ความคิดเห็นที่ 1 ขอโทษทีคับ เมื่อวาน ว่าจะตอบพอดีเนตมันเพี้ยนๆ ไม่รู้ช่วงนี้เป็นอะไร เดี๋ยวดีเดี๋ยวหลุด (ADSL แล้วนะคับเนี่ย) แถมบน Office เนตนอกห้องช้าเป็นเต่า แต่ในห้องผมหนูมันกินสายแลน ก้อไม่รู้ว่าคนดูแลหายหัวไปไหนหมด เฮ้อ มาเข้าเรื่องกันดีกว่าคับ ไหนๆ ก้อวางระบบน้ำหยดไปแล้ว จะไปเปลี่ยนทำไมล่ะคับ แค่เผื่อท่อ Main ให้ใหญ่อีกนิดนึง พอต้นไม้ใหญ่ขึ้น ค่อยเพิ่มหัวจ่าย คับ  เพราะหากใช้ Mini Sprinkler ซึ่งมันกินน้ำมากกว่าเดิม รวมทั้งต้องเพิ่มแรงดันอีก ก้อเท่ากับทำใหม่ละคับ สำหรับถังความดัน เป็นการแก้ปัญหา แรงดันที่จ่ายให้กับหัว Sprinkler คือ หากไม่มีการคำนวณ แรงดัน และปริมาณน้ำที่จะต้องจ่ายให้หัว Sprinkler ก้อจะต้องเผื่อแรงดันไว้มากหน่อย ซึ่งหากไม่มีระบบตัดการทำงาน ปั๊มก้อจะปั๊มน้ำจ่ายให้กับ Sprinkler ตลอดเวลา ด้วยแรงดันที่สูงกว่าที่ต้องการ นั่นคือ ให้น้ำมากกว่าที่ควรเป็น เงินทั้งนั้นแหละคับ (เพราะการทำระบบฯ นี้ ก้อเพื่อความประหยัด) สำหรับระบบ Sprinkler นั้น ต้องการแรงดันน้ำที่หัวจ่ายมากพอที่จะให้น้ำพุ่งออกไปไกลๆ ม่ายช่ายหยดแหมะๆ อยู่ปากรูแบบน้ำหยด (XXXX) ดังนั้นแรงดันที่ปั๊มต้องจ่ายอย่างน้อยๆ ก้อมากกว่า 2 บาร์ ซึ่งอาจจะถึง 4 บาร์ ในหัวพ่นหมอก บาร์นึงคร่าวๆ ก้อ เท่ากับความสูงของน้ำ 10 เมตรนั่นแหละคับ ดังนั้นหากต้องการแรงดันซัก 2 บาร์ ก้อต้องสร้างหอถังสูงราวๆ 20 เมตร หรือ 2 เท่าของบ้านสองชั้น (คิดถึงหลังคา นะคับ) ซึ่งด้วยความสูงขนาดเนี้ย ให้ผมออกแบบยังเสียวๆ เลยคับ ดังนั้น ใช้ถังอัด ดีกว่า หลักการทำงาน ก้อมีดังนี้ คับ พอปั๊มเริ่มทำงานจะส่งน้ำไปตามท่อและออกที่หัวจ่าย ด้วยแรงดันที่ค่อยๆ มากขึ้น จนเต็มศักยภาพของปั๊ม และถ้าต้องการควบคุมแรงดัน เราก้อติด Pressure Switch เข้าไป และตั้งช่วงความดันทำงาน (ตัดการทำงานที่ความดันเท่าไหร่ และทำงานเมื่อความดันลดลงเท่าไหร่) แต่เนื่องจากน้ำเป็นวัตถุที่แทบไม่หดตัวเมื่อมีความดันเพิ่มขึ้น ทีนี้ละคับ ปั๊มก้อจะทำงานเปิดๆ ปิดๆ ถี่มาก ซักพักก้อจะพังคับ ก้อเลยป้องกันนี้โดยใช้ถังอัด คับ (พระเอก มาแล้ว) โดยในถังอัดมีอากาศ ซึ่งจะหดตัวเมื่อมีแรงดันเพิ่มขึ้น โดยจะมีน้ำปริมาณหนึ่งไหลเข้าไปในถังทำให้เกิดแรงดันเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น ในขณะที่อากาศหดตัวลง  พอถึงเวลาทีความดันมากพอที่ Pressure Switch ตัดการทำงานของปั๊ม น้ำก้อจะไหลออกจากถังพร้อมถังอากาศขยายตัว และมีแรงดันลดลง จนถึงจุดที่ Pressure Switch เริ่มการทำงานของปั๊มใหม่ เป้นวงรอบอย่างนี้ไปเรื่อยๆ คับ ถังอัดที่ว่านี้ ในปั๊มอัตโมติ ของ Hitachi Mitsubishi  ฯลฯ ก้อมักจะวางอยู่ใต้ปั๊มน้ำคับ แต่ในระบบการจ่ายน้ำนี้ ถังต้องมีปริมาตรมากพอ ที่จะทำให้ปั๊มมีช่วงการทำงานที่ไม่ถี่เกินไป (เพราะมอเตอร์ปั๊ม จะกินกระแสไฟ ตอนสตาร์ท มากกว่าตอนเดินเครื่องปกติ เงินทั้งนั้น คับ) อย่างที่ผมใช้ ส่วนใหญ่ก้อมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 76 ซม. ที่มีขนาดนี้เพราะ ผมใช้เหล็กแผ่น 4 ฟุต x 8 ฟุต เอาทางยาวมาม้วน ซึ่ง 2.44 / Pi ก้อจะประมาณ 76 ซม. (เล็กกว่านี้ต้องเสียค่าตัดเหล็กอีกคับ) ใบนึงก้อจะมีปริมาตร ประมาณ 540 ลิตร ปริมาณน้ำที่ใช้ได้คร่าวๆ ก้อราวๆ 150 - 200 ลิตร/ถัง อันนี้คือวัตุประสงค์หลัก คับ ผลพลอยได้อีกอย่างนึงของการใช้ถังอัด คือ ทำหน้าที่เป็น Surge Tank ดูดซับแรงดันกระชาก เวลาปั๊มน้ำแรงดันสูงหยุด ที่เรียกว่า Water Hammer (ซึ่งบางท่าน อุตส่าห์แปลว่า ค้อนน้ำ คับ) กับการประยุกต์ใช้ โดยติดตั้งเป็นช่วงๆ ในระบบท่อ ซึ่งจะช่วยให้แรงดันในเส้นท่อตกจาก Head Loss น้อยลง (ดัดแปลงจากแอร์แวะ ของชาวบ้านคับ) สรุป ง่ายๆ คือ มันประหยัด และปลอดภัย กว่าการทำหอถังสูง เพียงแต่ต้องคอยดูแล หมั่นหน่อยนึง คับ เพราะหอถังสูง ไม่ใช่พิจารณาเฉพาะ โครงสร้างรับน้ำหนักที่ฐานรากอย่างเดียวนะคับ แรงด้านข้าง หรือแรงลมนั่นน่ะ ตัวดีเลย เพราะมันซู้งสูง คับ จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 21 ก.พ. 49 22:58:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอเก็บไปใช้ด้วยครับ พี่น้ำชาย ว่า ปั๊มชัก เอามาใช้กับระบบน้ำ จะดีไหม ผมไม่ค่อยเห็นเขาเอามาใช้กัน มีพี่คนนึงบอกว่า ปั๊มชักนี่มันสร้างแรงดันได้สูง จากคุณ : พ่อไม้ - [ 22 ก.พ. 49 09:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มาแอบอ่านข้อมูลด้วยนะคะ ขอเชฟกระทู้นี้หน่อย จากคุณ : Farm Girl in High Sierra - [ 22 ก.