ความคิดเห็นที่ 1 2. ต้องเป็นนักเสี่ยง บางครั้ง การเสี่ยงก็มีผลต่อความสำเร็จด้วยเช่นกัน นักธุรกิจรู้ดี ในทุกๆ การลงทุนว่า ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะสำเร็จลุล่วงด้วยดี มีผลกำไร แต่ต้องวิเคราะห์มาแล้วอย่างดี และลงทุนไป โดยต้องกล้าได้กล้าเสีย บนความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้  คนทีได้แต่จด ๆ จ้อง ๆ มองแล้วมองอีก ไม่ลงมือ ไม่เอาขาแหย่ลงไปในน้ำ ไม่มีวันที่จะรู้หรอกว่า น้ำมันตื้น มันลึก หรือว่าร้อน เย็นแค่ไหน กล้าที่จะบลงไปหยิบปลา เลยดีกว่าครับ  ขอให้เสี่ยงบนหลักการที่สมเหตุสมผล และมีสติก็แล้วกันครับ 3. ต้องเป็นคนมีความคิดริเริ่ม จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ คือถ้อยคำของ อัลเบริต์ ไอสไตน์ ที่ถูกถ่ายทอดบอกต่อกันมาอย่างมากมาย จนทุกวันนี้ คำนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ ความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ คือปัจจัยของความสำเร็จ หากคิดแต่เพียงในกรอบเดิม ๆ และไม่ฉีกกฎเกณฑ์ดูบ้าง ก็จะได้ผลแบบเดิม ๆ  ต้องกล้ามองอย่างแตกต่าง สร้างสรรค์  นวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ ๆ ในโลกนี้ก็เพราะว่า มีนักคิดที่ใช้สมองอย่างเต็มที่ในการสร้างสิ่งใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา 4. ต้องไม่เป็นที่ท้อถอยง่าย ๆ นักธุรกิจ ต้อง “อึด” ในระยะเริ่มต้นของการทำธุรกิจ หรือแม้ว่าแต่งานใด ๆ ก็ตาม ต้องอาศัยความอดทน อย่งมหาศาล ต้องมีความมุมานะ บากบั่น  เปรียบเสมือนกับการสร้างกำแพงเมือง ที่จะต้องใช้เวลา หากว่ายกเลิกกลางทาง หรือว่า เหยียบขี้ไกไม่ฝ่อ แล้วละก็ จะสร้างกำแพงเสร็จได้อย่างไร การไม่ท้อถอยง่าย ๆ จะทำใหเราเก็บเกี่ยวผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นผลงานที่เราจะมีความภาคภูมิใจ ฉะนั้น หากคิดจะประสบความสำเร็จ อย่าลืมว่า ต่อสู้ให้ถึงที่สุด ตีให้เต็มที่ ทำให้สุดแรงเกิด อย่างให้เสียชาติเกิดที่ ทำไม่เต็มที่ แล้วมาเสียดายตัวเองทีหลัง จากคุณ : Panda Smile เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 03:20:27

ความคิดเห็นที่ 3 กำลังอ่านเพลิน ๆ เลยครับ ได้แง่คิดดีมากเลยครับ รบกวนขออีก 3 ข้อที่เหลือด้วยครับ จะได้นำไปประยุกต์ใช้ครับผม ขอบคุณครับ จากคุณ : นักรัก...ขั้นเทพ เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:33:18

