Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อุบายขบถ ติดต่อทีมงาน

ทหารเสือแผ่นดินถัง

ตอนที่ ๕ อุบายกบฏ

“ เล่าเซี่ยงชุน “

ฝ่าย กัวะซองจิว แม่ทัพฝ่ายกบฏ ได้ทราบจากม้าใช้สำหรับสืบราชการ ว่ากองทัพของ เม่งเจาะไฮ้ ซึ่งยกไปตีกองทัพของ หลีจีนอ๋อง ที่เมืองฮ่องตงฮู้ต้องเสียทีแตกพ่ายยับเยิน ตัวแม่ทัพและทหารเอกอีกสองนายตายในการรบ และบัดนี้กองทัพของหลีจีนอ๋อง ได้ยกมาตั้งค่าย อยู่ที่แม่น้ำอึ้งหอทั้งสองฟาก กัวะซองจิวก็ตกใจจึงพูดว่า

“……..เม่งเจาะไฮ้ แพแปะโฮ้ ปันฮวนหลัง เป็นนายทหารเอก เคยชนะทัพศึกมามาก ครั้งนี้เสียทีแก่ข้าศึกจนตายรวดเร็วนัก ซึ่งเราจะป้องกันรักษาบ้านเมืองต่อสู้กับข้าศึกนั้น เห็นจะเหลือกำลังดอกกระมัง…….”

กวังปิว นายทหารเอกก็ท้วงว่า

“……..ท่านเป็นแม่ทัพใหญ่ มาทำใจอ่อนย่อท้อต่อข้าศึกเสียดังนี้ หาควรไม่ ถึงหากว่าทหารข้าศึก จะมีฝีมือเข้มแข็งประการใด ก็ควรออกต่อสู้ให้เห็นฝีมือกันก่อน เวลาพรุ่งนี้ข้าพเจ้าจะขออาสาออกไปต่อสู้กับข้าศึก เอาชัยชนะให้จงได้……..”

กัวะซองจึงจึงเตือนว่า

“……..เม่งเจาะไฮ้มีฝีมือเข้มแข็งชำนิชำนาญ เคยสู้รบข้าศึกได้ชัยชนะมาหลายสิบครั้ง ยังเสียทีถึงแก่ชีวิต เจ้ามีฝีมือประการใด จึงมาพูดฮึกหาญดังนี้…….”

เต้งเทียนอ๋อง นายทหารอีกคนหนึ่งก็บอกว่า

“…….ธรรมดาการศึกถึงจะมีทแกล้วทหารเข้มแข็งประการใด ก็ยังไม่สู้ผู้มีสติปัญญา รู้กลอุบายที่จะผ่อนผันเอาชัยชนะแก่ข้าศึกได้………”

กัวะซองจิวถามว่าท่านเห็นอุบายประการใดจงช่วยชี้แจงด้วย

เต้งเทียนอ๋องจึงบอกว่า

“…กองทัพหลีจีนอ๋องนั้น มีทหารฝีมือกล้าแข็งเป็นเอกอยู่ ก็แต่หลีซุนเฮ้าผู้เดียว แต่บุตรหลีจีนอ๋องทั้งสิบสองคนนั้น หาชอบหลีซุนเฮ้าไม่ ถ้าเราคิดกลอุบายให้หลีจีนอ๋องสงสัย ฆ่าหลีซุนเฮ้าเสียได้แล้ว บุตรหลีจีนอ๋องและทหารนอกนั้น กับกองทัพเราก็พอจะสู้รบกันได้………”

กัวะซองจิวก็ขอให้บอกอุบายที่จะทำนั้นให้แจ้ง เมื่อเต้งเทียนอ๋องบอกให้แล้ว กัวะซองจิวก็เห็นด้วยสรรเสริญว่าความคิดนี้ดีนัก จงเร่งจัดแจงการไปให้สำเร็จเถิด

ค่ำคืนนั้นเอง เต้งเทียนอ๋องก็แต่งตัวให้คล้ายหลีซุนเฮ้า คุมทหารออกไปซุ่มอยู่ พอถึงเวลาประมาณสามยาม ก็ยกเข้าตีปล้นค่ายของหลีซือหงวน แล้วให้ทหารร้องว่าตัวเราคือ หลีซุนเฮ้า ได้ทำความชอบไว้ถึงสามครั้ง หลีจีนอ๋องก็หาได้ชุบเลี้ยงตั้งแต่ง ให้สมกับความชอบไม่

