Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กังฉินกำเริบ ติดต่อทีมงาน

ยอดคนแผ่นดินเหม็ง

ตอนที่ ๒๐ กังฉินกำเริบ

“ เล่าเซียงชุน “

เมื่อ เงียมซง ฟ้องร้องเอา เต้งซินอ๋อง พระเจ้าอาของ พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ เข้าคุกไปได้แล้ว ก็มีใจกำเริบขึ้นเพราะไม่มี ไฮ้สุย เป็นก้างขวางคอ จึงทำอุบายให้ ตันชุน บ่าวของ เตียบุนหอ ปลอมตัวเป็นบ่าวของตน ตามเข้าไปในพระราชวัง ด้วยหลังจากเงียมซงหายป่วยจากที่ถูกไฮ้สุยเฆี่ยนคราวก่อนนั้นแล้ว ก็ไม่แข็งแรงฮ่องเต้จึงทรงอนุญาตให้เอาบ่าวไปช่วยพยุงเวลาเข้าเฝ้า ทั้งข้างนอกและข้างในได้

เงียมซงเข้าไปเฝ้า พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ ข้างใน และชวนเล่นหมากรุกอยู่ตั้งแต่บ่ายจนพลบค่ำ ตันชุนก็เลี่ยงไปแอบซุ่มอยู่ที่ต้นทาง ซึ่งฮ่องเต้จะต้องเสด็จผ่านไป พอได้เวลาเสด็จออกขุนนางฮ่องเต้ก็เลิกหมากรุก พนักงานก็เตรียมโคมนำเสด็จตามเคย ฮ่องเต้เสด็จมาถึงที่ทางเลี้ยว ตันชุนก็ชักอาวุธที่ซ่อนออกมา และวิ่งเข้าไปจะทำร้าย พวกทหารรักษาพระองค์ก็ตรูกันเข้าจับตัวตันชุนไว้ได้ ตันชุนก็ร้องให้ นางเตียฮองเฮา กับ ไทจือ ช่วยด้วย ฮ่องเต้ทรงได้ยินก็สงสัยในพระทัย จึงรับสั่งให้เตียบุนหอ เตียกือเจี้ย และ โอเจงติด เป็นตุลาการชำระ กับให้ เงียมซงเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ

ตุลาการทั้งสามก็เอาตัวตันชุนไปชำระ และซักถามว่าชื่อไรแซ่ไร เป็นชาวเมืองไหน เหตุใดจึงมาทำร้ายพระเจ้าแผ่นดิน ตัวมีความโกรธแค้นด้วยข้อไร หรือใครบนบานใช้สอยให้มาทำร้าย จงให้การไปตามจริง

ตันชุนก็ให้การตามที่เงียมซงสอนไว้ว่า ข้าพเจ้าแซ่ตันชื่อชุน เป็นชาวเมืองซัวตังเข้ามาค้าขายในเมืองหลวง พบผู้ร้ายที่กลางทางปล้นเอาสินค้าและทรัพย์สิ่งของทองเงินไปมาก ครั้นจะกลับไปเมืองซัวตังก็ไม่มีเงินทอง กลัวเจ้าหนี้เขาจะทวงจึงไม่กล้าไป เงินที่ติดตัวมาเล็กน้อยก็ซื้อกินเสียจนสิ้น วันหนึ่งเดินทางมาพบ พั่งเปา เข้ากลางทาง พังเปาถามว่ามาแต่ไหนธุระอะไร ก็เล่าความทุกข์ยากให้ฟังทุกประการ พั่งเปามีความเอ็นดูจึงให้เงินทองทำทุนได้หากินเลี้ยงชีวิตมา วันหนึ่งพั่งเปาก็พาไปเฝ้าฮองเฮาและไทจือ ก็ได้เงินทองเป็นอันมาก และให้ปลอมตัวเข้ามา ทำร้ายพระเจ้าแผ่นดิน เป็นความสัตย์จริงดังนี้

เงียมซงและเตียบุนหอได้ฟังก็ทำเป็นโกรธ จึงแกล้งขู่ถามว่าเอาที่ไหนมากล่าว ความนี้ไม่จริงใครเขาจะเห็นด้วย นางเตียฮองเฮาและไทจือหรือจะคิดทำร้ายพระเจ้าแผ่นดิน ใครใช้สอยให้ว่ามาตามตรง ตันชุนก็ยืนคำอยู่เช่นเดิม เงียมซงก็ให้เสมียนเขียนคำให้การของตันชุนไว้ และให้เอาตัวไปขังคุกไว้ก่อน ด้วยเป็นเวลาดึกมาก แล้วเงียมซงก็นำคำให้การนั้นขึ้นถวายให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตร และกราบทูลว่าที่ผู้ร้ายซัดทอดถึงนางเตียฮองเฮาและไทจือนั้น ตนไม่เห็นด้วย พรุ่งนี้ต้องผูกชำระใหม่ให้ได้ความจริง

