ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มด้วยประวัติของวัดทุ่งศรีวิไล บ้านชีทวน ตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ข้อมูลที่มา : http://www.watthung.com/index.php?option=com_content&view=article&id=56&Itemid=27 วัดทุ่งศรีวิไล ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ตั้งเป็นวัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2430 โดยมีใบเสมารายรอบบริเวณวัดหลายชั้น โดยการสันนิษฐานว่า วัดทุ่งศรีวิไล เป็นวัดที่มีการก่อตั้งมาแล้วถึงสองยุคสองสมัยแต่ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นปี พ.ศ. ใด โดยยุคแรกสมัยแรกสันนิษฐานว่ามีการตั้งวัดตั้งแต่ตอนที่เจ้าชายอินทสะเกษ แห่งเมืองอินทสะเกษ (ศรีสะเกษ) ได้ออกบวชเพราะสำนึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้นางเจียงไดบุตรสาวของอดีตเจ้าเมืองซีซ่วน (ชีทวนในปัจจุบัน) ต้องตาย (ตามประวัติศึกชิงนางเจียงได) แล้วได้มาอยู่ที่วัดทุ่งศรีวิไลแห่งนี้ ที่ซึ่งอดีตเคยเป็นอุทยานของนางเจียงได และได้สร้างเจดีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่นางเจียงได และก่อตั้งเป็นวัดในยุคสมัยแรกจนถึงปีไหนไม่มีปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเคยมีเจ้าอาวาสมากี่รูปเป็นเพียงการกล่าวเล่าขานสืบต่อกันมา ด้วยความที่วัดทุ่งศรีวิไลอยู่ไกลจากหมู่บ้าน จึงเป็นการลำบากสำหรับญาติโยมสาธุชนที่จะเข้ามาทำบุญสักการะเนื่องจากในสมัยอดีตบริเวณนี้เคยเป็นป่าหนาทึบ มีเพียงผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาใช้เป็นที่พักอาศัยจนกลายเป็นวัดร้างในเวลาต่อมา ยุคสมัยปัจจุบัน เนื่องจากมีการค้นพบพระพุทธรูปหินศิลาแลง ศิลปะสมัยทวารวดี ยุคขอมเรืองอำนาจเป็นจำนวนมากมายรายรอบบริเวณวัดทุ่งศรีวิไลแห่งนี้ แห่งซากปรักหักพังของทั้งเจดีย์ และธรรมาสน์เทศน์ ที่ก่อด้วยหินทรายในสมัยโบราณ ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นซากปรักหักพังจากวัดที่มีการก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยแรกดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และเหตุนี้เอง จึงเริ่มมีการบูรณะปฏิสังขรณ์ ในตอนแรกโดยการสร้างเป็นเรือนไม้เพื่อเก็บรวบรวมพระพุทธรูปที่ขุดได้แล้วอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่เรือนไม้ก่อนเพื่อจะได้เป็นที่สักการะบูชาแก่ชาวบ้าน ต่อมาเรือนไม้ที่เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปเกิดไฟไหม้ทั้งหลัง โดยคาดว่าน่าจะเกิดจากเทียนที่ชาวบ้านนำมาจุดบูชาไว้พระนั่นเอง และเหตุนี้เอง ก็ได้เกิด สิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้ชาวบ้านเกิดความเคารพศรัทธาเลื่อมใสเนื่องจากมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ชาวบ้านจึงเรียกชื่อว่าพระเจ้าวิเศษ และต่อมาได้เรียกเป็น หลวงพ่อพระพุทธวิเศษ และได้สร้างวิหารมั่นคงถาวรไว้เพื่อเป็นที่ประดิษฐานขององค์หลวงพ่อพระพุทธวิเศษ มีการก่อร่างตั้งเป็นวัดสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันเรียกชื่อว่า วัดทุ่งศรีวิไล เป็นแหล่งที่พระเกจิอาจารย์ดังทั้งหลายเคยมาปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องไม่เคยขาด วัดทุ่งศรีวิไล วัดนี้มีหลวงพ่อพระพุทธวิเศษ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหินศิลาแลงแกะสลักปางนาคปรก ขนาดหน้าตักกว้าง 55 เซนติเมตร สูง 90 เซนติเมตร ศิลปะทวารวดี เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่เคารพสักการะ ของชาวบ้านชีทวน นอกจากนี้บริเวณวัดยังมีใบเสมาหลายชั้นล้อมรอบอุโบสถ และวิหารหลังเก่าไปจนถึงกำแพงรอบวัด ทุกทิศตลอดทั้งสระน้ำใหญ่ รวมทั้งหอไตรและ ธรรมาสน์ซึ่งก่อด้วยอิฐในสมัยนั้น ก่อตั้งเป็นวัดมาแล้วกว่า 300-400 ปี แต่พึ่งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตั้งเป็นวัดอย่างถูกต้องตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์แห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีการจารึกเป็นลายลักษณ์อักษรการได้รับวิสุงคามสีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2430 ตามพระราชบัญญัติการขอตั้งวัดอย่างถูกต้อง และมีเจ้าอาวาสปกครองวัดทุ่งศรีวิไลมาแล้วหลายรูปด้วยกัน แต่เท่าที่มีการเล่าสืบต่อกันมาจากอดีตถึงปัจจุบัน ที่มีการบันทึกทั้งหมด 4 รูป ดังนี้ พระอัญญาท่านด้าน ไม่ปรากฏว่าเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดกี่ปี พระอาจารย์ครูบากัน ไม่ปรากฏว่าเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดกี่ปี พระครูคัมภีรวุฒาจารย์ (หลวงปู่หนู คัมภีโร) ปกครองวัดทุ่งศรีวิไล ถึง ปี พ.ศ. 2525 พระครูสุนทรสุตกิจ (มณี ผ่องแผ้ว) ปกครองวัดทุ่งศรีวิไล ปี พ.ศ. 2525 ถึง ปัจจุบัน มีเนื้อที่ประมาณ 24 ไร่เศษ (ขยายเขตวัดเพิ่มเติม) เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม วัดทุ่งศรีวิไลเป็นสำนักอบรมปฏิบัติธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันมีการปฏิบัติธรรมอบรมจิตภาวนาแก่ข้าราชการ หน่วยงานต่าง ๆ โรงเรียนทั่วในจังหวัดอุบลราชธานี วิทยาลัยต่าง ๆ อาทิ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีจังหวัดอุบลราชธานี รวมทั้งมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในจังหวัดอุบลฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นต้น ชมวิวรอบ ๆ ก่อนนะคะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:28:00