ความคิดเห็นที่ 4 อ้าว ... ขอโทษทีครับ โพสช้าไปหน่อย เอาไปอีก ที่เหลือครับ 5. ต้องเป็นคนใฝ่รู้เสมอ การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา คนที่เปิดตัวเอง รับสิ่งใหม่ๆ และศึกษาหาความรู้ตลอดเวลาคือ เป็นการลงทุนความรู้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนำความรู้ต่าง ๆ มาต่อยอดให้กับตัวเองได้เสมอ เป็นการปูทางไปสู่หนทางใหม่ ๆในการทำธุรกิจ นอกจากนั้นยังเป็น ยุทธศาสตร์ในการรับมือ กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นทุกวันนี้ ดังนั้น ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ด้วย การเป็นคนใฝ่รู้ หมั่นเติมสมองอยู่ตลอดเวลา   6. ต้องเป็นคนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ยุทธศาสตร์สำคัญของคนที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจแล้ว ต้องมองให้ออกว่า กำลังไปไหน มีจุดมุ่งหมายอย่างไร กำหนดเส้นทางที่จะเดินไป และวางแผนอย่างเป็นระบบ เพื่อไปให้ถึงเส้นชัย  แม้แต่การทำงานด้วยก็เช่นกันต้องมีการกำหนดเป้าหมาย และชัดเจน รวมถึงมีมุมมองที่กว้างไกล ไม่มองโลกในมุมเดียว     7. ต้องมีเครือข่ายดี ทุกวันนี้ การแข่งขันมีมากขึ้น ดังนั้น การสร้างสายสัมพันธ์ที่ดี กับคนอื่น ๆ และการรู้ใช้เครือข่ายอย่างจริงใจ เป็นการเอื้อให้การประสบความสำเร็จง่ายขึ้นไปอีก เพราะมีเพื่อนมาก มีมุมมองที่หลากหลาย และคอยเกื้อหนุนในการทำงาน ทำธุรกิจ ร่วมมือสนับสนุนกันและกัน เข้าทำนอง  น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า   ขอเน้นย้ำนะครับว่า เคล็บลับทั้ง 7 ประการ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่มนุษย์มีมาตั้งแต่กำเนิด หากแต่สามารถเรียนรู้กันได้ และทุกคนสามารถฝึกฝนกันได้ทั้งนั้น หากว่าเราตั้งใจจริงที่จะพัฒนาตัวเองให้มีคุณสมบัติดังกล่าว โดยคอยหมั่นตรวจสอบตัวเองและเรียนรู้ที่จะเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้ให้มากขึ้น ก็ทำให้เราเข้าใกล้ ความสำเร็จเข้าไปทุกที ครับ จากคุณ : Panda Smile เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:47:36

ความคิดเห็นที่ 5 ไหน ๆ ก็ไหนแล้วขอแถม เนื้อหาสาระที่มีประโยชน์ในการบริหารเวลาอีกก็แล้วกันครับ คนทุกคนมีเวลาเท่ากัน  แต่คนทุกคนใช้เวลาไม่เท่ากัน                     เอ็ดวิน ซี บลิส เคยกล่าวไว้ว่า   “เวลานั้นเป็นเหมือนเงินสดในวันนี้ หากผ่านพ้นไปก็เหมือนดังเช็คเด้ง ส่วนเวลาที่ยังมาไม่ถึงก็เหมือนกับ ตั๋วสัญญาใช้เงิน “       มีคนบอกเสมอ ๆ ว่าทุกวินาทีมีค่า ขอให้ใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเสียดายเวลาทีหลัง แต่ดูเหมือนว่า เราแต่ละคนก็เคยเกิดอาการ  เสียดายเวลา มา แทบทุกคน  ก็เพราะว่า บ่อยครั้งที่การตระหนักในคุณค่าของเวลานั้น เกิดขึ้นหลังจากที่เราได้ สูญเสียเวลาไปแล้ว แทบทั้งนั้น         เราเสียดายเวลา ที่ไม่ได้ดูแลพ่อ แม่ ให้ดีตอนท่านมีชีวิตอยู่   มัวแต่ทำงานหนัก ลืมดูแลท่านให้ดี     เราเสียดายเวลาที่ ไม่เคยตั้งใจเรียนตอนเรียนหนังสือ  มาตอนนี้ เลยต้องทำงานหนัก แลกกับเงินเพียงน้อยนิด    เราเสียดายเวลาที่ตอนทำงาน ไม่ตั้งใจ ผลงานไม่ดี เงินเดือน ก็ไม่ขึ้น อายุก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ   เราเสียดายเวลา ที่ไม่ได้วางแผนการใช้เงินดี ๆ ตอนนี้เลยต้องมาเป็นหนี้สิน ทำงานผ่อนใช้หนี้กันทุกเดือน ๆ ยังมีอะไรอีกครับ ที่เราเริ่มรู้สึก เสียดายเวลา จากคุณ : Panda Smile เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:49:04

