Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ผลของกรรม ติดต่อทีมงาน

ยอดคนแผ่นดินเหม็ง

ตอนที่ ๕ ผลของกรรม

" เล่าเซี่ยงชุน "

นางเตียกุยฮุย สนมเอกของ พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ นั้น เมื่อได้มีสุขอยู่ในพระราชวังแล้วก็มีความคิดถึง ไฮ้สุย อยากจะฉลองคุณอยู่มิรู้ลืม ก็คอยฟังข่าวการไล่หนังสืออยู่ทุกครั้ง ที่เจ้าพนักงานทำบัญชีรายชื่อผู้มาไล่หนังสือเข้าไปอ่านถวายฮ่องเต้ แต่ก็ไม่ได้ยินชื่อไฮ้สุย เลย ฟังดูประมาณสองเดือนกว่าจนหมดรายชื่อแล้วก็ไม่มี จึงให้คนไปเชิญ เตียไท้เอี๋ย ผู้บิดามาที่พระราชวังข้างใน แล้วว่า

"....ไฮ้สุยมีคุณต่อบิดาเป็นอันมาก เข้ามาไล่หนังสือก็ไม่ได้ ข้าพเจ้าคิดจะกราบทูลขอให้ไฮ้สุยเป็นที่ตำแหน่งจีนสือเสียบ้าง แต่ไม่ทราบว่าจะกลับไปแล้วหรือยัง บิดาช่วยสืบดูให้รู้ด้วย แม้นว่ายังอยู่ข้าพเจ้าจะได้กราบทูล....."

เตียไท้เอี๋ยว่าไฮ้สุยกลับบ้านไปแล้ว และตนได้ให้เงิน ไฮ้หยง ไปสองร้อยตำลึง ป่านนี้คงจะถึงบ้านแล้ว ถ้าจะสงเคราะห์สนองคุณเขา ก็คอยคราวไล่หนังสือยกหลังเถิด คงจะมาอีกเป็นมั่นคง นางเตียกุยฮุยก็ว่า

"....ไฮ้สุยเป็นคนมีสติปัญญา ประกอบด้วยความตรึกตรองมาก มาไล่หนังสือเมื่อไม่ได้คราวนี้ ก็เพราะ เงียมซง กีดกันเป็นมั่นคง ซึ่งไฮ้สุยจะกลับไปบ้านง่าย ๆ เห็นจะยังไม่ไป คงจะรั้งรออยู่ ขอให้บิดาสืบดูเสียให้สิ้นสงสัยก่อน....."

เตียไท้เอี๋ยก็ว่าไฮ้สุยเป็นคนไม่มีชื่อเสียง ถึงยังไม่กลับก็เห็นจะสืบได้ยาก นางเตีย กุยฮุยก็แนะว่า

".....แต่เดิมบิดาให้ข้าพเจ้าทำรองเท้า ไปให้แก่ไฮ้สุยคู่หนึ่ง ไฮ้สุยเอาไว้แต่ข้างเดียว ข้างหนึ่งนั้นคืนมาข้าพเจ้ายังเก็บไว้ บิดาจงเอารองเท้าข้างหนึ่งนี้ ให้คนที่ควรจะใช้ได้ เอาไปเที่ยวขายทุกตรอกทุกถนน ถ้าเป็นคนอื่นนอกจากไฮ้  สุยแล้ว ที่ไหนใครเขาจะซื้อกับรองเท้าข้างเดียว...."

และว่าถ้าไม่มีใครซื้อก็เชื่อได้ว่าไฮ้สุยกลับไปแล้ว

เตียไท้เอี๋ยกลับมาบ้านก็ให้คนใช้ที่สนิท เอารองเท้าข้างเดียวไปเที่ยวเร่ขายให้ทั่วทุกถนนทุกตรอก ถ้ามีผู้ซื้อก็ให้ถามชื่อแซ่ไว้ และจดจำว่ามีรูปพรรณอย่างไร อยู่บ้านตำบลใด แล้ว กลับมาบอกให้แจ้ง คนใช้ก็เอารองเท้าข้างเดียวไปร้องขาย ก็หามีผู้ซื้อไม่ ต่างคนต่างก็หัวเราะว่า จะซื้อเอาไปทำไมกับรองเท้าข้างเดียว

ฝ่าย ไฮ้หยง ก็เอาเงินร้อยตำลึงไปให้ นางเตียเกงฮวย ภรรยาของไฮ้สุยที่บ้าน และเล่าความทุกข์สุขให้ทราบแล้ว ก็ลากลับมาหาไฮ้สุยกับ ไฮ้อัน ครั้นพากันมาถึงเมืองหลวง จะไปอยู่บ้านเตียไท้เอี๋ยงดังเก่า ก็มีคนมาเช่าอาศัยเต็มหมดแล้ว จึงไปเช่าที่อื่นอยู่ต่อไป