ความคิดเห็นที่ 2 เดินมาอีกนิด จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:28:48

ความคิดเห็นที่ 3 พญานาค จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:30:16

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนถึงทางเข้ามีดอกกล้วยไม้สวย ๆ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:31:41

ความคิดเห็นที่ 5 อยู่หลายต้น จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:32:13

ความคิดเห็นที่ 6 อีกต้น (ตกลงพาชมวัดหรือกล้วยไม้กันแน่) จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:33:22

ความคิดเห็นที่ 7 จากนั้นก็เป็นทางเข้าไปสักการะหลวงพ่อพระพุทธวิเศษ พระบรมสาร๊ริกธาตุ เจ้าแม่กวนอิม หลวงปู่หนู คัมภีโร ฯลฯ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:35:38

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาเจอดอกบัวกำลังบานสวยเชียว จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:36:40

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อเข้ามาในวิหาร จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:41:10

ความคิดเห็นที่ 10 ประวัติหลวงพ่อพระพุทธวิเศษ ข้อมูลที่มา : http://www.watthung.com/index.php?option=com_content&view=article&id=45%3Ajoomla-community-portal&catid=1%3Alatest-news หลวงพ่อพระพุทธวิเศษ เป็นพระพุทธรูปหินศิลาแลงปางนาคปรก ขนาดหน้าตักกว้าง ๕๕ ซม. สูง ๙๐ซม. ยุคทวารวดีมีอายุพัน ๆ กว่าปีล่วงมาแล้ว มีพระพุทธชัยสิทธิ์อยู่เบื้องขวา พระร่วงโรจนฤทธิ์อยู่เบื้องซ้ายปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวิหารวัดทุ่งศรีวิไล บ้านชีทวน นับเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวบ้านชีทวน และตำบลใกล้เคียง ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์ปาฏิหาริย์มาก ประชาชนชาวบ้านชีทวนและตำบลใกล้เคียงเมืองอุบลฯ ตลอดทั้งจังหวัดใกล้และไกล รวมทั้งสาธุชนชาวกรุงเทพมหานครต่างก็เลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงพ่อพระพุทธวิเศษ พระพุทธชัยสิทธิ์ พระร่วงโรจน์ฤทธิ์ ได้พากันนำดอกไม้ธูปเทียนมาสักการะมิได้ขาด เพื่อขอพรให้ปกป้องคุ้มครองรักษา และให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาชีวิตครอบครัว พร้อมด้วยบุตร-ธิดา และญาติพี่น้องของตน ทั้งที่อยู่ในต่างจังหวัดและต่างประเทศให้ประสบความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อพระพุทธวิเศษนั้น มีอยู่มากมายเป็นที่เลื่องลือขจรขจายไปทั่วภาคอีสาน และกรุงเทพมหานคร จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:44:27

