Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องในอดีต : การคล้องช้างป่า สมัยเจ้าชีวิตอินทวโรรส ติดต่อทีมงาน

ถึงแม้กาลเวลาจะได้ผ่านพ้นไปกว่าครึ่งศตวรรษ แต่ข้าพเจ้าก็ยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งกระโน้นได้ดี ราวกับว่ามันเพิ่งอุบัติขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ข้าพเจ้าจำได้ เพราะมันเป็นปีแรกที่ข้าพเจ้าได้ประจำรับราชการอยู่ในกรมเขน ซึ่งเป็นหน่วยรักษาพระองค์ของพ่อเจ้าอินทวโรรส และได้ถูกคัดเลือกจากเจ้าพญาเด็กชายเข้ากรมอาสาเจ็ดหมู่ ให้โดยเสด็จไปในงานคล้องช้างป่าที่บ้านห้วยก่ำเป็นครั้งแรก

ข้าพเจ้าจำได้ว่ามันเป็นวันต้นเดือนมีนาคม ทองกวาวกำลังบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง ดอกสีส้มแก่ของมันเกาะติดกันเป็นกลุ่มเหมืองรังต่อแม่คำหลวง ชูช่อขึ้นทาบกับท้องฟ้าอันสดใสเหมือนสีมรกต เมื่อยังเป็นเด็ก ก็ยังระลึกได้ว่าพวกเรามักจะเก็บตัวกันอยู่กับบ้าน เพราะมันเป็นฤดูที่ ผีบ้าตะวอด มักลงมาไล่จับเอาเด็กและผู้หญิงไปเซ่นสรวงผีครูของมันที่ดอยหลวง ถึงแม้ในปีนั้น ข้าพเจ้าจะเติบโดเป็นหนุ่มใหญ่ครบปีบวชแล้ว และได้เข้ารับราชการอยู่ในกรมเขนหลวง ตาการต้องเดินลัดเลาะไปตามท้องทุ่งในฤดูทองกวาวบานแต่ลำพังเช่นนั้น ก็ยังอดรู้สึกเสียวในใจเสียมิได้

ข้าพเจ้ามาถึงคุ้มหลวงกลางเวียงพอดีกับเสียงย่ำกลองงาย ในบริเวณคุ้มเห็นมีผู้คนคึกคัก ช้างต่อช้างตามหลายสิบเชือกพร้อมทั้งคนควาญคนเท้าชุมนุมอยู่เต็มข่วงหน้าหอคำ หอเย็นของเจ้าเหนือหัวทางด้านใต้ถูกดัดแปลงขึ้นเป็นปะรำชั่วคราว ปุโรหิตแต่ชุดขาวล้วนเดินไปมาขวักไขว่ พระพุทธเศลาดำปางพิชิตพลายนาฬาคีรี ถูกอัญเชิญจากพระอารามหลวงวัดเชียงมั่นมาประทับอยู่เหนือศาลเพียงตา ห้อมล้อมด้วยเครื่องบายศรี บาตรน้ำมนต์ พระแสงต้น พระแสงของ้าว ด้ายสายสิญจน์ และเครื่องสังเวยบัดพลีนานาชนิด

ข้าพเจ้าเข้าไปรายงานตัวต่อท่านท้าวไชยวงษา ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากรมคชบาล แล้วเลยเข้าไปนั่งรวมอยู่กับพวกอาสาเจ็ดหมู่ซึ่งข้าพเจ้าสังกัดอยู่ ท้าวไชยนุ่มผ้าต้อยไหมสีตำหนักรั้งขึ้นมาเกือบถึงโคนขา ไม่สวมเสื้อ เผยให้เห็นเรือนร่างซึ่งมืดไปด้วยรอยสักอันเป็น “ฮีต” ของขุนหาญ ท่านนั่งอยู่เหนือตั่งมุก กำลังบงการพวกไพร่หลวงให้เตรียมบาตรน้ำมนต์ และเครื่องเซ่นสรวงอื่นๆ อยู่ในปะรำ

เรารออยู่ไม่นานเท่าใดนัก ก็มีเสียงกลองชุมกระหึ่มขึ้น พวกเราทุกคนต่างหมอบราบลงกับพื้น เพราะพ่อเจ้ากำลังจะเสด็จออก ครู่ใหญ่ ข้าพเจ้าก็เห็นพ่อเจ้าทรงจูงพระกรเจ้าหญิงเล็กๆ พระองค์หนึ่ง ก้าวอย่างช้าๆ ขึ้นมาบนปะรำ

เมื่อเจ้าเหนือหัวเสด็จออกแล้ว มีปุโรหิตประจำเมืองก็เริ่มทำพิธีตามไสยเพท หมอควาญต่างนำช้างต่อช้างตาม ทั้งช้างพลายร่วมหกสิบเชือก เข้ามารับการประพรมน้ำมนต์เพื่ออำนวยสวัสดี เมื่อพิธีทางไสยเพทได้สิ้นวุดลงแล้ว เจ้าน้อยไชยสงครามควาญช้างต้นก็ไสพลายแก้วมงคลช้างพระที่นั่งเข้าเทียบเกย พ่อเจ้าอินทวโรรสเสด็จขึ้นประทับบนสัปคับ พาดพระแสงอาญาสิทธิ์คร่ำทองไว้เหนือพระเพลา และทรงโบกพระหัตถ์เป็นสัญญาณ ต่อจากนั้น ขบวนอันยาวเหยียดก็เคลื่อนออกจากคุ้ม บ่ายหน้าออกประตูเวียง มุ่งสู่ทิศตะวันออก

การเดินทางคราวนั้น กำหนดให้ไปเป็นสองสายคือ ไปทางบ้านออน อำเภอสันกำแพง สายหนึ่ง กับทางป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด อีกสายหนึ่ง โดยกำหนดให้ไปรวมกันที่ตำบลห้วยก่ำ เป็นจุดหมาย กองอาสาเจ็ดหมู่ของเราโดยขบวนหลวงไปทางบ้านออน และสิ้นเวลารอนแรมถึงสี่คืนจึงไปถึงบ้านห้วยก่ำ ที่นั่น พวก ”คนเจ้า” ได้ล่วงหน้ามาสร้างพลับพลาที่ประทับรอรับเสด็จอยู่ก่อนแล้ว และขบวนที่แยกมาทางดอยสะเก็ด ก็มาถึงในเวลาไล่เรี่ยกัน

เมื่อพ่อเจ้าชีวิตเสด็จขึ้นสู่พลับพลาที่ประทับเรียบร้อยแล้ว ท้าวไชยมงคล เจ้ากรมคชบาล ก็สั่งให้ปล่อยช้างต่อ ช้างตามในขบวนลงป่าแขมด้วยการตกปลอกเพื่อให้หากินอยู่ใกล้ๆ บริเวณปางพัก และพวกที่มาในขบวนโพนช้างทั้งหมดก็ได้รับอนุญาตให้หาที่ทางเพื่อพักผ่อนเอาแรงเสียคืนหนึ่ง

แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 55 08:07:44

แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 55 21:17:43

 
 

จากคุณ : owl2
เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 19:40:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com