Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ขันทีกำเริบ ติดต่อทีมงาน

ยอดคนแผ่นดินเหม็ง

ตอนที่ ๒๖ ขันทีกำเริบ

“ เล่าเซี่ยงชุน “

หลังจากที่ ไฮ้สุย กลับมารับราชการในเมืองหลวงได้สองสามปี วันหนึ่งขณะนั่งเกี้ยวกลับจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้ มาตามทางที่จะไปบ้าน ก็มีคนมาคอยดักยื่นหนังสือแจ้งเรื่องร้องเรียน ไฮ้สุยก็รับเรื่องราวแล้วให้เอาตัวคนยื่นหนังสือมาสอบสวน ได้ความว่าชื่อ ตังเสง เป็นที่ซือจ๋าย มากับเจ้าเมืองซุยกุยฮู พักอยู่ที่โรงเตี๊ยม ไฮ้สุยก็ให้ไปเอาตัวเจ้าเมืองซุยกุยฮูมาสอบสวนด้วย

เจ้าเมืองซุยกุยฮูก็กล่าวโทษ เงียมซือพวน บุตรของ เงียมซง ซึ่งเป็นที่เอ๋ซุนอ้าน ออกไปรักษาราชการที่เมืองฮู่กองแซ ว่ามีความผิดหลายประการคือ เรียกร้องเอาเงินจากเจ้าเมืองกรมการทุกเดือน และข่มเหงราษฎรให้ได้ความเดือดร้อนไปทุกเส้นหญ้า กับมีหนังสือส่งตัวตังเสงมาให้ตนฆ่า โดยหาว่าจะทำร้าย แต่ความจริงเงียมซือพวนหลอกลวงตังเสงไปเล่นสวาทก่อน กับเรื่องที่เงียมซือพวนต้องการถ้วยหยกโบราณของ มกฮวยโก เจ้าเมืองโซจิวฮู้ มกฮวยโกจึงทำถ้วยปลอมไปให้ แล้วหนีออกจากเมืองไป เงียมซือพวนให้ทหารตามไปจับตัวมาได้ แล้วส่งให้ กีกอง แม่ทัพซึ่งตั้งขัดตาทัพอยู่ในตำบลใกล้เคียงนั้นฆ่าเสีย แต่ มกเสง บ่าวของมกฮวยโกยอมตายแทน ปล่อยให้มกฮวยโกหนีไปอยู่ที่เมืองเซียมแซไซ เงียมซือพวนยังจับเอา นางเซาะเหนีย ภรรยาน้อยของมกฮวยโก ซึ่งเพิ่งคลอดบุตรใหม่ไป ยกให้เป็นภรรยา ถังตง บ่าวของตน แต่นางไม่ยินยอม จึงทำอุบายฆ่าถังตงเสีย แล้วฆ่าตัวตายไปด้วย

ไฮ้สุยได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็โกรธมาก จึงแต่งเรื่องราวขึ้นกราบทูลฮ่องเต้ เอาไปถวายต่อพระหัตถ์ ฮ่องเต้ทอดพระเนตรแล้วก็ทรงขัดเคืองเป็นอันมาก ตรัสถามไฮ้สุยว่าจะทำอย่างไรดี ไฮ้สุยกราบทูลว่าต้องเอาตัวมาชำระให้ได้ เมื่อจะเอาเงียมซือพวนเข้ามานั้น ต้องลงพระราชอาญาจำให้ราษฎรเห็นปรากฎ ฮ่องเต้ก็รับสั่งว่าการเรื่องนี้สุดแล้วแต่ท่านจะจัดการเถิด ไฮ้สุยก็แต่งหนังสือรับสั่ง มอบให้ขุนนางที่ซื่อตรงถือตราออกไป เอาตัวเงียมซือพวนจองจำเข้ามาเมืองหลวงตามรับสั่ง

ฮ่องเต้ก็ตรัสกับไฮ้สุยว่า เจ้าเมืองซุยกุยฮูเป็นคนตรง เห็นแก่การแผ่นดินมากไม่เสียดายชีวิต คนเช่นนี้หายากต้องเอาตัวไว้ ให้รับราชการในเมืองหลวงจึงจะควร ตรัสแล้วก็ทรงตั้งให้เป็นที่ขุนนางตำแหน่งชำระความ ขึ้นอยู่กับไฮ้สุย และตรัสถามไฮ้สุยว่าเดิมตังเสงเป็นที่ซือจ๋าย เราเลื่อนขึ้นให้เป็นที่จีนสือ ท่านเห็นสมควรหรือไม่ ไฮ้สุยก็กราบทูลว่าตังเสงคนนี้เป็นคนรู้หนังสือมาก เข้าไล่คราวนี้คงได้เป็นที่จีนสือ ซึ่งพระองค์โปรดตั้งนั้นสมควรแล้ว ฮ่องเต้จึงตั้งให้ตังเสงเป็นที่จีนสือ