ความคิดเห็นที่ 11 พระพุทธชัยสิทธิ์ - พระพุทธรูปคู่บารมี หลวงพ่อพระพุทธวิเศษ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:44:59

ความคิดเห็นที่ 12 พระร่วงโรจนฤทธิ์ - พระพุทธรูปคู่บารมี หลวงพ่อพระพุทธวิเศษ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:45:39

ความคิดเห็นที่ 13 ออกมาด้านนอกมีเทวดาอยู่รายรอบ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:46:50

ความคิดเห็นที่ 14 ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มาแก้ไขพิมพ์ผิด แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 55 04:48:23 จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:47:39

ความคิดเห็นที่ 15 แต่หาดูแล้วไม่มีประวัติของพระบรมสารีริกธาตุ ถ่ายผ่านประตูตาข่าย (ไม่ได้เปิดให้เข้าไป) จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:50:16

ความคิดเห็นที่ 16 เดินต่อมาจะเจอเจ้าแม่กวนอิม จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:51:17

ความคิดเห็นที่ 17 แบบใกล้ ๆ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:51:48

ความคิดเห็นที่ 18 ถัดมาแวะสักการะพระครูคัมภีร์วุฒาจารย์ (หลวงปู่หนู คัมภีโร) จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:53:27

ความคิดเห็นที่ 19 ประวัติ หลวงปุ่หนู คัมภีโร พระครูคัมภีรวุฒาจารย์ หลวงปู่หนู (หลวงปู่หนู นามสกุลเดิม ดั่งดอนบม) เกิดที่บ้านผือ ตำบลพระลับ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น บวชเป็นสามเณรที่วัดตาลเรียง ตั้งแต่ตอนอายุ 16 ปี เพื่อเรียนมูลกัจจายนะ ตำบลพระลับ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จนกระทั่งอายุได้ 20 ปี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดตาลเรืองจำพรรษาอยู่ที่วัดตาลเรียง 1 พรรษา หลังจากนั้นพรรษาที่ 2 ก็ได้ออกเดินทางเพื่อศึกษาเล่าเรียนมูลกัจจายนะและได้เดินธุดงค์มาเรื่อย ๆ จากจังหวัดขอนแก่น พร้อมกับพระคำผอง เดินทางมาด้วยกัน 2 รูป ผ่านมาทางจังหวัดกาฬสินธิ์ ร้อยเอ็ด และยโสธร จนกระทั่งเดินทางมาถึงบ้านชีทวนตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี และไปปักกรดอยู่ที่บ้านหนองแคนที่เรียกกันว่าดอนธาตุ แล้วจึงเข้ามาศึกษาเล่าเรียนมูลกัจจายนะที่วัดทุ่งศรีวิไล โดยมีพระอาจารย์ครูกัน เป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งศรีวิไล อยู่ในตอนนั้น หลวงปู่หนู หลังจากเรียนมูลกัจจายนะสำเร็จแล้วก็ไม่ได้เดินทางไปที่ไหนอีก อยู่จำพรรษาที่วัดทุ่งศรีวิไลนับจากนั้นเป็นต้นมา และสอนหนังสือกัจจายนะให้กับลูกศิษย์ลูกหาอีกมากมายหลายพรรษา จนกระทั่งพระอาจารย์ครูกันลาสิกขา หลวงปู่หนู จึงได้เป็นเจ้าอาวาสรูปต่อมา ต่อจากพระอาจารย์ครูกัน และทำหน้าที่สอนหนังสือตัวขอม ตัวธรรม และมูลกัจจายนะให้กับพระสงฆ์สามเณรที่มาขอเรียนศึกษากับท่าน หลวงปู่หนู นับว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความเคารพเป็นอย่างมาก และมีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั้งในตำบลชีทวน ต่างอำเภอ และต่างจังหวัดอีกมากมายเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งด้านมูลกัจจายนะมาก ด้านงานคณะสงฆ์ การปกครอง ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งศรีวิไล ต่อจากพระอาจารย์ครูกันเป็นครูสอนนักธรรมปริยัติ ได้รับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตรในราชทินนาม ที่ พระครูคัมภีรวุฒาจารย์ (หนู คัมภีโร) และได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ และเจ้าคณะตำบลชีทวน ปกครองคณะสงฆ์ชีทวนจนกระทั่งมรณภาพ ในปี พ.ศ. 2525 รวมอายุ 97 พรรษา 77 (ตามใบสุทธิ) ข้อมูลที่มา : http://www.watthung.com/index.php?option=com_content&view=article&id=6%3Awe-are-volunteers&catid=1%3Alatest-news จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 04:58:50

