ความคิดเห็นที่ 1 โขนสด : ท้าวมาลีวราชว่าความ-2 จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 16:58:17

ความคิดเห็นที่ 2 โขนสด : ท้าวมาลีวราชว่าความ-3 จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 16:59:42

ความคิดเห็นที่ 3 โขนสด : ท้าวมาลีวราชว่าความ-4 จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 17:00:40

ความคิดเห็นที่ 4 โขนสด : ท้าวมาลีวราชว่าความ-5 จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 17:01:34

ความคิดเห็นที่ 5 โขนสด : ท้าวมาลีวราชว่าความ-6 ขอบคุณ คลิปวิดีโอ จาก youtube: nattsweety ที่กรุณาอนุรักษ์ ศิลปการแสดงสมบัติชาติชิ้นนี้ สืบไว้ให้ลูกหลานสืบต่อไป จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 17:04:59

ความคิดเห็นที่ 6  ป้าเยาว์ดูมาตั้งแต่เด็กเลยค่ะ คณะนี้พิเศษตรงที่เวลา รบกัน...ใช้การรบแบบกระบี่กระบองค่ะ จากคุณ : @NBC เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 17:22:52

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากครับ. จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 18:14:47

ความคิดเห็นที่ 8 ... จากคุณ : Resource of life เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 18:19:41

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อตอนที่ผมหัดโขน ก็มีเด็กคนอื่นๆหัดโขนสดด้วย ทางบ้านผมเรียกโขนสดว่าหนังสด โขนทั้งสองอย่างต่างกันก็จริง แต่ก็ยากคนละอย่าง โขนโรงนั้น ยากตรงที่ต้องฝึกรำ ฝึกท่ารับบทซึ่งก็คือ การแสดงท่าทางไปตามที่ผู้พากย์หรือเจรจากล่าว ยิ่งท่าสำคัญๆแล้วด้วยละก็ จะต่อทีหนึ่งก็ต้องตั้งขันทีหนึ่งกันเลยทีเดียว อย่างพวกเพลงน่าพาทย์เช่น. ตระนิมิตร ซึ่งคนที่เล่นเป็นตัวสำคัญต้องเรียนทุกคน กว่าจะต่อได้ แทบตาย บางทีขาลายเพราะครูหวดด้วยไม้เรียว ส่วนโขนสดหรือหนังสด คนจะหัดก็ต้องหัดเต้นซึ่งไม่ยาก ท่ารำของพระนางก็รำเหมือนลิเกเท่านั้น ไม่ซับซ้อนเหมือนโขน แต่จะยากตรงที่ต้องฝึกร้องเอง ใหม่ๆครูก็เขียนกลอนให้ร้อง หัดให้พูดเอง พอเล่นไๆ ก็จะคล่องมากขึ้น ในสมัยที่ผมเป็นเด้ก มีโขนสดออกทางวิทยุดังมากอยู่สองคณะ คือ บุญชู ชนประทีป และสังวาลย์เจริญยิ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมเหลือเกิน เสียงร้องของพระของนางคณะสังวาลย์นั้น ร้องไพเราะนุ่มนวล ส่วนทางด้สนบุญชู ก็เด่นทางร้องยักษ์ ร้องสำเนียงเหน่อออกทางตะลุงได้ดี ซุ่มเสียงเด็ดขาด ฟังแล้วนึกภาพยักษ์ร้ายออกเลย ผมชอบทางโขนจึงมาทางนี้ แต่ก็เหนื่อยพอกัน โขนนั้นรัดเครื่องมากกว่า หนัก อึดอัด สรวมหัวแล้วหายใจไม่สะดวก มองไม่ค่อยเห็น ยิ่งเป็นหัวเก่าจะเหม็นมาก อย่างหัวทศกรรฐ์หน้าทองนั้น หนักสี่กิโลกว่า ใส่ออกตอนนั่งเมือง ออกเพลงช้าปี่ ตาก็เล้กเท่าเม้ดพริกไทยร่อนเท่านั้น ใส่แล้วไม่เห็นทั้งสองตาหรอก ต้องเบี่ยงหัวให้เห็นเพียงตาเดียว  ก็พอเดินพอรำได้ ไม่ได้ใส่รบ จึงไม่เป็นไร พวกที่เล่นยักใหญ่ มักจะเกี่ยงกันออกนั่งเมืองเพราะเมื่อยและหนักหัว ส่วนโขนสดรัดเครื่องน้อย ไม่ซับซ้อนเพื่อความคล่องตัวในการเต้นการรำ หัวก็เป็นหัวกระดาษเป็นหัวกำมะลอเสียส่วนมาก ใส่ลงมาครอบแค่หน้าผากและแต่งหน้าเอา แต่ก็เอาเหงื่อหยดติ๋งๆได้พอกัน เดี๋ยวนี้หาดูโขนสดยากแล้วครับ ยิ่งครบเครื่องแบบสมัยก่อนยิ่งไม่เจอเลย ก็เสียดายอยู่เหมือนกันครับ จากคุณ : โขนไพร่รุ่นสุดท้าย (เตาฟืน) เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 18:59:07

