ความคิดเห็นที่ 1 เคยจับมาคั่วกินสมัยเด็กๆ อร่อยดีครับ...!! จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:41:01

ความคิดเห็นที่ 2 แมงมัน (อังกฤษ: The subterranean ants) เป็นชื่อเรียกของมดชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นมดราชินีสามารถนำมารับประทานเป็นอาหารได้ และมีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Carebara sp. 1 of AMK มดในตระกูลนี้มีการแบ่งวรรณะเป็น 6 วรรณะคือ -  วรรณะราชินีที่เรียกว่าแมงมันแม่หรือแม่เพ้อ -  วรรณะเจ้าหญิงทายาทที่เรียกว่าเต้งใหญ่ -  วรรณะสวามีที่เรียกว่าเต้งรอง -  วรรณะมดงานเรียกว่าแย็บ -   วรรณะทหารเรียกว่าแย็บใหญ่ วรรณะสร้างรังเรียกว่ามดแม่หมัน แมงมันตัวเมีย มีสีแดงคล้ำ ตัวใหญ่ มีรสมันนิยมนำมาบริโภคเป็นอาหาร เรียกกันทั่วไปว่า "แมงมันแม่" แมงมันตัวผู้ มีสีเหลือง ตัวเล็กกว่าแมงมันตัวเมีย ไม่นิยมรับประทานเพราะมีรสขม เรียกกันทั่วไปว่า "แมงมันปู๊" หรือ "แมงมันคา" แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 22:42:42 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:41:34

ความคิดเห็นที่ 3 แมงมัน เป็นอาหารตามฤดูกาลที่หาได้ไม่ง่ายนักจึงเป็นที่ต้องการของชุมชน ที่นิยมรับประทานทั้งไข่ และลูกแมงมัน เฉพาะตัวเมีย ดังนั้นแมงมันจึงมีราคาดีพอสมควร เพราะนอกจากจะมีน้อยแล้วปีหนึ่งๆ จะมีให้รับประทานเพียงครั้งเดียว ไข่แมงมันที่ เรียกว่า "แมงมันจ่อม" ขายเป็นช้อน (คาว) ๆละ 20 บาท ลูกแมงมันที่คั่วแล้วใช้ถ้วยน้ำจิ้มเล็กๆ เป็นถ้วยตวงถ้วยละ 60 บาท ถ้าเป็น ขีดๆละ 100 บาท ส่วนแมงมันตัวผู้จะใช้เป็นเหยื่อตกเบ็ดปลาช่อนปลาสลิด ภาพจากcm108.com จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:48:55

ความคิดเห็นที่ 4 แมงมันชอบอาศัยอยู่ตามที่ดินที่เป็นที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง ชอบดินแข็งและชอบอยู่ใกล้รากไม้ใหญ่ๆ คล้ายปลวก แต่ไม่ก่อ ดินหรือพูนดินขึ้นเป็นจอมปลวก ในรอบหนึ่งปีแมงมันจะออกจากรูเฉพาะเดือนพฤษภาคม คือฤดูฝน เพราะน้ำฝนที่ซึมลงดินทำให้ แมงมันอยู่ไม่ได้จะออกจากรูขึ้นมาอยู่บนผิวดิน แมงมันจะไม่ย้ายรังถ้าไม่ถูกรบกวนจากคน ก่อนที่ลูกแมงมันจะออกมาแม่จะออกมาก่อน เพื่อขยายรูให้กว้างขึ้น เพราะลูกแมงมันตัวโตกว่า แม่แมงมันจะใช้เวลาขยายรูประมาณ 3 ชั่วโมง ลูกแมงมันถึงจะต้องออกมา ข้อมูลวิกิพีเดีย   ภาพbanrongkhun.com จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:53:27

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~   ที่สวนแม่ริม ( สะลวง ) ไปไถดิน กวนรังเลยมีน้อยค่ะ ทานกับเป๊ปซี่เย็นๆอร่อยนะคะ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 22:59:14 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 22:58:29 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:58:05

ความคิดเห็นที่ 6 ตัวนี้ชอบที่สุดค่ะคุณเจ ทั้งแบบทอดและแบบจ่อม ตอนรอเก็บตัวลูก โดนตัวแม่กัดซะคันคะเยอไปหมด เอาขึ้เถ้ามาโรยแล้วก็กั้นไม่อยู่ ~ จากคุณ : ป้าหนาสองนิ้ว เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:03:57

