ความคิดเห็นที่ 1 ระหว่างทำงาน เรียนไปด้วยดีไหมคะ วุฒิปริญญาตรี โอกาสได้งานดีๆน่าจะเยอะกว่า(ไม่แน่ใจค่ะ) บางที อาจจะทำงานดี แต่บางคนเค้าอาจจะมองที่วุฒิ อายุยังไม่มาก น่าเรียนค่ะ (น้องที่รู้จักเรียนราม) ไม่ยากมาก หรือจะเทียบวุฒิเอาเกรดบางส่วนมาก็ได้ จะจบเร็วขึ้น  เพราะว่า คิดว่าถึงเปลี่ยนบริษัทไป บางบริษัท (เช่นบริษัทของน้องชายเราเป็นต้น) เค้าก็ดูหลายๆอย่าง ถึงแม้ว่าประสบการณ์จะใช้ได้ในความเป็นจริง แต่ในสังคมก็ยังต้องการใบปริญญาอยู่ดี (^^) สู้ๆนะคะ หาทางออกให้ได้ จากคุณ : หัวใจนักท่องเที่ยว เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 23:07:09

ความคิดเห็นที่ 2 กะว่าจะเรียนต่อนะครับ อาจจะ จากคุณ : peabird6067 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 23:18:36

ความคิดเห็นที่ 3 ทำงานแค่ปีกว่า ฐานเงินเดือน หมื่นนึง รายได้รวมหมื่นหก จบ วุฒิ ปวส ถือว่า กลางๆแล้วนะครับ  กับประสบการณ์ ปีกว่า ไอ่ที่มันจบ วิศวกรรมศาสตร์ บัณฑิต มา มันมีค่าวิชาของมันอยู่   ไอ่นั่นมันเป็น วิศวกร ถ้าจาก  ปวส  สมัยท่าน จขกท ยังเรียนอยู่ อยากจะเรียนต่อ ป.ตรี วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต ก็ลองดูขอรับ  ว่าจะเข้าเรียนได้ แล้วจะจบหรือไม่ จะง่ายหรือไม่ ทำงานกับองค์กร ตกลงพอใจค่าแรงกัน ทำกันแล้ว ทำกันใหม่ๆ ก็ดูๆกันไป งานหนัก งานเหนื่อย เป็นเด็กใหม่ ลุยกันไปก่อน อดทนกัน หัวหน้างานเรามี ผลงานเรามี  ฝีมือ ความขยัน ทุ่มเท ที่สำคัญ  ใจที่ให้กับองค์กร หัวหน้างานเราถ้าเห็นก็คงไม่ทิ้งเราหรอกขอรับ ถ้ามีฝีมือผลงานให้เป็นที่ยอมรับ ก็ตัดสินใจดูเอาเองขอรับ แต่บอกไว้อย่างหนึ่ง องค์กร บริษัท เจ้านาย  ที่กระผมเคยทำด้วย ทำงานให้เขา  หม้อข้าวของเรา แลกเปลี่ยนเป็นเงินเดือนค่าจ้างแรงงาน เงินเดือน กระผมไม่เคยคิดที่จะเรียก บริษัท หรือคนที่ดูแลกระผมในส่วนของบริษัท ที่จะไปเรียกว่า "มัน" ขอรับ จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 23:28:11

ความคิดเห็นที่ 4 แต่คนที่จบวิศวะมา เขาก็เริ่มมาทำงานนี้ครั้งแรกในชีวิตของเขาเลยครับ แถวบริษัทจ้างแพงอีก ผมเคยผ่านงานมาก่อนมีประสบการณ์มากว่าคนจบใหม่อยู่แล้ว  อิอิอิอิ แตกต่างที่วุฒิ เขาเรียนมาก็ใช้ว่าจะตรงกับสายงานของเขาครับ ผมยังมาสอนงานเขาอยู่พักหนึ่งเลย ครับ จากคุณ : peabird6067 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 23:45:27

ความคิดเห็นที่ 5 มันมีข้อแม้อยู่นะครับ บริษัทผมเขารับ วิศวะ และ ปวส. ป.ตรี ไม่รับอะครับ อุปสักมันมีไว้เพื่ออะไรครับ จากคุณ : peabird6067 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 23:49:51

