เมื่อสิ้นปี พ.ศ.2548 ที่เพิ่งผ่านมาสด ๆ ร้อน ๆ ผมและแฟนทำกิจการส่วนตัวอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก ปีใหม่ปีนี้ ได้ตกลงกันว่าจะเปลี่ยนจากการที่ไปเที่ยวจังหวัดทางภาคเหนือ เป็นการไปบ้านที่เพิ่งซื้อไว้ที่กทม.บ้าง และเราได้วางแผนพาเด็ก ๆ ที่เราอุปการะเขาไว้เหมือนสมาชิกคนสำคัญของเราทั้งสองคน เป็นพันธุ์โกลเด้นฯ 1(มอคค่า) และ โกลเด้นฯ ผสมอีก 2 ตัว(ไข่ต้ม 2 ขวบ,เฮงเฮง 1 ขวบ) โดยเป้าหมายในการพาสมาชิกทั้ง 3 มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพเป็นระยะทางกว่า 3 ร้อยกิโลเมตรครั้งนี้ ก็เพื่อสมาชิกทั้ง 3 ไปเล่นน้ำที่สถานบริการให้สัตว์เลี้ยงว่ายน้ำแห่งหนึ่งย่านพุทธมณฑล ซึ่งเราได้เห็นจากทั้งนิตยสารสัตว์เลี้ยงหลายฉบับ และทางเว็บไซท์อินเตอร์เนต ซึ่งทำให้เราทั้งสองตกลงใจว่าจะพาทั้ง 3 ไปใช้บริการนั้น เพราะว่าเห็นคำที่ใช้โฆษณาชวนเชื่อว่า "สระว่ายน้ำมาตรฐานสำหรับคุณและเจ้าตูบ มีระบบกรองและฆ่าเชื้อตามมาตรฐานสากล" ซึ่งทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะได้พบกับสระว่ายน้ำที่ใสสะอาดเหมือนกันสระว่ายน้ำของคนเรา ๆ ที่เคยไปใช้บริการหลาย ๆ ที่
เมื่อวันที่เราพาทั้ง 3 ไปยังสถานที่ให้บริการนั้น ก็เป็นเวลาค่อนข้างเย็นแล้ว แต่ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ โดยที่ไม่มีสุนัขอื่นมาใช้บริการเลย อาจเป็นเพราะว่า วันนั้นเป็นช่วงของวันหยุดปีใหม่ เราไม่สงสัยอะไร ตรงเข้าไปจ่ายค่าบริการในการใช้สระทันที หลังจากที่ชำระค่าใช้บริการเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาสมาชิกทั้ง 3 เข้ามาบริเวณสระ...
จากสภาพที่เห็นภายนอกรั้ว สระน้ำที่ใสเป็นสีน้ำเงิน เมื่อเข้าไปเห็นใกล้ ๆ กลับเห็นมีขนของสุนัขตัวอื่น ลอยเป็นกลุ่มก้อนอยู่ในสระน้ำ ไม่ใช่แค่ 1 หรือ 2 ก้อน ... แต่มีอยู่กลุ่มขนสุนัขลอยเป็นกลุ่มอยู่ทั่วบริเวณในสระแห่งนี้ ทีแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะยังนึกถึงคำโฆษณาชวนเชื่ออันนี้อยู่ วันนั้นเราก็ใช้บริการกลับมาอย่างยังไม่มีอะไรผิดปกติ
แต่เมื่อถึงตอนเช้าอีกวัน ไข่ต้ม มีอาการเหมือนจะเป็นหวัด มีน้ำมูกไหล และไอ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของสระ เจตนาดีเห็นว่าเราเสียเงินค่าใช้บริการแล้ว แต่ไข่ต้มไม่ยอมลงน้ำ เลยช่วยจับโยนลงน้ำให้...สงสัยว่าจะมีน้ำเข้าไปทางจมูก เลยทำให้เป็นหวัด และวันนั้นเป็นวันที่เราเดินทางกลับมาที่พิษณุโลก เมื่อมาถึง ก็พาไปหาสัตว์แพทย์ ซึ่งได้วินิจฉัยว่า สงสัยจะเป็นหวัดจากที่โดนโยนลงน้ำ และได้ฉีดยาและให้ยามากินตามอาการที่แสดงออก
หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ไข่ต้ม ซึ่งเป็นสุนัขที่ขี้เล่น ร่าเริง ทุกเช้าเวลาตื่นนอน จะชอบนอนหงายท้องบิดตัวไปมา และจะลุกวิ่งนำลงข้างล่าง เมื่อผมบอกให้พวกเขาไปฉี่...