ในคืนนั้นฮ่องเต้ก็ไม่สบายพระทัย ทรงดำริว่านางเตียฮองเฮานี้ตัวคนเดียว ญาติพี่น้องก็ไม่มี ฝ่ายไทจือเล่าก็เป็นลูกคนเดียว ลูกอื่นก็ไม่มีจะเป็นขบถก็ผิดไป คำที่เงียมซงว่าไม่น่าเชื่อนั้นเป็นการจริง ต้องชำระใหม่ คนข้างในคงจะรู้เห็นเป็นใจด้วย ผู้ร้ายจึงเข้ามาซุ่มแอบอยู่ในนี้ได้ ทรงตรึกตรองจนบรรทมหลับไป

ฝ่ายพั่งเปาขันทีคนสนิทของฮองเฮา ครั้นรู้ความแล้วก็ตกใจ รุ่งขึ้นก็เข้าเฝ้านางเตียฮองเฮากับไทจือ กราบทูลความเรื่องตันชุนนั้นให้ทรงทราบทุกประการ ฮองเฮากับไทจือได้ฟังเรื่องราวแล้วก็ตกใจ ไทจือจึงทูลแก่พระราชมารดาว่า ความเรื่องนี้เห็นทีพวกกังฉินจะคิดป้ายให้เราตายเป็นมั่นคง ฮองเฮาจึงปรึกษากับพั่งเปาว่าจะทำอย่างไรดี พั่งเปาก็ว่าการเกิดขึ้นดังนี้ จงเสด็จไปกราบทูลว่า มิได้คิดร้ายต่อฮ่องเต้แล้วแต่จะโปรด

ฮองเฮากับไทจือก็รีบไปเฝ้าฮ่องเต้ และพั่งเปาก็ตามไปด้วย พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้กำลังทรงเศร้าหมอง ฮองเฮากับไทจือก็ถวายบังคมแล้วทรงพระกันแสง ฮ่องเต้ตรัสว่าเจ้าตกใจด้วยเรื่องตันชุนหรือ มันซัดเอาเจ้าสองคนว่าใช้ให้มันทำร้ายเรา พั่งเปาเป็นต้นเหตุข้าก็ไม่เชื่อ ถึงตุลาการผู้ชำระเขาก็ไม่เห็นจริง ความเรื่องนี้เป็นการใหญ่ อาวุธเขาจับได้ ใครรับตันชุนไว้ให้พำนักอาสัยต้องสืบเอาตัวให้ได้

ฮองเฮากับไทจือกราบทูลว่า ข้าพเจ้าทั้งสองยังไม่รู้จักว่าตันชุนรูปร่างอย่างไร ถามพั่งเปาก็ว่าไม่รู้จัก แต่ตันชุนซัดเอาอย่างนี้ก็เป็นการจนใจ ขอพระองค์จงเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้าด้วย ฮ่องเต้ก็ตรัสว่าเจ้าอย่าพูดให้มาก จงพากันกลับไปเถิด ความเรื่องนี้เป็นการของเรา เราจะตรึกตรองเอง นางเตียฮองเฮากับไทจือก็อิดเอื้อนไม่ใคร่จะไป ฮ่องเต้จึงกริ้วตรัสว่าให้กลับไปแล้วยังขืนร่ำไร ทั้งสองจึงถวายบังคมลากลับมาพระตำหนัก นั่งปรับทุกข์กันอยู่สามคนทั้งพั่งเปา

รุ่งขึ้นตุลาการทั้งสามคนก็มาประชุมพร้อมกัน ณ โรงชำระ เงียมซงก็มานั่งเป็นประธานด้วย ครั้นให้เอาตัวตันชุนมาซักถามอีกครั้ง ตันชุนก็ยังยืนคำเดิม ตุลาการจึงให้ผูกตีสี่สิบทีถึงแตกโลหิตไหล ตันชุนก็ยังยืนคำอยู่อย่างนั้น เงียมซงจึงทำเป็นถามขึ้นว่าใครเห็นอย่างไร เตียบุนหอกับเตียกือเจี้ยว่าเฆี่ยนตีก็มากอยู่แล้ว ผู้ร้ายยืนคำอยู่อย่างนี้ก็สุดแล้วแต่ท่าน โอเจงติดว่าความเรื่องนี้จะชำระให้แล้วในเร็ว ๆ เห็นจะไม่ได้ ต้องสืบสวนให้ละเอียดจึงจะได้ความจริง