พ. 49 10:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โอ้ โอ ขอบคุณมากเลยครับ คือที่คิดว่าเมื่อต้นไม้โตจะเปลี่ยนมาใช้หัวมินิสปริงเกอร์ ก็เนื่องจากกลัวว่ามันจะได้ไม่ทั่ว แต่อย่างที่คุณ Waterman ว่าคือเพิ่มหัวจ่าย เออทำไมผมนึกอย่างนี้ไม่ออกหนอ   ถ้าอย่างนั้น ก็คือให้ถังสูงกับระบบน้ำหยดเหรอครับ   เรื่องถังแรงดัน ผมว่าผมเริ่มเข้าใจแล้วหละครับ คืออย่างนี้ใช่มั้ยครับ ถ้าผมทำแบบคนไม่มีความรู้อะไรเลย ผมก็ไปซื้อปั้มมา 1 ตัว ต่อสายจากปั้มออกมาเป็นท่อเมน แยกเข้าท่อย่อย แต่ละท่อย่อย ก็ใส่วาร์วไว้ 1 ตัว พอเปิดปั้ม ก็คอยสังเกตุว่าการกระจายน้ำดีหรือไม่ ลองเปิด-ปิดวาร์วเพื่อเพิ่ม-ลด จำนวนหัวจ่ายน้ำ เพื่อให้การกระจายน้ำเป็นที่พอใจ สมมุติว่าทั้งแปลงมี 50 หัวจ่าย ทำอย่างนี้อาจจะพบว่าเปิดสูงสุดได้ครั้งละไม่เกิน 30 หัวจ่าย (เต็มศักยภาพของปั๊ม) อย่างนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ชุด คือชุดละ 25 หัวจ่าย  น้ำแรงขึ้น กระจายตัวมากกว่า 30 หัวจ่าย = สิ้นเปลือง  (ใช่มั้ยครับ) ถ้าเราเอาถังแรงดันมาใส่เข้าไป เราก็จะเอาส่วนของน้ำที่แรงขึ้น มาเก็บสะสมในถัง (ใช่มั้ยครับ)   ทีนี้ที่คุณ waterman บอกว่า "โดยติดตั้งเป็นช่วงๆ ในระบบท่อ" หมายความแบบรูปที่ผมแนบมานี่หรือเปล่าครับ   เรื่องสุดท้ายครับ เรื่องความปลอดภัย แฮะๆ มันจะระเบิดมั้ยครับ ยังไงช่วยสงเคราะห์อีกหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ วัตครับ อ้อ!! คุณพ่อไม้ ผมก็ว่าจะลองหามาใช้ดูเหมือนกันนะปั้มชัก นี่หนะ เห็นเพื่อนบอกว่ามันซ่อมง่ายดี จากคุณ : วัตครับ - [ 22 ก.พ. 49 12:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถูกต้องแล้วคับ การส่งน้ำแบ่งเป็นโซนๆ ก้อคือขั้น Advance ขึ้นมาอีกนิดนึง จากส่งทีเดียวทั้งแปลง เพราะต้องคอยไปปิดเปิดวาล์วคับ ที่ผมเคยทำที่สวนเกาตรพื้นที่กว่าร้อยไร่ ก้อแบ่งพื้นที่ออกเป็นประมาณ 10 โซน แล้วใช้วาล์วไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า Solenoid Valve ปิดเปิดโดยใช้ Controller เป็นตัวสั่งคับ สำหรับขั้นสูงขึ้นมาอีก ก้อคือ แต่ละโซนจะมีหัว Sprinkler ไม่เท่ากัน เพราะพื้นที่ใหญ่ๆ ระดับมันจะต่างกันมาก ที่ผมทำต่างกันมากกว่า 20 เมตร ดังนั้น พื้นที่ต่ำๆ จึงมีหัวจ่ายได้มากหน่อย อีกอย่างนึง หากใช้ Solenoid Valve ขอแนะนำให้ใช้แบบที่ใช้ในงานเกษตร คือใช้ไฟเลี้ยงเพียง 24 โวลท์ นะคับ อย่าเอาแบบ 220 โวลท์ มาใช้นะคับ มันอันตราย สำหรับการติดถังเป็นช่วง แบบนั้นแหละคับ เพียงแต่ถังแรก ควรอยู่ใกล้ๆ ตัวปั๊มและเอา Pressure Switch