Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ตามล้างแค้น ติดต่อทีมงาน

ทหารเสือแผ่นดินถัง

ตอนที่ ๖ ตามล้างแค้น

“ เล่าเซี่ยงชุน “

เมื่อ หลีซุนเฮ้า ข้ามแม่น้ำกลับมาถึงค่ายของตนแล้ว ทหารเอกสี่คนก็เข้ามาคำนับถามข่าว หลีซุนเฮ้าก็เล่าให้ฟังว่า

“……..ครั้งนี้เกือบเป็นอันตราย ด้วยหลีจีนอ๋องบิดาเราไม่รู้ถึงกลอุบายข้าศึก นี่หากว่าจิวเต๊กอุยว่ากล่าวทัดทาน เราจึงรอดมาได้ เรามีความแค้นเต้งเทียนอ๋องนัก จะจับตัวเอามาแก้แค้นเสียให้จนได้……..”

แล้วก็ให้ตั้งโต๊ะชวนนายทหารเสพสุราอาหารเป็นที่สบาย ครั้นเวลารุ่งเช้าก็แต่งตัวใส่เกราะขึ้นม้าถืออาวุธ นำหน้าทหารออกไปจะตีค่าย กัวะซองจิว พอถึงหน้าค่ายก็ร้องท้าทายให้ข้าศึกออกมารบ กัวะซองจิวจึงถามนายทหารว่าผู้ใดจอาสาออกไปรบกับข้าศึกบ้าง กวังปิว ก็อาสานำทหารออกไปหน้าค่าย เห็นรูปร่างหลีซุนเฮ้านั้นผอมแบบบาง สีหน้าก็เหลืองซีดเหมือนคนป่วยไข้ ก็คิดประมาทขับม้าตรงไปเข้าไปฟันด้วยง้าว หลีซุนเฮ้าเอาทวนปัดด้วยกำลังแรง กวังปิวทานไม่ไหวเซไป หลีซุนเฮ้าก็ขับม้าโผนเข้าไปจับกวังปิวได้ เอามือฉีกแขนขาออกเป็นท่อน ๆ โยนทิ้งไป แล้วร้องท้าทายกัวะซองจิวให้จัดทหารออกมารบอีก

กัวะซองจิวเห็นดังนั้น ก็มีความสดุ้งตกใจกลัว หาตัวผู้ที่จะออกไปต่อสู้อีก เตียเหลง กับ ลิโฮ ก็ขออาสา กัวะซองจิวก็ให้ ชุยสิว ออกไปช่วยอีกคนหนึ่ง ทั้งสามก็ออกไปรบกับหลีซุนเฮ้า ได้ไม่ถึงเพลงหลีซุนเฮ้าคราวนี้ถือง้าวแทนทวน ก็ฟันเตียเหลงเต็มกำลัง เตียเหลงทานไม่อยู่ทวนก็ขาดง้าวถูกตัวขาดสองท่อนตกม้าไป ลิโฮก็ขับม้าเข้าไปเอาทวนแทงแต่ไม่ถูก หลีซุนเฮ้าเอาง้าวฟันลิโฮคอขาดกระเด็นไป ชุยสิวพอจะมีฝีมือเข้ารบกับหลีซุนเฮ้าได้ประมาณห้าเพลง ก็อ่อนกำลังลงต้องชักม้าหนีกลับเข้าค่าย หลีซุนเฮ้ารีบขับม้าตามไปจับตัวได้หน้าประตูค่ายพอดี แล้วกระชากตัวมาด้วยกำลังแรง ชุยสิวก็ขาดใจตาย หลีซุนเฮ้าก็ไล่ฆ่าฟันทหารข้าศึกล้มตายอยู่ที่หน้าค่ายนั้นประมาณพันเศษ ที่เหลือตายก็พากันหนีเข้าค่ายไปหมด และไม่มีผู้ใดออกมาต่อสู้อีกเลย

เมื่อหลีซุนเฮ้ากลับมาถึงค่ายของตนแล้ว ก็ให้นายทหารลงเรือข้ามฟาก นำข้อความซึ่งได้สู้รบ และฆ่านายทหารเอกข้าศึกตายไปสี่คน ไปแจ้งให้หลีจีนอ๋องทราบ ขณะนั้นหลีจีนอ๋องกำลังปรึกษาราชการอยู่กับจิวเต๊กอุย เมื่อทราบความก็มีความยินดี พูดว่า

“……..หลีซุนเฮ้าบุตรเราคนนี้จัดเป็นทหารเอกอย่างยิ่งได้ ถึงหากว่าฮ่องเฉาจะเข้มแข็งประการใด ก็คงจะไม่พ้นฝีมือ……..”

