PANTIP.COM : M11375249 === สิ่งที่เรียนรู้ .. ได้จากตอนน้ำท่วม === []

ความคิดเห็นที่ 33

บทเรียนที่ได้จากน้ำท่วมกทม.ปี 2554
1.ได้รู้ว่าบ้านอยู่ใกล้คลองขวาง อันมีชื่อเป็นทางการว่า คลองทวีวัฒนา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนปลายตัดกับคลองภาษีเจริญ

2.ได้รู้ว่า กทม.ห่วงน้ำฝน มากกว่าน้ำเหนือที่ไหลมาท่วมกรุงเทพฯ จากคำแก้ตัวที่ว่าพร่องน้ำในคลองกทม.ชั้นในหมด แต่ไม่ใช้ประโยชน์ในการช่วยระบายน้ำจากตอนบนลงคลองต่างๆในกทม.แบบส่งต่อกันเป็นทอดๆ เลย

3.ได้รู้ว่า กทม.คิดว่าการทำเขื่อนกั้นกทม.แล้ว น้ำที่ท่วมตอนบนจะรู้หน้าที่เองว่าต้องไหลไปทางไหน ไปทางข้างตะวันออก และทางตะวันตกได้ด้วยตัวเองอย่างรวดเร็ว

4.ได้รู้ว่า บิ๊กแบ็ค และการหรี่ประตูน้ำจะได้ผลดีสุด คือแค่กั้นและชะลอน้ำให้เข้าท่วมกรุงเทพไม่ได้
ในขณะเดียวกันก็ทำให้รู้อีกว่า ระหว่างมวลน้ำกับมวลชน อันไหนมันจะสำคัญกว่ากัน มันสามารถกันมวลน้ำได้ แต่กันมวลชนที่ถูกลอยแพให้ต้องทนทุกข์จากน้ำท่วมขังที่ยาวนานออกไปไม่ได้

5.ได้รู้ว่า ประชา พรหมนอก หัวหน้าศปภ.บอกว่าได้พยายามทำเต็มที่แล้ว ถ้าอันไหนแก้ไขได้ จะรีบทำให้ทันที ไม่ใช่ว่าที่สามารถทำได้ แต่กลับไม่ทำอะไรเลย

แต่ข้อเท็จจริงที่พบก่อนหน้าก็คือ ออกทีวีมาบอกว่า น้ำท่วมเป็นเพราะตามธรรมชาติ น้ำย่อมไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ มันจึงต้องท่วม ชัดเจนครับว่าคงไม่คิดทำอะไรต่อไปแล้วในตอนนั้น

ต่อมาพอนักวิชาการ และรวมถึงประชาชนต้องมาคอยสอน คอยกำกับบอกให้ระบายด้วยการเร่งระดมเครื่องสูบน้ำ ถึงเพิ่งจะได้ตื่น อย่างนี้จะไม่ให้ฟ้องศาลปกครองได้อย่างไร การสื่อสารข้อมูลกับประชาชนคลุมเครือไม่ชัดเจน ขี้คุยว่าได้ทำไปก่อนหน้าแล้ว แล้วทำไมก่อนหน้าไม่มาบอกหล่ะว่าวางเครื่องสูบน้ำตรงจุดไหนบ้าง พร่องน้ำตรงไหนบ้างก่อนน้ำจะมาถึง เชื่อว่าคงไม่ท่วมบานปลายขนาดนี้ หากได้มีการตั้งรับด้วยเครื่องสูบน้ำ แค่บอกว่าน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ก็รู้แล้วว่าหมดท่า ถ้าทำตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ หรือจังหวัดทางตอนบนก่อนหน้านี้ ก็คงลดผลกระทบข้างล่างลงได้มากทีเดียว แต่เอาแค่แนวคิดกั้นกระสอบทรายเท่านั้น ทำเขื่อนชั่วคราวเพื่อต้านแรงโน้มถ่วงโลก นี่นะเรียกว่าทำเต็มที่ กรรมการที่จัดการน้ำก็ไม่ใช่ผู้รู้จริงในเรื่องน้ำท่วมเลย เหตุผลฟังไม่ขึ้นเลย

ควรรับผิดชอบเต็มๆ ทั้งนายก หัวหน้าศปภ. ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด โดยเฉพาะผู้ว่าฯ กทม. ที่สร้างความสับสนทางข้อมูลให้คนกทม. บอกว่าให้ฟังผมคนเดียว และโดยแค่ประกาศบอกให้อพยพเมื่อมันท่วมไปแล้ว แทนที่จะประกาศให้เตรียมพร้อมว่าน้ำจะมาท่วมในอีกไม่กื่วันข้างหน้า พอท่วมแล้วถึงค่อยมาคิดแทนประชาชนให้อพยพ หน้าที่ป้องกันน้ำท่วมทำได้แค่นี้เองหรอกหรือสำหรับผู้ว่าฯ กทม.

