Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ปราบหลวงจีนอันธพาล ติดต่อทีมงาน

ทหารกล้าแผ่นดินฮั่น

ตอนที่ ๙ ปราบหลวงจีนอันพาล

“ เล่าเซี่ยงชุน “

ฝ่ายลิวซูฮู่ม้า กับเตียวเหานายโจรเขาอึงเถ้าซัว ผู้ช่วยเหลือนางลิวเอ๋งภรรยาของ ลิวซู จากเงื้อมมือของหลวงจีนเต้าเฉงวัดแปะซงยี่ ซึ่งลงเรือเดินทางมาด้วยกัน เพื่อติดตามหาตัวยวดซิมอ๋องนั้น ได้ทราบข่าวว่ายวดซิมอ๋องยกทัพมาตามนางแบ๊ลวนเองน้องสาว ที่เขาปวยง่อ เหนีย ก็แล่นเรือติดตามมาจนใกล้จะถึงเขาปวยง่อเหนีย จึงขึ้นฝั่งเดินไปทางบกทั้งสองคน จนถึงเชิงเขาเห็นคนตายกลิ้งเกลื่อนอยู่กับพื้นแผ่นดินเป็นอันมาก ก็เกิดความสงสารเวทนา ว่ายวดซิมอ๋องพาทหารมาตายเสียที่นี่หนักหนา แต่ตัวยวดซิมอ๋องจะเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบ

เตียวเหาก็บอกให้กลับไปเขาอึงเถ้าซัว จัดไพร่พลยกมาแก้แค้นต่อไป แต่ลิวซูไม่เห็นด้วย ให้เตียวเหาไปคอยอยู่ที่เรือก่อน ตนเองจะขึ้นไปสืบลาดเลาดูบนเขาแต่ผู้เดียวก่อน ถ้าได้ความประการใดจะกลับไปแจ้งให้ทราบ เตียวเหาก็วิตกว่าลิวซูรู้แต่ขนบธรรมเนียมข้างพลเรือน การทหารนั้นไม่ชำนิชำนาญคล่องแคล่ว หากเกิดภัยสิ่งใดขึ้นจะสู้รบต้านทานมิได้ ลิวซูก็ว่าข้อนั้นอย่าวิตกไปเลย ตนจะหาอุบายสืบสวนเอาความจริงให้จงได้ เตียวเหาเห็นว่าห้ามไม่ฟังแล้วจึงยอมกลับไปคอยที่เรือ

ลิวซูก็เดินขึ้นไปจนถึงประตูวัด แล้วบอกกับหลวงจีนที่เฝ้าประตูว่าตนชื่อเฮงซู จะขอเข้าไปไหว้พระ หลวงจีนนั้นก็ไปขออนุญาตหลวงจีนกิวเลงเจ้าวัด แล้วก็พาเข้าไปข้างใน ลิวซู หรือชื่อปลอมว่าเฮงซู เห็นหลวงจีนกิวเลงนั่งถือแซ่อยู่คนเดียว ก็เดินตรงเข้าไปคำนับ หลวงจีนเห็นลิวซูมีกิริยาเรียบร้อย ก็เชิญให้นั่งในที่อันสมควร ยกน้ำชามาให้กินแล้วถามชื่อแซ่ และถามว่ามาจากไหน ลิวซูก็บอกชื่อปลอมและว่า ตนตั้งบ้านเรือนอยู่ห่างจากเขานี้ประมาณสี่สิบลี้ บัดนี้มารดาป่วยไข้จึงมาไหว้พระบนบานขอให้หายโรค หลวงจีนกิวเลงก็ไต่ถามอาการป่วยของมารดา ลิวซูก็บอกว่ามารดาป่วยมาได้สองสามเดือนแล้ว ตนเองไม่มีพี่น้องต้องปฎิบัติมารดาคนเดียว ถ้ามารดาค่อยคลายหายเป็นปกติดีแล้ว ตนจะมาขอเป็นศิษย์เล่าเรียนวิชาการต่าง ๆ กับท่าน