...แต่วันนี้ เรียกเท่าไร ไข่ต้มก็ยังนอนนิ่ง เหลือกตามองมาที่ผม(ถ้าใครเคยอย่างพอกเก็ตบุค "ผมชื่อคิงคอง" ตอนที่เขาไม่สบาย น่าจะพอนึกบรรยากาศตอนนั้น เวลานั้นออก) เหมือนจะบอกอะไรซักอย่าง เราทั้งสองเห็นอาการผิดปกติอย่างมาก เลยอุ้มไข่ต้มลงมาข้างล่าง และพาออกไปจัดการทำธุระ และรีบพาไปพบสัตวแพทย์อีกครั้งหนึ่ง โดยครั้งนี้ ผมต้องการให้ตรวจเลือดเพื่อให้รู้แน่ว่าเป็นอะไร และจะรู้ผลในวันรุ่งขึ้น ก่อนกลับหมอก็ให้ยามากินตามที่แสดงอาการ เราเป็นกังวลใจอย่างมาก อยากจะรู้ผลการตรวจให้เร็วกว่านี้ วันนี้ผ่านไปอย่างเชื่องช้า เราไม่มีกะจิตกะใจประกอบกิจการเลย มัวแต่คอยดูอาการของไข่ต้ม...ซึ่งยังคงนอนซมอยู่
ตอนสายของอีกวัน(12 ม.ค.49) ผลการตรวจเลือดออกมาว่า ไข่ต้มเป็นพยาธิในเม็ดเลือด ซึ่งเราตกใจและงงมากว่า เป็นไปได้อย่างไร เมื่อได้พูดคุยกับหมอแล้วก็ได้ข้อมูลว่า สุนัขที่อยู่ในจังหวัดพิษณุโลกเอง ไม่ค่อยจะพบว่าเป็นพยาธิเม็ดเลือด แต่จะพบจากสุนัขที่มาจากกรุงเทพ หรือเชียงใหม่ ซึ่งในรายของไข่ต้มก็เพิ่งกลับจากกรุงเทพมาสด ๆ ร้อน ๆ เชื้อที่พบเป็นพยาธิเออริเซีย หมอจึงสั่งยากลับมาให้กิน แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ประกอบกับผมต้องเข้ามาถ่ายภาพรับปริญญาของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในวันที่ 14 ซึ่งช่วงเย็นวันนั้น แฟนผมได้โทรมาบอกว่าอาการของมอคค่าก็ทรุดลงเช่นกัน จึงพาไปตรวจเลือด และผลปรากฏว่าพบพยาธิเม็ดเลือด เป็นเชื้อบาบิเซีย จึงโดนฉีดยาสำหรับฆ่าพยาธิชนิดนี้...และให้เว้นอีกสองอาทิตย์จึงมาฉีดซ้ำอีกเข็ม
...เหลือ เฮงเฮง ที่เหมือนจะป่วย แต่ออกจะเป็นป่วยการเมือง คือเมื่ออีกสองตัวไม่ยอมกินอาหาร ก็ไม่กินตาม แต่ว่าตอนเช้าจะตื่นขึ้นมากินอาหารแทบทุกวัน จนเราวางใจว่า คงจะพบเชื้อพยาธิเม็ดเลือดแค่สองตัว...แต่แล้ว...เรื่องที่ไม่อยากจะให้เกิดก็เกิดขึ้น
ช่วงบ่าย(27 ม.ค.) เฮงเฮง อยู่ ๆ ก็อ้วก ให้อะไรกินไม่นานก็อ้วกออกมา เราเลยพาไปตรวจที่คลีนิกสัตว์แพทย์อีกหนพร้อมกับไข่ต้ม ซึ่งมีอาการซึม ตาเชื่อม นอนซม แต่ยังกินอาหารบ้าง สรุปว่า เฮงเฮง ตรวจพบเชื้อ บาบิเซีย อีกตัว โดนฉีดยา และได้รับยากลับมากิน เราคิดว่า ทุกอย่างคงจบแต่นี้ที่ทั้งสามตัว ซึ่งไปใช้บริการสระว่ายน้ำแห่งนั้น เป็นพยาธิเม็ดเลือดกลับมาทุกตัว
แต่ที่ร้ายยิ่งกว่านั้น ในที่ 28 ม.ค. อาการของไข่ต้มแย่ลง มีไข้(104.2 องศาฟาเรนไฮน์) ท้องเสีย มีขี้ตา น้ำมูกขุ่นขาว เลยพาไปพบสัตวแพทย์คนเดิมอีก ซึ่งเราย้ายเคสของไข่ต้มมาที่คลีนิกสัตวแพทย์แห่งเดียวกับมอคค่าและเฮงเฮง ผลจากตัวเทส ชี้ชัดว่า ไข่ต้ม เป็นไข้หัด...อึ้ง...และน้ำตาตก
