Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อธรรมสิ้นฤทธิ์ ติดต่อทีมงาน

ยอดคนแผ่นดินเหม็ง

ตอนที่ ๒๘ อธรรมสิ้นฤทธิ์

“ เล่าเซี่ยงชุน “


เฮงสุนก็เอาคำสารภาพที่ได้ทำไว้นั้น เข้าถวาย พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ ต่อ พระหัตถ์ ฮ่องเต้รับเรื่องมาทอดพระเนตรสิ้นข้อความแล้ว เมื่อไฮ้สุยเข้าไปเฝ้ากราบทูลเรื่องชำระพวกขันทีตามรับสั่งให้ทรงทราบทุกประการ แล้วกราบทูลว่า    เฮงสุนนี้แต่ก่อนประพฤติเป็นพาล บัดนี้รู้สำนึกตัวกลับใจได้แล้ว ขอพระองค์ชุบเลี้ยงไว้ตามเดิม

ฮ่องเต้ก็ทรงพระสรวล แล้วตรัสว่า

“…….ท่านมีความสวามิภักดิ์รักต่อเรามากนัก ไม่มีใครเสมอ ความเรื่องใดที่ลี้ลับ ที่เราไม่รู้ ท่านคิดอ่านแคะไค้ออกมาให้เรารู้ได้ ก็จัดเป็นการดีแล้ว เหมือนเรื่องราวเหล่านี้ ถ้าไม่ได้ท่านแล้วที่ไหนเราจะรู้……..”

ไฮ้สุยกราบทูลว่าเรื่องความทั้งปวงเหล่านี้ ถ้าจริงดังคำสารภาพแล้ว ผู้ที่ทำก็มีความผิด จะชำระหรือประการใด ก็สุดแท้แต่จะโปรด ฮ่องเต้ก็ตรัสว่าการทั้งนี้เรามอบให้แก่ท่านทั้งสิ้น สุดแต่ท่าน เมื่อเห็นควรประการใดก็ตามแต่ใจท่านเถิด แต่เรามีความน้อยใจอยู่อย่างหนึ่ง ด้วยขุนนางและราษฎรที่มีความเดือดร้อนเป็นอันมาก เหตุใดจึงพากันนิ่งเสียไม่ได้มีใครบอกให้เรารู้

ไฮ้สุยก็กราบทูลว่า

“………เวลานั้นใครจะกล้ากราบทูลขึ้นได้ แม้นว่ากล่าวขึ้นก็มีแต่จะแพ้ภัยตัว ด้วยพวกนี้พระองค์ก็ทรงเห็นเหมือนแก้วอันวิเศษ คนอื่นแม้นเห็นว่ามิใช่แก้วเป็นของปลอม จะกราบทูลก็เกรงพระราชอาญา การครั้งนี้พระองค์ก็ได้ทรงทราบแล้ว ก็เป็นบุญของขุนนางและราษฎรที่จะได้ความสุข……….”

พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ก็ตรัสสรรเสริญไฮ้สุยว่า ตัวท่านเปรียบเหมือน เปาเล่งถู ครั้งแผ่นดินซ้อง ซึ่งเป็นคำสรรเสริญที่เป็นเกียรติยศแก่ไฮ้สุยอย่างยิ่ง เพราะเปาเล่งถูที่มีนามเดิมว่า เปาบุ้นจิ้น นั้น เป็นผู้ที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ และทรงคุณสมบัติในความเที่ยงตรงยุติธรรม หาผู้ใดเสมอมิได้

ไฮ้สุยก็กราบทูลว่า

“……..พระองค์เปรียบข้าพเจ้าเหมือนกับเปาเล่งถูนั้นเกินนัก ข้าพเจ้าเป็นแต่อดไม่ได้ รู้เห็นการสิ่งใดที่ขัดต่อแผ่นดิน ก็ต้องกราบทูล………”

ฮ่องเต้ก็ตรัสว่าแต่ก่อนเราไม่ได้ตรองการให้ละเอียด ขุนนางเก่า ๆ ที่ลาออกนอกราชการนั้น ท่านเห็นผู้ใดดีจงทำบัญชีเข้ามา จะได้แต่งตั้งไปตามสมควร เรื่องความที่คนทุจริตข่มเหงขุนนางและราษฎรนั้น ท่านจะชำระอย่างไรก็ตามแต่ใจท่านเถิด