ฝ่ายหลีซือหงวนนอนหลับอยู่ ได้ยินเสียงข้าศึกเข้าปล้นค่ายก็ตกใจ หาทันได้สู้รบไม่ ทิ้งค่ายลงเรือหนีข้ามแม่น้ำไป ส่วนกองทัพของหลีซุนเฮ้าตั้งอยู่ทางต้นน้ำ ได้ยินเสียงกลองรบและประทัดสัญญาณ ดังอื้ออึงที่ค่ายหลีซือหงวน ก็กำชับนายทหารให้อยู่รักษาค่ายให้มั่นคง ตนเองกับทหารที่มีฝีมือรีบยกไปช่วยหลีซือหงวน เต้งเทียนอ๋องเห็นกองทหารของหลีซุนเฮ้ายกมา ก็รีบถอยกองโจรหนีไปโดยเร็ว หลีซุนเฮ้ายกมาถึงค่ายหลีซือหงวน เห็นทหารถูกอาวุธล้มตายเจ็บป่วยถูกทิ้งอยู่ ส่วนทหารที่ดีนั้นหนีข้ามฟากไปสิ้น หลีซุนเฮ้าจึงรับเอาทหารที่เจ็บป่วยกลับไปค่าย

เช้าวันรุ่งขึ้นหลีซือหงวนซึ่งหนีข้าศึกข้ามฝั่งมาแล้ว ก็ถามทหารว่าเหตุผลประการใดจึงเป็นเช่นนี้ ทหารทั้งปวงก็บอกว่า หลีซุนเฮ้าได้นำทหารเข้าตีค่าย พวกตนจึงได้กลัวไม่อาจจะสู้รบ และทหารที่ตามมาทีหลังก็บอกซ้ำอีกว่า เมื่อเวลารุ่งสว่างเห็นหลีซุนเฮ้าขี่ม้าออกไปจากค่าย จำได้ถนัดหาใช่ข้าศึกมาแต่อื่นไม่ หลีซุนเฮ้าเป็นกบฏขึ้นแน่แล้ว

หลีซือหงวนได้ฟังทหารพูดกันหลายปากดังนั้น ก็เชื่อว่าเป็นจริง ด้วยตนเองก็คิดสงสัยไม่ไว้วางใจอยู่ก่อนแล้ว จึงไปหาหลีจีนอ๋องผู้บิดา คำนับแล้วก็ร้องไห้ หลีจีนอ๋องก็ตกใจถามว่าเหตุผลประการใดจึงได้ทิ้งค่ายเสีย ข้ามมาร้องไห้เศร้าโศกอยู่ดังนี้ หลีซือหงวนก็เล่าความเรื่องที่หลีซุนเฮ้ายกทหารมาตีค่ายในตอนดึก ให้ฟังทุกประการ

หลีจีนอ๋องก็ประหลาดใจ จึงว่า

“………หลีซุนเฮ้ากับเราก็ไม่มีความขัดเคืองสิ่งไรกัน จะเป็นกบฏไปดังนั้นจริงเจียวหรือ………”

หลีคังกุน บุตรคนที่สิบเอ็ดและ หลีชองซิน บุตรคนที่สิบสองของหลีจีนอ๋อง ซึ่งอยู่ในค่ายกับหลีซือหงวน จึงว่าขอให้บิดาหาตัวนายทัพนายกองและทหารเลว มาถามดูเถิด ได้ยินถ้อยคำและได้เห็นตัวหลีซุนเฮ้าเป็นอันมาก หลีจีนอ๋องก็ให้หาทหารซึ่งได้เห็นตัวหลีซุนเฮ้านั้นมาถาม ก็ได้รับคำตอบว่า

“……..เมื่อเวลารุ่งสว่างขึ้นนั้น ข้าพเจ้าออกเรือห่างตลิ่งมาแล้ว แลไปเห็นหลีซุนเฮ้าใส่หมวกศรีษะเสือ ใส่เสื้อเกราะก็หนังเสือ จำได้ถนัดท่านอย่าสงสัยเลย…….”