หลวงจีนกิวเลงหลงเชื่อสำคัญว่าจริงก็ยอมรับไว้ ลิวซูก็ลุกขึ้นคุกเข่าคำนับตามธรรมเนียมศิษย์กับอาจารย์ แล้วถามว่าเหตุใดผู้คนจึงมาตายอยู่ที่เชิงเขานี้มากมายนัก หลวงจีน กิวเลงก็เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ยวดซิมอ๋องคุมทหารมารบ แล้วตนเอากิวกุนอาวุธวิเศษออกต่อสู้ จนยวดซิมอ๋องพ่ายแพ้หนีไป คนที่ตายอยู่นั้นเป็นแต่ทหารเลว ลิวซูได้ฟังก็ยินดีที่ยวดซิมอ๋องไม่เป็นอันตราย จึงถามว่าอาวุธวิเศษนั้นเป็นอย่างไร หลวงจีนกิวเลงให้หลวงจีนเตียวหยงผู้เป็นศิษย์ หยิบกิวกุนซึ่งเป็นกระบองสีดำออกมาให้ดู แล้วบอกว่า กิวกุนนี้หนักประมาณยี่สิบชั่ง เมื่ออ่านคาถาแปดบทจบแล้วเอาขึ้นแกว่ง ก็บันดาลให้เมฆหมอกมืดคลุ้มไปทั้งท้องฟ้า ลิวซูก็ขอให้ช่วยสอนวิชานี้ด้วย หลวงจีนกิวเลงก็ว่าต้องเรียนวิชาอย่างอื่นไปก่อน ต่อภายหลังจึงจะสอนให้ คืนนั้นลิวซูก็นอนค้างอยู่ที่วัด

ครั้นรุ่งเช้าหลวงจีนกิวเลงก็บอกว่า

“…….เจ้าจงกลับไปบ้านปฎิบัติรักษามารดาเสียให้หาย เราจะให้หลวงจีนเตียวหยงไปส่ง ถ้าอาการป่วยหนักแน่นประการใด ก็ให้หลวงจีนเตียวหยงกลับมาบอกให้รู้ด้วย…….”

แล้วก็เอาเงินให้ลิวซูไปใช้สอยพอสมควร ลิวซูก็รับเอาเงินแล้วคำนับลาไปกับหลวงจีนเตียวหยง ครั้นถึงทางแยกแห่งหนึ่งลิวซูจึงบอกกับหลวงจีนเตียวหยงว่า

“…….ท่านอย่าไปกับข้าพเจ้าเลย จงเมตตาช่วยไปซื้อไก่ดำสุนัขดำ มาให้ข้าพเจ้า จะฆ่าเอาแต่เลือด ด้วยเมื่อปีกลายนี้ข้าพเจ้าป่วยไข้ ได้บนเทพารักษ์ไว้ ครั้นหายแล้วก็ลืมไปยังหาได้แก้สินบนไม่ ถ้าซื้อได้แล้วจึงมาคอยข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ แต่ความข้อนี้ท่านอย่าได้แพร่งพรายไป เกลือกจะรู้ถึงหลวงจีนกิวเลงจะโกรธ ด้วยเป็นของไม่ควรจะเอาเข้าไปในวัด ถ้าท่านสงเคราะห์ได้ดังความปรารถนาแล้ว ต่อไปภายหน้าจะทดแทนสนองคุณท่าน ให้สมควร…….”

หลวงจีนเตียวหยงก็ว่าการเล็กน้อยเท่านี้ อย่าวิตกเลยถ้าไม่เชื่อใจจะสาบานให้ก็ได้ ลิวซูก็ส่งเงินให้ห้าตำลึง แล้วว่า

“……ถ้าเงินนี้เหลือเกินมามากน้อยเท่าใด ยกให้เป็นรางวัลแก่ท่าน ถ้าข้าพเจ้ากลับมาถึงก่อนจะคอยท่านอยู่ที่นี่……”