วันหนึ่งไฮ้อันเข้ามาบอกว่ามีคนเอารองเท้าข้างเดียวมาเที่ยวบอกขาย ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย คนเช่นนี้น่าหัวเราะ ไฮ้สุยได้ฟังก็ประหลาดใจ จึงให้เรียกเข้ามาในบ้าน แล้วขอดูรองเท้านั้น คนขายก็ส่งรองเท้าข้างเดียวนั้นให้ดู ไฮ้สุยเห็นเหมือนกับที่ตนมีอยู่ จึงถามว่ามีแต่ข้างเดียวเท่านี้ดอกหรือ คนขายก็ปดว่ารองเท้าชนิดนี้มีถมไป จะต้องการสักเท่าไรก็ได้ ซึ่งเอามาแต่ข้างเดียวนี้ พอให้ดูเป็นตัวอย่าง ไฮ้สุยจึงว่า

".………ถ้ารองเท้าชนิดนี้ของท่านมีมากแล้ว เราก็ไม่ซื้อ แม้นมีแต่ข้างเดียวเท่านี้ เราจะซื้อ...."

คนขายจึงยอมรับว่ามีแต่ข้างเดียวเท่านี้ แต่ที่บอกว่ามีมาก ด้วยนึกอายเพราะเที่ยวมาหลายแห่งแล้ว พอคนมาดูรู้ว่ามีข้างเดียวก็พากันหัวเราะ

ไฮ้สุยจึงว่า

"....ข้าพเจ้าจะไปเอารองเท้าของข้าพเจ้ามาดูก่อน มีอยู่ข้างหนึ่งเหมือนกันเช่นนี้ จะได้คู่กันหรือไม่...."

พูดแล้วก็เข้าไปหยิบรองเท้าของตนมาเทียบดูก็ได้คู่กันเป็นซ้ายขวา จึงนึกสงสัยว่าการอันนี้เห็นที เตียเหลาหยี ที่ได้เป็นเตียไท้เอี๋ย จะสืบหาตนเองเป็นมั่นคง ไฮ้สุยจึงถามคนขายว่า รองเท้านี่เป็นของท่านเอามาขายเอง หรือผู้ใดให้มา คนขายก็บอกว่าของเตียไท้เอี๋ยใช้ให้ข้าพเจ้ามาขาย

ไฮ้สุยก็แกล้งทำเป็นไม่รู้จักถามว่าใครคือเตียไท้เอี๋ย คนขายก็ว่า ข้าพเจ้าบอกชื่อเดิมไม่ได้ ท่านเป็นขุนนางผู้ใหญ่มีบรรดาศักดิ์ อนึ่งเล่าบุตรของท่านก็เป็นถึงเตียกุยฮุย แล้วก็ถามชื่อแซ่ไฮ้สุย ก็บอกให้ คนขายก็ลากลับไปบอกเตียไท้เอี๋ยสิ้นทุกประการ

เตียไท้เอี๋ยก็มีความยินดีเป็นอันมาก ครั้นเวลาเช้าก็ขึ้นเกี้ยวออกจากบ้าน มีบ่าวไพร่ตามมาพอสมควร แล้วให้คนหามเกี้ยวเปล่าตามไปข้างหลังอีกคันหนึ่ง ให้คนที่เอารองเท้าไปขายนำทางไปบ้านไฮ้สุย พอถึงเตียไท้เอี๋ยก็ลงจากเกี้ยว

ไฮ้สุยรู้ว่าเตียไท้เอี๋ยมาก็ออกไปรับ เชิญเข้าบ้านให้นั่งในที่อันควร แล้วต่างก็คำนับกัน ด้วยความยินดี เตียไท้เอี๋ยบอกว่า

"....ข้าพเจ้าเข้าใจว่าท่านกลับไปบ้านเสียแล้ว ไม่ทราบเลยว่าท่านมาอยู่ตำบลนี้ นี่หากว่านางเตียกุยฮุยมีความสงสัย ว่าท่านยังไม่ไป จึงได้ทำอุบายเอารองเท้าข้างเดียวให้คนไปเที่ยวขายจึงได้พบท่าน....."

