 |
อินโดฯ เป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นประเทศทันสมัยอีกต่างหากครับ เขามีการทำหนังไม่ต่างไปจากบ้านเรา
ซาอุ กาตาร์ โอมาน 3 ประเทศเป็นมุสลิมแบบเข้มข้น ประมาณว่าอนุรักษ์นิยมสูง...ว่างั้นเหอะ แต่กาต้าร์อาจจะดีหน่อยที่เปืดประเทศมากขึ้นพอสมควร
ทั้ง 3 ประเทศนี้ไม่มีอุตสาหกรรมหนังครับ
แต่ในการ์ต้ามีโรงหนัง เพียงแต่หนังที่เข้าฉายอาจมีการคัดกรองอย่างดี เพื่อไม่ให้ขัดกับวัฒนธรรม ประเพณีของพวกเขา
ผมเคยอยู่การ์ต้ามา 4 ปี แต่ได้ไปดูหนังแค่ครั้งเดียวคือเรื่อง "โอมาร์ มุคตาร์" ซึ่งเป็นหนังไบโอกราฟฟี่ของบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่เป็นฮีโร่ของชาวมุสลิม
เวียดนามมีการทำหนังเหมือนบ้านเรา ผู้กำกับของเวียดนามส่วนใหญ่จบสาขาการทำหนังจากรัสเซียครับ
ส่วนของอินเดียเนี่ย...ผมว่ายิ่งใหญ่เลย เพราะเขาเป็นประเทศใหญ่ที่มีประชากรจำนวนมหาศาล แค่ผลิตเพื่อให้คนในประเทศ "เสพ" เองก็เป็นตลาดที่ใหญ่มากแล้ว
"บอลลีวุ๊ด" ของอินเดียเป็นอุตสาหกรรมที่มีเม็ดเงินมากมายครับ หนังอินเดียเองก็ผ่านยุคต่างๆมามากมายพอๆกับฮอลลีวู๊ดนั่นแหละ หนังอย่าง "ช้่างเพื่อนแก้ว" ผมว่าตอนนี้เป็นหนังระดับขึ้นหิ้งไปแล้ว
ดาราอย่าง ชาชิ การ์ปูร์, เฮม่า มาลินี, อมิตาป ปัจจัน ก็มีศักดิ์ศรีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า พอล นิวแมน หรือ คลิ้นท์ อีสท์วู๊ด
หรือแม้แต่รุ่นหลังๆอย่าง เอสไวยา ไร ที่ก้าวมาจากนางงาม ก็มาทำผลงานในโลกของเซลลูลอยด์ได้อย่างน่าชมเชยเช่นกัน
โพรดักชั่นของเขาก็สวยงามครับ แม้เราจะค่อนขอดเขาว่า "หนังแขกร้องเพลงวิ่งข้ามเขาเป็นลูกๆ" แต่หากดูเนื้อในของรายละเอียดต่างๆ มันก็ไม่ได้ง่ายในการผลิตหรอกครับ
หนังอินเดียผมว่ามีลักษณะกึ่งๆที่จะเป็นมิวสิคคัล มูฟวี่...ซึ่งต้องใช้ฝีมือในการสร้างเลยแหละ
ของบราซิลผมไม่รู้ครับ แต่เดาว่าคงมีแน่ๆ เพราะบราซิลเป็นประเทศใหญ่ และมีการถ่ายเททางวัฒนธรรมสูง มีการรับ การส่งผ่านของวัฒนธรรม
ส่วนเดนมาร์ค โรมาเนีย ตุรกี น่าจะเป็นอุตสาหกรรมหนังแบบอินดี้ซะมากกว่าครับ ประมาณว่าไม่ได้ใหญ่อะไรมากมายนัก แต่ทำออกมาเป็นงานอาร์ท ที่มักถูกคัดเลือกให้ไปฉายตามเทศกาลหนังมากกว่าจะเป็นงานพานิชย์
ออสเตรเลีย ก็มีการทำหนังในแบบอุตสาหกรรมเช่นกัน แต่มันก็แปลกที่ดาราออสซี่มักอยากข้ามน้ำข้ามทะเลไปฮอลลีวู๊ด ทั้งนิโคล คิดแม่น, เมล กิ๊บสัน, ฮีท เลดเจอร์ , รัสเซล โครว ฯลฯ ล้วนแล้วแต่มาสร้างชื่อจากค่ายหนังในแดนลุงแซมทั้งนัั่้นครับ
ฝรั่งเศสก็มีอุตสาหกรรมหนังที่ยิ่งใหญ่ แถมหนังจากเมืองน้ำหอมมักมีความละมุนละไม มีความเป็นศิลปะ และไม่โฉ่งฉ่างแบบออลลีวู๊ดอีกต่างหาก คุณลองไปหาดูหนังอย่าง the chorus และ paris je'taime ดูนะครับ
โดยเฉพาะเรื่องหลังผมว่า "โคดเจ๋ง" เลย
paris je'taime เป็นหนังสั้นๆ 18 เรื่อง จาก 18 ผู้กำกับ โดยมีคอนเซ็ปท์ว่าทั้ง 18 เรื่องจะเป็นเรื่องราวของ "ความรัก" ที่เกิดขึ้นในมหานครที่แสนจะ อบอุ่น โรแมนติค และน่าค้นหาแห่งนี้
18 ผู้กำกับที่ว่านี้ไม่ใช่คนฝรั่งเศสทั้งหมดหรอกครับ
แต่มันเป็นโพรเจ็คที่มีต้นธารอยู่ที่ฝรั่งเศส มีทีมงานคอยคุมโทนของหนังให้ออกมาเป็นแบบ "ฝรั่งเศส"
บางเรื่องก็ 5 นาที บางเรื่องก็ 7-8 นาที บางเรื่องก็ประมาณซัก 10 นาที
บางเรื่องไม่มีบทพูดเลย บางเรื่องเป็นความรักแบบหนุ่มสาว บางเรื่องเป็นความรักแบบคนต่างศาสนา บางเรื่องเป็นความรักแบบผัวเมียที่เบื่อกันแล้ว บางเรื่องเป็นความรักแบบพ่อกับลุกที่แม่ตายจากไป บางเรื่องเป็นความรักแบบคนธรรมดา กับ แวมไพร์สาว
ผู้กำกับบางคนก็ "แหก" สไตล์ของตนเองเลย คุณจะได้เห็นผู้กำกับหนังผีอย่าง "เวส คราเวน" มาทำหนังรัก แถมยังเป็นหนังรักที่เป็นหนังสั้นๆอีกต่างหาก.....เอากะพี่แกซิ....
ทั้ง 18 เรื่องใน paris je'taime ถูกนำมาร้อยต่อกันในแบบที่ไม่สะดุดอารมณ์
paris je'taime แปลว่า paris...i love you โพรเจ็คหนังสั้นนี้ได้รับคำชมมากเสียจนฮอลีวู๊ดเอาไปสานต่อ
และทำออกมาในชื่อว่า New york.... i love you
แต่ผมว่าฝั่งอเมริกาทำออกมาได้ไม่ "เนียน" เท่าฝรั่งเศสครับ
โลกนี้ไม่ได้มีแค่ฮอลีวู๊ดครับ มีหลายๆประเทศที่ทำหนังออกมาได้สวยงาม...
และไม่ "หยาบกระด้าง" เหมือนที่เป็นอยู่ในผลงานของคน (ส่วนใหญ่) จากฮอลีวู๊ดครับ
แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 55 11:45:30
จากคุณ |
:
ตุ้ม (Toom McCartney)
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ก.พ. 55 11:41:20
|
|
|
|
 |