เงียมซงจึงทำเป็นพูดว่าซึ่งตันชุนให้การดังนี้ไม่เห็นสม นึกสงสัยอยู่ การจะซักต่อไปในเวลานี้ ก็เฆี่ยนตีมากแล้ว จะให้การเลอะเทอะไป ต้องหยุดไว้ก่อน ตันชุนได้ยินก็ทำเป็นสลบ เงียมซงก็ให้คนเข้าแก้ไขฟื้นขึ้นแล้ว จึงให้เอาตัวไปขังคุกไว้ตามเดิม เงียมซงกับเตียบุนหอและ เตียกือเจี้ย ก็ทำเป็นพูดกันว่าความที่ตันชุนให้การว่านางเตียฮองเฮากับไทจือ ใช้ให้มาทำร้าย พระเจ้าแผ่นดินนั้นไม่เห็นจริง ด้วยฮองเฮาก็เป็นใหญ่กว่าหญิงทั้งปวง ไทจือเล่าเป็นพระราชบุตรของฮ่องเต้องค์เดียวเท่านี้ สมบัติจะไปไหนคงจะได้แก่ไทจือ แต่ซึ่งตันชุนให้การซัดถึงนั้น ความมัวหมองย่อมมีอยู่

โอเจงติดก็ว่าท่านพูดนี้ถูก ช่วยกันตรึกตรองเอาความจริง สนองพระเดชพระคุณให้จงได้ พวกเราเป็นขุนนางผู้ใหญ่ พระเจ้าแผ่นดินเชื่อถือ จึงโปรดชุบเลี้ยงตั้งแต่งไว้ต่างพระเนตรพระกรรณ ถ้าชำระความเรื่องนี้ไม่ได้ความจริงแล้ว ก็เสียเบี้ยหวัดเงินเดือนเปล่า เงียมซงกับพวกอีกสองคนได้ฟังโอเจงติดว่าดังนั้นก็นิ่งอยู่ ครั้นได้เวลาต่างคนก็กลับไปบ้าน

เมื่อมาถึงบ้านเงียมซงมีความร้อนใจ จึงได้เชิญเตียบุนหอกับเตียกือเจี้ยมาปรึกษาในเวลาค่ำ และว่าความเรื่องนี้แม้นฮ่องเต้เปลี่ยนให้คนอื่นเป็นตุลาการ กลัวตันชุนจะยืนคำไปไม่ได้ ถ้าบอกความตามจริง พวกเราคงพากันผิดแทบถึงแก่ชีวิตเป็นแท้ เตียกือเจี้ยก็ว่า ซึ่งท่านคิดเกรงข้อนี้ก็ถูก สำคัญที่คนกลาง ถ้าตัดเสียแล้วจะเอาอะไรมาชำระ

เงียมซงถามว่าท่านจะตัดคนกลางอย่างไร เตียกิอเจี้ยก็ว่าเวลาพรุ่งนี้ ข้าพเจ้าจะเข้าไปในคุก ทำเป็นไปพูดจาไต่ถาม ถ้าเป็นทีแล้วก็เอาของกินซึ่งใส่ยาพิษ ให้กินเข้าไปก็จะตาย ถ้าคนกลางตายแล้วความก็เป็นอันเลิกกันเพียงเท่านี้ เงียมซงก็เห็นด้วย ครั้นปรึกษาตกลงกันแล้ว ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

พอวันรุ่งขึ้นเตียกือเจี้ยก็เอายาพิษแทรกใส่ในของกิน ให้คนถือตามไปถึงคุก บอกแก่ผู้คุมว่าจะเข้าไปปลอบถามตันชุนให้ได้ความจริง ผู้คุมก็ให้เตียกือเจี้ยเข้าไป และซักถามว่าความที่ได้ให้การไว้นั้นเป็นความจริงแล้วหรือ ตันชุนก็ยืนยันเช่นเดิม เตียกือเจี้ยก็ทำเป็นพูดจาเรื่องอื่น ๆ แล้วก็เอาข้าวปลาอาหารให้ตันชุนกิน ตันชุดอดอาหารมาสองสามวันแล้วก็ดีใจ สำคัญว่าเตียบุนหอให้มาเยี่ยม ก็กินอาหารเข้าไป เตียกือเจี้ยก็รีบออกมาจากคุกโดยเร็ว ไปหาเงียมซง และเตียบุนหอ เล่าความให้ฟังทุกประการ

ฝ่ายตันชุนเมื่อกินยาพิษเข้าไป พอถึงเวลาค่ำก็ตาย ความที่จะชำระก็ค้างอยู่ เงียมซงกับเตียบุนหอและเตียกือเจี้ยก็เข้าเฝ้าฮ่องเต้ กราบทูลว่าได้เอาตัวตันชุนมาผูกเฆี่ยนเจ็บปวดถึงสาหัส ก็ยังให้การยืนคำอยู่ ข้าพเจ้าทั้งหลายก็มีความสงสัย แต่บัดนี้ตันชุนตายเสียแล้ว ฮ่องเต้ก็มิได้ตรัสประการใด พวกตุลาการก็ถวายบังคมลากลับไปบ้าน ตั้งแต่นั้นมานางเตียฮองเฮากับไทจือก็มีความมัวหมองในใจ ได้ความทุกข์ร้อนอยู่ทุกวันทุกเวลา