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณค่ะ อยากดูของจริง  ไม่เคยดูค่ะ เคยแต่ดู โขนนอก  สมัยที่ คุณ เหนี่ยว ดุริยพันธ์ เธอยังมีชีวิตอยู่ เสียงของเธอแสนเลิศประเสริฐศรีจริง ๆ จากคุณ : Mochica เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 20:37:14

ความคิดเห็นที่ 11 โขนสดไม่เคยดูค่ะ เพิ่งทราบว่าเป็นแบบนี้เอง ขอบคุณนะคะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 23:57:57

ความคิดเห็นที่ 12 ยังไม่เคยนั่งชมเป็นจริงเป็นจังแต่ชอบครับ จากคุณ : พ่อ@LLถุง เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 00:43:17

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณที่นำมาให้ชม ครับ จากคุณ : sarasiri เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 01:31:56

ความคิดเห็นที่ 14 โขนสดหาดูยาก มีเฉพาะในงานพิเศษไปจากงานรื่นเริง เหมือน ๆ กับการบวชหน้าไฟ ลีลาจังหวะจะโคนจะคึกคักกว่าโขนแห้ง(โขนกรมศิลป์) ท่วงท่าลีลาร่ายรำ คึกคักเหมือนลิงลำพอง โขนแห้งดูแล้วเชื่องช้า ลีลาเยอะ ง่วงนอนไปซะก่อนทุกที เจ็บใจไอ้ทศพักตร์ มันมาแอบลักแม่รจนา จากคุณ : กรกฏ (Stranger in your heart) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 02:01:31

ความคิดเห็นที่ 15 เจ็บใจไอ้ทศพักตร์ มันมาแอบลักแม่รจนา น่าจะเป็น เจ็บใจไอ้ทศพักตร์ มันมาแอบลักเอาแม่สีดา ..เสียดาย..พระลักษณ์ กับ หนุมานที่บ้าน ก็อ้วนจนเต้นไม่ไหวแล้ว จากคุณ : @NBC เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 06:46:45

ความคิดเห็นที่ 16 เจ็บใจไอ้ทศพักตร์ มันมาแอบลักแม่รจนา ยืนยัน(ของผม)ครับ ทศกรรณ์ลักนางสีดาไป แต่พอพานางสีดาเหาะข้ามกระท่อมปลายนา .... เห็นแม่รจนาสวยกว่า เลยเอานางสีดาไปวางไว้ท้ายสวน แล้วอุ้นแม่รจนาหนีเจ้าเงาะไป นางสีดาจึงปลูกต้นไม้ออกผลมาจนทุกวันนี้ เพื่อให้พระรามได้ตามตัวเจอ.. ละมุดสีดา ........ จากคุณ : กรกฏ (Stranger in your heart) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 08:54:13

