ป้าเห้ออออออออ...ครับ
เพิ่งอ่านเรื่องเล่า ของ คุณชาลี อินทรวิจิตร ผู้แต่งเพลง ท่าฉลอม...ครับ
**********************
“ที่ต้องแต่งท่าฉลอมเพราะโดนพี่สาวว่าเอาแรงๆ”
“เขาว่า พี่ไม่เคยเห็นแกแต่งเพลงให้บ้านเราสักเพลงเลย ดีแต่ไปแต่งให้บ้านโน้นเมืองโน้น ทุ่งรวงทองงี้ แสนแสบงี้ กว๊านพะเยาเอย สาวนครชัยศรีเอย”
ครูบอกตอนนั้น “เราก็สวนไปว่า”
“ก็ศรินทร์ทิพย์เขาเป็นสาวนครชัยศรี ผมจะแต่งเพลงให้แฟนไม่ได้เหรอ”
“พี่เขาว่าอีก แล้วท่าฉลอมมันเล็กนักใช่ไหม แกถึงแต่งไม่เป็น”
โดนจังๆให้เจ็บใจยังงี้ ทำเอาครูชาลีต้องมาคิดแต่งเพลงให้บ้านเกิดของตัว ครูบอกก็ท่าฉลอมน่ะเราเห็นมาตั้งแต่เด็กนานนมเนไม่ยักจะเห็นมีอะไร มันไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่อย่างนครชัยศรีเขามีส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวสวย ยังงี้ได้เพลง
แล้วครูก็เล่าอีก วันนั้นหลังมีปากเสียงกับพี่เราก็เดินไปเรื่อยๆ กะยังไงๆ จะได้อะไรมาเขียนเพลงได้มั่ง เดินไปจนสุดถนนที่ปลายสะพาน นั่งลงรอเรือข้ามฟาก กำลังเหงาๆ พอดีก็เจอะลุงคนหนึ่งรูปร่างบึกบึนผมหงอกขาวไปทั้งหัว คุยๆ ไปจึงรู้แกเป็นนายท่าเรือแถมเป็นคนบ้านเดียวกันซะอีก
ลุงบอก หนุ่มๆ แกเป็นชาวเลเรือประมงเรือหาปลาย่านนี้ทุกลำแกเคยกินเคยนอนมาทั้งนั้น เล่าไปได้สักพักก็หยิบใบจากกับยาในกระป๋องมามวนจุดสูบแล้วเฝ้ามองไปยังฝั่งมหาชัย แกบอกตอนหนุ่มๆ เริ่มริรัก คัดปลาดีๆ มาได้ ก็ผูกเอวว่ายข้ามไปฝั่งมหาชัยหาแม่พยอมคนรักที่รออยู่ แต่ความรักของไอ้หนุ่มตังเกเปรียบเหมือนพายุที่พัดผ่าน เพราะจากนั้นไม่นานแม่พยอมก็ถูกพรากจากฝั่งมหาชัยไปเป็นดอกไม้ให้ชายเมืองอื่นเขาชม
เรื่องราวชีวิตรักของไอ้หนุ่มตังเกเพียงแค่นั้นก็เกินพอแล้วสำหรับครูเพลงระดับ ชาลี อินทรวิจิตร ขณะที่เรือข้ามฟากมาถึง ครูเพลงจึงบอกกับนายท่าว่า
“ผมจะเขียนเพลงจากชีวิตรักลุงนะ” “เพลงอาราย” “ท่าฉลอม”
และเนื้อเพลงท่อนแรกของบ้านเกิดก็ปรากฏในห้วงคิดคำนึง
“พี่อยู่ไกลถึงท่าฉลอม แต่พี่ไม่ตรอมเพราะรักพยอมยามยาก”
จากคุณ |
:
นายเก่าคนก่อน
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ก.ย. 55 19:54:30
|
|
|
|