ไฮ้สุยกราบทูลว่าการก็นานมาแล้ว ตัวโจทก์เห็นจะไม่มีใครว่า ต้องงดไว้ แต่เรื่องความเจ้าเมืองโซจิวฮู้รายถ้วยหยกนั้น เป็นความเกิดขึ้นใหม่ต้องชำระ ด้วยพระองค์ตั้งให้ เงียมซือพวน เป็นที่เอ๋ซุนอ้านออกไปนั้น เหมือนดังพระเนตรพระกรรณ เงียมซือพวนก็ทำการไม่เป็นธรรม ก็พาให้มัวหมองอยู่ในแผ่นดินไปวันหน้า ถ้าพระองค์โปรดตั้งให้ผู้อื่นเป็นที่เอ๋ซุนอ้าน ออกไปภายหน้า ก็จะไม่เป็นที่ยำเกรงแก่ขุนนางและราษฎร ความเรื่องนี้ต้องชำระให้เห็นความเท็จและจริง ส่วนการที่พระองค์ทรงระลึกถึงข้าราชการเก่า ที่ต้องถอดและลาออกนอกราชการนั้น พระคุณหาที่สุดมิได้ และไฮ้สุยก็กราบทูลแนะนำขุนนางเก่าที่สมควรไว้วางพระราชหฤทัย ให้กลับเข้ารับราชการหลายคน

แล้วไฮ้สุยก็ให้หาตัว กีกอง แม่ทัพรักษาด่าน กับ มกฮวยโก เจ้าเมืองโซจิวฮู้ ซึ่งถูกเงียมซือพวนข่มเหง มาสอบสวนก็ได้ความว่า เงียมซือพวนต้องการจะเอาถ้วยหยกของโบราณ ที่มกฮวยโกเป็นเจ้าของ เมื่อจับได้ว่ามกฮวยโกเอาถ้วยหยกปลอมมาให้ ก็ให้ทหารเอาตัวไปฆ่าเสีย แต่กีกองมีความเมตตามกฮวยโกจึงหนีรอดไปได้ โดยมกเสงบ่าวของมกฮวยโกยอมตายแทน และ นางเซาะเหนีย ภรรยาน้อยของ มกฮวยโกก็ถูกจับไป ยกให้เป็นภรรยาของ ถังตง บ่าวของเงียมซือพวน แต่นางไม่ยินยอมจึงฆ่าถังตงและฆ่าตัวเองตาย กีกองจึงต้องเลี้ยงบุตรที่คลอดใหม่ของนางอยู่จนบัดนี้

ไฮ้สุยจึงให้คนไปเชิญ เงียมซง บิดาของเงียมซือพวนมาที่บ้าน แล้วให้เสมียนอ่านคำกล่าวหาของมกฮวยโกกับกีกองให้เงียมซงฟังจนสิ้นข้อความ แล้วถามเงียมซงว่าเขาหาดังนี้ ท่านจะเห็นประการใด แม้นท่านเห็นจริงด้วยแล้ว จะได้ทำไปตามการ ถ้าท่านไม่เห็นจริงจะได้ให้คนไปเอาตัวเงียมซือพวนเข้ามาชำระ

เงียมซงก็คิดว่าความเรื่องนี้จริงดังโจทก์กล่าวทั้งสิ้น จึงว่าไม่ต้องเอาตัวมาชำระ สุดแล้วแต่ท่านจะทำโทษเถิด ข้าพเจ้าก็สิ้นอาลัยไม่เป็นธุระ ความเรื่องใดท่านรื้อขึ้นว่าและท่านรู้มาอย่างไร ล้วนแต่เป็นความจริงทั้งนั้น

ไฮ้สุยว่าถ้าอย่างนั้นท่านจะทำคำสารภาพรับผิดแทนเงียมซือพวนได้หรือ เงียมซงก็รับทำคำสารภาพ ทุกประการ ไฮ้สุยดูรู้ความแล้วจึงว่า

“………ตัวท่านเป็นบิดาเงียมซือพวนมีความผิด ถ้าเอาตัวมาชำระพิจารณาเป็นสัตย์ โทษเงียมซือพวนก็ถึงตาย แต่ท่านสารภาพผิดแทนบุตรแล้วไม่ต้องเอามาชำระ จะยกชีวิตเงียมซือพวนให้แก่ท่าน แต่ต้องทำโทษให้คนทั้งปวงเห็นปรากฎ ความติเตียนนินทาจึงจะไม่มีแก่พระเจ้าแผ่นดิน………..”