ความคิดเห็นที่ 6 แม้โลกนี้จะยุติธรรมให้เวลากับเราทุกคนเท่ากันในหนึ่งวัน คือ 24 ชั่วโมง แต่ทว่าทุกคนก็ใช้เวลาไม่เท่ากัน และบริหารเวลาไม่เป็น มัวแต่ทำอะไรที่สูญเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์  คนที่คิดจะประสบความสำเร็จคือคนที่ บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เขารู้ว่าควรทำอย่างไรกับเวลาอันจำกัดในแต่ละวัน ซึ่งมีกิจกรรมต่าง ๆ และมีภาระกิจมากมายให้ทำอยู่ตลอดเวลา ถึงเวลาที่เราควรต้องกลับมาทบทวนการใช้เวลาของเราว่า มีประสิทธิภาพที่ดี สมกับราคาที่จ่ายไปไหม เพราะเวลาคือสิ่งที่ผ่านไปแล้วกลับมาไม่ได้  ผมเริ่มเห็นคุณค่าของแต่ละวินาทีที่ผ่านพ้น  ก็ตอนเมื่อมีอยู่วันหนึ่งในเวลากลางคืนที่เงียบสงัด ไม่มีเสียงรบกวนรอบข้าง เงียบจนแทบได้ยินเสียงมดตกกับพื้น     ..แล้วผมก็ได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาเดินทีละวินาที ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก ๆๆ   ตอนนั้นแหละครับ ที่ผมเห็นคุณค่าของแต่ละวินาทีที่ผ่านพ้นไป   ผมบอกกับตัวเองว่า เราคงต้องบริหารเวลากันใหม่แล้วละ       ผมมีแนวทางหลัก ๆ  สำหรับการบริหารเวลาสำหรับคนที่อยากจะก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ต้องลองหัดไปทำดูครับ จากคุณ : Panda Smile เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:49:47

ความคิดเห็นที่ 7 A จัดอันดับความสำคัญของงาน ก่อนลงมือทำงาน    เป็นวิธีที่พื้นฐานมาก แต่ก็ละเลยกันมากที่สุด งานแต่ละงาน ก็มีลักษณะเฉพาะและความสำคัญที่แตกต่างกันไป หากเราจัดอันดับงานให้ดีเราจะพบว่า งานบางอย่าง ยังไม่ต้องรีบทำ งานบางอย่างสมควรทำก่อนอันดับแรก  ลองจัดลำดับงานให้ดีแล้วจะพบว่า คุณประหยัดเวลาลงไปได้เยอะทีเดียวครับ จากคุณ : Panda Smile เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:52:02

ความคิดเห็นที่ 8 B  วางแผนงานก่อน       หากคุณคิดจะล้างรถ คุณจะล้างส่วนไหนของรถก่อน แน่นอน ต้องล้างด้านบนหลังคาก่อน เพราะถ้าล้างประตูก่อน แล้วไปล้างหลังคา สิ่งสกปรกก็มาเปื้อนประตูอีก ต้องล้างประตูรถกันอีกรอบ  เรื่องงานก็เช่นกันครับ  งานทุกอย่าง คุณควรวางแผนการทำงานไว้ก่อน เรียกว่า วางยุทธศาสตร์การทำงานไว้ก่อน ว่าจะทำอย่างไรบ้าง เพื่อประหยัดเวลาในการทำงาน  เช่นว่า กำลังจะนัดไปพบลูกค้าเพื่อนำเสนอขาย ควรเตรียมตัวเรื่องสินค้าก่อน เตรียมเอกสารไว้ให้พร้อม เบิกสินค้าตัวอย่างออกมา ควรมีปากกา กระดาษ ลองทำราคาคร่าว ๆ ออกมาก่อนว่า จะเสนอราคาอย่างไรบ้าง และถ้าลูกค้าเสนอเงื่อนไขต่าง ๆ มา เราจะให้คำตอบอย่างไร  เตรียมสัญญาไว้ให้พร้อม หากลูกค้าพร้อมจะซื้อ   พูดง่าย ๆ ว่า ทำการบ้านมาก่อนเสมอ จากคุณ : Panda Smile เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:52:39

ความคิดเห็นที่ 9 C  อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปในกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ      เศษของเวลาในแต่ละวัน เมื่อรวม ๆเข้าก็เยอะใช่เล่นนะครับ เช่น เวลารอรถเมล์  เวลารอลูกค้า เข้าคิวธนาคาร โดยสารรถทัวร์ไปต่างจังหวัด  โดยสารเครื่องบินไปต่างประเทศ  คำแนะนำที่ดีที่สุด ในระหว่างรอกิจกรรมเหล่านั้น ผมอยากจะแนะนำว่าให้หาหนังสือเล่มเหมาะ ๆ อ่านซะ  เป็นสิ่งที่ผมทำเป็นประจำ และผมก็เชื่อว่าหลายคนก็ทำอยู่   การอ่านหนังสือเป็นการฆ่าเวลาที่ดีที่สุด  ในสถานการณ์ที่เราทำอะไรไม่ได้มากนักในขณะนั้น การตักตวงความรู้โดยการอ่านถือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากวิธีหนึ่ง จากคุณ : Panda Smile เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:53:26

