   คดีความเรื่องนี้นับว่าลี้ลับไม่มีเค้าเงื่อนเลย  เพียงแต่ท่าน เปาบุ้นจิ้น เป็นผู้ที่เอาใจใส่สอดส่อง ในนิมิตและเหตุลางต่าง ๆ ด้วยความละเอียดถี่ถ้วน ไม่ปล่อยให้ล่วงเลยไปเปล่า  และเมื่อได้พบศพผู้ตายแล้ว ก็ไม่ทอดทิ้งที่จะหาความจริงให้ปรากฎ  ทั้งยังได้เอาเป็นธุระสืบสวนหาผู้กระทำผิด โดยมิได้มีโจทก์หรือผู้เสียหายมายื่นเรื่องราว  ฟ้องร้องแต่ประการใด  จนได้ความจริงและตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ตามตัวบทกฎหมาย ด้วยความยุติธรรม และเที่ยงตรงในที่สุด

                   บุคคลเช่นนี้ย่อมเป็นที่ต้องการของบ้านเมือง ทุกยุคทุกสมัย แม้แต่ในยุคปัจจุบันที่ได้ล่วงมาพันกว่าปีแล้วก็ตาม.

                                                                      ##########

นิตยสารทหารปืนใหญ่
เมษายน ๒๕๔๕

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 07:47:57




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com