ความคิดเห็นที่ 7 ตัวแมงมันที่มีปีกนำมาคั่วใส่เกลือเล็กน้อยเรียกว่า "แมงมันคั่ว" ไข่แมงมันจะนิยมนำมาแกงใส่ผักหวานหรือผสมไข่เจียว บ้างก็นำไปดองกับน้ำแช่ข้าวเหนียว (น้ำข้าวมวก) เรียกว่า "แมงมันจ่อม" "แมงมันจ่อม" แมงมันจ่อม หรือหลู้ใข่แมงมัน เป็นการปรุงอาหารด้วยวิธีการยำ โดยนำไข่แมงมันมาปรุง ให้ดองไว้ 2 คืนก่อน น้ำที่ใช้ในการหมักดอง ต้องเป็นน้ำต้มสุกทิ้งไว้อุ่น บ้างใส่ข้าวนึ่ง จะทำให้เปรี้ยวเร็วขึ้น นิยมรับประทานกับยอดสะเดา (อินทร วงค์กุฎ, สัมภาษณ์, 26 มิถุนายน 2550) เครื่องปรุง 1. ไข่แมงมัน 100 กรัม 2. เกลือ 1 ช้อนชา 3. น้ำต้มสุก 2 ถ้วย 4. พริกแห้งย่างไฟ 10 เม็ด 5. กระเทียมย่างไฟ 2 หัว 6. หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย 7. ผักชีซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ 8. ต้นหอมซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ใส่ไข่แมงมันลงในภาชนะสำหรับดอง 2. ใส่น้ำต้มสุก และเกลือ คนให้เข้ากัน 3. ปิดฝาให้สนิท หมักทิ้งไว้ 2 คืน 4. โขลกพริก กระเทียม รวมกันให้ละเอียด แล้วใส่ลงในชามแมงมัน ใส่หอมแดงซอย คนให้เข้ากัน 5. ใส่ผักชีต้นหอม ภาพจาก library.cmu.ac.th จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:14:00

ความคิดเห็นที่ 8 ทางอีสานกินสารพัดแมลงครับคุณเจ แมงสะดิ้ง(จิ้งหรีดน้อย)เดี๋ยวนี้เขาเลี้ยงได้แล้วครับ ขี้โปม(จิ้งโก่ง) ต้องไปขุดเอาครับ เบ้า (แมลงปีกแข็งชนิดหนึ่งเอาขี้ควายมาปั้นเป็นลูกกลมๆ มีตัวอยู่ข้างใน ตัวแม่จะพากลิ้งไป) บึ้ง(ตัวคล้ายแมงมุม) เผาแล้วกลิ่นหอมเหมือนกุ้งเผาครับ มีอีกเยอะ ชาวบ้านเขารู้จักหากิน ยิ่งพวกเห็ด ถ้าไม่รู้จัก ซี้ซั๊วกิน ต้องเอาไปฝังดิน ไม่ก็ต้องย่างไฟครับ จากคุณ : ตาแว่น (chanyout) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:18:56

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ : ป้าหนาสองนิ้ว  คะ  ที่โดนแม่มันกัดแสบด้วยค่ะ เลยเก็บแบบนี้ค่ะ    ไฟแบล็คไลท์ผูกติดปลายไผ่ ส่วนนีออนอยู่ข้างล่าง   แค่ไฟฉายตัวใหญ่   มันก็บินมาหาแล้วค่ะ แต่เจมีคีมปากแหลมยาวเป็นตัวช่วยนะคะ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:23:11

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับพี่เจและท่านผู้อาวุโส ผมละไม่กล้าทานแน่ๆ แต่สงสัยนิดนึงตรงที่ว่า มีวิธีเก็บอย่างไรครับ อย่างรูป คห. 4 เรี่ยราดยั้วเยี้ยอยู่กับพื้นเนี่ย ขอบพระคุณครับ จากคุณ : ธุลีล่องลม เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:25:46

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ : ตาแว่น (chanyout)  เจก็ทานหลายอย่างเหมือนกันค่ะ แมงนูน  เวสาทานบางทีหอมกุหลาบ  เพราะแมลงนูนเพิ่งกินดอกกุหลาบมา แมงจอน มาทานตอนโต จิ้งกุ่ง ( ออกเสียง จิ๊กุ่ง )  เวลาขุดในสวนจะโดนปู่ดุว่า เวลาปู่ไปค้าขายเดินป่า   กลางคืนจะฟังเสียงจิ้งกุ่ง  จิ้งหรีด  ถ้าเงียบเมื่อไหร่ เตรียมตัวค่ะ  ไม่โจรก็สัตว์ตัวใหญ่มา ที่คุณ : ตาแว่น (chanyout)บอกมาทางเหนือก็ทานค่ะ   แต่เจไม่ทานนะคะ  แมลงเม่า  เห็นบางคนทาน  แต่เจเอาไปให้ปลาดุกกินค่ะ ภาพจาก rakbankerd.com จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:51:58