หลีจีนอ๋องได้ฟังดังนั้นก็เชื่อเอาเป็นจริง มีความโกรธยิ่งนัก พอดีกับหลีซุนเฮ้าข้ามฟากมาหาบิดาเพื่อจะเล่าเรื่องให้ฟัง แต่หลีจีนอ๋องกำลังโกรธพอนายประตูเข้ามาบอกว่าหลีซุนเฮ้ามาหา ก็ว่าหลีซุนเฮ้าคิดประทุษร้ายต่อเราแล้ว จะมาหาเราทำไมอีกเล่า หลีคังกุนกับหลีชองซินจึงว่า ครั้งนี้บิดาอย่าไว้ใจ หลีจีนอ๋องก็ว่าหลีซุนเฮ้ามาถึงแล้ว จะต้องถามให้รู้จักความผิดชอบเสียก่อน จึงสั่งให้นายประตูพาตัวหลีซุนเฮ้าเข้ามา หลีซุนเฮ้าเข้ามาแล้วก็คำนับบิดาตามธรรมเนียม

หลีจีนอ๋องก็ตวาดด้วยเสียงอันดังด้วยกำลังโทโสว่า ตัวคิดการอย่างนี้มีความผิดหรือไม่ หลีซุนเฮ้าได้ฟังก็นึกว่าเป็นความผิดที่มาช่วยหลีซือหงวนไม่ทัน จึงรับว่ามีความผิดจริง หลีจีนอ๋องจึงสั่งให้ทหารจับหลีซุนเฮ้าไปประหารเสีย ทหารก็เข้าจับหลีซุนเฮ้ามัดจูงไปหน้าค่าย โดยหลีซุนเฮ้ามิได้ต่อสู้แต่ประการใด

ฝ่าย จิวเต๊กอุย ที่ปรึกษา รู้ว่าหลีจีนอ๋องโกรธหลีซุนเฮ้าวุ่นวายอยู่ ก็รีบมาฟังความ จึงสวนกับทหารที่มัดหลีซุนเฮ้าจูงไป จึงห้ามว่าเจ้าเหล่านี้อย่าเพิ่งทำอันตรายหลีซุนเฮ้า เราจะเข้าไปหาหลีจีนอ๋อง ฟังดูร้ายดีเท็จจริงเสียก่อน ว่าดังนั้นแล้วจิวเต๊กอุยก็เข้าไปคำนับหลีจีนอ๋อง ถามว่า ซึ่งท่านจะให้ฆ่าหลีซุนเฮ้านั้นขอให้งดไว้ ข้าพเจ้าจะพูดให้ท่านเห็นความตลอดเสียก่อน หลีจีนอ๋องจึงสั่งให้ทหารรอการประหารไว้ จิวเต๊กอุยจึงว่า

“……….หลีซุนเฮ้าเป็นทหารเอก มีฝีมือกว่าทหารทั้งปวง คนทั้งหลายไม่ชอบ ท่านก็ย่อมรู้อยู่แล้ว การซึ่งเป็นดังนี้เห็นจะเป็นกลอุบายของข้าศึกดอกกระมัง ท่านได้ไล่เลียงได้ความถ่องแท้แล้วหรือ จึงจะให้ฆ่าหลีซุนเฮ้าเสียนั้น………”

หลีจีนอ๋องว่าเราได้ถามแล้ว หลีซุนเฮ้ารับผิดเราจึงจะฆ่าเสีย จิวเต๊กอุยก็ว่า

“……….ท่านถามความห้วน ๆ ด้วยกำลังโทโส หลีซุนเฮ้าหารู้ว่าผิดสิ่งใดไม่ ครั้นจะทุ่มเถียงก็กลัวจึงได้รับว่าผิด ขอให้เอาตัวกลับเข้ามาไต่ถามเสีย ให้ได้ความจริงแจ่มแจ้งก่อน จึงค่อยทำโทษ………..”

หลีจีนอ๋องจึงให้ทหารนำตัวหลีซุนเฮ้าเข้ามา แล้วว่า

“……เราก็รักใคร่เลี้ยงเป็นบุตร ให้ถือตราเซียนฮองเป็นแม่ทัพหน้า มีบรรดาศักดิ์ ใหญ่กว่าทหารทั้งปวงแล้ว เหตุใดจึงไม่รู้จักบุญคุณคิดประทุษร้ายต่อเรา………”

หลีซุนเฮ้าจึงว่า

“…….พระคุณของท่านซึ่งได้เมตตาชุบเลี้ยงข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าก็คิดจะสนองคุณไปกว่าจะสิ้นชีวิต หาได้คิดที่จะเอาใจออกหากจากท่านไม่…….”

หลีจีนอ๋องว่า ไม่ได้คิดกบฏแล้วทำไมจึงรับว่าผิดเล่า หลีซุนเฮ้าจึงว่า

“……..ซึ่งข้าพเจ้ารับผิดนั้นเพราะคิดเห็นว่าท่านขัดเคือง ด้วยข้าพเจ้าไม่ได้ยกไปช่วยหลีซือหงวนให้ทันท่วงที จนหลีซือหงวนเสียค่ายแก่ข้าศึก เพราะดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้รับว่าผิดจริง………..”

