............................................ เกี๊ยะ ...................................................................
|
|
สิ่งหนึ่งที่หายไปจากสายตาของกระผมมากกว่าห้าสิบปี แต่ยังอยู่ในความทรงจำมาตลอด
มันเป็นของใช้ทั่วๆไป คนจีนเรียกว่า เกี๊ยะ
เกี๊ยะ ก็เป้นเหมือนรองเท้าแตะทั่วๆไป อันนี้พูดถึง เกี๊ยะจีน ในเมืองไทย ไม่เกี่ยวกับเกี๊ยะ ญี่ปุ่นซึ่งมีประวัตินานเนกาเล ไฮเทคกว่าเกี๊ยะจีนในเมืองไทย
หน้าตาของ เกี๊ยะจีน ก็ทำด้วยไม้ทั้งชิิ้น มีพลาสติกใส ไว้ให้ปลายเท้าสอด แน่นอน เป็นของร่วมสมัยเมื่อครึ่งศตวรรษก่อน เพราะมีพลาสติกมาใช้กันแล้ว ไม่คลาสสิคแบบเกี๊ยะญี่ปุ่น
พื้นด้านบนของเกี๊ยะจีนจะทาสีลายดอกไม้ โดยมากเป็นสีฉูดฉาก แดงมั่ง ชมพูมั่ง
พื้นด้านล่างของเกี๊ยะ แต่ละข้าง จะแกะ เกลา ให้มีแค่สันสองสันเท่านั้น ที่สัมผัสพื้นดิน
สมัยเด็ก แม่กระผมซื้อเกี๊ยะมาหนึ่งคู่ เห็นใส่ๆอยูพัก แม่ก็เลิกรา ขนาดแม่ใส่รองเท้าส้นลูงปลายเข็ม มีหลายคู่มาก ส้นแต่ละซ่น สูงสามนิ้วขึ้น แม่ใส่เดินเฉยมาก แต่พอเจอเกี๊ยะ แม่ก็ถอดใจ
แม่มายอมแพ้ให้กับการใส่เกี๊ยะเดิน บอกว่า เดินลำบาก ในที่สุดก็ทิ้งเกี๊ยะไว้ให้กระผมผูกเชือลากเล่น
บ้านกระผมเคยอยู่หลังตลาดสนามเป้า หลังอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ความเป็นเด็กหลังตลาด เลนมีเพื่อนเป็นกุมารจีน กุมารไทย เยอะ เราเล่นกันหลังตลาดวายเกือบทุกเย็น
สถาพพื้นตลาดสมัยก่อน น้ำนองพื้น เฉอะแฉะครับ ตอนนั้นกระผมใส่รองเท้าแตะ รองเท้าคีบ เวลาเดินผ่านพื้นเฉอะแฉะ ซ่นรองเท้าแตะ มันจะสะบัด วักน้ำสกปรกที่พื้นตลาดมาโดนน่อง
แผ่ละๆๆ ก็ไม่คิดอะไร ใส่กางเกงขาสั้น อย่างมากก็เอาน้ำก็อกล้างขา
แต่ผู้ใหญ่ถ้าใส่รองเท้าแตะ ขากางเกงจะโดนน้ำที่ปลายรองเท้าแตะสะบัดมาโดน เวลาเดินจึงต้องระวังหน่อย ค่อยๆยกเอาตอนเดินผ่านที่เฉอะแฉะ
สำหรับคนที่ใส่เกี๊ยะเดิน ปัญหานี้ไม่เกิดครับ พื้นเกี๊ยะที่เหยียบอยู่ ห่างจากพื้นเฉอะแฉะ เป็นนิ้วสองนิ้ว
เรื่องปัญหาน้ำสะบัดใส่ไม่มี เพราะผิวสัมผัส พื้นเกี๊ยะ มีแค่ชั้นขวาง หนาหลังเกี๊ยะแค่นั้นเอง
อาซิ๊ม อาอึ้มสมัยก่อนแถวบ้านกระผม เลยนิยมใส่เกี๊ยะกันมาก เวลาเดิน เสียงมันกระทบพื้น ดัง " เกี๊ยะๆๆๆ " สมชื่อมันเลย
เกี๊ยะหนึ่งข้างทำมาจากไม้ชิ้นเดียวทั้งท่อน นอกจากกระผมจะเอามาผูกเชือกลากเล่น ปล่อยลงน้ำเล่นเป้นต่างเรือแล้ว
กระผมยังชอบเอาเกี๊ยะมาตีกันเล่น เสียงมันดังกังวาลดีขอรับ
แต่แม่ก็ห้าม ก็ดุ บอกว่าเขาห้ามเอาเกี๊ยะมาตบกันเล่น เดี๋ยวคนในบ้านจะทะเลาะกัน
นอกจากนี้ ยังมีถืออีก ห้ามใช้เกี๊ยะ ตีเด็ก ตบเด็ก ถ้าพลาดไปโดนหน้าเด็กเข้า เด็กที่ถูกตบหน้าด้วยเกี๊ยะ โตขึ้นจะตาเข ครับ
ส่วนผู้ใหญ่ ประเภทแม่ค้าในตลาด มีเรื่องกัน ก่นด่ากร้าวร้าวใส่กัน ปากใหญ่ใจห่าม ถึงขนาดตบหน้ากันด้วยเกี๊ยะ นั่นถือเป็นเรื่องใหญ่เลย ประมาณเหยียบหน้าด้วยเกือกสมัยนี้
ปัจจุบัน เกี๊ยะในความทรงจำของกระผมยังอยู่ ยังจำลายดอกโบตั๋นบนเกี๊ยะแม่ได้
แต่เดี๋ยวนี้ เกี๊ยะจีนไม่มีให้กระผมเห็นเลยขอรับ
มีท่านใดพอรู้เรื่องเกี๊ยะ ก็เชิญมาเล่าสูกันฟังนะขอรับ ก็มาเล่าสู่กันฟังเล่นๆ
จบความขอรับ
จากคุณ |
:
ท่านขุนเดชา
|
เขียนเมื่อ |
:
29 เม.ย. 55 20:59:25
|
|
|
|