ความคิดเห็นที่ 12 การเก็บ เวลาบ่ายแก่ๆ ใกล้ค่ำ หลังฝน ตกแล้วประมาณ ๑ - ๒ วัน อากาศปลอดโปร่งมีแดด วันนั้นจะเป็นวันแมงมันออก ชาวบ้านจะเตรียมขวดเปล่า ขี้เถ้า ตะข้องหรือตะกร้าที่ใช้กรองข้าวเหนียวแช่ (ซ้าหวด) บางทีก็ใช้สุ่มไก่เอาผ้าคลุมครอบปากรู แล้วเดินหารูแมงมันตามบริเวณที่แมงมันเคยออกเมื่อปีก่อนๆ เมื่อเห็นแม่แมงมัน กำลังกัดรูอยู่  รูแมงมันบางรูจะมีแมงมันออกเป็นจำนวนมากและรวดเร็วเก็บแทบไม่ทัน เรียกกันว่า "แมงมันกึน" คือ ออกอย่างคับคั่ง รูบางรูแม่แมงมันกัดดินแล้วไม่มีแมงมันออก ทั้งนี้เป็นเพราะมันรู้ตัวว่าจะมีภัยคือรู้ว่าจะมีคนคอยดักเก็บอยู่ ดังนั้นการหารูแมงมันจึงไม่ควรเดินเสียงดังจนหน้าดินสะเทือน แต่บางรูก็จะมีแต่ตัวผู้ออกก็มีค่ะ เชื่อกันว่ารูที่ตัวผู้ออกจะไม่เกิน 4 ปี  ถึงจะมีตัวเมียออกค่ะ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:07:34

ความคิดเห็นที่ 13 อ๋าย พี่เจคะ จากคุณ : ขอพบในฝัน_เราจะข้ามเวลามาพบกัน เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:08:58

ความคิดเห็นที่ 14 การเก็บแมงมัน มีข้อปฏิบัติ คือ ๑. โรยขี้เถ้าเป็นแนวป้องกัน มิให้แม่แมงมันกัดเพราะถ้าถูกกัดจะรู้สึกคันมาก ๒. อย่าใจร้อนจับแมงมันคารู ต้องรอให้มันกระพือปีกก่อน ไม่อย่างนั้นมันจะรู้ตัวพลอยมุดลงดินไม่ยอมออก ๓. อย่าเปิดรูให้กว้างเอง ๔. อย่าทำลายรูเมื่อเห็นว่ามืดค่ำแล้ว ควรครอบไว้ด้วยตะข้องหรือซ้าหวด แมงที่ออกมาภายหลังจะเกาะอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ๕  ปล่อยให้แมงมันออกมาเอง   ถ้าใจร้อนขุดจะไม่เจอตัวแมงมัน จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:22:12

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ : ธุลีล่องลม คะ  พี่ใช้คีมปลายแหลมยาว5"  - 6" จับค่ะ พอมันขึ้นมาพ้นรู  มันจะสะบัดปีก  แม่ตัวเล็กๆที่เกาะอยู่จะหลุดออก เราก็จะคีบใส่ขวดค่ะ คห. 9 ปลอดภัยจากแม่แมงมัน   เพราะบินมาเล่นไฟแล้วตกลงมาค่ะ พิมพ์ผิดเยอะมาก  ตัว ย  มีปัญหาต้องกดแรงๆ  บางที ย หายค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 02:48:29 แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 02:46:53 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:32:46

ความคิดเห็นที่ 16 คุณฝัน เด็กกทม.ไม่คุ้นอยู่แล้วค่ะ พี่เองก็ทานเป็นบางชนิดค่ะ น้ำพริกจี๊กุ่งค่ะ เครื่องปรุง 1. จี้กุ่งต้ม 7 ตัว 2. พริกหนุ่มย่างไฟ 7 เม็ด 3. กระเทียมย่างไฟ 10 กลีบ 4. หอมแดงย่างไฟ 5 หัว 5. เกลือ 1/2 ช้อนชา วิธีทำ 1. ย่างพริกหนุ่ม หอมแดง และกระเทียมให้สุก แกะเปลือกออก พักไว้ 2. โขลกเกลือ หอมแดง กระเทียม และพริกหนุ่ม รวมกันให้ละเอียด 3. ใส่จี้กุ่งต้ม โขลกคนให้เข้ากัน  น้ำพริกจี้กุ่ง หรือน้ำพริกจิ๊กุ่ง เป็นน้ำพริกที่มีลักษณะค่อนข้างแห้งถึงข้น ชนิดของพริกที่นิยมใช้คือ พริกหนุ่ม หรือพริกดิบ จะใช้จี้กุ่งต้มหรือย่างไฟก็ได้ ส่วนผสมนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นต่อตัวอ่อน แตนตัวอ่อน ผึ้งตัวอ่อน ด้วง (หนอนไม้ไผ่ หรือด้วงยอดไผ่ หรือรถด่วน) ไข่มดส้ม (ไข่มดแดง) ก็ใช้สูตรการทำเหมือนกัน และเรียกชื่อน้ำพริกว่า น้ำพริกต่อ น้ำพริกแตน น้ำพริกผึ้ง น้ำพริกด้วง น้ำพริกไข่มดส้ม (สุมาลี ทะบุญ, สัมภาษณ์, 27 มิถุนายน 2550) ภาพจากlibrary.cmu.ac.th แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 00:51:07 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:44:55