จิวเต๊กอุยก็เตือนให้หลีจีนอ๋องจัดสิ่งของ ไปปูนบำเหน็จรางวัลแก่หลีซุนเฮ้า หลีจีนอ๋องก็จัดเงินทองสิ่งของต่าง ๆ ให้นายทหารคุมไปให้หลีซุนเฮ้า แล้วกำชับว่า

“……….ให้คิดเอาชัยชนะข้าศึกให้จงได้ เมื่อทแกล้วทหารไม่พอจะใช้อีกมากน้อยเท่าใด ก็บอกมาเถิด จะจัดเพิ่มเติมอุดหนุนไป……….”

หลีซุนเฮ้าก็มีความยินจัดแบ่งรางวัลให้ปันแก่ทหารผู้มีความชอบตามสมควร

ฝ่ายกัวะซองจิวเสียนายทหารเอกไปวันเดียวถึงสี่คน และทหารเลวอีกพันเศษ ก็เสียใจนั่งเป็นทุกข์เศร้าโศกสิ้นสติปัญญาอยู่ เตียชวน ก็เข้าไปปลอบใจว่ามีอุบายอยู่อย่างหนึ่ง เห็นจะล่อลวงเอาชัยชนะแก่ข้าศึกได้ กัวะซองจิวก็ถามว่าจะทำอย่างไร เตียชวนก็ว่าหลีซุนเฮ้ามีฝีมือกล้าแข็งนัก ที่จะรบสู้ซึ่งหน้านั้นเห็นจะเอาชัยชนะไม่ได้ ควรจะตั้งค่ายกลชื่อเลี้ยนจู เป็นเจ็ดสิบสองค่าย ถ้าหลีซุนเฮ้าไม่ชำนาญกลศึกกระบวนค่ายก็คงจะจับตัวได้ แต่ระหว่างที่จะตั้งค่ายนั้น จะต้องลวงให้หลีซุนเฮ้าพักการรบสักสามวันก่อน กัวะซองจิวไม่มีปัญญาจะคิดอย่างอื่น จึงทำหนังสือให้ทหารนำไปส่งให้หลีซุนเฮ้า ตามคำแนะนำ

เมื่อหลีซุนเฮ้าได้รับหนังสือ ก็ฉีกผนึกออกส่งให้ อันฮิวฮิว นายทหารรองอ่านให้ฟัง มีความว่า

“………ข้าพเจ้ากัวะซองจิวแม่ทัพเมืองไต้ฉี ขอแจ้งความมายังท่านหลีซุนเฮ้าผู้เป็นที่ปวยฮ้อเจียงกุนแม่ทัพไต้ถัง ด้วยทหารข้าพเจ้ากับท่านได้สู้รบกันด้วยฝีมือเพลงอาวุธ ก็เสียทีพ่ายแพ้แก่ท่านถึงสี่นาย ข้าพเจ้าก้เห็นแล้วว่าท่านมีฝีมือเป็นเอก แต่ข้าพเจ้าจะขอให้ท่านงดการศึกสักสามวัน จะทำค่ายตามกระบวนพิชัยสงครามให้ท่านเข้าตี เมื่อท่านตีได้แล้ว ข้าพเจ้าและทหารทั้งหลายก็จะยอมสามิภักดิ์ เข้าเป็นข้าแผ่นดินถัง ไม่สู้รบต่อไปอีก ข้าพเจ้าว่ามานี้ท่านจะเห็นประการใด ขอให้มีหนังสือตอบมาให้ข้าพเจ้าทราบ……”