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนนี้ที่ทำอยู่ตารางเวรจัดเองมีอยู่ที่ทำงานด้วยกัน 6 คน (แต่เป็นบริษัทใหญ่นะครับ) ที่จริงตารางเวรคือทำ 4 หยุด 2 ผลัดกันไปเลื่อยๆจนครบเดือน สลับกันทำเช้า 4 ดึก 4 แต่นอนนี้มาจัดกันเองทำ 2 หยุด 4 (2 คือ 2 วันสองคืน อยู่ด้วยกันสองคน เปลี่ยนกันนอนตอนอยู่กะดึก ) เป็นห่วงสุขภาพตัวเองเหมือนกันทำกลางคืนมันก้ไม่ค่อยยจะดีต่อร่างกายเราแล้ว (แต่หยุด 4 วัน ไม่รู้จะพอกับการพักผ่อนหรือเปล่า เมื่อสุขภาพมันเรื่อมเสื่อมโทรม ไปก่อนหน้านี้แล้ว) แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 55 00:02:22 จากคุณ : peabird6067 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 23:56:50

ความคิดเห็นที่ 7 ทำไมไม่ลองสมัครงานบริษัทใหม่ล่ะคะ ที่เป็นพนักงานประจำ แนะนำได้ แต่ไม่ได้รับฝากนะคะ เพราะทำบริษัท ก็จะได้สวัสดิการต่าง ๆ ครบถ้วน เป็นพนักงานรายเดือน หรือ พาร์ทไทม์ ก็จะไม่ได้รับสิทธ์ เสียดายแทนค่ะ และเสียดายเวลาด้วยค่ะ จากคุณ : kratai-max เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 01:15:24

ความคิดเห็นที่ 8 เหตุผลที่บริษัททำสัญญาจ้างพนักงานเป็นรายปี เพื่อหลีกปัญหาเรื่องค่าแรง และถ้าพนักงานทำงานไม่เต็มสูบ หรือขี้เกียจ หมดสัญญาตอนสิ้นปีก็โละไปได้เลย รวมถึงปัญหาด้านประกันสังคม หรือข้อฟ้องร้องตามกฎหมายแรงงานอีกด้วย สำคัญที่ใจที่ทุ่มเทให้กับงาน ตามที่ท่านขุนเดชากล่าวนั่นแหละครับ ถ้าเรามีใจมุ่งมั่นจริงๆ หัวหน้างานก็ทิ้งเราไม่ลงหรอก อาจมีการเชียร์ให้เราได้รับค่าจ้างที่สูงขึ้น หรือเลื่อนเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้น นั่นเป็นเรื่องอาชีพการงานในระยะยาว วิศวกรจบใหม่ มิได้มีความเชี่ยวชาญหรอกครับ ต้องอาศัยฝึกงานกับช่างอาวุโสหรือโฟร์แมนหาประสบการณ์ตรงไปก่อน แต่ความรับผิดชอบงานนั้น วิศวกรรับเต็มประตู เพราะมีใบ กว.ค้ำคออยู่ด้วย แต่วิศวกรบางรายก็มีปัญหางัดข้อกับโฟร์แมน ด้วยเหตุถือตัวว่าเรียนมาสูงกว่า รู้หลักวิชาการมากกว่า ในขณะที่โฟร์แมนนั้นถือเอาประสบการณ์ตรงในสถานที่ทำงานมาแก้ไขสถานการณ์ได้ดีกว่า  จึงมีการลองของ วางยากันบ่อย ผมคิดว่า เด็กสมัยนี้ส่วนใหญ่มักเข้าทำงานเพื่อหาประสบการณ์ไปก่อน พอได้จังหวะหรือสืบหาแหล่งที่จ้างงานด้วยค่าแรงสูงกว่า สวัสดิการที่มั่นคงกว่า จะลาออกไปทำงานยังที่แห่งใหม่ ทำให้นายจ้างต้องเป็นฝ่ายปวดหัวบ้างกับเรื่องช่างฝีมือขาดแคลน  และหารับสมัครเด็กใหม่เข้ามาทำงาน  ฝึกงานกันก่อไป  เป็นวัฏจักรไปเรื่อยๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 55 09:13:43 แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 55 09:11:00 จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 09:09:43