ขณะนั้นเงียมซงก็เฝ้าฮ่องเต้อยู่ด้วย แต่ไม่ทราบว่าไฮ้สุยกราบทูลเรื่องอะไร จึงให้ เตียบุนหอ ไปสืบความจากเจ้าพนักงาน จึงได้ทราบว่าเงียมซือพวนได้ทำความผิดขึ้นในหัวเมืองหลายเรื่อง บัดนี้ฮ่องเต้ได้สั่งให้จองจำตัวเอาเข้ามาชำระในเมืองหลวง เงียมซงก็ตกใจให้คนไปเชิญ เตียจีเป๊ก เตียกือเจี้ย มาปรึกษาหารือ แต่เตียกือเจี้ยบอกป่วยไม่มา เงียมซงก็ว่าเดี๋ยวนี้ เตียกือเจี้ยไม่ใคร่มาหาเรา ให้คนไปเชิญครั้งไรก็บอกป่วย เมื่อไม่อยากคบค้ากันก็แล้วไป ครั้นปรึกษากันแล้ว ก็ให้เตียบุนหอไปหา เฮงสุน ขันทีคนโปรด ซึ่งรักใคร่ชอบพอกับเงียมซือพวนเหมือนพี่น้อง ให้ช่วยแก้ไขหนักเป็นเบาลงบ้าง

เฮงสุนนั้นฮ่องเต้ตั้งให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่สำเร็จราชการฝ่ายใน มียศเสมอเจ้าต่างกรม มีขุนนางข้าราชการเข้าประจบฝากตัวเป็นอันมาก ก็วางตัวว่ามีอำนาจเหนือขุนนางฝ่ายหน้า ผู้ใดเข้าไปพบก็ต้องนอบน้อมถ่อมตน เตียบุนหอนั่งรออยู่ถึงห้าชั่วโมงจึงได้เข้าใกล้ เฮงสุนก็ถามว่ามีธุระอะไร เตียบุนหอก็บอกว่าใจเสี่ยงใช้ให้มาคำนับท่าน เฮงสุนจึงให้คนใช้ยกน้ำชามาให้กินแล้วถามว่าท่านใจเสี่ยงมีธุระอะไร เตียบุนหอเห็นมีขุนนางอยู่หลายคน จึงกระซิบเล่าความเรื่องเงียมซือพวนต้องคดี ถูกจองจำเข้ามา ให้ฟังทุกประการ เฮงสุนก็ว่าข้าหลวงก็เชิญท้องตราออกไปแล้ว ครั้นจะไปปรึกษากับท่านใจเสี่ยงการก็จะช้าไป ต้องกราบทูลเสียก่อนจึงจะดี แล้วก็รับปากว่าจะช่วยผ่อนหนักให้เบาลง

แล้วเฮงสุนก็เข้าไปเฝ้าฮ่องเต้ กราบทูลว่าเงียมซงกับเงียมซือพวนผู้บุตร พระองค์ทรงพระเมตตาชุบเลี้ยงถึงขนาด ชื่อเสียงก็ปรากฎไปในนานาประเทศ ความเจริญแห่งคนทั้งสองก็ปรากฎแก่คนทั้งปวง ถ้าเงียมซือพวนทำความผิดดังที่ไฮ้สุยกล่าวโทษ ซึ่งพระองค์ให้ขุนนางเชิญท้องตราออกไปลงพระราชอาญา จำเงียมซือพวนเข้ามานั้น เห็นว่าจะกระเทือนถึงใจเสี่ยง เป็นที่อัปยศแก่อาณาประชาราษฎรมาก พระองค์ก็ยังจะทรงชุบเลี้ยงต่อไป ถ้าทำดังนี้แล้ว ราษฎรทั้งปวงก็จะหมิ่นประมาทได้ ไม่เป็นที่เกรงขาม ขอรับพระราชทานโทษลงเสียบ้าง