ความคิดเห็นที่ 10 D  ตัดกิจกรรมที่ถ่วงเวลาออกไป       เรื่องนี้ต้องอาศัยการสังเกตพฤติกรรมตัวเองในแต่ละบุคคลไป เพราะแต่ละคนมีกิจกรรมที่ชอบทำ และอยากทำอยู่ หากแต่ว่ากิจกรรมบางอย่างอาจจะมากเกินไป มากเกินความจำเป็น เช่น ดูทีวี ดูซีรียส์เกาหลี ติดอินเทอเนต  ฝังอยู่กับโลกออนไลน์มากเกินไป บางคนหลังเลิกงานต้องสังสรรค์กับเพื่อน เดินเที่ยวช้อปปิ้ง กันแทบทุกวัน  หรือไปกินข้าวกับเพื่อนบ่อยเกินจำเป็น  ผมไม่ได้ปฏิเสธการเข้าสังคมนะครับ แต่ต้องเลือกสักนิดว่า เราควรใช้ความถี่เท่าไหร่ ในกิจกรรมแต่ละครั้ง ของแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคน  เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่า กิจกรรมบางอย่าง เมื่อเราทำไปนาน ๆ มันจะติดเป็นนิสัยแล้วเลิกยาก เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืนบ่อย คุยโทรศัพท์นาน ๆ เกินจำเป็น ดูทีวีดึกจนติดเป็นนิสัย    กิจกรรมเหล่านี้ดึงเวลาจากเราไปค่อนข้างมาก  หากว่าเอาเวลาไปทำอย่างอื่น น่าจะมีประโยชน์มากกว่า จากคุณ : Panda Smile เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:54:17

ความคิดเห็นที่ 11 E มีเวลาสำหรับการเรียนรู้     มีเวลาสำหรับการเพิ่มเติมความรู้ให้กับตัวเองเป็นระยะ ๆ  อาจจะเป็นการ อบรมสัมนา การเรียนต่อในขั้นที่สูงขึ้น การอ่านหนังสือเพิ่มเติม   การเรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม หรือการพัฒนาทักษะด้านคอมพิวเตอร์ ต่าง ๆ ล้วนเป็นกิจกรรมที่ยกระดับศักยภาพตัวเองให้ทัดเทียบกับคนอื่น อย่าลืมแบ่งเวลามาลงทุนกับตัวเองด้านต่าง ๆ ของชีวิตด้วย เพราะเป็นการก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ไวขึ้น  หากมีความรู้ที่เพิ่มขึ้น ก็จะมีโอกาสดี ๆ เข้ามาในชีวิตเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันครับ จากคุณ : Panda Smile เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:54:55

ความคิดเห็นที่ 12 F มีเวลาสำหรับครอบครัว ตัวเอง และสังคมรอบข้าง   ชีวิตที่สมดุลย์เกิดจากการแบ่งเวลาให้มีประสิทธิภาพเท่า ๆ กัน  อย่าลืมแบ่งเวลาดูแลครอบครัว พ่อแม่ สามี ภรรยา ลูก ๆ หลาน ๆ และเพื่อนฝูง  รวมถึงสังคมรอบข้างด้วย แม้ว่าจะดูเป็น อุดมคติอยู่สักหน่อย  แต่เรื่องเหล่านี้เป็นส่วนเติมเต็มให้กับความสำเร็จครับ   ถ้าเราประสบความสำเร็จเพียงลำพัง ไร้ซึ่งคนคอยให้กำลังใจ และยินดี ความสำเร็จนั้นก็ช่างเป็นความสำเร็จที่ดูเปล่าเปลี่ยวเหลือเกิน  อย่าลืมแบ่งเวลาให้กับคนเหล่านี้ด้วยครับ จำเป็นอย่างมากทีเดียว  และอย่าลืมแบ่งเวลาดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย กินอาหารที่ประโยชน์ หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี ทำจิตใจให้แข็งแรง มองโลกในแง่ดีเสมอ และให้กำลังใจกับตัวเอง จากคุณ : Panda Smile เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:55:43

ความคิดเห็นที่ 13 ท่า จขกท. จะเป็นเจ้าของขนาดใหญ่ นะครับ จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 14:12:40

ความคิดเห็นที่ 14 บางหัวข้อเห็นด้วยนะ เช่นความอึดนี่แหละ ต้องมีทุกคน ไม่งั้นไม่รอดจริงๆ  แต่บางอย่างก็ไม่ไหวเครียดเกินไป จากคุณ : pounggati เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 23:59:38