จิวเต๊กอุยได้ฟังดังนั้นจึงพูดกับหลีจีนอ๋องว่า

“……ท่านมีความโกรธขึ้นแล้ว วู่วามรวดเร็วนัก เกือบจะเสียทหารเอก เพราะกลอุบายข้าศึก ถ้าท่านยังสงสัยหลีซุนเฮ้าอยู่ ก็ให้ท่านจัดทหารที่สัตย์ซื่อ ยกออกไปรบกับข้าศึก พูดจาล่อลวงเอา ก็คงได้ความจริง………”

หลีจีนอ๋องก็เห็นด้วย จึงให้หลีซือหงวนคุมทหารสามหมื่น ยกข้ามแม่น้ำไปท้ารบ แต่เต้งเทียนอ๋องกลัวความพยาบาทของหลีซุนเฮ้า ถ้ารอดไปได้คงจะมาทำร้ายเอาแน่ จึงหาอุบายขออาสากัวะซองจิว ไปเร่งเสบียงที่ตำบลฮัวจิวตั้งแต่เช้า คิดว่าเมื่อได้ข่าวว่าหลีซุนเฮ้าตายแล้วจึงจะกลับมา เมื่อหลีซือหงวนมาร้องท้าทายอยู่หน้าค่าย กัวะซองจิวจึงให้กวังปิวยกทหารออกไปต่อสู้

เมื่อถามชื่อแซ่กันแล้ว หลีซือหงวนก็ว่า เมื่อคืนนี้ท่านผู้ใดปลอมเป็นหลีซุนเฮ้าออกไปปล้นค่ายเรา จนบิดาเราโกรธฆ่าหลีซุนเฮ้าเสียแล้ว กวังปิวก็ว่า

“…….ท่านยกย่องหลีซุนเฮ้านักหนา ถึงหากว่าหลีซุนเฮ้ามีชีวิตอยู่เราก็ไม่เกรงฝีมือ เมื่อเวลาคืนนี้เต้งเทียนอ๋องยกออกไปปล้นค่าย ล่อลวงดูปัญญาท่าน จนแพ้รู้เสียอุบายแล้ว ยังจะมีหน้ามาพูดมาถามอีกเล่า……….”

หลีซือหงวนจึงว่า

“…….อุบายซึ่งพวกท่านคิดไปนั้นต่ำช้านัก แต่เด็ก ๆ เมืองเรามันคิดก็ดีเสียกว่า ครั้งนี้ท่านถูกอุบายเราล่อลวงถามเอาความจริงได้แล้ว ท่านนี้เป็นคนโง่นักหนา หาควรที่จะเป็นนายทหารออกมารบกับเราไม่……..”

กวังปิวได้ฟังก็โกรธขับม้าตรงเข้าเอาง้าวฟัน หลีซือหงวนเอาทวนปัดป้องไว้สู้รบได้หลายเพลง กวังปิวเอากระบองเหล็กตี คราวนี้หลีซือหงวนหลบไม่ทัน ถูกไหล่ได้ความเจ็บปวดมาก ก็ขับม้าพาทหารหนีลงเรือ ข้ามแม่น้ำกลับไปหาหลีจีนอ๋อง แล้วเล่าความที่ได้ล่อลวงไต่ถามข้าศึกได้ความทุกประการ

จิวเต๊กอุยจึงพูดกับหลีจีนอ๋องว่า

“………หลีซุนเฮ้านี้ลักษณะเป็นคนซื่อตรง ท่านอย่าได้มีความเคลือบแคลงสงสัยต่อไปอีกเลย จงปล่อยให้หลีซุนเฮ้าไปทำราชการอยู่ตามตำแหน่งเดิมเถิด………”

หลีจีนอ๋องจึงพูดกับหลีซุนเฮ้าว่า

“……….เราไม่ทันพิเคราะห์ตรึกตรอง ทำโทษเจ้านั้นผิดไปแล้ว ขออภัยเสียเถิดอย่าได้ถือโกรธเลย……..”

หลีซุนเฮ้าทหารเสือผู้มีฝีมือ จึงรอดชีวิตจากอุบายของข้าศึกได้อย่างหวุดหวิด.

##########

วารสารฟ้าหม่น
กรกฎาคม ๒๕๔๔

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 06:15:05




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com