ความคิดเห็นที่ 1 มีธรรมะเรื่องหนึ่งที่คนแต่โบราณใช้กันมา คือ อิทธิบาท ๔ อิทธิ...แปลว่า สำเร็จ บาท...แปลว่า ตีน, ที่มา อิทธิบาท ๔ จึงแปลว่า ๔ ที่มาแห่งความสำเร็จ...อันมี ๑. ฉันทะ ๒. วิริยะ ๓. จิตตะ ๔. วิมังสา ฉันทะ หมายถึง รัก ชอบ อยากได้... งานสิ่งใด จะสำเร็จลุล่วงลงได้ ก็ต่อเมื่อผู้กระทำมีความรัก หรือชอบ หรืออยากได้ ในความสำเร็จของงานนั้นๆ ลุงอ่ำ เคยถามผู้ที่กำลังจะสอบเข้าคณะวิศวะ จุฬาฯ ว่า ที่มาสมัครสอบเข้าที่คณะนี้ เธอมีความอยากจะสอบได้อยู่สักเท่าไหร่ อยากได้จนตัวสั่น หรืออยากได้ธรรมดา หรือได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถ้าอยากได้จนตัวสั่นละก็...สำเร็จไป ๒๕ เปอร์เซ็นต์แล้วละ ถ้าความอยากได้มีน้อย...ปัจจัยที่จะทำให้เกิดความสำเร็จก็พร่องลงไป ต่ำกว่า ๒๕ เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ สรุปว่า ถ้าอยากจะทำอะไรให้สำเร็จ ต้องตั้งต้นที่ความรักหรืออยากได้ในผลสำเร็จ เสียก่อน จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 16:56:28

ความคิดเห็นที่ 2 การดิ้นรนหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาบูชาหรือการไปบนบานศาลกล่าว จะได้เป็นที่พึ่งทางใจ น่าจะแสดงความรักความอยากได้แล้วใช่หรือไม่ ลุงอ่ำ คงตอบว่า คนละเรื่องกัน... ความรักในความสำเร็จ กับ ความกลัวในความล้มเหลว...ต่างกันโดยสิ้นเชิง ทุกเช้าเมื่อตื่นนอนแล้ว จงสลัดความกลัวที่ยังเกาะกินใจของตนออกไปเสียให้หมด ใช้สติตั้งความมุ่งหวังในความสำเร็จไว้ แล้วพยายามนึกถึงผลดี ที่ตนรัก ที่อยากได้      . ซึ่งจะติดตามมาหลังจากบรรลุความสำเร็จนั้น เอาไว้เป็นเรี่ยวแรงต้นทุนที่จะสร้างความสำเร็จ จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 16:57:36

ความคิดเห็นที่ 3 วิริยะ คือ ความเพียร...หมายถึง การอดทน ฟันฝ่าความยากลำบาก ในกิจที่ต้องทำ เพื่อให้บรรลุความสำเร็จนั้นๆ โดยไม่ระย่นย่อ ไม่ท้อแท้ต่อสิ่งยากลำบากทั้งปวง เรื่องนี้ ลุงอ่ำ คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะคนเราที่เจริญเติบโตมาได้จนถึงทุก วันนี้ ล้วนแต่ฟันฝ่าสิ่งต่างๆมามาก รวมทั้งยังได้รับการสั่งสอนจากพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา ให้เป็นคนขยันหมั่นเพียร ถ้าความเพียรมีน้อย...ปัจจัยที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ อีก ๒๕ เปอร์เซ็นต์ ก็พร่อง   . ลงไปตามลำดับ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 55 16:58:42 จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 16:58:23

ความคิดเห็นที่ 4 จิตตะ คือ อะไรหรือ ? จิตตะ คือ การจดจ่อ...หมายถึง การจดจ่ออย่างไม่ลดละ ความเพียร คือ การอุตส่าห์ทำให้สำเร็จ อดทนทำให้สำเร็จ ฟันฝ่าความยากลำบาก ทำไปให้สำเร็จ จิตตะ หมายถึง... - เช้าขึ้นมาก็คิดถึง...จดจ่อต่อสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จนั้นๆ - สายๆ     ก็คิดถึง...จดจ่อต่อสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จนั้นๆ - เที่ยง     ก็คิดถึง...จดจ่อต่อสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จนั้นๆ - บ่าย      ก็คิดถึง...จดจ่อต่อสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จนั้นๆ - เย็นย่ำค่ำดึกก็คิดถึง จดจ่อต่อสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จนั้นๆ - ยามกินข้าว ก็คิดถึง - ยามนอน ก็คิดถึง - ยามเดิน ก็คิดถึง - ยามเข้าส้วม ก็คิดถึง - ฯลฯ การมีจิตตะหรือมีจิตจดจ่อ ก็เป็นที่มาหรือเป็น "บาท" ที่ทำให้เกิด "อิทธิ" คือความสำเร็จได้จริงนะลูก ถ้าจิตตะมีน้อย...ปัจจัยที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ อีก ๒๕ เปอร์เซ็นต์ ก็พร่องลงไปตามลำดับ จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 16:59:26