ไฮ้สุยจึงว่าเดิมก็ตั้งใจไปแล้ว แต่ไฮ้อันชวนให้อยู่ จนกว่าจะไล่หนังสืออีกคราวหนึ่งขัดไม่ได้จึงกลับมา แต่บ้านเก่าก็มีคนอยู่เต็มแล้ว จึงมาอยู่ที่นี่ เตียไท้เอี๋ยไต่ถามทุกข์สุขแล้ว ก็เชิญให้ไฮ้สุยขึ้นเกี้ยวไปที่บ้าน

ครั้นถึงแล้วก็ให้คนใช้ยกโต๊ะและสุรา มาเลี้ยงกันเป็นที่สำราญ เตียไท้เอี๋ยก็ชวนให้ ไฮ้สุยอยู่ด้วยกัน แต่ไฮ้สุยก็ว่าไม่ได้อยู่นาน พอไล่หนังสือเสร็จแล้วก็จะกลับ พูดคุยกันพอสมควรแล้วไฮ้สุยก็คำนับลากลับ เตียไท้เอี๋ยก็ให้คนเอาเกี้ยวมาส่งจนถึงบ้าน แล้วเตียไท้เอี๋ยก็เข้าไปยังพระราชวังข้างใน บอกความให้นางเตียกุยฮุยฟังทุกประการ นางเตียกุยฮุยก็มีความยินดี ตรึกตรองหาช่องที่จะกราบทูลฮ่องเต้อยู่

ฝ่ายพระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ ครั้นเสด็จมาที่ตำหนักนางเตียกุยฮุย เห็นหน้าตาไม่สบาย จึงถามว่าเจ้ามีทุกข์สิ่งใดหรือ นางเตียกุยฮุยก็กราบทูลว่า

".....ซึ่งพระองค์ทรงพระเมตตาชุบเลี้ยงข้าพเจ้า พระเดชพระคุณเป็นที่สุด บัดนี้ข้าพเจ้ามีความวิตก ด้วยผู้มีคุณต่อบิดาข้าพเจ้า อุตส่าห์เข้ามาไล่หนังสือหลายครั้งก็ไม่ได้ ด้วยตัวเป็นคนอนาถาไม่มีพวกพ้อง ข้าพเจ้าคิดเวทนาด้วยเขามีคุณต่อบิดาเป็นอันมาก ข้าพเจ้าอยากจะสนองคุณท่านแทนบิดา...."

ฮ่องเต้ก็ตรัสว่า

".....การนิดหนึ่งเท่านี้ไม่ควรจะทุกข์ร้อน เมื่อเห็นว่าไม่มีพวกพ้องเกื้อหนุน มาไล่จึงไม่ได้ เราจะให้เป็นที่จีนสือที่หกจะได้เข้ามาไล่หนังสือในนี้ ต่อหน้าเราจึงจะไม่มีใครกีดกัน....."

นางเตียกุยฮุยก็มีความยินดี จึงให้คนไปบอกไฮ้สุยรีบเข้ามาเฝ้าฮ่องเต้ พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ก็โปรดตั้งให้เป็นที่คิมซือจีนสือ เป็นขุนนางมีตำแหน่งเฝ้า

ครั้นขึ้นปีใหม่ ถึงกำหนดเจ้าพนักงานจดหมายรายความ ซึ่งตุลาการได้ชำระความของราษฎรที่มีคดีเกี่ยวข้องฟ้องร้องต่อกัน จะต้องนำคำตัดสินทุก ๆ เรื่องนั้นเข้าไปถวายให้ทรงทอดพระเนตรเป็นธรรมเนียมทุกปี พระเจ้าแผ่นดินต้องทรงตรองดูทุกเรื่อง แม้นทรงเห็นว่าตุลาการชำระความรายไหน มีข้อแอบแฝงลี้ลับซักฟอกออกไปได้ความจริงแล้ว พระเจ้าแผ่นดินก็จะทรงพระราชทานรางวัล และเลื่อนยศศักดิ์ให้แก่ตุลาการ ตามสมควรแก่ความชอบ

ครั้นเจ้าพนักงานจดหมายเรื่องความเข้าไปถวายพระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ ทรงตรวจดูทุกเรื่องเป็นลำดับมา จนถึงเรื่องที่ เงียมยี่ เป็นความกับ เตียเหลาหยี ตุลาการตัดสินให้เลิกแล้วแก่กัน ฮ่องเต้ทรงตรวจดูตลอดตั้งแต่ต้นจนปลายแล้ว จึงตรัสว่าเงียมยี่มีผิดหลายข้อ ข้อหนึ่งใช้เงินแดง ข้อสองแก้ตั๋วฉ้อความ สองข้อนี้ฉกรรจ์ทำให้ราษฎรได้ความเดือดร้อน เหตุใดจึงไม่มีคำปรึกษาโทษ      เงียมยี่คนนี้เรารู้จักอยู่เป็นบ่าวของเงียมซง และตัวเงียมซงเราก็ชุบเลี้ยงตั้งแต่งให้มียศศักดิ์ ไม่ควรจะเอาคนเช่นเงียมยี่ไว้ใช้สอย ผู้ที่เป็นตุลาการชำระซักฟอก เอาความเท็จของเงียมยี่ออกมาได้ ก็จัดเอาเป็นดี ควรมีรางวัลและเลื่อนยศให้ แต่ตัวเงียมยี่ต้องทำโทษ หรือความเรื่องนี้เงียมซง ใช้ให้ทำ เงียมยี่จึงกล้าหาญทำได้ถึงเพียงนี้