ความคิดเห็นที่ 20 เสาอโศกมหาราช เพิ่งตัดริบบิ้นเปิดเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2555 เวลา 12.15 น. เลยยังไม่มีประวัติ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:02:03

ความคิดเห็นที่ 21 พระธาตุอัญญาท่านด้าน เป็นพระธาตุที่บรรจุอัฐิของอดีตสมภารเจ้าอาวาส ผู้สำเร็จอภิญญาฌานนักปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรมฐาน เป็นเจ้าอาวาสที่มีการบันทึกไว้ว่าเป็นรูปแรก แต่ไม่ปรากฏว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. ใด และได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์เมื่อปี พ.ศ. 2531 เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของศิษยานุศิษย์ ข้อมูลคัดลอกมาจากแผ่นป้าย จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:02:59

ความคิดเห็นที่ 22 วิหารในอีกมุม จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:04:42

ความคิดเห็นที่ 23 ต่อไปก็ไปที่วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์ ไม่ไกลกันเท่าไรแต่เหมือนอยู่ไกลกัน วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์ เดิมชื่อ วัดศรีนวล ตั้งอยู่ที่บ้านชีทวน ตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 26 กิโลเมตร ใช้เส้นทางถนนแจ้งสนิท จากหอนาฬิกา ไปตามทางหลวงหมายเลข 23 (อุบล-ยโสธร) ประมาณ 21 กิโลเมตร จะถึงบ้านท่าวารี มีทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้านอีก 5 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ แหล่งโบราณคดีที่สำคัญ มีศิลปกรรมที่น่าสนใจ คือ ธรรมาสน์สิงห์เทินบุษบก วัดศรีนวล สร้างโดยครูญาตีนก้อม (ท่านอุปัชฌาย์วงค์ พรหมฺสโร) แต่ไม่ปรากฏปีที่สร้าง ชื่อวัดสีนวล ตั้งมาจากนางสีนวล ที่ถวายที่ดินให้ขยายวัด ภายหลังได้เพิ่มชื่อว่า แสงสว่างอารมณ์ ต่อท้าย และใช้ชื่อว่า วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์ มาจนถึงปัจจุบัน ข้อมูลมี่มา : http://guideubon.com/news/view.php?t=18&s_id=12&d_id=24 มาแก้ไข เปลี่ยนใจนำประวัติมาลงที่รูปนี้ดีกว่า แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 55 05:11:07 จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:08:20

ความคิดเห็นที่ 24 หอระฆัง จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:28:20

ความคิดเห็นที่ 25 ท่านอุปัชฌาย์วงค์  พรหมฺสโร จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:29:47

ความคิดเห็นที่ 26 หอแจก (ศาลาการเปรียญ) จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:31:06