ความคิดเห็นที่ 17 เริ่มแม่แมงมันกัดรู จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:56:10

ความคิดเห็นที่ 18 แมงมันเริ่มโผล่ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:59:26

ความคิดเห็นที่ 19 สองตัว จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 01:01:42

ความคิดเห็นที่ 20 พร้อมให้จับแล้วค่ะ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 01:21:10

ความคิดเห็นที่ 21 รังในดิน   ที่ไม่มีทางเจอตัวแมงมัน   จะเจอแต่ไข่เท่านั้น ภาพจาก gotoknow.org จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 01:37:40

ความคิดเห็นที่ 22 ใ้อ้ตัวนี้ ไม่ค่อยเห็นมีขาย นะคะ คงจะหายากพอสมควรค่ะ จากคุณ : ยายภูธร เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 01:58:01

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีค่ะคุณโม อลินาดา  อาหารพื้นบ้านค่ะ ภาพจากpharamee.fix.gs จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 02:05:55

ความคิดเห็นที่ 24 เวลาจับต้องใจเย็นด้วยค่ะคุณ : ยายภูธร เห็นว่าตอนหลังกิโลเป็นพัน   แพงกว่ารถด่วน ปีหนึ่งออกครั้งเดียวค่ะ  ที่บ้านจะคั่วแล้วใส่ช่องแข็ง จะทานก็เอามาคั่วให้กรอบอีกครั้ง จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 02:30:28

ความคิดเห็นที่ 25 อรุณสวัสดิ์วันพฤหัสบดีค่ะ ขอบคุณคุณ[b]  tintila [/b]มาให้ความรู้เรื่องแมงมัน  ยังไม่เคยลองกินเลยค่ะ ไว้วันหน้าต้องลองชิมดู น่าจะอร่อย   จากคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 08:12:02

ความคิดเห็นที่ 26 แมงมัน สมัยเด็กๆ ผมเคยไปนั่งจับพร้อมกับพวกผู้ใหญ่ในบ้าน มักจะออกจากรูขุยช่วงหลังฝน ตอนค่ำๆ ก่อนจะออกมา มีฝูงตัวแม่มาเพ่นพ่านบริเวณปากรูขุย และอีกไม่นาน แมงมันจะโผล่ออกมา  ทางผมใช้แหนบถอนขนปลายแหลมๆ คีบเอาตัวแมงมันขณะจะเริ่มบิน หย่อนลงใส่ขวดเปล่า ใช้ฝาปิดเอาไว้กันมิให้บินหนี แต่ถ้าโผล่ออกมามากๆ คีบไม่ทัน ยกประโยชน์ให้บินหนีไปขยายพันธุ์ต่อไป ก็น่าแปลกตรงที่ฝูงตัวแม่ที่ออกจากปากรู ตัวเล็กนิดเดียว แต่แมงมันตัวโตกว่าหลายเท่า ช่วงที่เฝ้าปากรู ต้องใช้ขี้เถ้าโปรยกันมิให้ฝูงตัวแม่นั้นเข้ามากัด ก็เพลินไปอีกแบบหนึ่งครับ เพราะสมัยโน้นยังไม่มี ทีวี.ให้เฝ้าดูเหมือนทุกวันนี้ เฝ้าเก็บจนกระทั่งฝูงตัวแม่ที่เพ่นพ่านบริเวณปากรูขุยเริ่มซาลง ปกติมักจะไม่เกินสองทุ่ม หรือเก็บพอความต้องการแล้ว ถึงได้เลิกจับ เคยจับแมงมันมาหลายหน แต่ไม่ชอบกินแมงมันครับ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 08:39:45 จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 08:34:43

ความคิดเห็นที่ 27 ได้กินแมงมันคั่วครั้งแรก เมื่อราว ๔๐ ปีก่อนครับ อาจารย์ท่านหนึ่งที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ คั่วใส่ถุงมานั่งกินกับเพื่อน เราเป็นศิษย์ ไปเห็นเข้า เลยได้ลองชิม ท่านเทใส่ฝ่ามือให้เทใส่ปากเคี้ยว รสชาติและกลิ่น รู้สึกเลือนไป เพราะนานมากแล้วครับ จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 09:22:24