เงียมซงก็ว่าตามแต่ท่านจะทำโทษเถิด ข้าพเจ้ามิได้มีความรังเกียจ ซึ่งท่านมีความเมตตาบุตรข้าพเจ้าไม่ให้ถึงแก่ชีวิตนั้น คุณหาที่สุดมิได้ ไฮ้สุยเห็นว่าเงียมซงไม่ถือดื้อดึงมานะเหมือนแต่ก่อน จึงว่าโทษที่เงียมซือพวนทำการข่มเหงเจ้าเมืองโซจิวฮู้นั้น ต้องเอาตัว เงียมซือพวนไปที่เมืองโซจิวฮู้ สักเป็นอักษรประจานไว้ที่แขน มีความว่าเงียมซือพวนทำการ ข่มเหงเจ้าเมืองโซจิวฮู้ และข่มเหงตังเสงที่ซือจ๋าย มีความผิดโทษถึงประหารชีวิต ใจเสี่ยงผู้เป็นบิดาสารภาพรับผิดแทน ต้องยกชีวิตไว้แล้วให้เอาตัวประจานไว้สามวันปรับโทษที่ทำล่วงเกินแก่ ซือจ๋าย นั้น ให้มีงิ้วที่หน้าศาลขงจื๊อสามวัน เมื่อวันมีงิ้วนั้น ให้เอาหนังสือสารภาพปิดไว้ที่หน้าศาล ให้คนทั้งปวงที่มาประชุมดูงิ้วเห็นหนังสือสารภาพนั้น แล้วให้เงียมซือพวนเป็นไพร่อยู่ที่เมืองฮู่องแซต่อไป

แล้วไฮ้สุยก็เข้าเฝ้าฮ่องเต้กราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบทุกประการ ฮ่องเต้ก็ตรัสว่าชอบแล้ว จึงให้ขุนนางเจ้าพนักงานแต่งหนังสือเป็นข้อรับสั่ง มีความตามคำไฮ้สุยปรับโทษ เงียมซือพวน แล้วให้ขุนนางเชิญหนังสือรับสั่ง ออกไปจัดการตามนั้นทุกประการ

ครั้งนั้นไฮ้สุยมีอำนาจมากกว่าเก่าหลายเท่า เจ้านายขุนนางยำเกรงนับถือเป็นอันมาก คนที่เป็นพวกพ้องของเงียมซง และผู้ซึ่งมาเดินเหินเสียเงินทองแก่เงียมซง ได้เป็นขุนนางและเจ้าเมืองนั้น ครั้นเห็นว่าไฮ้สุยมีอำนาจมาก เงียมซงถอยอำนาจลง ต่างคนก็ร้อนตัวกลัวไฮ้สุย ด้วยคนพวกนั้นไม่ตั้งอยู่ในยุติธรรม ก็พากันหลีกเลี่ยงออกจากราชการ ขุนนางซึ่งเป็นตงฉินที่ต้องถอดและลาออกนอกราชการ ครั้นรู้ว่าพวกกังฉินถอยอำนาจลงไม่เหมือนก่อน ต่างคนก็เข้ามารับราชการอีกเป็นอันมาก ถ้าผู้ใดมีสติปัญญาและฝีมือ สมควรจะเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊ได้ ไฮ้สุยก็กราบทูลฮ่องเต้ให้ทรงแต่งตั้ง ไปตามคุณวิชาความรู้ของผู้นั้น ตั้งแต่นั้นมาบ้านเมืองก็ เรียบร้อย เป็นสุขสบายทั่วทั้งแผ่นดินพระราชอาณาเขต

ครั้นอยู่มาได้สามปี อันเพ่งอ๋อง ซึ่งเป็นผู้รักษาเมืองน่ำเกียถึงแก่กรรมลง ขุนนาง กรมการบอกเข้ามายังพนักงาน นำข้อความขึ้นกราบทูลฮ่องเต้ ทรงทราบก็เสียพระทัยนัก ด้วยเมืองน่ำเกียนั้นเป็นเมืองใหญ่ เจ้าและขุนนางก็มีมาก มั่งคั่งบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง และไพร่พลทหาร ราษฎรที่อยู่ในเมืองน่ำเกียประมาณสี่ร้อยหมื่นครัว

แล้วจึงรับสั่งให้ประชุมขุนนางผู้น้อยผู้ใหญ่พร้อมกัน ตรัสปรึกษาว่าเมืองน่ำเกียนี้ คิดจะให้เจ้าและขุนนางออกไปรักษา ไม่เห็นมีใครจะเป็นที่ไว้วางใจได้ ต้องเลือกหาคนที่มีใจสัตย์ซื่อมั่นคง และประกอบด้วยสติปัญญา จึงจะออกไปอยู่ได้ ด้วยเมืองน่ำเกียนั้นเป็นเมืองใหญ่ แม้นผู้ที่ออกไปเป็นผู้รักษาเมืองไม่ซื่อตรง ตั้งแข็งขึ้นแล้วก็ทำยาก เหมือนหนึ่งเสียแผ่นดินไต้เหม็งไปกึ่งหนึ่ง ท่านทั้งปวงจงพิเคราะห์ดู ผู้ใดมีสติปัญญาสัตย์ซื่อ สมควรจะไปรักษาเมืองน่ำเกียได้ ถ้าเห็นพร้อมกันว่าผู้ใดสมควรแล้ว เราจะตั้งผู้นั้นเป็นผู้รักษาเมืองน่ำเกียต่อไป ขุนนางผู้น้อยผู้ใหญ่ยังคิดไม่ตกก็พากันนิ่งอยู่ จนเสด็จขึ้นจึงพากันกลับไปบ้าน