ความคิดเห็นที่ 5 วิมังสา คืออะไร วิมังสา หมายถึงการใช้วิจารณญาณ การไตร่ตรองเรื่องราวที่ทำ ที่มา ที่ไป ด้วยเหตุด้วยผล ถ้าวิมังสามีน้อย...ปัจจัยที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ อีก ๒๕ เปอร์เซ็นต์ ก็พร่องลงไปอีกตามลำดับ จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 17:00:32

ความคิดเห็นที่ 6 พูดถึงตรงนี้ ลุงอ่ำ อยากจะกล่าวอะไรสักอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับ "ธรรมะ" ธรรมะในโลกเรานี้ มีอยู่คู่โลกมานานช้า และแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม... ๑. โลกุตตระธรรม...เป็นธรรมะที่ยิ่งใหญ่ เป็นธรรมะที่ทำให้คนเป็นคนดี ผู้ใดเข้าถึง หรือปฏิบัติตามธรรมะกลุ่มนี้ จะมีความเจริญ สามารถอยู่เหนือโลกได้ เป็นธรรมะที่สอนให้คนรู้จักบุญ บาป ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ สภาพพ้นทุกข์ และหนทาง ที่จะไปสู่การพ้นจากทุกข์ได้ สอนคนที่อยากรู้ อยากสว่าง อยากหลุดพ้นจากทุกข์ ให้ได้รู้จักศีล สมาธิ เพื่อสร้างปัญญา (และอธิปัญญา) เจ้าชายผู้ประเสริฐพระองค์หนึ่งที่มีพระนามว่า สิทธัตถะ หรือที่เราเรียกกันว่า สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเป็นผู้ที่ค้นพบธรรมะกลุ่มนี้ ด้วยพระปรีชา ด้วยอธิปัญญา   . หรือปัญญาอันยิ่งของพระองค์ แล้วท่านก็ทรงตรัสเรียกธรรมะเหล่านี้ว่า พุทธรรม หรือ...ธรรมะของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 17:01:33

ความคิดเห็นที่ 7 ๒. โลกียธรรม...หรือ ธรรมดา ธรรมชาติ อิทธิบาท ๔ หรือ ๔ ที่มาแห่งความสำเร็จ เป็นธรรมกลุ่มธรรมดา หรือธรรมชาติ กล่าวคือ ไม่ว่าจะทำอะไร ทำดี หรือทำชั่ว หรือทำกึ่งดีกึ่งชั่ว หากปฏิบัติไปตามอิทธิบาท ๔ ประการนี้แล้ว สำเร็จทั้งนั้น เพราะเป็นธรรมดา ธรรมชาติ ที่ต้องเป็นอย่างนี้ๆ จึงจะสำเร็จ จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 17:08:14

ความคิดเห็นที่ 8 เช่น หนุ่มอ่ำ อยากจะมีเมีย หนุ่มอ่ำ จะได้เมียสำเร็จได้อย่างไร เมื่อเขาเจอสาวที่ต้องใจ ก็เกิดรัก เกิดอยากได้จนตัวสั่น ...เรียกว่า มีฉันทะ เขาสู้อุตส่าห์บากบั่น พากเพียรไปให้เธอเห็นหน้า ...เรียกว่า มีวิริยะ เขาสู้จดจ่อ เช้าคิดถึง เย็นคิดถึง นอนคิดถึง เดินคิดถึง กินคิดถึง เข้าส้วมคิดถึง ...เรียกว่า มีจิตตะ เขาไตร่ตรอง ด้วยวิจารณญาน ว่า เอ...สิ่งที่เราทำมานี่ จะสำเร็จไหมหว่า... ...เรียกว่า มีวิมังสา เชื่อได้ว่า หากทุกคนปฏิบัติตาม อิทธิบาท ๔ ในที่สุดก็จะสำเร็จ เพราะธรรมดา ธรรมชาติ แห่งการไปสู่ความสำเร็จ..."มันเป็นเช่นนั้นเอง" จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 17:10:08