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan)  เป็นมือใหม่อย่าทานปีกนะคะ   จะติดเพดานปาก คอค่ะ จับปีกทานแต่ตัว  ค่อยละเลียดทานทีละตัวได้อารมณ์ดีค่ะ   ถ้ารู้สึกระคายคอดื่มเป๊ปซี่ตาม จะได้ค่าโฆษณาหรือเปล่าคะ ? ลองชิมนะคะคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan)   จับปีกตามรูปค่ะ  แล้วเข้าปาก จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 09:38:15

ความคิดเห็นที่ 29 อยากพูดว่า อร่อยมาก และจี้กุ่งด้วย จากคุณ : มัจฉา (chalor_a) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 09:43:32

ความคิดเห็นที่ 30 เคยไปดูลุงขุดหาไข่แมงมัน ลุงจะใช้วิธีจำว่าตรงไหนที่แมงมันเคยออก แล้วรอหน้าแล้ง จำไม่ได้ว่าเดือนไหน ถึงจะไปหาขุดไข่มัน . ขั้นตอนเท่าๆที่จำได้ ก็เอาจอบ ขุดดิน ขุดไปแถวๆที่แมงมันเคยออก ขุดทีละก้อน แล้วสังเกตดูดินที่จอบขุดมา ว่าดินก้อนนั้นมีรูเล็กๆ (รูมันจะเล็กกว่าก้านไม้ขีดนิดนึง) แล้วมีตัวแม่แมงมันตัวเล็กๆไต่ในรูด้วย นั่นแหล่ะใช่เลยมาถูกทางแล้ว จากนั้นก็สังเกตุว่าก้อนดินก้อนนี้ที่ขุดมา มาจากมุมไหนของพื้นดิน โดยเอาดินก้อนนั้นหันหัวหันหางให้ถูกตำแหน่งดังเดิมเหมือนกะตอนที่เราขุดดินก้อนนี้ออกมา เหมือนการต่อจิ๊กซอเลย ก็จะรู้ว่ารูแมงมันมันอยู่ตรงไหนของพื้นดิน เพราะรูตรงพื้นดินมันก็จะมีแม่แมงมันเดินอยู่ด้วย จากนั้นก็จะเด็ดเอาต้นหญ้า ตรงแถวๆนั้นนั่นแหล่ะ ไม่รู้เขาเรียกหญ้าอะไร ลำต้นจะเป็นเส้นตรง ขนาดเล็กกว่าไม้จิ้มฟันนิดนึง ความยาวของต้นหญ้ายาวเกือบๆ 2คืบ เอามาแย่รูให้ลึกที่สุดแล้วคาไว้อย่างนั้น จากนั้นก็ใช้เสียมขุดตามต้นหญ้าที่แย่ไป ต้นหญ้าที่แหย่ไปในรูมันจะคดเคี้ยวไปทางไหน ก็ใช้เสียมขุดตามไปทางนั้นแล้วสังเกตดูแม่แมงมันด้วย ปรกติแล้วแม่แมงมันจะติดมากับหญ้าที่แย่ลงไปเสมอ ขุดไปไม่นานก็จะเจอรังของมัน ... ถ้ารังไหนรังใหญ่ จะอยู่ลึก ความลึกของหลุมเกือบๆถึงเอวคนขุดเลย เมื่อเจอรังไข่แมงมันแล้ว ก็ใช้จอบเปิดปากหลุม เพื่อให้คนลงไปเก็บไข่แมงมันได้สะดวก วิธีเก็บก็เอาทัพพี ตักใส่ถัง มันจะมีทั้งดินทั้งหญ้า ...แล้วค่อยเอาไปกรองอีกที ตอนกรอง จำไม่ได้ว่าเขากรองกันยังไงอ่ะครับ อิอิๆ จากคุณ : เจ็ดเสมียน เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 10:51:51

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ : owl2 ไม่ชอบทานแมงมัน  เจหมดคู่แข่งไป 1 รายค่ะ เวลาเจจับที่รูแมงมัน  แถวบ้านเจไม่โรยขี้เถ้า   ยิ่งตอนหลังใช้ แบล็คไลท์ล่อ  สบายกว่าค่ะ เจเก็บใส่ขวดน้ำอัดลม  พอไต่ขึ้นมาเราก็เขย่าขวด ไม่ต้องปิดฝาค่ะ พวกเจเคยปล่อยถ้าปีกหลุดนะคะ   ให้ไปขยายพันธุ์ ที่ปล่อยก็แพร่พันธุ์ให้จับ  แต่สี่ปีที่ผ่านมากลายเป็นตัวผู้ออก รอให้กลับมาเป็นตัวเมียอีกทีค่ะ ภาพจากไทยรัฐ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:02:57