ความคิดเห็นที่ 27 ธรรมาสน์สิงห์เทินบุษบก เป็นธรรมาสน์แห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีรูปแบบแตกต่างจากธรรมาสน์โดยทั่วไป กล่าวคือ มีลักษณะเป็นรูปสิงห์ ยืนเทินปราสาท(ตัวธรรมาสน์) สร้างด้วยอิฐถือปูน ยอดปราสาทเป็นเครื่องไม้ทำเป็นชั้นซ้อนลดหลั่น ประดับตกแต่งลายปูนปั้น และลายเขียนสีแบบศิลปะญวนทั้งหลัง ตัวธรรมาสน์ ตั้งอยู่ในหอแจก (ศาลาการเปรียญ) ทรงไทยที่มีจิตรกรรมฝ้าเพดาน ศิลปะสกุลช่างเดียวกัน ธรรมาสน์แห่งนี้ สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในปี 2468-2470 โดยช่างฝีมือไทยชีทวนกับช่างญวน ตามคติความเชื่อเรื่อง สิงหาสน์บัลลังก์ ลักษณะตัวสิงห์ ปราสาท หลังคาทรงมณฑป เป็นฝีมือผสมผสานของช่างญวนที่รับอิทธิพลฝรั่งเศส และที่เพดานหอแจก (ศาลาการเปรียญ) เหนือธรรมาสน์ มีฮูปแต้ม (ภาพเขียนสี) ที่งดงามฝีมือช่างญวน ถือเป็นประติมากรรมที่มีคุณค่ายิ่งทางด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียน เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้อมูลที่มา : http://guideubon.com/news/view.php?t=18&s_id=12&d_id=24 จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:32:18

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีค่ะพี่ก้อย เข้ามากระทู้นี้แต่เช้า รู้สึกร่มเย็นเป็นสุขค่ะ สงบๆเงียบดี รวมบรรยากาศเวลานี้ก็เงียบด้วย มีก้อยสบายดีนะคะ สุขภาพและร่างกายขอให้แข็งแรงยิ่งขึ้น อนุโมทนา สาธุ ค่ะ จากคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:35:30

ความคิดเห็นที่ 31 ตื่นขึ้นมา...ได้ทัวร์ฯวัด ชมภาพสวยๆ ชื่นใจดี.....ขอบคุณ ครับ จากคุณ : นายเก่าคนก่อน เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:43:03

ความคิดเห็นที่ 32 ดูจากภาพ สวย สะอาด ร่มรื่น ดีจังเลยนะครับ หากมีโอกาสสักครั้งในชีวิต ได้ไปสักการะ ก็คงดี (ใช้พีซี แก้ไขข้อความให้ถูกอักขระ) แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 55 06:14:18 จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:43:59

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดีค่ะป้าซิ่ง จัดการลงก่อนค่ะไม่งั้นพอทำนั่นทำนี่ก็จะไม่ได้ลงซะที ตัวสิงห์คำบรรยายเยอะหน่อยเลยเริ่มช้าแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ ขอให้ป้าซิ่งมีสุขภาพแข็งแรง และมีโชคมีลาภตลอดไปด้วยค่ะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:44:01

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะคุณลุงนาย คุณปูคะ ถ้ามีโอกาสก็เชิญค่ะ แต่เห็นล่องใต้ประจำไม่มาทางภาคนี้ซะที จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:46:41

ความคิดเห็นที่ 38 ทิศใต้แบบเอียง ๆ จะเห็นเสาเสาหงส์คู่ (แต่ไม่ค่อยชัดเท่าไร) จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:51:39

ความคิดเห็นที่ 41 เสาช่วงหัวสิงห์ ดูคล้าย ๆ กับคำบรรยายก่อนหน้าที่ว่า "ส่วนด้านขวานั้น ยังมีบุคคล 3 คน ซึ่ง 2 คนแรกเป็นชาย หญิง เดินควงกันซึ่งต่างกายในชุดชาวฝรั่งเศส และยังมีคนรับใช้ที่บนหัวมีถาดใส่ปลา ดอกบัว และดอกโบตั๋น" จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:54:39

ความคิดเห็นที่ 42 ลวดลายมังกร จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:55:14

ความคิดเห็นที่ 43 เสาช่วงหางสิงห์ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:55:49

ความคิดเห็นที่ 45 มุมไกล จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:57:25

ความคิดเห็นที่ 46 จิตรกรรมเขียนบนแผ่นสังกะสีบุเพดาน เขียนเป็นรูปราหู ลายดอกไม้ ใบไม้ รูปสัตว์ต่างๆ ลายดวงดาราขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเด็กมีปีก คล้ายกามเทพ เกี่ยวพันเป็นวงกลมข้างๆ ดวงดารา มีรูปพญานาคพ่นออกมา เป็นลายดอกไม้ป่า รูปเต่า ม้ามังกร อีกข้างมีรูปคนนั่งอยู่บนพญานาค 2 ตัว อยู่ในท่าอุ้มเด็ก ถือถาดผลไม้บนศีรษะ มีรูปพญานาค และรูปหงส์ด้วย ข้อมูลที่มา : http://guideubon.com/news/view.php?t=18&s_id=12&d_id=24 จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:58:10