ความคิดเห็นที่ 9 อุปสรรคปัญหามีไว้ให้เราคิด...ท้าทายให้เราแก้ไข...ถ้าผ่านได้คุณก็ชนะ ก่อนที่จะชนะคนอื่น...คุณต้องชนะตัวเองให้ได้เสียก่อนนะคะ :) อย่างไรก็ตาม...ไม่ว่าคุณจะทำงานที่ไหนก็ตาม...ก็ควรให้เกียรติเจ้าของงานที่เขาจ้างเรา เพราะเขายินดีรับเราเข้าทำงานแล้ว...ก็ควรทำงานให้เต็มความสามารถของเราไว้ก่อน... ส่วนเรื่องที่เราไม่พอใจกับค่าตอบแทนและเงื่อนไขที่ตามมานั้น...เราก็หาหนทางขยับขยายต่อไป หากเรามีความสามารถอยู่กับตัวแล้วจะกลัวทำไมล่ะค๊ะ แต่คนที่ฉลาดก็จะไม่ทุบหม้อข้าวตัวเอง...ก่อนที่จะได้หม้อข้าวใหม่... ฉะนั้น...ก่อนที่จะลาออกก็ควรทำดีที่สุด... และหางานอื่นรองรับให้ได้เสียก่อน...แล้วค่อยบอกลา... สิ่งที่พึงสังวรณ์ก็คือ... " อยู่ให้เขารัก...จากให้เขาคิดถึง " อย่าทำแบบ " อยู่ให้เขาเกลียด...จากให้เขาด่าตาม " นะคะ อิอิ จากคุณ : แสนดีมณีจันทร์ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 09:18:26

ความคิดเห็นที่ 10 โถ...เอาตัวเองที่วุฒิฯ น้อย ไปเทียบกับเขาที่วุฒิฯ มากกว่า ...เงินเดือนมันเป็นไปตามเกณฑ์ของระดับการศึกษา มันเป็นมาตรฐาน ...ถ้าคุณไม่เรียนต่อจนจบปริญญาตรีทางวิศวะฯ คุณไม่มีทางมีเงินเดือนมากกว่าเขาหรอกครับ ต่อให้เป็นเด็กวิศวะฯ จบใหม่มาก็ตาม ...เอาแต่น้อยใจ แต่ไม่คิดทำอะไรให้เจริญก้าวหน้า มันก็เหมือนเดินถอยหลังล่ะครับ ...และเห็นด้วยกับ ลุงขุนฯ ครับ เรื่องการใช้คำว่า "มัน" ...จะดีจะเลว อย่างไรบริษัทก็จ้างคุณมา ให้เงินเดือนคุณมา (ไม่ใช่น้อยนะนั่น) ...คนเราถ้ามีทัศนคติที่ไม่ดีต่อองค์กรเสียแล้ว เขาจะทำอย่างไรก็คงไม่มีดีในสายตาคุณ และทำอย่างไรก็คงไม่เจริญก้าวหน้าไปกว่านี้ เพราะทัศนคติแบบนี้แหละครับ จากคุณ : มับนะขู เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 09:33:26

ความคิดเห็นที่ 11 ลักษณะงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว มองอนาคตถ้าคิดว่าคงเป็นลูกจ้างไปอีกนาน ก็ควรหางานใหม่ที่มีบรรจุดีกว่า ส่วนเรื่องวิศวได้เงินเยอะกว่าคุณแม้เขาจะจบใหม่ มันเป็นเรื่องปรกติ สาเหตุมีมากมาย เช่น อนาคตเขาอาจสามารถทำงานได้มากกว่าคุณ เพราะพื้นฐานความรู้และภาษาต่างประเทศที่ดีกว่า อาจต้องมีการใช้ใบ กว.ในการทำงาน ซึ่งทำให้เขาต้องรับผิดชอบ ต่อกม.มากกว่า เรื่องนี้เพื่อนผมบางคนก็เป็น จบปริญญาตรีแล้วได้เงินน้อยกว่าพวกที่จบโทหรือเอก ก็มานั่งบ่น เอาแต่บอกว่า พวกนั้นทำงานสู้เขาไม่ได้ ทำไมได้เงินมากกว่า ปวส.ช่างจบใหม่ บริษัทผมจ้างแค่8พันกว่าบาท ซึ่งน้อยกว่าที่คุณได้ แต่เมื่อบรรจุแล้ว เงินเดือนขึ้นทุกปี 2 ปีก็น่าจะแซงคุณได้ แต่คุณเลือกเองที่จะรับเงินที่มากกว่าแต่ไม่มีบรรจุ ซึ่งน่าจะเหมาะกับคนที่ต้องการประสบการณ์และรายได้สูง เพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัวต่อไป ทัศนคติในการทำงานเป็นเรื่องสำคัญ อย่ามองบริษัทเป็นศัตรู (เช่นการเรียกว่า มัน) ลองมองในมุมของนายจ้างบ้าง จากคุณ : charlee-k เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 10:18:37