ฮ่องเต้ก็ตรัสว่า เงียมซือพวนมีความผิดมากหลายข้อท่านยังไม่รู้ เงียมซือพวนถืออำนาจเงียมซงว่าเป็นขุนนางผู้ใหญ่ เฮงสุนก็กราบทูลว่าพระองค์ทรงพระเมตตาโปรดให้เวียมซือพวนเป็นที่เอ๋ซุนอ้าน มีอาญาสิทธิ์แล้ว ไม่ต้องถืออำนาจบิดา จะทำอะไรก็ทำได้ ฮ่องเต้ก็พระราชทานเรื่องราวที่ไฮ้สุยถวายนั้น ให้เฮงสุนดู เฮงสุนทราบความแล้วก็กราบทูลว่า เงียมซือพวนถ้าทำผิดจริงดังไฮ้สุยกล่าว ต้องทำโทษเสียบ้างพอให้เข็ดหลาบ

แล้วเฮงสุนก็กราบทูลถวายคำแนะนำว่า ข้อที่เงียมซือพวนเกณฑ์เอาเงินแก่จงตกและขุนนางกรมการในเมืองฮู่กองแซ เสมอทุกเดือนนั้นไม่ควร เอาของเขามาเท่าไรต้องชำระเอาเงินคืนให้ตามเดิมจนครบ ข้อที่ให้ทหารตามจับเจ้าเมืองซุยกุยฮู และตังเสงเป็นที่ซือจ๋ายให้ฆ่าเสียนั้นมีโทษ ความสองเรื่องนี้ลี้ลับอยู่ ไฮ้สุยจะได้รู้ก็เพราะซือจ๋าย โทษที่ทำแก่ซือจ๋ายนั้นผิด ต้องถอดเงียมซือพวนออกจากที่เอ๋ซุนอ้าน ให้เป็นไพร่อยู่ที่เมืองฮู่กองแซสามปี เบี้ยหวัดเงินเดือนของเงียมซือพวนนั้น ยกให้แก่ซือจ๋ายกึ่งหนึ่ง ให้แก่เจ้าเมืองซุยกุยฮูกึ่งหนึ่ง สืบไปวันหน้าถ้าเงียมซือพวนมีความชอบ จึงให้เข้ามารับราชการตามเดิม ถ้าทำดังนี้โดยไฮ้สุยจะรู้ก็ไม่โกรธ เงียมซงก็ได้ความอายน้อยลง ไม่อายเหมือนจำประจานเอาตัวเข้ามา

พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ก็ทรงเห็นชอบด้วย จึงตรัสว่าถ้าจะทำตามท่านว่าแล้วอย่าให้ไฮ้สุยรู้ ตรัสแล้วจึงรับสั่งให้เจ้าพนักงาน แต่งหนังสือรับสั่งขึ้นใหม่ แก้ไขรับสั่งฉบับก่อน ตามคำของเฮงสุน แล้วให้ขุนนางผู้เป็นข้าหลวงรีบตามขุนนางคนก่อนเอาหนังสือรับสั่งฉบับแรกคืนมา

แล้วเฮงสุนก็ไปหาเงียมซง เล่าเรื่องที่ช่วยแก้ไขเงียมซือพวนให้ทราบทุกประการ เงียมซงก็ยินดีเป็นที่ยิ่งพูดว่า ท่านมีความเมตตาสงเคราะห์บุตรข้าพเจ้าครั้งนี้ คุณหาที่สุดมิได้ เฮงสุนว่าเงียมซือพวนมีความผิดเป็นอันมาก ข้าพเจ้าเห็นว่าถ้าเอาตัวเงียมซือพวนจำประจานเข้ามาชำระในเมืองหลวงแล้ว ที่จะแก้ตัวให้พ้นไปนั้นไม่ได้ ด้วยเป็นความจริงทุกเรื่อง ถ้าไม่จริงแล้วที่ไหนไฮ้สุยจะกราบทูล ถ้าเอาตัวเข้ามาถึงมือไฮ้สุยแล้ว ก็จะเอากฎหมายแบบอย่างออกตั้ง ชำระตามกฎหมาย ที่ไหนเงียมซือพวนจะพ้น คงจะตายเป็นแน่ เงียมซงจึงว่าการครั้งนี้ถ้าไม่ได้ท่านแล้ว บุตรข้าพเจ้าก็คงตายเป็นแน่ ข้าพเจ้าก็จะได้ความอายแก่คนทั้งปวงมากนัก

