ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นลองบอกก่อนได้มั้ยครับว่า คุณรู้เรื่อง หรือมีพื้นฐาน ระหว่างมี และ ไม่มีศาสนาบ้างหรือไม่ ?!! จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 13:46:12

ความคิดเห็นที่ 2 แทบจะไม่มีเลยค่ะ เลยมาถามหาข้อมูล ^^ จากคุณ : kwangwara เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 13:49:09

ความคิดเห็นที่ 3    อันนี้ต้องถามครับ...ว่าคนไม่มีศาสนา  เวลาตายมันก็ต้องข้องเกี่ยวกับศาสนา วันยังค่ำ จะเอาไปเผา...แบบพุทธ...หรือเอาไปฝังแบบคริสต์ หรือฝังแบบ มุสลิม ศพจะเอาไปเก็บไว้ณ.ตรงไหน...ผมเองกำลังจะถามคนไกล้ตัว ไม่ใช่เมีย แต่คือคนเกี่ยวข้อง ว่าเวลาตายจะให้ทำยังไง เพราะเขาไปเปลื่ยนศาสนาเป็นคริสต์ ในครอบครัวคือพุทธ มาจากพ่อแม่ แต่ผ่ามาเลื่อมใสในศาสนาอื่นๆได้สองเดือนและดุจะเคร่งรู้แบบผิดๆ จนผมรับไม่ได้เลยอยู่นี่ในความจริงแล้ว ทุกๆศาสนามุ่งสอนให้คนเป็นคนดีทุกๆศาสนาครับ แต่..คนรับจะแปล เปลื่ยนเจตนา ศาสนานั้นถูกต้องหรือไม่..เท่านั้นเอง จากคุณ : ขวัญชัยอิศรา (kwanchaiisra) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 13:58:23

ความคิดเห็นที่ 4 วัยรุ่นอย่างผมก็มึนเหมือนกัน พ่อเคยสอนว่า... ศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ในทุกศาสนาเหมือนๆกันหมด มีเป้าหมายเดียวกันคือ... ให้ชีวิตทุกชีวิตดำรงอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข มีปรัชญา คำสอนต่างๆ เป็นเครื่องชี้แนะ ให้เห็นถึงความดี ความชั่ว ที่มนุษย์ควรทำ หรือ ละเว้น นี่มายถึงผู้คนที่มีศาสนา เป็นที่เคารพโดยย่นย่อ สำหรับผู้ไม่มีศาสนา ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร ขอเดาเอาว่า... เขาอาจไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญ ต่อแนะนำ ต่อคำสั่งสอนของผู้รู้ ไม่สนใจความเป็นไปของผู้คนในสังคมโดยรวม มีตัวของตัวเอง เป็นสำคัญ  เชื่อมั่นในตนเอง เป็นสำคัญ ระหว่างความดี ความชั่ว เขาจะแยกแยะไม่ออก เขาอาจมองเห็นว่าสิ่งเหล่านั่น มันเป็นไปตามธรรมชาติของมัน เมื่อธรรมชาติเป็นอย่างนั้น ก็ปล่อยให้มันเป็นไป ตัวเขาเองก็เป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง ที่มีกฏข้อบังคับอยู่ในตัวของมัน ถ้าเขาคิดอย่างนี้ และถือว่า เขาไม่จำเป็นต้องนับถือในศาสนาใดให้วุ่นวาย ก็นับว่าเขาคิดผิด เพราะเขากำลังตกอยูในวังวนของพุทธศาสนา หรือถ้าเขาไม่คิดแบบนี้ คิดไปในแบบนี้เขา อยากมี อยากได้ อยากเป็น เขาก็ดิ้นไม่ออกจากพุทธศาสนาอีกนั่นแหละ เพราะความเป็นไปในสากลจักรวาล ในทุกอนูของธรรมชาติ ที่มีความเป็นไป อย่างธรรมดาๆ พระพุทธศาสนาสอนไว้ทั้งสิ้น เขาหนีไม่พ้นหรอกครับ... วัยรุ่นอย่างผมคิดได้แค่นี้แหละครับ เดี๋ยวฟังความเห็นท่านอื่นต่อไปครับ...!! จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 14:24:59

ความคิดเห็นที่ 5 เข้าใจว่า จขกท ยังอยู่ในวัยไม่เกิน 29+ แบบพวกกระผมส่วนใหญ่ในห้องนี้ ขอแนะนำให้อ่านหนังสือหลายๆ เล่มของทันตแพทย์สม สุจีรา ที่เขียนเรื่องเกี่ยวกับกฎแห่งกรรมทางศาสนาพุทธ โดยจะอธิบายในแนวทางวิทยาศาสตร์ และหนังสือเกี่ยวกับวิปัสสนากรรมฐานทั่วๆ ไปครับ กฎแห่งกรรมเป็นกฎสากลของธรรมชาติ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหนหรือไม่นับถือศาสนาใด ทุกคนจะต้องเป็นไปตามกฎนี้ ผมเชื่ออย่างนี้ครับ จากคุณ : ลุงแก่ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 15:02:10

ความคิดเห็นที่ 6 การไม่มีศาสนา ก็เป็นศาสนา จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 16:18:19