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ จากคุณ : peabird6067 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 12:50:40

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเป็นคนนึงที่จบวิศวะมา เงินเดือนเดือนแรกเริ่มที่ 13,500 บาท ทำทุกอย่างที่ขวางหน้าทุกอย่างที่โดนใช้ ครบหนึ่งปีเรารู้อะไรนอกตำรามากมาย เมื่อเราคิดว่าเราไปได้ เราก็ลาออกไปที่ใหม่ ปัจจุบัน ทำงานมา 4 ปี 9 เดือน เป็นบริษัทที่3แล้ว ตอนนี้เงินเดือน 45,000 บาท ผมไม่ได้จะมาโชว์ว่าเงินเดือนเยอะหรือน้อย แต่มันอยู่ที่ตัวเรา ไม่ใช่อยู่ที่คนอื่น ผมทำงานมาไม่เคยอยากรู้ว่าคนอื่นเงินเดือนเท่าไหร่ เราแค่ประเมินตัวเองว่า เราพอใจรึเปล่ากับสิ่งที่ได้รับ ไม่พอใจก็หาใหม่ ที่บอกแบบนี้เพราะว่าเคยเป็น เคยอยากรู้เงินเดือนคนอื่นเค้า พอรู้แล้วก็เครียด รู้สึกว่า ทำงานได้พอๆกัน แต่เค้าเงินเดือนเยอะกว่าเราเท่านึง ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีแบบนี้อยู่ แต่ทุกวันนี้ไม่ใส่ใจแล้วครับ ไม่มีประโยชน์ที่จะไปเรียกร้องบริษัท อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ  ส่วนเรื่องวุฒินั้น มันเป็นประเด็นที่ต้องทำใจอยู่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า คนจบ ปวส.จะเงินเดือนน้อยกว่าวิศวะ เสมอไป มันมีงานเฉพาะทางอีกหลายด้านที่คนที่เป็นช่างเงินเดือนเยอะกว่าวิศวะอีก  ยกตัวอย่าง เพื่อนผมจบวิศวกรรมไฟฟ้า มาจากสถาบันรัฐ ทำงานมา 5 ปีในสายดูแลระบบไฟฟ้าในการสราง ตึก สร้างคอนโด เงินเดือนตอนนี้ 25,000 ในขณะที่ช่างเชื่อมท่อ ที่ผมรู้จัก ทำงานในอ่าวไทย (offshore) ทำเดือนหยุดเดือน รายได้รวมเดือนนึงเกือบแสน  ถ้าพึ่งทำงานมาปีเดียวอย่าซีเรียส บอกตรงๆว่าคุณยังจะต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ และที่สำคัญ อย่าไปเปรียบเทียบกับคนอื่น มันอยู่ที่ความพอใจของเรา จากคุณ : วีเท่ากับเอฟแลมด้า เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 13:28:35

ความคิดเห็นที่ 14 เอาใจช่วยให้สู้น่ะครับ เกิดมาแล้วก็ต้องรอวันตาย แต่จงใช้ชีวิตให้มีค่าและสนุกกับมัน บางอย่างทุกคนอยากทำแต่เลยวัยไปแล้ว มีเงินตอนแก่ แต่ใช้ไม่ได้ก็ไร้ประโยชน์ครับ จากคุณ : อ่อน (augaug) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 16:53:35