ความคิดเห็นที่ 47 จิตรกรรมเขียนบนแผ่นสังกะสีบุเพดาน 1 จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 05:59:55

ความคิดเห็นที่ 48 จิตรกรรมเขียนบนแผ่นสังกะสีบุเพดาน 2 จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:00:29

ความคิดเห็นที่ 49 จิตรกรรมเขียนบนแผ่นสังกะสีบุเพดาน 3 จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:00:51

ความคิดเห็นที่ 50 นอกจากนี้ยังมีเกวียนโบราณ (ซ่อมแซมใหม่) จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:01:34

ความคิดเห็นที่ 51 คุณป้า ก้อย , สวัสดีค่ะ รูป สวย มากคะ :) จากคุณ : teddylovesbear เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:01:40

ความคิดเห็นที่ 52 สวัสดีค่ะน้องแคท ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:03:03

ความคิดเห็นที่ 53 รังต่อในวัดที่ตอนนี้กลายเป็นรังนก จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:03:36

ความคิดเห็นที่ 54 วัดนี้จะหาข้อมูลมาจาก 2 เว็บ เสียดายที่มาหาข้อมูลทีหลัง ในส่วนของธรรมาสน์สิงห์เทินบุษบกและจิตรกรรมเขียนบนแผ่นสังกะสีบุเพดาน เก็บรายละเอียดไม่ได้ครบ แต่แค่นี้น้ากับแม่ก็บ่นแล้วว่า "ถ่ายอีหยังกะร่อกะเรี่ยแท้" (ถ่ายอะไรกันมากมาย) อิอิ ได้ฟังดังนั้นก็เลยกลับขาดวัดพระธาตุสวนตาล ที่มีเรือขุดโบราณ ไม่ได้ไปแต่ก็เป็นการดีไม่เช่นนั้นจะเดินเยอะเกินไป แค่นี้ก็กลับมาขาช่วงตาตุ่มบวมแล้วค่ะ ขากลับนาข้าวระหว่างทาง จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:11:24

ความคิดเห็นที่ 55 อีกรูปนึง จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:12:07

ความคิดเห็นที่ 56 ปิดท้ายด้วยพระอาทิตย์ทรงกลดเมื่อวันที่ 19 ก.ค.55 ค่ะ ขอบคุณที่มาเยี่ยม ๆ มอง ๆ กันนะคะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:13:53

ความคิดเห็นที่ 57 เข้าวัดแต่เช้า ภาพสวยๆทั้งนั้นเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : ball pattaya เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:28:04

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีวันอาสาฬหบูชาค่ะคุณก้อย วันดีๆ  เช่นนี้ ขอตามไปทัวร์วัดด้วยคนนะคะ จากคุณ : phuketian เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:38:56

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณค่ะคุณ ball pattaya เชิญค่ะป้าสาวน้อย นาน ๆ จะเข้าวัดซักทีค่ะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 06:48:29

ความคิดเห็นที่ 60 คุณหญ้าหนวดแมว  ขอบคุณที่แบ่งปันครับ  จากคุณ : ฉันจะฝันถึงเธอ เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 08:25:45

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ แถมเกร็ดความรู้ประกอบด้วยครับ คราวที่แล้ว ผ่านเมืองอุบลฯ ชุมชนขยายตัวกว้างขวางมาก รถรามากมาย หรืออาจว่าผมผ่านไปแบบฉาบฉวยก็ได้ อ้อ...เกวียนโบราณ แกนดุมล้อจะเป็นไม้เนื้อแข็ง ไม่ใช่แกนเหล็กนะครับ จึงมีคำโบราณอยู่คำหนึ่งว่า "เกวียนหัก" คือเพลาดุมล้อหัก ต้องเปลี่ยนใหม่ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 09:13:47

ความคิดเห็นที่ 62  สบายตา  สบายใจ ดีจังเลยค่ะ จากคุณ : @NBC เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 09:18:43

ความคิดเห็นที่ 63 เก็บรายละเอียดได้เยี่ยมครับคุณก้อย ภาพถ่ายสวยมากครับ (รังต่อ ที่กลายเป็นรังนก นี่อเมซซิ่ง จังเลย ) จากคุณ : กอไผ่สีสุก เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 10:05:56