หลังจากมีการระดมเครื่องสูบน้ำระบายออกทุกทิศทางเต็มที่แล้ว ตามด้วยขุดลอกคูคลองต่างๆ ตามคำแนะนำของนักวิชาการและประชาชนที่เดือดร้อนในจุดต่างๆ น้ำสามารถลดลงได้ทันที ทั้งที่ผู้บริหารจัดการน้ำ ก่อนหน้านี้ไม่คิดทำอะไรเลย เอาแต่จะกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าตัวเมืองสถานที่สำคัญเท่านั้น ทั้งตัวนิคมอุตสาหกรรม ตัวสิ่งของเครื่องใช้เท่านั้น ห่วงวัตถุสิ่งของ หรือสนามบินดอนเมืองมากกว่าประชาชนผู้อยู่อาศัยตาดำๆ

ประชาชนผู้อยู่อาศัยให้ความสำคัญลำดับสุดท้ายเลย อ้างว่าต้องตัดแขนขา เพื่อรักษาอวัยวะ เปรียบเทียบได้มั่วมาก ที่ทำอยู่นะไม่ใช่ตัดแขนขา แต่ฆ่าทั้งชีวิต เพื่อรักษาอีกชีวิต ต้องปล้นคนจนไปช่วยคนรวย อย่างนี้หรือเรียกว่าถูกต้อง ทำร้ายคนหนึ่งเพื่อไปช่วยอีกคนหนึ่ง นี่นะเรียกว่าป้องกันบรรเทาสาธารณะโดยส่วนรวม "ผันน้ำถามกูก่อนแล้วหรือยัง" "วางบิ๊กแบ็คถามกูก่อนแล้วหรือยัง"

สิ่งที่ผู้บริหารชุดนี้ควรจะโดนฟ้องมากที่สุด ไม่ใช่ risk communication แต่เป็นเรื่อง no action talk only

และด้วยการไม่ให้ประชาชนมีส่วนเข้ามารับรู้ในแผนการป้องกันน้ำท่วม หรือประชาพิจารณ์เรื่องบิ๊กแบ็คเสียก่อน การสูบน้ำตามจุดต่างๆ ก็ต้องมาให้ประชาชนเรียกร้องให้ทำ ถ้าไม่เรียกร้องก็คงอีกนานกว่าจะทำหรือเปล่า หรืออาจจะไม่ทำอะไรกระมัง

เดี๋ยวก็คงจะอ้างอีกว่าถ้าต้องมัวรอประชาชนมีส่วนร่วมจะทำให้แก้ปัญหาทันไม่ได้ แต่พอจะหรี่หรือเปิดประตูน้ำ บอกต้องขอเวลาปรับระบบระบายน้ำข้างล่างสักสองสามวันก่อน แล้วก่อนหน้านี้ที่น้ำจะมาถึงเป็นอาทิตย์ทำไมไม่คิดติดเครื่องสูบน้ำพร่องน้ำ ขุดลอกขยะอุดตันเตรียมรอรับน้ำรอไว้เลย

เป็นการบริหารจัดการน้ำที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆเ้ท่านั้น ประเภทรอนายสั่งรอประชาชนเดือดร้อนร้องเรียน และไม่มีความแม่นในการคำนวณน้ำให้ได้โดยทันที แค่ข้อมูลเกี่ยวกับท่อระบายน้ำที่ต่อเชื่อมกับคลองต่างๆ นี่่สงสัยอยู่เหมือนกันว่ามีข้อมูลไอทีอยู่จริงหรือเปล่า

ไม่บอกความจริง และข้อมูลจริงกับประชาชนตั้งแต่แรกว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่เปิดเวทีให้ช่วยกันคิดไอเดีย brain storming แม้แต่นักวิชาการทางน้ำด้วยกันก็ไม่รับฟัง ต่างคนต่างทำ อย่างของกทม.นี้ งงมากที่คลองชั้นในแห้งขอด ในขณะที่น้ำค่อยๆ ท่วมมาทางเหนือได้ตลอด ทั้งที่ไม่ได้ไหลเร็ว ไหลเอื่อยๆ ด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับฝนตกท่วมกทม. แค่ไม่กี่ชั่วโมงน้ำก็ลดแล้ว แสดงว่ากทม.กลัวอะไรอยู่หรือถึงไม่ยอมสูบน้ำ ตั้งแต่เริ่มท่วมเข้ากทม. แถมยังไปว่างแนวกั้นน้ำในพื้นที่เขตรังสิตปทุมธานีอีก จนประชาชนไล่ยิง

แต่พอเรื่องคันกั้นน้ำคลองประปารั่ว ก็บอกว่าอยู่นอกเหนืออำนาจของกทม.เข้าไปจัดการ มันเป็นซะแบบนี้ ผู้ว่าฯ กทม.คิดว่าหน้าที่ของตนคือรับผิดชอบพื้นที่กทม.เท่านั้น ไม่ได้รับผิดชอบทั้งประเทศ วาจานี้เป็นหลักฐานเห็นได้ชัดว่า อย่างนี้เรียกว่าเห็นแก่ตัวได้หรือไม่