ความคิดเห็นที่ 17 กราบขอบพระคุณ ทุกท่านที่ให้ความกรุณา สนใจเรื่อง โขนสด ดีใจอย่างที่สุด ที่ได้รับความกรุณาจากครูเตาฟืน คุณพี่ป้าเยาว์ และคุณยายโม ผู้เคยผ่านยุคสมัยการแสดงพื้นบ้าน ชนิดนี้ ในสมัยเด็กๆ แถวบ้าน จะมีคนทำงานสองที่ คือ ที่การไฟฟ้า ฝ่ายผลิต และ กรมศิลปากร เป็นจำนวนมาก ในงานปลงศพ ถ้าจะดูว่า เจ้าภาพจัดได้สมฐานะ สมัยก่อนนั้น นิยมดูกันว่า ถ้ามีการแสดงโขนกรมศิลป์ เป็นอันรู้กันว่า ฐานะและญาติ ของผู้วายชมน์นั้น อยู่ในสถานะเหลือกินเหลือใช้ ค่อนไป ทางร่ำรวยมาก เพราะโขนกรมศิลป์ เป็นการแสดงที่ หาดูได้ยาก ราคาค่าแสดง แพงระดับเรือนแสนกว่าบาทขึ้นไปทั้งนั้น  เรียกว่า ไม่ต่ำกว่า คืนละ สามแสนบาท ต่อคืน ยกเว้นว่าถ้ามีญาติอยู่ด้านกรมศิลป์ ราคาต่อรอง ลดลงมาเล็กน้อย พอสู้ไหว ไม่ต้องใช้ระดับอาจารย์ หรือดารากรมศิลป์ ที่มีชื่อเสียง  แต่รับรองไม่มีเสียชื่อเสียง โขนกรมศิลป์ การมีหน้ามีตา  และการเคารพผู้วายชนม์ อยู่ที่การได้มีการจัด แสดงโขนกรมศิลป์ การมีเมรุลอย ที่จัดเป็นเขาพระสุเมรุเก้าชั้น และการยิงพลุ ตะไล ไฟเพนียง ไม่ต่ำกว่า 21 ชุด นี่คือความเชื่อ ของชาวบ้านร้านถิ่น ทางคลองบางกอกน้อย และชาวบางพลัด ในสมัยก่อน เรียกว่า ผู้วายชนม์ สั่งไว้ก่อนตายเลยทีเดียว ในรายที่เจ้าภาพ มีฐานะรองลงมา หรือปราถนาประหยัด ก็จะจัด การแสดงโขนสด (โขนสดเข็มพระราชทาน คณะสังวาลย์เจริญยิ่ง )   และ/หรือ ลืเก (คณะบรรหาร ศิษย์หอมหวล )  และ/หรือ ลำตัด (คณะหวังเต๊ะ) เท่านั้น การแสดงชุดหลังนี้ ราคาประมาณ 40,000-60,000 บาท ต่อคืน ต่อรายการ เจ้าภาพบางท่าน จัดให้มีการประชัน ของ โขนสด กับลำตัด เรียกว่า มีการแสดงไปจนรุ่งเช้า เก็บอัฏฐิ กันทีเดียว โขนสดเดิมเรียกว่า หนังสด ปรากฏหลักฐานในปี พ.ศ. 2474 โดย นายท่าน เหล่าอุดม เป็นคนจังหวัดชลบุรี มีอาชีพแสดงละครแก้บน ได้พบเห็นคนเมาสุราในงานปลงศพร้องเพลงประกอบท่าเต้นแบบหนังตะลุงเต้น จึงได้คิดนำมาจัดการแสดง แล้วเรียกขานการแสดงนี้ว่า หนังสด คณะที่ทำชื่อเสียงมากคือ โขนสดเข็มพระราชทานสังวาลย์เจริญยิ่ง แห่งทุ่งพระโขนง (ซอยสุขุมวิท 48)  โครงสร้างการแสดงประกอบด้วย ส่วนพิธีกรรมและการแสดงคือ พิธีปลูกโรง บูชาครู โหมโรงปี่พาทย์ โหมโรงกลองตุ๊ก รำถวายมือ ไหว้ครูฤาษี แล้วนำเข้าการแสดงที่มีลักษณะพิเศษ เพราะเป็นการแสดง มาผสมผสานหลายศาสตร์ ได้แก่ การแสดงหนังตะลุง การแสดงโขน การแสดงลิเกและการแสดงละครชาตรี จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 13:20:44