ตอนนี้ต้องแยกไข่ต้มจากเฮงเฮงและมอคค่า ซึ่งหมอบอกว่าสองตัวนี้ตอนนี้ภูมิฯต่ำ อาจจะมีโอกาสติดไข้หัดจากไข่ต้มได้ เลยพาไข่ต้มกลับไปรักษาตัวที่บ้านอีกแห่ง และผมอยู่ที่ร้านดูอาการเฮงเฮงและมอคค่าว่าจะแสดงอาการของไข้หัดอีกหรือไม่...เซ็ง
จากการที่ได้พูดคุยกับสัตวแพทย์ 3 ท่าน(รพ.สัตว์ฯเกษตร,สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์ในจังหวัดพิษณุโลก 2 แห่ง) ได้ลงความเห็นไปในแนวทางเดียวกันว่า ที่จังหวัดพิษณุโลกเองนั้น ไม่ค่อยพบสุนัขที่อยู่ในจังหวัดเป็นพยาธิเม็ดเลือด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสุนัขที่มาจากกรุงเทพ หรือเชียงใหม่ ยิ่งคำหนึ่งโดนใจมากที่ว่า "แหล่งที่รวมสัตว์เลี้ยงจากหลาย ๆ ที่มารวมกัน ก็เหมือนกับเป็นที่รวมโรคต่าง ๆ จากหลาย ๆ ที่ เพราะเราไม่รู้ได้ว่า สัตว์เลี้ยงแต่ละตัวที่มาใช้บริการ มีเชื้อโรคแอบแฝงอยู่หรือไม่"
แล้วจะให้เราสงสัยที่ไหนล่ะ...เพราะอยู่ที่ร้าน เขาก็ไม่ได้ไปสุงสิงกับสุนัขตัวไหน อาทิตย์นึงก็พาไปเล่นน้ำที่อ่างเก็บน้ำซะที เห็บก็เคยพบบ้าง แต่ไม่บ่อย และไม่เยอะ อยู่มาสองปีกว่า ไม่เคยมีอาการ วัคซีนก็ไม่เคยขาด
เราไม่ได้อยากจะเรียกร้องอะไรทั้งค่ารักษาหรือค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น แค่สะกิจใจกับคำโฆษณาชวนเชื้อที่ว่า "สระว่ายน้ำมาตรฐานสำหรับคุณและเจ้าตูบ มีระบบกรองและฆ่าเชื้อตามมาตรฐานสากล" ข้องใจตั้งแต่คำว่า ระบบกรอง... กรองยังไงให้มีขนของสุนัขตัวอื่นอยู่ในสระเยอะขนาดนั้น ขนาดเจ้าหน้าที่ของสระเองยังไม่กล้าลงสระเลย ผมเลยจำต้องลงไปคุมในน้ำ กลับบ้านมาก็เป็นผื่นคันตามแขนขา แต่ทายาไม่กี่วันก็หายแล้วที่ว่าฆ่าเชื้อนี่จะฆ่าจริงหรือ หรือว่าอาทิตย์นึงกรองที ฆ่าเชื้อทีนึง
แค่อยากเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมาสด ๆ ร้อน ๆ กับเราและสมาชิกสี่ขาทั้งสามตัว อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลายให้ระวัง ก่อนที่จะเข้าไปใช้บริการที่ไหน ก็ขอให้เข้าไปดูก่อนเถิดว่า มีความสะอาดแค่ไหน เพราะไม่งั้น คุณอาจจะเหมือนผมตอนนี้ เสียเงินพาเขาไปเที่ยว แต่กลับมาก็ต้องเสียเงินมานั่งรักษากัน
ใครมีประสบการณ์ยังไง บอกเล่าสู้กันฟังมั่งนะครับ
แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 49 04:16:53
จากคุณ :
maycomsci
- [
30 ม.ค. 49 04:14:33
]