Out of Africa (พรากจากแสงตะวัน) เป็นความทรงจำที่ดีที่สุด
ที่คาเรนอยากเก็บเอาไว้และถ่ายทอดสู่จินตนาการของชาวโลก
ได้ชื่มชมความงดงาม ความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นในดินแดนที่เธอรัก
ความดีของคาเรนที่ถ่ายทอดแก่มวลหมู่มนุษย์ด้วยกัน
คือ ความรักที่มีต่อชาวผิวดำ ในฐานะเพื่อนร่วมโลก
ไม่มีการดูถูกเหยียดหยาม แต่ให้ความสำคัญแก่พวกเขา
ในฐานะผู้ใช้แรงงานหรือเพื่อนร่วมงาน มากกว่าที่จะไปเน้นในฐานะ
เจ้าของแรงงานทาส หรือเจ้าอาณานิคม
ในขณะที่แก่นสาระของเรื่องราวนั้น เน้นอยู่ที่ความรักของบุคคล
ที่เป็น เจ้านาย โดยการดำเนินเรื่องอยู่บนฉากหลังที่เป็นธรรมชาติ
ของทุ่งหญ้าซาฟารีแห่งแอฟริกาและชนพื้นเมืองเผ่ามาไซ
เด็กๆ ที่นั่งรอนาฬิกานกคุกคูแผดเสียงร้องในตอนเที่ยงวัน
ความยากจนข้นแค้นของเหล่านักรบมาไซและชายชราที่ต้องการเต้นรำ
ครั้งสุดท้ายบนแผ่นดินที่ถูกยึดครอง
คาเรน แสดงความอาลัยอาวรณ์ต่อการสูญเสียเดนิสเป็นอย่างมาก
เขาเป็นผู้ที่มีอิทธิพลเหนือจิตวิญญาณเสรีของ คาเรน
อาจกล่าวถึงความรักแทนเธอได้ว่า ...
เพราะความรักที่มีต่อเดนิส เธอจึงทำได้ทุกอย่าง
เว้นเสียแต่เรียกร้องความรักความอบอุ่นมาโอบกอดไว้ตลอดเวลา
ของช่วงชีวิตเธอได้ เมื่อความรักเป็นได้ทุกๆ อย่าง
มันก็ทำให้เธอดำรงชีวิตเหมือนคนที่รอวันตาย......
วันที่รักจะพรากเธอไปจากแสงตะวัน
แฮ่.