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ : ลุงอ่ำ คะ  เจเคยอยากทานมากๆ   พอไปรับจากรถทัวร์ แกะแล้วทานเลยไม่ต้องคั่วซ้ำ ( อาการหน้ามืดค่ะ  ) ไม่ยอมเสียเวลาเด็ดปีก   เข้าปากทีเดียวค่ะ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:11:19

ความคิดเห็นที่ 33 เจอคู่แข่ง คุณ : มัจฉา (chalor_a)    คงต้องแย่งกันแล้วค่ะ เคยไปซี้อจิ้กุ่งกับชาวบ้าน  ที่เขาไปจับในป่าแถวแม่โจ้ เมื่อสามสิบปีที่แล้ว เป็นร้อย  มีไข่ด้วยค่ะ   ยังนึกจับมาเยอะแบบนี้จะสูญพันธุ์หรือเปล่า ? จิ้กุ่งจะอร่อยกว่าตั๊กแตน   เพราะมีเนี้อมีหนังเยอะกว่านะคะ น้ำพริกแมงมัน เครื่องปรุง /ส่วนผสม ๑. พริกแห้งผิงไฟ ๗ - ๑๐ เม็ด หัวหอม ๒ หัว กระเทียม ๑ หัว กะปิปิ้งไฟให้สุก ๑ ช้อนชา ๒. แมงมันคั่วเด็ดปีกออกให้หมด วิธีทำ ๑. เอาพริกเสียบไม้ ย่างไฟสูง ๆ เรียกว่า "ผิงไฟ" พอกรอบและหอมอย่าให้ดำ ๒. กระเทียม หัวหอมหมกไฟพอสุก แกะเปลือกออก กะปิย่างไฟ ๓. แมงมันคั่ว ทุกอย่างโขลกด้วยกันให้ละเอียด จนมีลักษณะเหนียว เติมน้ำพอขลุกขลิก การกินน้ำพริกแมงมันจะต้องมีผักลวก เช่น ผักชะอม ยอดสะแล ยอดผักก้านถุง ยอดกระทกรก และยอดกระถิน จากเว็บculturelampang-chit130512.** ไม่ใช่ลิควิด ** จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:27:09

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ : เจ็ดเสมียน เก่งมากค่ะที่ขุดเอาไข่แมงมันได้ ที่สวนสารภีเห็นรูหลายที่   แต่ไม่พยายามขุดเพราะยุ่งยากมาก ขอทานแต่ตัวดีกว่าค่ะ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 12:12:31

ความคิดเห็นที่ 35 การขุดหาไข่แมงมัน          ชาวบ้านมักจะขุดหาแมงมันประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน   การหาแหล่งรังหรือโพรงที่อยู่ของแมงมันที่ง่ายที่สุดก็คือ ชาวบ้านจะขุดบริเวณที่แมงมันเคยออก ขุดเพื่อหารูเล็กๆโดยสังเกตจากการพบแม่แมงมัน จากนั้นจึงขุดตามรูไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบโพรงไข่สำรองที่เรียกว่า "โผ้งเผาะ" ซึ่งเป็นรังขนาดเล็กแต่ก็มีไข่แมงมันอยู่บ้าง จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 12:13:34

ความคิดเห็นที่ 36 จากนั้นค่อยๆ ขุดลงไปจะพบโพรงจริงที่เรียกว่า "โผ้งใหญ่" จะพบไข่เป็นจำนวนมาก ค่อยๆตักไข่แมงมันทั้งหมด หากพบนางพญามักจะปล่อยไปเพื่อให้ออกไข่ต่อไป จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 12:14:19

ความคิดเห็นที่ 37 นำไข่ทั้งหมดมากรองด้วยผ้าขาวบางค่อยๆเทน้ำล้าง เรียกว่า "ถะหลอง" เพื่อคัดเอารัง  เศษดิน เศษรากไม้ออก ส่วนหลุมเดิมตามความเชื่อบางคนจะเอาใบไม้หรือเศษกระดูกสัตว์ใส่ไว้ ก่อนกลบดินโดยเชื่อว่าแมงมันจะไม่ย้ายไปไหน การขุดแมงมันโดยวิธีนี้ เพื่อต้องการ ไข่  ตัวอ่อน และดักแด้ มาทำเป็นอาหาร   แต่การหาแมงมันด้วยวิธีนี้ แมงมันมักจะไม่มีให้ขุดหรือเก็บในปีต่อไป ดังนั้นชาวบ้านมักจะไม่ขุดในที่บ้านของตัวเอง แต่มักไปขุดตามป่าหรือนอกบ้าน จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 12:15:21

ความคิดเห็นที่ 38 ข้อมูลและภาพจาก gotoknow.org phrae.tv abinterservice.com abinterservice.com phayaorath.net sbayjai.com lovemaesai.com ballkung.diaryis.com isnhotnews.com xn--r3ce0ab1b.com จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 12:35:45