หลีซุนเฮ้าได้ฟังสิ้นข้อความแล้วก็ยังนิ่งตรึกตรองอยู่ อันฮิวฮิวจึงพูดขึ้นว่า ซึ่งกัวะซองจิวมีหนังสือมานี้ ก็อวดอ้างว่ามีสติปัญญา รู้กลอุบายในพิชัยสงคราม ควรจะมีหนังสือตอบว่ากล่าวไปให้เจ็บแสบบ้างจะดี หลีซุนเฮ้าก็ว่า

“…….การทำศึกสงครามก็คิดแต่จะเอาชัยชนะซึ่งกันและกัน ซึ่งจะแต่งหนังสือ โต้ตอบว่ากล่าวเสียดแทงกัน เหมือนหนึ่งเล่นโคลงและเพลงนั้นหาควรไม่……..”

แล้วหลีซุนเฮ้าก็สั่งให้เขียนสลักหลังหนังสือว่า เรายอมตามใจกัวะซองจิวทุกอย่าง หากลัวสติปัญญาและฝีมือไม่ เขียนแล้วก็ให้ทหารของกัวะซองจิวนำกลับไป แล้วสั่งว่า

“…….จงไปบอกกัวะซองจิวนายเอ็งเถิด ว่าทหารสี่สิบแปดหมื่นที่กัวะซองจิวคุมมานี้ หาพอฝีมือเราจะฟันไม่ ให้กัวะซองจิวไปขอกองทัพฮ่องเฉาเพิ่มเติมเอามา ให้ได้ร้อยหมื่นนั้นแหละ จึงจะพอกับฝีมือเรา……..”

เมื่อกัวะซองจิวได้อ่านหนังสือ และได้ฟังความที่หลีซุนเฮ้าสั่งมาแล้ว ก็ให้มีใจครั่นคร้ามยิ่งนัก จึงปรึกษากับเตียชวนว่า

“……อุบายท่านคิดไว้นั้นจงตรึกตรองให้ดี ถ้าเห็นจะทำไปไม่ตลอดแล้ว เราจะคิดเลิกทัพหนีกลับไปเมืองเชียงอานเสียดีกว่า……..”

เตียชวนจึงว่า

“…….หลีซุนเฮ้านั้นก็เป็นแต่ทหารมีฝีมือและกำลังมาก ก็เดินดินอยู่เหมือนกับเรานี้ ใช่จะเหาะเหินมาได้บนอากาสเมื่อไร ซึ่งกระบวนกลอุบายการศึกนั้น ร่ำเรียนไว้ก็หมายจะเอาชัยชนะแก่ข้าศึก เหตุใดท่านมาคิดย่อท้อสยดสยอง เป็นใจสตรีดังนี้เล่า………”

กัวะซองจิวได้ฟังดังนั้นก็มีความละอาย คิดมานะแข็งแรงขึ้น จึงให้หาแม่ทัพนายกอง มาสั่งให้จัดแบ่งทหารไปตั้งค่าย รายไปตามแบบแผนพิชัยสงคราม ตามความคิดของเตียชวนทุกประการ ครั้นถึงสามวันก็แล้วเสร็จทุกค่าย จึงจัดทหารเข้าประจำรักษา คอยสู้รบอยู่ทุกค่าย

ถึงวันที่สี่เวลารุ่งเช้า หลีซุนเฮ้ากับนายทหารรองทั้งสี่ ก้แต่งตัวใส่เกราะขี่ม้านำหน้าทหารตรงไปถึงค่ายที่หนึ่งของกัวซองจิว แลเห็นตั้งค่ายรายกันไป มีเครื่องสาตราวุธและปักธงเป็นท่วงที เนื่องกันไปหลายสิบลี้ เสียงม้าล่อและเสียงกลองรบครึกครื้นเป็นสง่ายิ่งนัก หลีซุนเฮ้าจึงถามนายทหารทั้งสี่ว่ารู้จักกระบวนค่ายนี้หรือไม่ นายทหารบอกว่าหาได้เคยเห็นเคยรู้จักไม่ หลีซุนเฮ้าจึงว่ากระบวนค่ายนี้เราได้เห็นแบบแผนรู้อยู่ เรียกว่านาครักษาที่สามแห่ง ถ้าผู้ใดไม่รู้จักกระบวนค่ายนี้ เข้าตีแห่งเดียวก่อนแล้ว ก็คงจะเสียทีด้วยยกมาช่วยกันได้สิ้น ค่ายกระบวนกลศึกนี้ลึกซึ้งสำคัญอยู่ ต้องแยกทหารออกเป็นสามกอง ยกเข้าตีให้พร้อมกัน