เงียมซงเฝ้าอยู่ที่นั้นได้ฟังรับสั่งพาดพิงมาถึงตัวก็ตกใจ จึงกราบทูลขึ้นว่า ความเรื่องนี้ตุลาการผู้ชำระ แกล้งใส่ความเอาเปล่า ๆ เงียมยี่จะได้ใช้เงินแดงหรือแปลงตั๋วก็หามิได้ ตุลาการผู้ชำระกดขี่เอาด้วยอำนาจอาญาเงียมยี่เหลือทนจึงได้รับ ฮ่องเต้จึงตรัสว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วต้องชำระตุลาการอีกชั้นหนึ่ง จึงจะได้ความจริง ตรัสแล้วก็รับสั่งให้ขุนนางผู้ใหญ่สามคน เป็นกรมการชำระตุลาการกับเงียมยี่ให้ได้ความจริง

ขุนนางทั้งสามก็ถวายบังคมลาออกมายังโรงชำระ ให้หาตัวตุลาการผู้ที่ชำระความเงียมยี่ กับตัวเงียมยี่มาไต่สวน ตุลาการก็แจ้งความตามเรื่องคดี ที่เงียมยี่เป็นโจทก์ ฟ้องเตียเหลาหยีเป็นจำเลย ให้ขุนนางผู้ใหญ่ทั้งสามฟังทุกประการ ขุนนางก็ถามเงียมยี่ว่าได้รับสารภาพเป็นสัตย์จริงหรือ เงียมยี่ก็ไม่รับอ้างว่าตุลาการกดขี่ด้วยอาญา ตุลาการก็ยืนยันว่าเงียมยี่รับสารภาพต่อหน้าเงียมซง

ขุนนางก็ว่าพักเรื่องนี้ไว้ก่อน ถามว่าข้อที่เมื่อมีผู้มากู้ถ้าต้นเงินสิบตำลึง แล้วให้ชักเป็นค่าธรรมเนียมเสียสองตำลึง ผู้กู้ได้ไปแต่แปดตำลึง อันนี้จริงหรือไม่ ใครเป็นผู้ตั้งขึ้นไว้ให้ทำดังนี้ เงียมยี่ว่าไม่มีผู้ใดสั่ง ตนทำเองถ้าไม่ให้ก็ไม่ได้กู้ ถ้ายอมให้ก็เอามิได้กดขี่บังคับผู้ใด ขุนนางถามว่าตัวเป็นแต่คนใช้เอาเงินที่ไหนมาให้กู้ หรือว่าเป็นเงินของเงียมซง เงียมยี่บอกว่าเป็นเงินของตนเอง เพราะเงียมซงเป็นขุนนางผู้ใหญ่ กฎหมายห้ามไม่ให้เอาเงินทอง ให้ราษฎรกู้กินดอกเบี้ย

ขุนนางทั้งสามก็ไต่สวนต่อไปจนได้ความจริงกระจ่างว่า เงียมยี่ใช้เงินปลอม และแก้ตั๋วกู้เงินฉ้อโกงเตียเหลาหยี ทั้งเงียมซงก็รู้เห็นเป็นใจช่วยเหลือบ่าว จึงจดข้อความซึ่งชำระได้ กราบทูลฮ่องเต้ทรงทราบ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้ถอดเงียมซงออกเป็นไพร่เสียสามเดือน แล้วจึงให้กลับมาเป็นที่ดังเก่า ส่วนเงียมยี่นั้นให้ลงพระราชอาญาจำคาแล้ว เอาตัวไปตระเวนทุกหัวเมือง กำหนดหกเดือนแล้วจึงพ้นโทษ

ในที่สุด ทั้งฝ่ายตงฉิน และกังฉิน จึงต่างก็ได้รับผลของกรรม ที่ตนได้กระทำไว้ ทั้งกรรมดี และกรรมชั่ว ดังนี้.

##########

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 05:59:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com