ฝ่ายขุนนางผู้ถือรับสั่งคนหลัง ตามไปทันคนแรกกลางทาง จึงแจ้งเรื่องมีรับสั่งให้ทราบ ครั้นไปถึงเมืองฮู่กองแซแล้ว ก็จัดการตามหนังสือรับสั่ง แล้วเอาเครื่องยศและตราตั้งของเงียมซือพวนกลับมา ครั้งนั้นเงียมซือพวนได้ความอายแก่เจ้าเมืองกรมการและราษฎรเป็นอันมาก

ครั้นขุนนางข้าหลวงคนแรกกลับมาถึงเมืองหลวง ก็เล่าความทั้งปวงให้ไฮ้สุยฟังโดยละเอียด ไฮ้สุยก็สงสัยว่าใครหนอมากราบทูลแก้ไข จนความกลับกลายไปได้ เห็นจะเป็นพวกกังฉินด้วยกัน เป็นใจเข้าด้วยคนกังฉิน เพราะการที่จะเอาตัวเงียมซือพวนจำเข้ามานั้น ด้วยปรารถนาจะชำระความเจ้าเมืองโซจิวฮู้รายถ้วยหยก ซึ่งยังหาได้กราบทูลไม่ จึงให้คนสนิทไปสืบดูก็ได้ความว่า เงียมซงให้เตียบุนหอไปหาเฮงสุนขันทีคนโปรด ช่วยกราบทูลแก้ไขรับสั่งให้ ไฮ้สุยก็โกรธมากจึงว่า

“…….บัดนี้ในพระราชวังเกิดหนอนตัวใหญ่ขึ้นแล้ว เฮงสุนเป็นเด็กหนุ่มยังไว้อำนาจโตใหญ่ ขัดขวางการแผ่นดินได้ถึงเพียงนี้ ไปวันหน้าถ้าเฮงสุนมีอายุมากขึ้น พระเจ้าแผ่นดินโปรดปรานเชื่อฟังมาก ก็จะกำเริบใจยิ่งกว่านี้………”

ไฮ้สุยจึงให้หาตัว พั่งเปา ขันทีคนสนิทของฮองเฮามาสอบถาม ก็ได้ความว่า เฮงสุนคนนี้แต่ก่อนก็เรียบร้อยดี การงานก็รับใช้สอยแข็งแรงถูกต้องตามแบบอย่าง ชอบพระอัชฌาสัยพระเจ้าแผ่นดิน ตั้งแต่คบค้าเข้ากับเงียมซือพวน ดูประพฤติแปลกไปไม่เรียบร้อยเหมือนแต่ก่อน

อยู่มาวันหนึ่งไฮ้สุยก็แต่งเรื่องราวกราบทูลฮ่องเต้ มีความว่า

“……..พวกขันทีที่อยู่ในพระราชวังมีมาก แต่ขันทีที่เป็นผู้ใหญ่สูงอายุมีอยู่สักสองร้อยเศษ นอกนั้นก็แต่ล้วนหนุ่ม ๆ ได้ตรวจตราดูแล ก็แต่เมื่อแรกเข้ามารับราชการคราวเดียวเท่านั้น การก็นานมากว่าสิบปีแล้ว ไม่ได้ตรวจตราดูแลกันอีกเลย ข้าพเจ้าวิตกด้วยนางพระสนมอยู่ในพระราชวังมีมากนับด้วยพัน แม้นพวกขันทีเหล่านี้มีเพศบุรุษเจริญออกทำการร้ายขึ้นแล้ว ถ้ารู้ไปในประเทศต่าง ๆ ก็เป็นที่เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ข้าพเจ้าเห็นว่าถ้าชำระเอาตัวพวกขันทีมาตรวจเสียให้ถ้วนถี่ทุกคนสักคราวหนึ่ง แม้นมีบุรุษเพศเสมอหนึ่งนิ้ว หรือต่ำลงมากว่านั้นก็ให้งดไว้ ถ้ามีบุรุษเพศงอกงามเจริญมากออกไปกว่าก็ให้ตัดเสีย เรื่องความร้ายขันทีนี้ แต่ก่อนครั้งแผ่นดิน พระเจ้าเจงเต๊กฮ่องเต้ นั้น เล่ากึน เป็นขันทีเสาะแสวงหาได้ยาวิเศษมากิน มีเพศงอกยาวออกไปเหมือนคนปกติ ตัวอย่างเคยมีอยู่ดังนี้ ถ้านิ่งไว้ไม่ตรวจตราดูแลระวัง ข้าพเจ้ากลัวจะเกิดเป็นขึ้นเช่นนั้น….”

พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ รับเรื่องราวมาทอดพระเนตรทรงทราบแล้ว จึงตรัสว่า

“……..การเรื่องนี้เราก็คิดเหมือนดังท่านมานานแล้ว ครั้นจะคิดขึ้นก่อนให้ตรวจตราดูแลกัน ก็เกรงขุนนางเขาจะนินทาว่าเป็นคนขี้หึง ท่านทำเรื่องราวเข้ามาว่าดังนี้ชอบแล้ว เรามอบให้ท่านเป็นธุระในการนี้ ตามแต่จะตรวจตราดูแลตัดทอนไปตามควรเถิด……..”

ไฮ้สุยก็กราบทูลว่า

“……..ข้อความราชการบ้านเมืองสิ่งใด ข้าพเจ้ากราบทูลแล้ว พระองค์ก็มิได้ขัดแต่สักครั้ง พระเดชพระคุณเป็นที่สุด ถ้าข้าพเจ้าไปแล้วแม้นมีผู้มาทูลประการใด มักจะผันแปรไป ขอพระองค์จงโปรดให้ผู้อื่นชำระ……..”

ฮ่องเต้ได้ทรงฟังจึงตรัสว่า

“……..เราได้ว่าออกไปอย่างไรก็อย่างนั้น ได้กลับกลายไปเมื่อไรเล่า ถ้าท่านยังแคลงอยู่เราจะให้อาญาสิทธิ์ไป แม้นผู้ใดขัดขวางไม่ทำตามท่านบังคับก็ให้ฆ่าเสีย…….”

แล้วฮ่องเต้ก็พระราชทานกระบี่อาญาสิทธิ์ให้ ไฮ้สุยก็ถวายบังคมลาออกมาอยู่ที่พักขุนนาง ให้หาตัว ซาฮุยหงวน ซึ่งเป็นขันทีผู้ใหญ่อายุได้แปดสิบสามปีมาบอกว่า ตัวท่านเป็นผู้ใหญ่กว่าขันทีทั้งปวง บัดนี้มีรับสั่งให้เราเป็นผู้ตรวจตราดูแล พวกขันทีที่มีอยู่ในพระราชวัง มากน้อยเท่าใดจงไปทำบัญชีมาให้ถ้วนถี่ อย่าให้ช้า จงลงมือทำแต่วันนี้ไปให้แล้วในสิบวัน

ซาฮุยหงวนก็สงสัยว่าไฮ้สุยจะเอาบัญชีพวกขันทีไปตรวจเรื่องอะไร จึงถามว่าท่านจะเอาขันทีมาชันสูตรหรือ ไฮ้สุยก็หัวเราะ ซาฮุยหงวนก็ถามต่อว่าเหมือนตัวข้าพเจ้านี้ก็ชราถึงเพียงนี้แล้ว ท่านจะชันสูตรด้วยหรือ ไฮ้สุยว่าส่วนตัวท่านเรายกให้ แต่นอกนั้นต้องชันสูตรหมดทุกคน จงเร่งไปทำบัญชีมาให้ถ้วนถี่ ให้มีเกษียณอายุและชื่อเสียงไว้ทุกคน แม้นปิดบังอำพรางไว้ ชำระได้ความจริงจะเอาตัวเป็นโทษ ซาฮุยหงวนก็บอกว่าขันทีในพระราชวังมีอยู่สักสองพันเศษ แล้วก็คำนับลาไปทำตามที่ไฮ้สุยสั่ง

ในไม่ช้าซาฮุยหงวนก็เอาบัญชีขันทีมาให้ไฮ้สุย ปรากฎว่าในพระตำหนักไต้เม่งไต้พระตำหนักฮองเซียนเต้ย พระตำหนักช่วงเจียไต้ และพระตำหนักไต้เชงไต้ มีตำหนักละร้อยแปดสิบสี่ ในพระตำหนักไทอันไต้ พระตำหนักเก๋งอันไต้ มีตำหนักละสามร้อยหกสิบแปด ส่วนพระ ตำหนักงือลิมหึงในสวนดอกไม้นั้น มีหกร้อยห้าสิบคน พระตำหนักเหล่านี้อยู่ในพระราชวังชั้นใน รวมหมดทั้งตัวนายและไพร่สองพันร้อยยี่สิบสองคน มีชื่อแซ่และอายุทุกคน แต่ไม่มีชื่อเฮงสุน

แล้วไฮ้สุยจะจัดการอย่างไรกับพวกขันทีจำนวนมากมายเหล่านี้ คงจะต้องรอกันจนกว่าจะถึงตอนหน้า.

##########

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 07:57:40




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com