รุ่งอรุณของวันใหม่ ท้องฟ้ายังคงสลัวด้วยละอองหมอกที่แผ่ซ่านอยู่ทั่วๆ ไป อากาศตอนเช้าหนาวเย็นเหมือนเราอยู่ในฤดูหนาวอย่างนั้น มันเป็นเวลา ๖.๐๐ น.เศษ ของวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๘
วันนี้ข้าพเจ้าตื่นแต่เช้า เพราะไม่ได้อยู่หน่วยลาดตระเวนมาสองคืนแล้ว หมู่บ้านดอยตุงยังคงอยู่ในความสงัดเงียบ ต่อเมื่อสายมากแล้ว ชาวบ้านบางคนจึงออกมานั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้าน บางคนก็ไปตักน้ำ และบางคนก็ไปทำธุระ แสงแดดอ่อนเริ่มสาดส่องลงมาต้องกับแผ่นดินและทิวไม้ สายหมอกเริ่มละลายไปทีละน้อยๆ อีกไม่กี่นาทีต่อมา ท้องฟ้าก็ปลอดโปร่งแจ่มใส บรรยากาศในเช้าวันนั้นช่างสดชื่นเสียจริงๆ กลุ่มควันสีขาวพวบพุ่งขึ้นมาจากหลังคาทุกๆ หลัง เมื่อคนภายในบ้านได้ลงมือก่อไฟเพื่อหุงอาหารอันเป็นกิจวัตรประจำวัน
ข้าพเจ้าออกไปยืนอยู่กลางลานดิน สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเสียเต็มอิ่ม ในทันใดนั้นเองข้าพเจ้าก็สะดุ้งสุดตัว หัวใจแทบหยุดเต้น เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของทหารจีนชาติจำนวนหนึ่ง วิ่งกระหืดกระหอบลงมาจากทางค่ายพร้อมกับกู่ตะโกนเกือบไม่เป็นภาษา
หลบภัย ! ... หลบภัย ! ... พม่าโจมตีพวกเราแล้ว !
มิทันจะสิ้นเสียงตะโกนแจ้งเหตุร้ายจากทหารเหล่านั้น ข้าพเจ้าก็รีบเผ่นพรวดเข้าไปในบ้าน มือไม้สั่นไปหมด หยิบฉวยอะไรไม่ถูก สติสัมปชัญญะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยทีเดียว
เสียงเครื่องบินครางกระหึ่มครึมครวญขู่ขวัญเข้ามาใกล้ถิ่นของเราทุกทีๆ เมื่อข้าพเจ้าผลุนผลันออกไปนอกบ้านก็ต้องปะทะกับฝูงชนจำนวนมากที่กำลังวิ่งสับสนอลหม่านกันอยู่อย่างเสียขวัญ เสียงกู่เรียกหากันอยู่มิขาด ประสานกับเสียงลูกเล็กเด็กแดงร้องไห้กระจองอแง ฟังไม่ได้ศัพท์
ตูม ! ตูม !! ตูม !!!ๆๆๆ... เสียงกึกก้องกัมปนาทของระเบิดมหาประลัยที่เครื่องบินพม่าโปรยลงมาเพื่อทำลายล้างทัพจีนชาติ ได้เปิดฉากขึ้นแล้วอย่างฉับพลันตามแผนการณ์ที่ได้เกริ่นไว้อย่างไม่คลาดเคลื่อน ต้นไม้ใหญ่ๆ ที่ขึ้นอยู่ข้างบ้าน ถูกระเบิด ยังผลให้มันหักสะบั้นและล้มฟาดลงมาทับหลังคาบ้านหลังหนึ่งยุบฮวบลงทันที
ปัง ! ปัง !! ปัง !!!... เสียงคำรามอย่างกระหายเลือดจากฝูงนกเหล็ก ขณะที่กราดกระสุนลงมาราวกับห่าฝน ขณะที่บินโฉบลงมาในระยะต่ำ พรึ่บ ! แสงเพลิงลุกโชติช่วงจับท้องฟ้า บ้านเรือนบางหลังและค่ายคูบางแห่งกำลังตกเป็นเหยื่อพระเพลิงที่ปฏิบัติหน้าที่ของมันอย่างสัตย์ซื่อ แต่ทว่าเกรี้ยวกราดทารุณ
ด้วยการนำของดวงจิตใต้สำนึก ข้าพเจ้าพร้อมกับเพื่อนบ้านโกยอ้าวลงไปหลบอยู่ในหลุมที่ขุดไว้ข้างๆ ลำห้วย เราทุกคนตัวสั่นเหมือนลูกนก เสียงหวีดหวิวของกระสุนปืนใหญ่วิ่งผ่านศรีษะเราไปและระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเมื่อกระทบพื้นดินเป็นระยะๆ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงระเบิด พวกเราขนลุกเกรียวและใจหายใจคว่ำ ในเวลาเดียวกัน เราก็ได้ยินเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของคนที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีใครโผล่หัวออกไปข้างนอก เราจึงได้แต่มองดูตากันเลิ่กลั่ก หลายคนพร่ำสวดมนต์ภาวนารำลึกถึงคุณพระเจ้าและคุณบิดามารดา ขอให้ช่วยคุ้มครองป้องกันชีวิตให้หลุดพ้นจากมหาภัยครั้งนี้อยู่อึงคนึง...
เสียงปืนจากฝ่ายทหารจีนชาติที่ยิงต่อสู้กับข้าศึกนั้นเบาบางเหลือเกิน เพราะมันจะได้ผลอะไรกับการต่อสู้กับเครื่องบินและกระสุนปืนใหญ่ที่ฝ่ายพม่าระดมยิงมาจากฝั่งท่าขี้เหล็ก ในเมื่อไม่มีปืนต่อสู้อากาศยานเลยแม้แต่กระบอกเดียว พวกเราและทหารจีนชาติผู้เคราะห์ร้ายจึงตกเป็นเบี้ยล่างให้พม่าย่ำยีเล่นอย่างสนุกมือ
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 55 01:01:45