ความคิดเห็นที่ 9 โจร จะทำการปล้นทรัพย์ สิ่งแรกที่ทำให้โจรปล้นทรัพย์สำเร็จ คืออยากได้ทรัพย์ของเจ้าของทรัพย์จนตัวสั่น ...เรียกว่า มีฉันทะ โจรสู้อุตส่าห์บากบั่น พากเพียรฟันฝ่าอันตราย ปีนรั้วเข้าไปในบ้านเจ้าทรัพย์ ...เรียกว่า มีวิริยะ โจรสู้จดจ่อ ตื่นก็คิดการปล้น นอนก็คิดการปล้น เดินคิดถึง กินคิดถึง เข้าส้วมคิดถึง ...เรียกว่า มีจิตตะ โจรไตร่ตรอง ด้วยวิจารณญาน ว่า เอ...สิ่งที่เราจะทำนี่ จะสำเร็จไหมหว่า... ...เรียกว่า มีวิมังสา เชื่อว่า โจรคนนี้ คงจะปล้นทรัพย์ของเจ้าของทรัพย์ได้สำเร็จ เรียกว่า ทางแห่งความสำเร็จ ๔ ประการ อันเรียกว่า อิทธิบาท ๔ นี้ ...เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติ ...ไม่เกี่ยวกับการสร้างความดี การสร้างความชั่ว ความเจริญ ความเสื่อมถอย ...ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นการสร้างความสุข ความทุกข์ ใช้ได้หมด จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 17:18:03

ความคิดเห็นที่ 10 ยถา วาริวหา... ฯ สัพพี ติโย...ฯ เนื่องจากแรงดลใจ มาจากกระทู้ของแมวยุ่ง ดังนั้น บุญแลความดีใดๆ จากการอธิบายเรื่องควรรู้ควรทำในครั้งนี้ หากจะเกิดมีอยู่บ้าง ไม่ว่าจะมากจะน้อยเพียงใด ขอให้บุญกุศลดังกล่าวนั้น จงส่งผลให้แมวยุ่ง ผู้เป็นเพื่อน เป็นน้อง เป็นหลาน ของชาวเรา รสก. จงประสบความสุข จะคิดทำการสิ่งใดก็ขอให้สำเร็จ สมดังใจที่ปรารถนา ฯ จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 17:25:12

ความคิดเห็นที่ 11 ป้าจอยขออนุโมทนาในวิทยาทานของลุงอ่ำด้วยค่ะ จากคุณ : ป้าจอยเอง เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 18:22:15

ความคิดเห็นที่ 12 กราบขอบพระคุณคุณลุงอ่ำค่ะ... แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 55 18:50:19 จากคุณ : นกยิ้ม เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 18:49:45

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบพระคุณค่ะ ลุงอ่ำ จากคุณ : ขอพบในฝัน_เราจะข้ามเวลามาพบกัน เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 18:51:19

ความคิดเห็นที่ 14 สาธุ อนุโมทามิ จากคุณ : กิน ทาน เที่ยว เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 18:56:49

ความคิดเห็นที่ 15 แบบชาวบ้าน เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนครับลุงอ่ำ อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา 3ข้อนี้ ไม่อดตายครับ จะรวยก็อยู่ที่บุญ จะจนก็อยู่ที่กรรมครับ อย่างไหนจะถึงก่อนกัน หมั่นทำบุญ กรรมก็ตามไม่ทัน หมั่นทำกรรม บุญก็มาช่วยไม่ทันเหมือนกัน ผมคิดแค่นี้ครับ จากคุณ : ตาแว่น (chanyout) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 19:11:54

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบพระคุณค่ะ ลุงอ่ำ จากคุณ : เต่าทอง 1 จุด เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 21:26:59

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณลุงอ่ำมากที่ให้ข้อคิดดีๆ การทำใจให้สงบก็ทำให้มีสติขึ้นมาได้ ขอบคุณลุงอ่ำและทุกๆคนมากๆที่ให้กำลังใจ จากคุณ : เดเมลซ่าแมวแม่มด เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 22:10:13

ความคิดเห็นที่ 18 อยากประสบความสำเร็จจริงๆ ก็ควรต้อง "เริ่ม" ครับเริ่มทำ เริ่มก้าวแรก ถ้าไม่มีข้อนี้ไหว้กี่วัดก็คงช่วยอะไรยาก ต้องเริ่มลงมือทำ " 30ลิขิตฟ้า 70ต้องฝ่าฟัน " แปลว่า 30% โชคฟ้าชะตาลิขิต 70%ต้องทำ มุ่งมั่นเอง ถึงจะสำเร็จ  ไม่ทำไม่มุ่งมั่นไม่มีโชค...ไม่สำเร็จ จากคุณ : A Tu Cor@zon เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 00:20:23

ความคิดเห็นที่ 19 คารวะ ในภูมิรู้ ภูมิธรรม ของลุงอ่ำค่ะ ลุงอ่ำยังเป็นผู้ใหญ่ใจเมตตาเหมือนเดิมเลยนะคะ จากคุณ : น้อยหน่ามาเป็นเข่ง เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 16:49:23

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบพระคุณ คุณลุงอ่ำค่ะ... จากคุณ : phuketian เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 05:36:10

ความคิดเห็นที่ 21 มนุษย์ทั่วโลกนับถือศาสนาต่างๆกันทำไมมีผู้ประสบผลสำเร็จและผู้ไม่ประสบความสำเร็จ จากคุณ : มนุษย์ (fxf) เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 12:57:27