|
จากที่เห็นตัวอย่างภาพที่ จขกท.เอามาลงนี่ มันไม่ใช่การ นำส่งกระแสประสาทระดับชั้นม4-ม6ทั่วๆไปนะครับ
นั้นมันถึงขึ้นประยุกต์ใช้ในเรื่องกลไกการออกฤทธิ์ของยาเลยละครับ ซึ่งซับซ้อนกว่ามากครับ
ขออธิบายหน่อยนะครับ(พอดีว่าง)เผื่อว่าจะช่วยได้บ้าง
1.อย่างที่คห3บอกแหละครับ มันส่งไปทางเดียวจากaxon(ตัวส่ง)ไปdendrite (ตัวรับ)เท่านั้นไม่มีการส่วนกระแส เพราะถ้าส่วนกระแสได้ยุ่งวุ้นวายแน่ๆครับ และนี่เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้มันไม่มีเส้นประสาทเส้นเดียวจากแขนไปสมองเลย ต้องคอยมีตัวรับ-ตัวส่ง ตัวทำหน้าที่ส่ง ส่งได้เท่านั้น(คือแต่มีองค์ประกอบโครงสร้าง ที่ใช้ส่ง)ตัวทำหน้าที่รับ ก็รับได้เท่านั้น กลไกนี้ทำให้ไม่มีการส่งสัญญาณสวนกระแส
ดังนั้นถ้าสัญญาณส่งไปสมองทางหนึ่ง สมองจะส่งสัญญาณกลับมาที่เดิมอีกทางหนี่ง
2.ตำแหน่งการเชื่อมระหว่างaxon และdendrite เรียกว่า ไซแนฟ เคร็ฟ (55อังกฤษไม่เก่ง) เป็นบริเวณที่axonปล่อยสารเคมี(สารสื่อประสาท:neurotrasmitter) ไปจับกับ ตัวรับ(receptor)ที่จำเพาะ(เหมือนแม่กุญแจกับลูกกุญแจที่ยืดหยุ่นได้บ้างเพื่อจะได้ จับกันแน่นยิ่งขึ้น)ที่อยู่บนdendrite เพื่อที่dendrite จะได้ถอดรหัสว่า axonมีคำสั่ง อะไรให้ตนเองสั่งต่อไป (ถ้าaxonปล่อยสารสื่อประสาทที่แตกต่างจากเดิมออกมา ก็จะจับกับตัวรับอีกชนิดที่จำเพาะ แล้วdendriteจะได้รับคำสั่งที่ต่างจากเดิม)
3.เนื่องจากการส่งสัญญาณประสาทเป็นกระบวนการทีสำคัญและจำเป็น และต้อง การความรวดเร็วอย่างที่สุด ดังนั้นสารสื่อประสาท(ที่อยู่ตรงaxon)จำเป็นต้องสร้างเตรียม ไว้ก่อนแล้วเก็บรอไว้ในvesicle เมื่อมีสัญญาณมากระตุ้นก็จะมีCalciumมากระตุ้น ถุงเก็บสารปลดปล่อยสารสื่อประสาทออกมาครับ
4.หลังจากสารสื่อประสาทไปจับกับตัวรับแล้ว เกิดการกระตุ้นต่อเนื่องไปแล้ว สารสื่อประสาทที่ทำงานเสร็จแล้วไปไหน??? ก็เป็นไปได้หลายอย่างครับ ทั้ง มีสารอีกชนิดมาทำลายสารสื่อประสาทที่ทำงานเสร็จแล้ว, ปล่อยทิ้งให้ ระบายออกไปทางช่องทางต่างๆ,แต่ที่งกสุดๆ เห็นจะเป็นการเก็บกลับมา ใช้อีกแต่ก็เป็นกระบวนการที่สำคัญจำเป็นมากนะครับ เพราะร่างกายต้องเสีย พลังงานเยอะในการสร้างสารอันใหม่ขึ้นมา
5.เซลล์ประสาทที่เป็นตัวส่งเรียกว่า pre-synaptic neuron ส่วนเซลล์ประสาทที่ เป็นตัวรับเรียกว่า post-synaptic neuron ซึ่งจริงๆแล้วตัวส่งสัญญาณก็อาจจะ เป็นตัวรับมาก่อน
6.ในภาพบนนั้นจะเห็นว่าที่axon และdendrite จะเหมือนมีกระเปราะหุ้มอยู่อันนั้น เรียกว่า เยื่อหุ้มไมอีลิน เป็นตัวช่วยให้กระแสประสาทเดินทางไวยิ่งขึ้น(จากที่มัน ไวอยู่แล้ว) ถ้าให้นึกภาพง่ายๆคือ กระแสประสาทเหมือนคนดำน้ำยิ่งเสียเวลา โผล่เหนือน้ำเพื่อหายใจก็ยิ่งเสียเวลา ก็เลยมีเยื่อหุ้มไมอีลิน มากั้นไม่ให้เกิดการ แลกเปลี่ยนประจุถี่ไป(หาอะไรมากั้นไม่ให้คนโผล่เหนือน้ำมาหายใจ)ก็ทำให้การ เคลื่อนที่ของกระแสประสาทไวขึ้น
ส่วนในรูปที่จขกท.เอามาเป็นตัวอย่างนั้นมันเป็นการประยุกต์ไประดับยาซึ่งค่อนข้าง ซับซ้อนขึ้นหน่อย ถ้าเนื้อหาที่จขกท.ต้องแปลนั้นมีอยู่ด้วยแล้วสงสัยก็ค่อยถามหลังไมค์ได้ครับ แต่อย่างไรก็ตามกลไกพื้นฐานเหล่านี้ก็นำไปประยุกต์ในการผลิตยาช่วยชีวิตคน ได้มากครับ
จากคุณ |
:
ครั้งหนึ่งเคยเล่นดอท
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ส.ค. 55 10:08:58
|
|
|
|
|