ความคิดเห็นที่ 7 ศาสนา คือ หลักความเชื่อ ว่าตนเองจะสัมพันธ์อยู่ในโลกแบบใด เช่น เชื่อว่า เวลาพ่อแม่ตายลง ตนจะทำศพอย่างไรจึงจะดี หรือปล่อยทิ้งไว้ในบ้านให้เน่า หนอนขึ้นจนละลายหมดไปเอง ถ้าตนตายลง คนอื่นๆในโลกที่ตนเกี่ยวพันอยู่ มีลูกเมียเป็นต้น เขาควรจะเอาศพตนไปทำอย่างไรจึงจะเรียกว่าดี เป็นต้น ศาสนา เกิดมาจากคนจำนวนหนึ่งเชื่อถือในลัทธิความสัมพันธ์ของคนในโลก แบบเดียวกัน ค่อยๆศึกษาต่อๆกันมา จนในที่สุด ก็เกิดศาสดาที่เป็นผู้ประกาศ ศาสนาขึ้น คนที่ไม่ได้ศึกษาหลักความเชื่อแบบใดๆเลย ถือว่าเป็นคนหลักลอย เหลวไหล แต่พอถามอะไรๆลึกๆเข้า เชื่อเถอะครับ เขาก็มีศาสนาอยู่ในใจ จากคุณ : ลุงอ่ำ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 16:55:12

ความคิดเห็นที่ 8 แบบ จขกท. นี่คือ "ไม่มีศาสนา" จขกท. ก็ได้ข้อมูลแล้ว 1 ด้าน (ก็.. ตัวเองไง) ต่อไป ถ้าอยากรู้ว่า คนมีศาสนาเป็นอย่างไร จขกท. ก็ลองเจียดเวลา สักเล็กน้อย ศึกษา "แก่นแท้" ของศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม แล้วจะได้รู้ว่า คนมีศาสนา เป็นอย่างไร แต่ละศาสนาต่างกันอย่างไร คนที่ไม่มีศาสนา จะชอบมองอะไรแบบภาพรวมๆ มองศาสนาเป็นเรื่องงมงาย เป็นความเชื่อ แต่ถ้าคุณ ลองมาเป็นคนที่ "มีศาสนา" คุณก็จะเห็นอีก มุมมองหนึ่ง >< ถ้าจะให้เล่าให้ฟัง มันก็ยาวอ่ะนะ อยากให้ศึกษาเองมากกว่า จากคุณ : Gretchen เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 18:03:18

ความคิดเห็นที่ 9 เราต้องรู้ก่อนว่าศาสนาคืออะไรครับ เอามาจากวิกิพีเดีย ศาสนา (อังกฤษ: religion) หมายถึง ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเหนือธรรมชาติ ในหลักอภิปรัชญาว่าทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้นมาดำรงอยู่และจะเป็นเช่นไรต่อไป มีหลักการ สถาบัน หรือประเพณี ที่เป็นที่เคารพโดยทั่วไป แล้วอาจกล่าวได้ว่า ศาสนาเป็นสิ่ง ที่ควบคุม และประสานความสัมพันธ์ของมนุษย์ ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข คือ ให้มีหลักการ ค่านิยม วัฒนธรรมร่วมกันและวิถีทางที่มนุษย์เลือกใช้ในการดำรงชีวิต ให้สังคมเป็นหนึ่งเดียวกัน มีแนวทางไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยหลักจริยธรรม คุณธรรม ศิลธรรมที่เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ความคิดของผมก็คือว่า ผู้ที่มีความเชื่อไม่นับถือศาสนา ที่เรียกว่า "อศาสนา" (อังกฤษ: irreligion) และผู้ไม่นับถือศาสนาเรียก "อศาสนิก" (อังกฤษ: irreligious person) นั้น เข้าต้องไม่เชื่อในอะไรเลย แต่ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้ และเขาจะต้องควบคุมไม่ได้ สานความสัมพันธ์กับผู้อื่นก็ไม่ได้ อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างปกติสุขก็ไม่ได้ ไม่มีหลักในการดำเนินชีวิต ไม่มีค่านิยม ไม่มีวัฒนธรรมที่จะไป ร่วมสังคมกับผู้อื่น บุคคลโดยทั้วๆไปจะอยู่มีชีวิตไม่ได้เลย แต่พวกนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ ยังติดต่อกับผู้อื่น ยังมีสังคม แสดงว่าเขาเหล่านั้นต้องมีความเชื่อในศาสนาแต่เขาไม่รู้ตัว จัดเป็นโมหะหลงมืดบอดและ สอนยาก จัดว่าเป็นบุคลว่างเปล่าครับเกิดมาหาประโยชน์ไม่ได้แล้วตายจากไปอย่างไรประโยชน์ สวัสดี จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 18:38:55

ความคิดเห็นที่ 10 คนมีศาสนาส่วนมาก จะมองไปถึงชีวิตหลังตายว่าเป็นไปได้มีจริง คนที่นับถือศาสนาไม่จำเป็นต้องวางใจเชื่อเต็มร้อย จนกว่าตนจะพิสูจน์ด้วยตนเองว่าเป็นอย่างนั้นจริง ส่วนตัวผม ผมนับถือศาสนาพุทธ เพราะดูเป็นศาสนาที่มีเหตุมีผล เป็นไปได้มากกว่าศาสนาอื่นๆ แต่อย่างน้อยสุด ผมว่ามนุษย์เราทุกศาสนาความคิดก็ควรที่จะรักษาศีลห้าให้ได้ เพราะมันเห็นผลได้ตั้งแต่ชาตินี้ แต่ผมว่าพูดเรื่องศาสนาก็พูดกันไม่จบ มันอยู่ที่เราต้องลองปฏิบัติพิสูจน์ด้วยตัวเราเองมากกว่าครับ จากคุณ : นิธิิทรัพย์ (KingPhilia) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 23:27:28