เมื่อหลวงจีนเตียวหยงแยกไปแล้ว ลิวซูก็เดินไปจนถึงเรือที่จอดอยู่ แล้วเล่าความตามที่ได้พบหลวงจีนกิวเลง และคิดอุบายให้หลวงจีนเตียวหยงไปซื้อของแก้ฤทธิ์กิวกุน ให้เตียวเหาฟังทุกประการ แล้วปรึกษากับเตียวเหาหาหนทาง ที่จะกำจัดหลวงจีนกิวเลงต่อไป ด้วยหลวงจีนคนนี้เป็นคนใจหยาบช้า ถึงจะฆ่าเสียให้ตายก็หามีบาปกรรมไม่

รุ่งขึ้นลิวซูก็ให้เตียวเหาคุมลูกน้องที่มากับเรือ พร้อมอาวุธคู่มือไปซุ่มอยู่เชิงเขา แล้วตนเองก็เดินไปพบกับหลวงจีนเตียวหยงที่ทางแยก ซึ่งได้ซื้อของตามที่สั่งมาครบถ้วน ต่างก็พากันเข้าไปในวัด หลวงจีนกิวเลงก็ถามไถ่อาการของมารดา ลิวซูก็ว่า

“……..ค่อยคลายหายขึ้นแต่ยังอ่อนเพลียอยู่ จะมาคำนับท่านก็เดินมาไม่ได้ จึงสั่งข้าพเจ้าว่า พรุ่งนี้ให้นิมนต์ท่านไปที่บ้าน จะได้ฝากฝังข้าพเจ้าให้เป็นศิษย์แก่ท่าน…….”

หลวงจีนก็รับคำ พอค่ำลงหลวงจีนกิวเลงเข้าห้องนอนแล้ว ลิวซูก็ฆ่าไก่กับสุนัขเอาโลหิตซ่อนไว้ ครั้นเวลาดึกประมาณสามยาม ลิวซูก็แอบเข้าไปในห้องนอน เห็นหลวงจีนกิวเลงนอนหลับอยู่กับผู้หญิง ก็โกรธว่าหลวงจีนนี้ทำผิดธรรมเนียมมากนัก ไม่ควรจะเอาไว้ให้รกแผ่นดิน จึงเอาโลหิตไก่และสุนัขดำ ไปลูบไล้ทาอาวุธกิวกุนที่แขวนอยู่ข้างฝาจนทั่ว กิวกุนนั้นก็ลั่นเสียงดังและมีประกายไฟแลบออกมาครู่หนึ่ง แล้วก็หายไป แต่หลวงจีนกิวเลงไม่ตื่น ลิวซูจึงกลับไปนอนในที่ของตัว

รุ่งขึ้นเช้าหลวงจีนกิวเลงจึงสั่งหลวงจีนเตียวหยง ว่าจะไปเยี่ยมมารดาลิวซู ให้เอาลูกศิษย์ไปด้วยสักร้อยคน ลิวซูก็ห้ามว่า

“……อย่าพาไปมากนักเลย ชาวบ้านจะตกใจแตกตื่นวุ่นวาย ด้วยมิใช่ว่าจะไปรบสู้กับข้าศึก หรือเที่ยวล่าเนื้อในป่า ประการหนึ่งข้าพเจ้าเป็นคนอนาถา บ้านเรือนก็ทำด้วยหญ้าและฟาง ไม่มั่นคงคับแค้นนัก……..”

หลวงจีนกิวเลงก็ว่า ทุกวันนี้ผู้ที่เป็นข้าศึกศัตรูของเรามีอยู่ กลัวจะพบยวดซิมอ๋องเข้าที่กลางทาง จะเสียที จึงให้ไปถึงร้อยคน ลิวซูก็แย้งว่า

“…….ท่านมีกิวกุนเป็นอาวุธวิเศษ อาจจะสู้ข้าศึกได้ตั้งพันตั้งหมื่น ไม่ควรพาศิษย์ไปมากให้ได้ความลำบาก……..”

