Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องของกรรม ติดต่อทีมงาน

บันทึกของคนเดินเท้า

                                                                 เรื่องของกรรม           โดย............... "ปภัสสร"
         
                      ในพุทธศาสนามีคำสอนอยู่ว่า ธรรมะคือธรรมชาติ  กฎของธรรมชาติ  การปฏิบัติตามกฎของธรรมชาติ  และผลของการปฏิบัติตามกฎธรรมชาตินั้น

                   ซึ่งมีข้อความขยายต่อไปว่า กฎธรรมชาติ  มีอยู่ ๕ อย่าง คือ    กฎแห่งฤดู กฎแห่งพืช กฎแห่งจิต   กฎแห่งธรรม  และ กฎแห่งกรรม

กฎแห่งกรรม  เป็นกฎแห่งเหตุและผล เป็นสิ่งที่มีอยู่เป็นอยู่จริง คู่กับโลกอยู่แล้ว พระพุทธเจ้ามิได้สร้างขึ้น หรือบัญญัติขึ้น  พระองค์ท่านเป็นแต่เพียงผู้ค้นพบ  แล้วนำมาชี้แจงให้ชาวโลกได้ทราบ และศึกษา เท่านั้น

                   ตามหลักของพระพุทธศาสนา ท่านว่าชีวิตของเราทุกคน ไม่ว่าจะเสื่อม หรือเจริญ  จะทุกข์หรือสุข จะถอยหลังหรือก้าวหน้า จะอายุสั้นหรืออายุยืน ขึ้นอยู่กับกรรม หรือการกระทำของเราเองทั้งสิ้น  ไม่ใช่ขึ้นอยู่ที่อำนาจของดวงดาว  ไม่ใช่อำนาจของพระเจ้า ไม่ใช่อำนาจของสิ่งอื่นใดภายนอก  ที่จะมาดลบรรดาลชีวิตของเรา ให้เป็นไปอย่างนั้นอย่างนี้เลย

                   กฎแห่งกรรมมีความจริงอยู่ว่า

                        สัตว์ทั้งหลายเป็นผู้มีกรรมเป็นของตนเอง เป็นผู้รับผลของกรรม เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย  เมื่อทำกรรมใดไว้ดีหรือชั่ว จะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นเสมอ ไม่อาจหลีกพ้นไปได้

กรรมที่บุคคลกระทำนั้น  มีทั้งฝ่ายชั่วและฝ่ายดี แบ่งออกเป็น ๓ ทาง คือ

                   กรรมชั่ว
                        ทางกาย ได้แก่ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์  การประพฤติผิดในกาม รวมทั้งการดื่มสุราเมรัย
                        ทางวาจา ได้แก่ การพูดเท็จ  การพูดส่อเสียด  การพูดคำหยาบ  การพูดเพ้อเจ้อ
                        ทางใจ  ได้แก่ ความโลภอยากได้ของเขา  ความโกรธปองร้ายเขา  ความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม

                   กรรมดี
                        ทางกาย ได้แก่ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม และไม่ดื่มสุราเมรัย
                        ทางวาจา ได้แก่ ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด  ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ
                        ทางใจ ได้แก่ ไม่โลภอยากได้ของเขา ไม่พยาบาทปองร้ายเขา เห็นชอบตามทำนองคลองธรรม

                   เมื่อบุคคลได้ทำกรรมใดลงไปแล้ว ก็จะได้รับผลของกรรมนั้น ตามโอกาสและเวลาที่เหมาะสมทั้งนี้ย่อมแล้วแต่กรรมนั้น ๆ จะให้ผลอย่างใด ลักษณะใดนั้นมีปัจจัยอื่นมาประกอบอีกหลายอย่าง  

                บางเรื่องก็ให้ผลในปัจจุบัน ชาติปัจจุบัน บางเรื่องก็ให้ผลในชาติหน้า หรือชาติถัดไป หรือ กรรมที่หนักมาก สำคัญมาก ก็ให้ผลก่อนกรรมที่เบากว่า เป็นต้น

                       ดังนั้นกรรมจึงให้ผลไม่แน่นอน ทำให้เข้าใจว่า ทำดีไม่ได้ดี หรือทำชั่วกลับได้ดี  

มีผู้กล่าวว่า เมื่อเราเกิดมานั้น มาแต่ตัวเปล่า เมื่อตายก็ไปแต่ตัวเปล่านั้น ยังไม่เป็นความจริงที่แท้  เพราะบุคคลเกิดมาพร้อมด้วยกรรมเก่า  และเมื่อตายไปก็เอากรรมในชาตินี้ติดตัวไปด้วย

                    เมื่อผลของกรรมส่งมาถึง จึงทำให้เกิดการจำแนกบุคคลนั้น ๆ ให้แตกต่างกันมาตั้งแต่เกิด เช่น

                        ผู้ที่ชอบฆ่าสัตว์ เมื่อเกิดมาจะอายุสั้น ผู้รักษาศีลปานาติบาต เมื่อเกิดมาจะมี อายุยืน

                        ผู้ที่ชอบเบียดเบียนสัตว์ ทำร้ายคนอื่นสัตว์อื่น ให้เดือดร้อนทรมาน เจ็บป่วย เมื่อเกิดมาจะมีโรคภัยเบียดเบียน    ผู้ที่ใจบุญ ชอบช่วยเหลือแก่เพื่อนมนุษย์และสัตว์ที่ได้รับความทุกข์ เมื่อเกิดมาจะมีสุขภาพดี