ความคิดเห็นที่ 18 คณะสังวาลย์เจริญยิ่ง สมัยนั้น นอกจากแสดงแล้ว... ยังมีชุดไว้ให้คณะอื่นเช่าใส่แสดงด้วยค่ะ จากคุณ : @NBC เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 14:44:42

ความคิดเห็นที่ 19 คณะดุลยประณีตแห่งบ้านบางลำพู  เป็นครูสอนดนตรีไทย ในโรงเรียนสตรีล้วน ที่ปลูกฝังรากฐานดนตรีและนาฎศิลปไทย ในเบื้องต้น (เรียนคู่กับ ครูหม่อมอาจารย์ ท่านสอนนาฏศิลป์) เกิดไม่ทันสมัยคุณครูเหนี่ยว ดุริยพันธ์ แต่ทันฟังเพลง ตับจูล่ง เสียงร้องของท่าน คุ้นหูมาแต่เยาว์วัยเลยค่ะ ตับจูล่ง นี้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงพระนิพนธ์และบรรจุเพลง โดยดำเนินตามเรื่องสามก๊ก ประกอบด้วยเพลงจีนขิมเล็ก จีนช้วน จีนเสียผี ฮูหยิน จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 14:56:36

ความคิดเห็นที่ 20 กราบขอบพระคุณ คุณพี่ sarasiri คุณพี่ป้าเยาว์ คุณพีกรกฏ (Stranger in your heart) คุณครูดนตรี-ขับร้อง ครูพจนารถ๓๒๒ คุณลุงกระต่าย Resource of life   คุณพี่ก้อย หญ้าหนวดแมว คุณพ่อ@LLถุง กราบขอบคุณ และขอบคุณ ทุกกำลังใจจากทุกท่านที่ออกนามและ ไม่ออกนามค่ะ คุณ countdown, ท่านอาจารย์ นายเสลา,  พี่แว่น chanyout, คุณครูพจนารถ๓๒๒, พี่Kpss กอไผ่สีสุก, พี่นายเก่าคนก่อน, พี่เยาว์ @NBC, พี่ก้อย หญ้าหนวดแมว, คุณยาย Mochica, อาจารย์คุณลุงอ่ำ, คุณวิรุฬ บ้านหนองจันสอน, น้องโม อลินาดา, คุณเอก (น้อง) แนนแฟนคลับลำดับที่หนึ่ง,  คุณ พ่อ@LLถุง, คุณ Gee Dai เพลงกุหลาบหอม (ทำนองเพลงไทย ขึ้นพลับพลา) คำร้อง - ทำนอง : ขุนวิจิตรมาตรา ขับร้อง คุณ นฤพนธ์ ดุริยพันธ์ บุตรชาย ครูเหนี่ยว ดุริยพันธ์ จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 15:09:32