ข้าพเจ้าเชื่อนะว่า ถ้าแทนที่จะกั้นน้ำ เป็นระดมสูบน้ำตั้งแต่ตอนนั้นอย่างไม่หยุดยั้ง คงไม่ต้องทำให้ถนนในกทม.เปียกได้สักแอะ เพราะไม่ได้เตรียมพร้อมขุดลอกคูคลอง การส่งต่อระบายน้ำไปยังคลองต่างๆ การเตรียมเครื่องสูบให้พอเพียงมากกว่านี้

การกั้นบิ๊กแบ็ค ก็แค่ยืดเวลาน้ำท่วมให้ยาวนานออกไปเท่านั้น ไม่มีประโยชน์เลยเพราะไปทำในพื้นที่ชุมชน ซึ่งอย่างไรทางอีกฝั่งก็ต้องสูบออกเหมือนกัน แต่กลับไม่แยแสเร่งสูบให้เขา แล้วอย่างนี้เรียกว่าบรรเทาสาธารณภัยหรอกหรือ ผิดกฎหมายเสียด้วยซ้ำในการจัดการน้ำของรัฐบาลและผู้นำกทม.ที่คิดแบบให้คนกลุ่มหนึ่งเดือดร้อนเพื่อแลกกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง

ถ้ากทม.และรัฐบาลอยากพ้นผิดที่ประชาชนมาฟ้องคดี ก็ช่วยระบุหลักฐานที่ปรากฎอย่างชัดแจ้งก่อนหน้านี้ ว่าแผนป้องกันน้ำท่วมหน้าตาเป็นอย่างไร มีการพูดถึงระดมเครื่องสูบน้ำก่อนหน้านี้หรือเปล่า ผมติดตามตลอด ดูเหมือนไม่มีข้อมูลเรื่องนี้สักแอ๊ะ ผมยังอยากฟ้องเลย เพราะอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถึงไม่สามารถสู้กับน้ำท่วมกทม.คราวนี้ได้

ถ้าใครมีความรู้ช่วยเขียนหนังสือเบื้องหน้าเบื้องหลังน่ำท่วมคราวนี้ด้วย รับรองหนังสือเล่มนี้ต้องขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะสงสัยหลายเรื่อง ตั้งแต่ปล่อยน้ำในเขื่อนออกมามหาศาลในช่วงเวลาไม่กี่วันได้อย่างไร ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ ใครที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ควรได้รับการลงโทษในระดับหนึ่ง

อย่างน้อย ก็ควรออกมายอมรับความจริงและลาออกไป ไม่ใช่บอกว่ากทม.ไม่เคยเตรียมรับการน้ำหลากทุ่งมาก่อน ศัพท์ใหม่อีกแล้ว น้ำหลากทุ่งกับน้ำเหนือลงมามันไม่เหมือนกันหรอกหรือ จำปีก่อนไม่ได้หรือว่า กทม.ก็บอกพร้อมรับเต็มที่ทั้งน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน และน้ำฝน อุโมงค์ยักษ์คือคำตอบสุดท้ายไม่ใช่หรือ

ไหงกลับมาแก้ตัวว่าเตรียมรับได้แค่น้ำท่วมจากฝนเท่านั้น แล้วคูคลองต่างๆ ที่ตื้นขืนขยะเต็มคลอง ทำไมไม่ไปขุดลอก บอกความจริงมาเลยว่า กทม.ไม่มีเงินจ้างคนทำงาน กำลังคนของกทม.ก็ไม่มี บอกความจริงว่าศักย์ภาพราคาคุยและโกหกมาตลอด

ผอ.สำนักการระบายน้ำกทม. บอกว่าทำเต็มที่ แต่ได้บอกความจริงก่อนหน้านี้หรือเปล่าว่า กทม.แท้ที่จริงมีปัญหาในศักยภาพการระบายน้ำ อย่าอ้างโน่นอ้างนี้ ขอให้พูดความจริง นั่นแหล่ะคือหนทางการแก้ปัญหาระยะยาว และความผิดพลาดนี้ก็คงจะได้รับการอภัยมากขึ้น แทนที่จะตะแบงว่าฉันไม่ผิดๆ เพราะทำเต็มที่ แต่ที่ผิดคือไม่บอกความจริงทั้งหมดกับประชาชนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

5. พบศัพท์แสงๆ แปลกๆ มากมายในน้ำท่วมคราวนี้ ตั้งแต่ คันกั้นน้ำ แนวกำแพงกั้นน้ำ บิ๊คแบ็ค ประตูน้ำ ปริมาณน้ำลูกบาศก์ต่อวินาที หรือต่อวัน มวลน้ำ ไซฟอน เรือดันน้ำ หินคลุกชะลอน้ำ เรือพับได้ ชุดน้ำท่วม เป็ดตรวจไฟรั่้ว อีเอ็มบอล ชุดนายสะอาด เครื่องกรองน้ำพกพา ถุงยังชีพ คลีนนิ่งเดย์ คลองประดิษฐ์ น้ำหลากทุ่ง น้ำเหนือไหลหลาก

จากคุณ : prechaprecha

เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 15:12:09 A:27.130.158.10 X: TicketID:299997