หลวงจีนกิวเลงก็หลงกล จึงเอากิวกุนส่งให้หลวงจีนเตียวเหลงถือตามหลังไป แล้วลิวซูก็นำหลวงจีนกิวเลง เดินออกมาจากวัดไปทางเชิงเขาปวยง่อเหนีย เมื่อเดินไปได้ประมาณสามสิบลี้ ก็พบเตียวเหากับลิ่วล้อดักขวางทางอยู่ และร้องบอกหลวงจีนกิวเลงว่า จงตัดศรีษะส่งมาให้เสียโดยดี อย่าให้ต้องฆ่าฟันด้วยคมอาวุธของเราเลย

หลวงจีนกิวเลงได้ฟังก็โกรธ เรียกเอาอาวุธกิวกุนจากหลวงจีนเตียวหยงมา อ่านคาถาแปดบทแล้วก็โยนขึ้นไปบนอากาศ กิวกุนก็ตกลงมาเปล่าหามีฤทธิ์เหมือนแต่ก่อนไม่ ลิวซูก็ให้สัญญาณเตียวเหา เข้ารบกับหลวงจีนกิวเลงได้สิบเพลง หลวงจีนทานกำลังเตียวเหาไม่ได้ จึงถูกเตียวเหาเอาง้าวฟันตัวขาดตายคาที่

หลวงจีนเตียวหยงตกใจกลัวคุกเข่าลงคำนับ ลิวซูก็จับมือให้ยืนขึ้นแล้วพูดว่า

“……..ข้าพเจ้าไม่ทำโทษแก่ท่านดอก การเป็นทั้งนี้ก็เพราะหลวงจีนกิวเลง ไม่ตั้งอยู่ในสัตย์สุจริต กระทำข่มเหงนางแบ๊ลวนเองผู้น้องยวดซิมอ๋อง ด้วยอำนาจอาญา จนนางแบ๊ลวนเองฆ่าตัวตายเสีย ประการหนึ่งหลวงจีนกิวเลงเป็นเจ้าวัดมีภรรยา ทำให้ผิดธรรมเนียมบ้านเมือง ตัวข้าพเจ้าชื่อลิวซูฮู่ม้า เป็นน้องที่หนึ่งของยวดซิมอ๋อง จึงได้มาคิดอ่านกระทำแก้แค้นทดแทนบ้าง……”

หลวงจีนเตียวหยงได้ฟังดังนั้นก็หายตกใจกลัว ลิวซูจึงให้เตียวเหาตัดศรีษะหลวง จีนกิวเลงแล้วพากันขึ้นไปบนเขา พวกหลวงจีนและศิษย์ทั้งปวงเห็นดังนั้น ก็ตกใจแตกตื่นวุ่นวาย ลิวซูก็ห้ามปรามเอาไว้ว่า เราไม่ทำอันตรายสิ่งใดดอก พวกหลวงจีนและศิษย์วัดก็สงบอยู่ ลิวซูจุดธูปเทียนบูชาพระ แล้วตั้งให้หลวงจีนเตียวหยงเป็นเจ้าวัดเขาปวยง่อเหนียต่อไป

ลิวซูจึงถามหาศพของนางแบ๊ลวนเองว่าอยู่ที่ไหน ศิษย์เหล่านั้นบอกว่าเอาไปทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ในป่าที่เชิงเขา ลิวซูก็จัดสิ่งของเครื่องเซ่นแล้วให้ศิษย์วัดพาไป พร้อมกับหลวงจีนเตียวหยงและเตียวเหาด้วย ครั้นถึงที่ทิ้งศพก็ไม่เห็นร่องรอยแต่ประการใด และเที่ยวหาต่อไปอีกก็ไม่พบ ลิวซูก็เสียใจร้องไห้ร่ำไรอยู่

หลวงจีนเตียวหยงก็ว่า

“……..ท่านอย่าร้องไห้เศร้าโศกนักเลย ข้าพเจ้าคิดว่าถ้านางแบ๊ลวนเองยังจะมีวาสนาต่อไปภายหน้า ก็เห็นจะไม่เป็นอันตราย คงมีผู้ใดมาพบปะช่วยอุปถัมภ์บำรุงรักษาให้รอดจากความตาย……..”