ความคิดเห็นที่ 64 สวัสดีค่ะ คุณพี่ก้อยจ๋าา. สบายตา สบายใจ ที่ได้ตาม มาชมวัดสวย ๆ ทุ่งนา เขียว ๆ ดูแล้วมีความสุขจังค่ะ เซียนขอให้คุณพี่ก้อยมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : siansian (siansian) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 12:18:00

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณครับ ได้ดูวัดที่รื่นรมย์ จากคุณ : คำบรรณ เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 12:57:01

ความคิดเห็นที่ 66 คอยฤกษ์วันพระนี่เอง มาเซ็นต์ชื่อไว้ก่อนนะคะ                ส วั ส ดี วั น พ ร ะ  ค่ะ จากคุณ : หนูออน (Oncidium.) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 15:14:15

ความคิดเห็นที่ 67 ได้ชมภาพสวย พร้อมสารคดีคุณภาพ ยากบรรยายบรรยากาศ เสียดาย ไม่ได้มี สนพ ไม่อย่างนั้น เล็งรอดแว่น..หนาเตอะ ขอบคุณค่ะพี่ก้อย จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 16:14:30

ความคิดเห็นที่ 68 ภาพสวย มากสาระ เพียบ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : สิบโท เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 16:17:45

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณคุณฉันจะฝันถึงเธอ ที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ พี่ตึ๋งคะ อุบลเป็นจังหวัดที่กว้างมากไปยังไม่ทั่วเหมือนกันค่ะ เรียกว่าไม่เคยไปไหนเลยนอกจาก 2 วัดนี่ล่ะค่ะ แก่งสะพือ ผาแต้ม สามพันโบก ก็ยังไม่เคยไปค่ะ   เรื่องเกวียนไม่แน่ใจ ลองไปขยายดูอีกภาพก็น่าจะเป็นไม้นะคะ ขอบคุณค่ะป้าเยาว์ ขอบคุณค่ะพี่กอไผ่ รังใหญ่มากถ้าไม่ครอปก็จะไม่เห็นนกค่ะ แล้วถ้าแต่ก่อนที่มีตัวต่ออยู่ก็คงจะไม่กล้าเดินไปใกล้ ๆ น้องเซียน ขอบคุณที่เข้ามาชมและอวยพรนะคะ ขอให้น้องเซียนมีสุขภาพดีเช่นกันค่ะ ขอบคุณค่ะคุณคำบรรณ คุณหนูออนคะ รอฤกษ์รอยามหน่อยนึงค่ะ แต่เซ็นต์แล้วอย่าลืมมาจ่ายด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะป้าหน่อย ดีแล้วค่ะที่ไม่มี เพราะเล็งมากก็ไม่ดีนะคะ อาจจะปวดตาได้ ขอบคุณค่ะป้าอ้วน เดี๋ยวนี้หาสาระง่ายหน่อย หาจากเว็บค่ะ ขอบคุณสำหรับกิฟท์ด้วยนะคะ :- นายเก่าคนก่อน, phuketian, owl2, กอไผ่สีสุก, siansian, urina, อลินาดา, Oncidium., พี่กี้ร์, ป้าจอยเอง,  nupvs, Stranger in your heart, ฉันจะฝันถึงเธอ, ตองเจ็ด, Mochica มาเติมผู้ให้กิฟท์ค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 55 03:45:32 จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 00:38:56

ความคิดเห็นที่ 70 พี่ตึ๋งคะ ภาพเกวียนขยายตรงล้อน่าจะเป็นไม้นะคะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 00:40:26

ความคิดเห็นที่ 71 สวัสดีค่ะพี่ก้อย    ไม่ค่อยมีโอกาสเข้าวัด  ได้ชมภาพ ที่พี่ก้อยนำมาฝาก ก็อิ่มใจ ไปด้วยค่ะ    ขอบคุณค่ะ     จากคุณ : แม่หมูใจดีจริง เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 07:18:17

ความคิดเห็นที่ 72 อนุโมทนาสาธุค่ะ จากคุณ : ตองเจ็ด เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 12:46:36

ความคิดเห็นที่ 73 น้องหน่อย ขอบคุณที่แวะมาชมภาพนะคะ พี่ต๋อยคะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 55 00:13:53

ความคิดเห็นที่ 74 :-)) จากคุณ : Mochica เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 55 01:02:51

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบพระคุณค่ะคุณยายโม :) จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 55 03:43:25