ติดที่ส่วนบนของถัง และถ้าไม่ลำบากมากนักก้อติด Pressure Gauge หรือ เกจวัดความดัน นั่นแหละคับ และสำหรับถังอัดทุกถังช่วยใส่วาล์วที่ส่วนบน และก้นถัง ด้วยนะตับ เอาไว้ไล่น้ำออก เพราะพอใช้ไปซักพักอากาศจะละลายไปกับน้ำ ทำให้ปริมาตรอากาศน้อยลงเรื่อยๆ ปั๊มก้อจะทำงานถี่ขึ้นเรื่อยๆ คับ สำหรับ ปั๊มชัก หรือปั๊มลูกสูบ ราคาจะถูกกว่าปั๊มหอยโข่ง หรือ Centrifugal Pump คับ สำหรับแรงดันเดี๋ยวนี้หอยโข่งตัวเดียวอาจได้ถึง 60 - 70 เมตร และหากเป็น Multi-Stages Centrifugal ละก้อ ของผมตัวเดียวได้ถึง 200 ม. คับ หากไปเที่ยวดอยตุง ที่สวนรุกขชาติดอยช้างมูบน่ะ แหล่งน้ำอยู่ต่ำกว่าถังพัก ราวๆ 350 ม. ผมเลยแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยปั๊มจากแหล่งน้ำมาพักที่ถังพักเหนือวัดน้อย แล้วค่อยสูบส่งขึ้นไปอีกที แต่งานนี้เจ็บคับ สั่งให้ทำ แต่ไม่ยอมเบิกเงินให้ ก้อเจ๊งไปราวๆ 2 ล้านกว่าๆ เท่านั้นเอง ดังนั้นปัจจุบันเป็นยังไงผมก้อเลยไม่ค่อยสนใจ เพราะวางระบบครั้งแรก มี Protection เยอะแยะเลย แต่เป็นแบบที่ง่ายๆ คับ เท่าที่รู้ เมื่อ 4 - 5 ปีก่อนเริ่มตัด Protection ออกคับ เพราะคนดูแลคงฉลาดมากกว่าผม แหมออกนอกเรื่องตั้งนาน ขอโทษที คับ เข้าเรื่องดีกว่า ไอ้เจ้าปั๊มชัก หรือปั๊มลูกสูบเนี่ย มันซ่อมง่าย พอๆ กับซ่อมบ่อยคับ โดยเฉพาะถ้าใช้งานที่แรงดันสูง เพราะตัวกันน้ำรั่วในกระบอกสูบมักเป็นปะเก็นหนังคับ แรงดันมากๆ โอกาศปลิ้นก้อมากตาม (ซัก 40 เมตรขึ้นน่ะคับ) และความต่อเนื่องของแรงดันน้ำจะเป็นแบบ Sin Wave คับ คือมันมีช่วงอัดซึ่งให้แรงดัน และช่วงดูดน้ำเข้าลูกสูบ ซึ่งแรงดันเป็นศูนย์ ก้อเลยแก้โดยมี 2 สูบ ทางนึงดูด อีกทางนึงอัด ก้อดีขึ้นมาหน่อย แต่ใส่ถังอัดแก้ปัญหานี้ได้เกือบหมดคับ อีกอย่างประสิทธิภาพของปั๊มชัก ก้อราวๆ 40-60 เปอร์เซนต์ แต่ถ้าเป็นหอยโข่ง อย่างต่ำๆ ก้อ 60 คับ ของผมใช้ Grunfos ซึ่งราคาสูงพอสมควร บางรุ่นประสิทธิภาพมากกว่า 80 เปอร์เซนต์คับ และโดยทั่วไป จะอยู่แถวๆ 80 นั่นแหละคับ และแรงดันน้ำของเจ้าหอยโข่งจะค่อนข้างคงที่ ตามอัตราความเร็วรอบคับ (ปั๊มชัก ความเร็วรอบที่ Pulley ที่ส่งไปให้ลูกสูบมีผลน้อยต่อความดัน คับ) สำหรับ ประสิทธิภาพ ก้อ หมายถึง อัตราส่วนระหว่างงานที่ได้กับงานที่ใส่เข้าไป คูณด้วย 100  เช่น เราจะสูบน้ำในอัตรา 1 ลิตร/วินาที ส่งสูงขึ้นไปจากระดับผิวน้ำ 10 