แล้วหลวงจีนเตียวหยงก็เล่าความตั้งแต่ก๊วงหงพานางแบ๊ลวนเองมาให้หลวงจีน กิวเลง จนนางแบ๊ลวนเองกัดลิ้นของตนนั้น ให้ลิวซูฟังสิ้นทุกประการ ลิวซูได้ฟังก็ค่อยคลายความโศก จึงเอาเครื่องเซ่นคำนับที่ทิ้งศพของนางแบ๊ลวนเองแล้วก็กลับมาวัด แล้วเข้าไปดูในห้องของหลวงจีนกิวเลง เห็นมีผู้หญิงอยู่หลายคนก็เรียกออกมาสอบถามว่า เหตุใดจึงได้ยอมมาอยู่เป็นภรรยาหลวงจีน หญิงเหล่านั้นบางคนก็บอกว่ายากจนมาขายตัวอยู่บ้าง บางคนก็มีความทุกข์ร้อนกลัวจะถูกทำร้าย จึงมาฝากตัวพึ่งบุญอยู่บ้าง ลิวซูก็เอาเงินแจกจ่ายให้พอสมควรทุกคน แล้วสั่งให้ศิษย์วัดพาหญิงเหล่านั้น ไปส่งให้บิดามารดาญาติพี่น้องตามเดิม ศิษ์วัดก็คำนับลาพาหญิงเหล่านั้นไปส่งตามคำสั่ง

แล้วลิวซูก็เก็บเอาสิ่งของ ที่ไม่ควรจะเอาไว้ในวัดนั้น มอบให้เตียวเหา แล้วสั่งให้เตียวเหากลับไปที่เขาอึงเถ้าซัวก่อน ตนเองจะพักอยู่ที่นี่คอยให้พบยวดซิมอ๋อง และสืบหานาง แบ๊ลวนเองให้ได้ความก่อน ขอไว้แต่คนใช้ให้อยู่ด้วยสักสองคนเท่านั้น เตียวเหาก็คำนับลาลงเรือกลับไปเขาอึงเถ้าซัว เล่าความซึ่งได้พบกับลิวซู ให้นางลิวเอ๋งภรรยาของลิวซูฟังทุกประการ

เมื่อเตียวเหาไปแล้ว ลิวซูก็เรียกบรรดาหลวงจีนและศิษย์วัดมาพร้อมกัน แล้วจึงสั่งกำชับว่า ตั้งแต่นี้ไปจงประพฤติการให้ถูกต้องด้วยอย่างธรรมเนียม หลวงจีนเตียวหยงจะว่ากล่าวสิ่งใดก็ให้ฟังการบังคับบัญชา ถ้าผู้ใดกระทำล่วงเกินผิดด้วยแบบอย่างหลวงจีนไป แต่ข้อใดข้อหนึ่ง จะเอาตัวเป็นโทษอย่างหนัก แต่นั้นมาหลวงจีนและศิษย์วัดปวยง่อเหนีย ก็อยู่ในโอวาทคำสั่งสอนของหลวงจีนเตียวหยง เป็นที่เรียบร้อย

แต่ลิวซูก็มิได้นิ่งนอนใจ ด้วยหลวงจีนเตียวหยงแนะนำให้ไปหาซินแสหมอดูชื่อขงไต้เผง ซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ห่างไปอีกประมาณห้าสิบลี้ มีราษฎรสรรเสริญนับถือมาก เพื่อจะให้ซินแสพิเคราะห์ดูให้รู้แน่ว่า นางแบ๊ลวนเองจะเป็นหรือตายร้ายดีประการใด วันหนึ่งจึงเก็บรวบรวมเงินทองสิ่งของพอสมควร คำนับลาหลวงจีนเตียวหยงเจ้าวัด ออกเดินทางไปกับคนใช้ทั้งสอง ลงจากเขาจะไปหาซินแสขงไต้เผงที่บ้าน แต่เดินไปได้แค่สี่สิบลี้ ถึงตำบลบ้านซังเถาฉี ก็พอดีเวลาพลบค่ำลง จึงต้องหาโรงเตี๊ยมเพื่อเข้าพักอาศัยก่อน รุ่งเช้าจึงจะเดินทางต่อไป.


###########

ฟ้าหม่น วารสารของทหารม้า
มกราคม ๒๕๕๑

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 05:08:41




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com