                        ผู้ที่มีความโกรธเป็นเจ้าเรือน เมื่อเกิดมาจะมีรูปร่างไม่สวยงาม  ผู้ที่มีเมตตากรุณา เมื่อเกิดมาจะมีรูปร่างหน้าตาสวยงาม

                        ผู้ที่ชอบอิจฉาริษยาผู้อื่น ไม่อยากเห็นผู้อื่นได้ดี เมื่อเกิดมาจะมีวาสนาน้อย มียศบรรดาศักดิ์ต่ำผู้มีมุทิตาพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี ไม่อิจฉาริษยา เมื่อเกิดมาจะมีวาสนาสูง มีบรรดาศักดิ์สูง

                        ผู้ที่เป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว เมื่อเกิดมาจะยากจน   ผู้ที่มีใจโอบอ้อมอารี ชอบบริจาคทาน เมื่อเกิดมาจะเป็นคนร่ำรวยเงินทอง

                       ผู้ที่ไม่อ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ เป็นคนแข็งกระด้าง เมื่อเกิดมาจะอยู่ในสกุลต่ำ   ผู้ที่อ่อนน้อมอ่อนโยนต่อผู้ใหญ่ เมื่อเกิดมาจะอยู่ในสกุลสูง

                        ผู้ที่ไม่ชอบศึกษาหาความรู้ เมื่อเกิดมาจะเป็นคนโง่    ผู้ที่สนใจใฝ่การศึกษาหาความรู้ เมื่อเกิดมาจะเป็นคนมีปัญญาดี เฉลียวฉลาด

                   ในที่สุดก็สรุปได้ว่า บุคคลที่อยู่ในกฎแห่งกรรม อันได้เกิดมาจากกรรมเก่า และได้กระทำกรรมในปัจจุบัน ไม่ว่ากรรมดี หรือกรรมชั่ว  ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว จะได้รับผลของกรรมนั้นทุกคน ไม่มียกเว้น แบ่งออกเป็น ๔ ประเภท คือ

                        ประเภทที่ ๑ คนที่มามืดไปมืด เมื่อเกิดอยู่ในตระกูลต่ำ ที่อยู่อาศัยทุรกันดาร อาหารการกินฝืดเคือง ยากจน เป็นคนพิการ หรือโง่เง่า เมื่อมีชีวิตอยู่ก็ทำแต่ความชั่ว ก่อความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่น ตายไปก็ได้แต่ทุคติ

                        ประเภทที่ ๒ คนที่มามืดไปสว่าง มีลักษณะที่เรียกว่าต้นคดปลายตรง แม้เมื่อเกิดจะมีความทุกข์ยากลำบากต่าง ๆ นา ๆ แต่เมื่อรู้ว่าตนเกิดมาต่ำ ก็เร่งทำความดี มีความขยันหมั่นเพียร ช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น ให้พ้นจากความทุกข์ ตายไปก็มีทางที่จะไปสู่สุคติได้

                        ประเภทที่ ๓ มาสว่างไปมืด มีลักษณะที่เรียกว่าต้นตรงปลายคด  เมื่อเกิดมานั้นมีแต่ความสมบูรณ์พูนสุข ทั้งตระกูลสูง ร่างกายแข็งแรงสวยงามมียศมีทรัพย์ แต่ใช้ชีวิตอย่างลืมตัว มัวเมาอยู่ในความชั่วต่าง ๆ ไม่สนใจที่จะกระทำความดีให้เป็นคุณประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น ตายไปก็จะได้แต่ทุคติ

                        ประเภทที่ ๔ มาสว่างไปสว่าง บุคคลประเภทนี้ เมื่อเกิดมาก็มีความสมบูรณ์ครบถ้วนทุกประการทั้งชาติกำเนิด ทรัพย์สมบัติ เกียรติยศ และสติปัญญา ทั้งได้ใช้ชีวิตในการกระทำความดี ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น มีความเสียสละเพื่อส่วนรวมอยู่ตลอดชีวิต อย่างนี้นับว่าเป็นบุคคลที่เลิศที่สุด ตายแล้วต้องไปสู่สุคติอย่างเที่ยงแท้แน่นอน                      

                   บุคคลทั้ง ๔ ประเภทนี้ ล้วนแต่มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเชื้อสาย มีกรรมเป็นที่อาศัยในการดำเนินชีวิต และได้รับผลของกรรมนั้นตลอดเวลา ทั้งอดีต และปัจจุบัน ไปจนถึงอนาคต ไม่มีใครหลีกเลี่ยงพ้น ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา  จนถึงเวลาสิ้นสุดลมหายใจ

                    การเชื่อกฎแห่งกรรมจึงทำให้มนุษย์มีสติปัญญาที่จะสร้างกรรมให้เกิดเป็นผลดีแก่ตนเองได้ โดยหลีกเลี่ยงอกุศลกรรม และกระทำแต่กุศลกรรม ทั้งนี้ถ้าได้ทำอย่างสม่ำเสมอ กรรมดีนั้นก็จะมีมากกว่ากรรมชั่ว และให้ผลก่อนกรรมชั่ว อยู่ตลอดเวลา และสามารถแก้ไขความทุกข์ให้เบาบางลงได้ ประดุจยาพิษอันร้ายแรง แต่เมื่อผสมด้วยน้ำเป็นจำนวนมาก ก็จะเจือจางลงจนพิษนั้นค่อยอ่อนลง และไม่อาจทำอันตรายแก่เราได้

ความรู้เรื่อง  กรรม  ซึ่งได้ศึกษามาจากที่ต่าง ๆ พอจะประมวลลงได้  ด้วยความรู้ อันน้อยนิด ก็ยุติลงเพียงเท่านี้.

##########

.

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 19:17:08




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com