ฝ่ายไฮ้สุยไปราชการทัพได้สองเดือน ก็ใช้สติปัญญาของตน ร่วมมือกับเจ้าเมือง จอไซแซ ซึ่งมีฝีมือรบพุ่งเข้มแข็ง
จนเอาชนะข้าศึกที่ยกมาจากเมืองเกาจือก๊กได้สำเร็จ แล้วจึงให้บอกข้อราชการมายังเมืองหลวง พระเจ้าเกียเจ๋งได้ทรงทราบก็มีความยินดี เมื่อไฮ้สุยยกกองทัพมาถึงเมืองหลวง ก็เข้าเฝ้าฮ่องเต้กราบทูลข้อราชการทัพซึ่งมีชัยชนะกลับมา ให้ทรงทราบความโดยละเอียด ไฮ้สุยก็มีความชอบมาก ครั้นขึ้นปีใหม่เมืองเกาจือก๊กก็แต่งทูตถือพระราชสาสน์มาอ่อนน้อมยอมถวายเครื่องบรรณาการ เหมือนอย่างประเทศราชอื่น ๆ เป็นปกติ

พวกขุนนางตงฉินก็มาเยี่ยมไฮ้สุย แล้วเล่าความเรื่องเต้งซินอ๋องต้องโทษจำคุก และนางเตียฮองเฮากับไทจือถูกคนร้ายซัดทอดให้มัวหมอง ให้ไฮ้สุยฟังทุกประการ ไฮ้สุยก็เสียใจเป็นอันมาก แล้วว่า

“……ท่านทั้งหลายเป็นขุนนางรับราชการในเมืองหลวง เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นแล้ว เห็นว่าการสิ่งใดผิด จะควรมิควรก็ดี ต้องกราบทูลชี้แจงให้พระเจ้าแผ่นดินทรงทราบ จะให้แต่ข้าพเจ้ากราบทูลทัดทานแต่ผู้เดียว เห็นเหลือสติปัญญา ด้วยข้าพเจ้าอำนาจวาสนาก็น้อย แต่เห็นว่าเรื่องเต้งซินอ๋องนั้นไม่สู้กระไร เป็นแต่คนเลอะเทอะ ประพฤติการไม่สมที่เป็นเจ้าผู้ใหญ่ ความเรื่องนางเตียฮองเฮากับไทจือนั้นสำคัญมาก ท่านทั้งหลายทำไมจึงนิ่งไว้จนป่านนี้…….”

ขุนนางทั้งปวงก็ว่า

“………ท่านย่อมทราบว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายจะกราบทูลให้ถูกพระทัยนั้นยาก ขณะนี้เงียมซงมีวาสนามาก ดูแต่เต้งซินอ๋องกระทบเข้าไปกับเงียมซือพวน ต้องเป็นโทษถึงคุก ขยับจะเลยเป็นขบถไปอีก นี่หากว่าไม่มีตัวโจทก์หาไม่ก็ตาย ข้าพเจ้าทั้งหลายที่ไม่กลัวตายก็มี แต่เห็นว่าจะกราบทูลทัดทานโต้แย้งกับเงียมซง ก็เห็นจะสู้ไม่ได้ ว่าไปไม่ตลอด ถึงจะตายไปชื่อเสียงก็ไม่ปรากฎ พวกข้าพเจ้าเห็นดังนี้ จึงนิ่งรักษาตัวอยู่ แต่เรื่องนางเตียฮองเฮากับไทจือ ยากที่จะชำระได้ความจริง ด้วยตัวผู้ร้ายที่ซัดนางเตียฮองเฮากับไทจือ ว่าใช้ให้มาทำร้ายพระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ ก็ตายเสียแล้ว ความเรื่องนี้ถึงตุลาการผู้ชำระก็ไม่เห็นจริง……….”

ไฮ้สุยถามว่าใครเป็นตุลาการ พวกขุนนางบอกว่ารับสั่งให้ เตียบุนหอ เตียกือเจี้ย โอเจงติด เป็นตุลาการ เงียมซงเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ไฮ้สุยได้ฟังก็นิ่งนึกในใจว่า ความเรื่องนาง เตียฮองเฮากับไทจือ คงเกิดขึ้นด้วยความคิดเจ้าพวกกังฉินเป็นมั่นคง

แต่ไฮ้สุยจะจับให้มั่นคั้นให้ตายได้โดยวิธีใด.

##########

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 04:53:02




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com