ความคิดเห็นที่ 39  ตามมาหาความรู้ค่ะ จากคุณ : @NBC เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 13:41:07

ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีครับคุณ tintila ไม่รู้ผมแพ้หรือเปล่า เคยซื้อแมลงทอดพวกนี้มากินแล้วอาการไม่ดี เหมือนจะหอบแล้วเป็นผื่นแดงๆ แต่ก็ไม่เข็ด ลองอีกทีก็เป็นเหมือนเดิมเลยไม่เอาดีกว่า แต่ก็เสียดายนะครับ รสชาติถูกปากอยู่ จากคุณ : นายธุรการ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 14:09:00

ความคิดเห็นที่ 41 จากคุณ : พ่อ@LLถุง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 16:05:57

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ : นายธุรการ แพ้แน่ๆ เจเคยทานแล้วทำท่าหอบ   ต้องหยุดไปตั้งนาน โดยมีแมงมันคั่วที่เหลืออยู่ในช่องแข็งตู้เย็น สามีให้เอาไปแจก   เจเคืองเขามากๆ ทานไม่ได้เก็บไว้ดูก็ยังดี จนแม่เอามาคั่ว    ลองเสี่ยงทานตามด้วยน้ำอัดลม ไม่เป็นอะไรค่ะ   คราวที่หอบคือทานน้ำเย็นตาม แต่ถ้าเป็นผื่นอย่าเสี่ยงทานนะคะ ภาพจากtalk.mthai.com แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 17:09:31 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 16:48:22

ความคิดเห็นที่ 43 คุณป้าเยาว์ : @NBC แมงมันเป็นแมลงที่แปลกนะคะ แม่ (พี่เลี้ยง )ตัวนิดเดียวคอยดูแล พวกเจจะดูตัวเมียที่โดนตัวผู้รุมเกาะ ( สี่ห้าต้ว) พอดึงตัวผู้ออกปีกหลุด    เจก็ปล่อยให้มุดดินลงไปเป็นแม่พันธุ์ต่อไป เวลาขุดรังจะไม่มีทางเจอเป็นตัวที่เดินออกมาจากรูหรอกค่ะ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 17:05:50

ความคิดเห็นที่ 44 สวัสดีค่ะคุณ : พ่อ@LLถุง   ทานแมงมันหรือเปล่าคะ ? จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 17:07:39