ฝ่ายเงียมซงนั้นปรารถนาอยากได้ไปเป็นผู้รักษาเมืองน่ำเกีย แต่กลัวจะไม่ได้ด้วยเป็นเมืองสำคัญ ครั้นจะคิดอ่านให้เฮงสุนช่วยกราบทูลเสนอ ก็บาดหมางห่างเหินกันเสียแล้ว มิรู้ที่จะคิดประการใด จึงให้คนไปเชิญ เตียจีเป๊กและเตีย  บุนหอมาที่บ้าน แล้วปรึกษาว่าท่านทั้งสองเห็นว่าผู้ใดสมควรจะออกไปเป็นผู้รักษาเมืองน่ำเกียได้

ทั้งสองก็ว่าเจ้าและขุนนางในเมืองหลวงทุกวันนี้ก็มีมาก แต่ไม่เห็นผู้ใดสมควรที่จะออกไปอยู่รักษาเมืองน่ำเกีย เห็นอยู่แต่ไฮ้สุยผู้เดียว ด้วยไฮ้สุยมีความดีหลายอย่าง ทั้งประกอบด้วยความซื่อตรงกตัญญูตั้งอยู่ในยุติธรรม พระเจ้าแผ่นดินก็โปรดปรานนับถือเชื่อฟัง อนึ่งความดีของไฮ้สุยปรากฎไปในหัวเมืองน้อยใหญ่ และประเทศต่าง ๆ

เงียมซงก็ว่าท่านพูดนี้ก็ถูกแล้ว แต่ไฮ้สุยมีวาสนาน้อย คนที่อยู่ในเมืองน่ำเกียนั้น แต่ล้วนที่มีทรัพย์มั่งคั่งและวาสนามาก คืออ๋องและใจเสี่ยง ลักโป๊ จิวเคง ท่านเหล่านี้เป็นผู้มีวาสนาทั้งนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าถ้าไฮ้สุยออกไปที่ไหนท่านเหล่านี้จะมีความยำเกรง ถึงโดยพระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้จะทรงแต่งตั้งให้ไฮ้สุยมียศใหญ่ขึ้นไปอีก คนทั้งปวงก็ย่อมรู้ และว่าถ้าพวกเราสามคนนี้ ใครได้ออกไปแต่สักคนหนึ่งเห็นจะดี

เตียบุนหอว่าพวกเราในเวลานี้นั้น อย่าได้หมายเลย ข้าพเจ้าเห็นลึกยิ่งกว่าท้อง มหาสมุทร เห็นจะไม่ได้ออกไปแล้ว ด้วยเป็นครั้งคราววาสนาชะตาพวกเราตกอับ แม้จะมีผู้สงเคราะห์กราบทูลช่วยยกให้ก็ไม่สำเร็จ กลับจะพาผู้ที่สงเคราะห์นั้นเสียหายยับเยินไปเสียอีก

เงียมซงก็จนใจไม่รู้ที่จะว่าประการใด ก็ต้องเห็นชอบตามคำเตียบุนหอ แล้วว่าไหน ๆ ก็ไม่ได้ไปเป็นแน่แล้ว คิดทำคุณไว้กับไฮ้สุยครั้งนี้เห็นจะดี พระเจ้าแผ่นดินก็จะทรงเห็นว่า เรารู้จักคนดีและชั่ว สืบไปวันหน้าถ้าพระองค์จะแต่งตั้งผู้ใดให้เป็นขุนนาง และออกไปเป็นเจ้าเมืองเอกโทตรีจัตวา ก็จะทรงปรึกษาเรา ถ้าเราชอบใจผู้ใดจะได้กราบทูลยกย่องขึ้น สินบนผลประโยชน์ก็ยังคงจะมี อนึ่งพระเจ้าแผ่นดินจะได้ทรงเห็นว่า เราไม่มีความพยาบาทและอิจฉาไฮ้สุย ถ้า   ไฮ้สุยไปเสียไกลก็ดี เราทั้งปวงจะได้ไม่ต้องระวังตัว

ทั้งสามคนก็เห็นชอบด้วยกันเป็นอันดี.

############

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 05:43:25




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com