ความคิดเห็นที่ 21 เพิ่มเติมเพื่อความสมบูรณ์และลงลึกอีกสักหน่อย ในเรื่องของโขนสดหรือหนังสด โขนสดนั้นเวลาแสดงจะดำเนินเรื่องแบบลิเก ใช้เพลงประกอบเหมือนลิเกเช่นเพลงเชิด เสมอ การพูดหรือการเจรจาก็เหมือนกับการแสดงลิเกทั่วไป แต่ก็มีที่พิเศษคือเอาแบบการพากย์ของโขนมาใช้ ในบางช่วงบางตอนแต่ก็เป็นผู้ที่แสดงเองนั่นแหละเป็นผู้ออกพากย์(พูด) แต่การแสดงโขนสดต่างกว่าลิเกคือ ลิเกนั้นก่อนจะแสดงจะมีการ"ออกแขก" แต่โขนสดจะมีฤาษีออกมาชุมนุมเทวดาและกล่าวโองการ ด้วยลักษณะเฉพาะของโขนสด และเมื่ออตอนฤาษีเข้าโรง ก็จะใช้เพลงเชิดตะลุง นับเป็นแบบแผนตายตัวทีเดียว กลอนที่ร้องก็ใช้กลอนธรรมดา จำพวกกลอนหัวเดียว และนิยมใช้ "กลอนรา"(คือลงท้ายด้วยสระอา) ความเร็ว จังหวะ และสำเนียงจะต่างกันไป ลิงอย่างหนึ่ง ยักษ์อย่างหนึ่ง พระและนางก็อีกอย่างหนึ่ง ลิงมักจะร้องเร็ว กลม ยักษ์มักจะร้องกระแทกกระทั้น หนักแน่น ออกสำเนียงเหน่อทางตะลุง พระและนางจะร้องช้า นุ่มนวล หวานกว่า เป็นต้น ในโขนสด หนุมานมีตัวตลกลิงออกคู่ด้วยเสมอ ชื่อหนุมวย เป็นตัวชูโรงของโขนสดฝ่ายลิง จะสรวมหัวลิงกำมะลอกลับหลัง และเอาหางไว้ข้างหน้า คนดูโดยเฉพาะเด็กๆชอบหนุมวยกันมาก เพราะตลกและทะลึ่ง หนุมวยมักจะร้องกลอนเพี้ยนๆและกลับตาละปัดกับหนุมาน ซึ่งเรียกเสียงฮาได้ทุกที เช่น...เมื่อออกตอนต้น หนุมานก็จะร้องว่า.... หนุมานชาญสมร กระบี่วานรพักผ่อนกายา เจ็บใจไอ้ทศพักตร์มันมาลอบลักเอานางสีดา วันนี้ก็สามโมงเช้าต้องรีบไปเฝ้าองค์พระจักรา คิดพลางไม่รอรีขุนกระบี่ก็ไคลลคา (ซึ่งกลอนนี้เป็นกลอนที่ผู้เล่นใหม่ๆท่องจำได้แม่น เพราะง่ายมาก) พิณพาทย์ก็ทำเพลงเชิด..... เจ้าหนุมวยก็จะร้องบ้างว่า.... กล่าวฝ่ายเจ้าหนุมวยมานั่งกินกล้วยอยู่บนหลังคา วันนี้ก็สามโมงเช้าจะรีบไปเฝ้าองพระจักรา ว่าพลางมิช้าทีจึงเดินตามพี่ไปที่พลับพลา.. อย่างนี้เป็นต้น.... .หรือเมื่อถึงทีใช้การพากย์บ้าง เมื่อหนุมานถูกยักษ์ตีจนแทบตาย ก็ร้องเป็นสำเนียงพากย์ออกมาว่า... หนุมานถูกตี แสนเจ็บปวดกายี  ชีวีแทบจะวางวาย......(เพ้ย) เจ้าหนุมวยก็จะร้องออกมาบ้างว่า... หนุมวยถูกตี  ตกลงบนเว็จขี้  ขี้แตกกระจาย....(เพ้ย) ว่ามายาวพอเป็นสังเขปครับ ให้เห็นเบื้องลึกของโขนสดได้อีกด้านหนึ่ง ใครที่เคยดูก็คงจะนึกออกดอกนะครับ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 19:40:57 จากคุณ : โขนไพร่รุ่นสุดท้าย (เตาฟืน) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 19:37:09

ความคิดเห็นที่ 22 ...เรียนคุณ : โขนไพร่รุ่นสุดท้าย (เตาฟืน)   ถ้าไม่รังเกียจ.. สักวัน คงได้มาคุยกันเรื่องหนังสด นะคะ หนุมวย..จะใส่หัวกลับไปด้านหลัง..แล้วห้อยหางไว้ด้านหน้า ด้วยหรือเปล่าคะ จากคุณ : @NBC เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 22:22:03

ความคิดเห็นที่ 23 ใช่ครับเป็นเอกลักษณ์เลย จากคุณ : โขนไพร่รุ่นสุดท้าย (เตาฟืน) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 18:35:24