ความคิดเห็นที่ 45 สวัสดีครับป้าเจ ผมเองเป็นเด็กบ้านนอก เกิดในพื้นที่ภาคเหนือและโตมากับชีวิตในชนบทครับ มีบางประเด็นที่ผมเห็นต่าง ขออนุญาตแสดงความคิดเห็น และให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ เรื่องของแมงมันที่เอามาทำเป็นอาหารนั้น มีสองรูปแบบตามข้างบนนั้นครับ คือ กินไข่แมงมัน กับ กินตัวแมงมัน(แม่เพ้อ) ไข่แมงมัน(เต้ง)นั้น ชาวบ้านจะขุดมากินตามช่วงเวลา ตามข้อมูลป้าเจครับ และเขาขุดมากิน ทั้งแมงมันปู้(ตัวผู้) และแมงมันแม่(ตัวเมีย) ไข่ของแมงมันตัวผู้ก็เล็กกว่าไข่แมงมันตัวเมีย ตามสัดส่วนของตัวแม่เพ้อ(แมงมัน)ครับ และจะมีไข่ที่จะเจริญเป็นแม่แมงมัน(มดงาน)ซึ่งเรียกว่าแง่บ ด้วย ในหนึ่งรังหรือโพรง จะต้องแยกเป็นแมงมันปู้(ตัวผู้) หรือแมงมันแม่(ตัวเมีย)ชัดเจน ไม่มีปนเด็ดขาด แต่ทั้งสองชนิดจะมีไข่ขนาดเล็ก(แง่บ)อยู่ด้วย ตัวแมงมัน ที่เราได้กินกัน หรือออกมาจากรูให้เก็บนั้น คือโพรงที่ยังไม่โดนขุด ไข่ของแมงมัน จะเจริญ ออกมาจนเป็นตัวแม่เพ้อ เพื่อที่จะขยายพันธุ์ ในประมาณต้นฤดูฝน เมื่อฝนตก จะทำให้ดินอ่อนตัวครับ เมื่อแดดออกจัดๆ จะทำให้ดินนั้นร่วน ไม่เหนียวมาก ทำให้แม่แมงมัน(มดงาน) จะช่วยกันขุดรูออกมาทะลุหน้าดิน เพื่อให้แมงมันออกมา เพื่อการขยายพันธุ์ครับ (แมงมันจะไม่ออกมาถ้า หนึ่งฝนตกไม่มากพอให้ดินอ่อนตัวถึงรัง สองแดดไม่ส่องจัดๆให้ดินร่วนไม่เหนียวเกินไป ต้องทั้งสองอย่างร่วมกันครับ) แมงมันที่ออกมา ตัวผู้กับตัวเมียก็จะบินไปเพื่อจับคู่ผสมพันธุ์กัน แล้วตัวเมียก็จะบินไปสถานที่ใหม่ๆที่เหมาะสม แล้วกัดปีกทิ้ง ขุดเจาะเข้าไปฝังตัวอยู่ในดิน เพื่อวางไข่ หลังจากนั้นไข่ที่วางแล้วก็จะขยายพันธุ์ออกมา และเจริญจนเป็นรังใหม่ เมื่อรังเจริญเติบโตเต็มที่ก็เข้าวัฏจักรเดิม คือตัวนางพญาไข่ออกมาเป็นไข่แมงมัน ซึ่งก็น่าจะมีทั้งไข่ขนาดใหญ่(เต้ง) ที่จะเจริญเป็นตัวแมงมันและ ตัวแม่แมงมัน(แง่บ) พอตัวมันเจริญออกเป็นแมงมัน ก็เจาะออกมาเพื่อขยายพันธุ์สืบไปอีกครั้ง เมื่อชาวบ้านเห็น ก็จะรู้ว่ามีแมงมันอาศัยอยู่เป็นรังตรงไหน ก็จดจำเอาไว้ จนถึงช่วงมกราคม-มีนาคม ก็จะไปขุดดู ชาวบ้านที่ชำนาญ จะสุ่มขุดดินรอบๆบริเวณที่แมงมันเคยออก เพื่อหารู แล้วก็ติดตามรู ที่เป็นทางเดิน จนไปถึงรังหรือโพรงแมงมัน เมื่อรังแมงมันถูกขุดและตักเอาไข่ออกมาแล้ว ชาวบ้านมักเอาหญ้าหรือใบไม้ใส่เข้าไปในโพรงเก่า เพื่อพยามยามรักษาให้มันไม่ย้ายรัง และเจริญพันธุ์ใหม่อีก แมงมันที่ออกจากรู จะออกช่วงบ่ายๆของวัน โดยเฉพาะวันที่มีแดดแรงๆหลังวันฝนตก เมื่อชาวบ้านไปเก็บตัวแม่เพ้อมันมา ถ้าเสียงดัง หรือเกิดการกระเทือน หรือถ้ามืดค่ำแล้ว แมงมันก็จะหยุดออก และจะรอโอกาสออกมาใหม่ อาจเป็นวันถัดไปเลยถ้าสภาพดินและแสงแดดเหมาะสม ไม่ทราบจะงงกันหรือเปล่า แมงมัน(แม่เพ้อ)= ตัวพญาที่พร้อมขยายพันธุ์ มีแยกเป็นตัวเมีย(แดงขนาดใหญ่กว่า)กับตัวผู้(สีส้มขนาดเล็กกว่า) แม่แมงมัน=มดงานตัวขนาดเล็กสีส้ม เต้ง=ไข่ที่จะเจริญเป็นแมงมันหรือแม่เพ้อ แง่บ=ไข่ขนาดเล็กที่จะเจริญเป็นมดงานหรือแม่แมงมัน แมงมันจ่อม=คือไข่แมงมันที่เอามาทำการหมักกับน้ำแช่ข้าว เพื่อให้เป็นอาหารคล้ายๆกับการทำปลาส้ม หรือปลาจ่อมครับ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 01:42:20 จากคุณ : คุณชายไร้รัก เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 01:33:47

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณคุณ : คุณชายไร้รัก  สำหรับข้อมูลค่ะ ที่บ้านลองเพาะแมงมันแล้วค่ะ  ตัวเมียที่โดนตัวผู้รุมเกาะ ถ้าปีกหลุด   ลองเอาไปปล่อยใต้ห้องครัว บรรยากาศดีริมตลิ่งบ่อน้า    ใต้ต้นหูกวางใหญ่มาก ออกหลายปีให้จับ   ยกเว้นสี่ปีที่ผ่านมาเป็นตัวผู้ออกค่ะ แต่ปีนี้ที่บ้านสวน   สวนไถปรับหน้าดินรังคงถูกกวน ไม่มีวี่แววค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 13:03:35 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 08:29:58

ความคิดเห็นที่ 47 การเพาะเลี้ยงแมงมัน น่าสนใจมากครับ ต้องดูสภาพดินที่แมงมันชอบและต้นไม้ที่สามารถเป็นอาหารด้วยครับ จากคุณ : คุณชายไร้รัก เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 10:18:51

ความคิดเห็นที่ 48 เพิ่งเห็นรูปในรูของแมงมันค่ะ ไม่เคยเห็นเลย จากคุณ : ora (orazippy) เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 12:43:03