หลีซุนเฮ้ายกเข้าตีค่ายกลาง อีกสี่นายแยกกันออกเป็นสองกอง เข้าตีค่ายเหนือและใต้พร้อมกันทั้งสามทัพ เตียชวนก็ขับม้าควงขวานนำทหารเข้าสู้รบกับหลีซุนเฮ้า ได้หลายเพลง หลีซุนเอ้าได้ทีชักกระบองเหล็กที่เหน็บเอว ตีถูกศรีษะเตียชวนแตก ตกม้าตาย นายทหารรักษาแม่ทัพสี่สิบแปดคน ก็เข้ารุมรบล้อมหลีซุนเฮ้าเข้าไว้ หลีซุนเฮ้ามิได้มีความครั่นคร้าม ขับม้าไล่ฆ่าฟันนายทหารทั้งสี่สิบแปดนายตายหมดทั้งสิ้น แล้วก็ยกทหารไปช่วยนายทหารอีกสองกองที่แยกกันเข้าตีเป็นสองกระบวนนั้น

ฝ่ายกัวะซองจิวเห็นหลีซุนเฮ้ายกเข้ามา ก็ตกใจกลัวไม่เป็นอันที่จะคิดสู้รบ เปิดประตูหลังค่าย ขับม้าพาทหารตนสนิททิ้งค่ายหนีไป ทหารเลวเห็นนายหนีไปแล้ว ไม่มีผู้ใดจะบังคับบัญชา ก้แตกตื่นกันเป็นอลหม่าน ที่ต้องอาวุธตายในที่รบก็มาก ที่ดีอยู่ก็หนีตามนายไปเมืองเชียงอานด้วย

หลีซุนเฮ้าครั้นตีค่ายกลแตก ข้าศึกหนีไปหมดแล้ว ก็ยกกองทัพไปตีเมืองในแขวงฮุยหนำได้อีกสามเมือง แล้วเลยไปจนถึงด่านท่องกวน ก็ไม่มีผู้ใดสู้รบ จึงยกกำลังเข้าค่ายโดยง่ายหามีใครขัดขวางไม่ หลีซุนเฮ้าจึงปรึกษากับนายทหารเอกทั้งสี่ว่า ทหารของเราที่ขี่ม้าติดตามมาเดี๋ยวนี้มีอยู่เท่าไร นายทหารก็บอกว่ามีสิบสามม้า รวมทั้งนายอีกห้าเป็นสิบแปดด้วยกัน หลีซุนเฮ้าจึงว่า

“………..ท่านทั้งสี่กับทหารที่ติดตามมาสิบสามคนนั้น จงคิดว่าเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันเถิด เราปลงใจลงช่วยกันติดตามจับตัวกัวะซองจิวเสียให้จงได้……”

นายทหารทั้งสี่และเหล่าทหารเสืออีกสิบสามคน ก็พร้อมใจกันว่าจะไปถึงไหนก็จะตามไปไม่ทิ้งกัน หลีซุนเฮ้าก็มีความยินดี ขับม้านำทหารเดินทางต่อไปอีกเจ็ดวัน จนถึงแม่น้ำ เปาเหลงชวน เสบียงอาหารที่ติดตัวไปนั้น ก็หมดลงทุกคนต่างก็ได้ความหิวโหย ริมแม่น้ำนั้นมีค่ายทหารของฮ่องเฉาตั้งอยู่ หลีซุนเฮ้าก็นำทหารเข้าตีแย่งยึดค่ายได้ จึงเอาเสบียงอาหารในค่ายมาเลี้ยงดูกัน จนอิ่มบริบูรณ์ แล้วก็คิดการจะติดตามกัวะซองจิวต่อไป.


###########

วารสารฟ้าหม่น
กันยายน ๒๕๔๔

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 05:14:05




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com