เรื่องของพี่อ้อยที่ถ.จันทน์ แหละค่ะ เจ้าของบ้านเช่าที่พี่อ้อยเช่าเค้าอยู่เป็นรุ่นลูก สมัยรุ่นพ่อก็มีความสัมพันธ์อันดีกับแม่พี่อ้อย พอรุ่นพ่อจากไป รุ่นลูกก็ไม่อยากให้พี่อ้อยอยู่ตรงนี้แล้ว ล่าสุดคือไม่ให้เช่าแล้ว ให้ย้ายออก
ทีนี้พี่อ้อยทำร้านดอกไม้ ขายพวงมาลัย ทำหรีด จัดดอกไม้ แกก็สามารถหานายทุนมาซื้อห้องแถว 2 ห้องในราคาหกแสนบาท(ดอกเบี้ยอีกสองแสนบาท เป็นแปดแสนบาท) อยู่ฝั่งตรงข้ามได้โดยจะผ่อนให้เค้าทุกวัน วันละหนึ่งพันบาท
ปัญหาคือคนเช่าเก่าไม่ยอมออก เดินข้ามฝั่งมาด่าว่า พี่อ้อยมาซื้อทำไม ยังงัยก็ไม่ยอมออก ตามสัญญาเช่าหมดเมื่อ 1 ธันวา(ประมาณนี้อาจคาดเคลื่อนไปบ้างนะคะ) มีล่วงหน้า 2 เดือน พี่อ้อยก็รออยู่ว่าสิ้นเดือนนี้เค้าจะย้ายออกไหม ซึ่งแน่นอนว่าเค้าพูดเลยว่าไม่ออกแน่นอน จะถามทนายความว่า กรณีอย่างนี้ เราทำอะไรได้บ้าง
ตั้งแต่เมื่อเดือนธันวา พี่อ้อยเพิ่งทราบว่า ห้องแถวที่ซื้อเป็นของมูลนิธิ นอกจากเสียค่าเซ้งแปดแสนยังต้องเสียรายเดือนอีก เดือนละแปดพันบาท ตรงนี้ทำให้พี่เค้าลำบากมาก นอกจาเสียตังค์ ค่าผ่อนรายวันให้เจ้าของเงินแล้ว จ่ายรายเดือนให้มูลนิธิ แล้วยังไม่สามารถเข้าอยู่ได้ แล้วต้องเสียเงินค่าเช่าให้เจ้าของเก่าอีก อ่วมเหมือนกันค่ะ
ไปเยี่ยมไปดูแมวทีไร แกจะร้องไห้ทุกที ถามว่าจะสามารถทำอย่างไรให้คนเช่าเค้าย้ายไปได้ไหม แกจะได้ย้ายไปอยู่ซะที
ถ้าใครพอจะรู้จักทนายความอยู่บ้าง แนะนำให้ดิฉันหน่อยนะคะ หลังไมค์มาก็ได้ สงสารแมวหน่ะค่ะ ถ้าไปที่ใหม่ ห้องแถว 2 ห้อง แมวคงอยู่ได้สบายกว่านี้ แมวบางกรงต้องไปอยู่ห้องมืด อับ ชื้น
ขอบคุณค่ะ
จากคุณ :
วชิรา
- [
10 ม.ค. 49 20:43:07
]