ม. หากไม่คิด Loss ในท่อ และตัวปั๊ม เราก้อต้องใช้พลังงานประมาณ 100 วัตต์ ถ้าประสิทธิภาพ 40 ก้อต้องใช้ มอเตอร์ ขนาด 250 วัตต์ ขับปั๊ม แต่ถ้าประสิทธิภาพ 80 ก้อใช้มอเตอร์ขนาด 125 วัตต์ คับ สำหรับผมโดยคร่าวๆ เวลาออกแบบป๊มก้อ หาปริมาณน้ำที่จะส่งกับแรงดันที่ต้องการ (รวม Head Loss ของท่อด้วย คับ) แล้วมาดูที่ Performant Curve เพื่อหาขนาดปั๊ม แล้วคิดที่ 60 เปอร์เซนต์ (เอา 0.6 หาร) เพื่อหาขนาดมอเตร์โดยคร่าวๆ คับ งงหรือเปล่าคับ อาจจะวิชาการมากไปหน่อย ของแถม คับ ขอคุยอวดหน่อย คือตอนนี้ได้รับมอบหมายงานให้ออกแบบระบบสูบน้ำที่ จ.น่าน ระดับประมาณ 70 ม. ไฟฟ้าไม่มี กำลังคิดว่า จะใช้เตรื่องยันมาร์ หรือคูโบต้า ขับปั๊มหลัก ซึ่งชาวบ้านคงต้องเป็นคนจ่ายค่าน้ำมัน และทำของเล่นนิดหน่อย คือใช้ปั๊มลูกสูบขับโดยจักรยานปั่น ส่งน้ำขึ้นโรงเรียน ให้เด็กมาออกกำลัง โดยคิดว่าจะเข้าไปดูพื้นที่อาทิตย์หน้านี่แหละคับ จากคุณ : LN106 - [ 22 ก.พ. 49 22:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณLN106 ทำโครงการที่เมืองน่าน บอกพิกัดละเอียดกว่านี้อีกนิดนึงค่ะ จะฝ่าดงไปดู เอ่อ ไปศึกษาดู เพราะสวนเป็นที่ภูเขาสูบน้ำขึ้นไปพื้นที่สูงๆำไม่ได้ อ่ะคะ จากคุณ : Farm Girl in High Sierra - [ 23 ก.พ. 49 07:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งครับ "มันซ่อมง่าย พอๆ กับซ่อมบ่อยคับ " ใช่ครับ เพื่อนมันก็แสดงออกอย่างนี้เหมือนกัน แต่ผมลืมบอก ฮาๆ เรื่องไม่มีไฟฟ้าใช้นี่ ก็น่าสนใจนะครับ อย่าลืมมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ ผมเคยดูของลีโอนิกที่เขาขายพวกโซลาเซลย์อะครับ เหมือนจะผ่านๆ ตาว่ามีปั้ม DC ด้วยนะครับ แต่ดูเหมือนจะราคาสูงเหมือนกัน จากคุณ : วัตครับ - [ 23 ก.พ. 49 08:27:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับ เครื่องสูบน้ำที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เท่าที่รู้ ก้อมี ของ Grundfos คับ ลองเปิดดูรายละเอียดจาก www.Grundfos.com ดูนะคับ แต่เขาใช้เป็นแบบ Deep Well Pump หรือปั๊มบาดาลน้ำลึก ซึ่งชุดนึงให้กำลังประมาณ 900 วัตต์ คับ สำหรับราคา อึ้งเลยละคับ สำหรับเครื่องสูบน้ำ แบบใช้เครื่องยนต์ ที่เคยประกอบ ผมเอาปั๊มเปล่า ที่เรียกว่า Bare Pump มีขายตามร้านขายเครื่องจักรทางการเกษตร เอาแบบหอยโข่งนะคับ ที่ตัวปั๊มจะมีป้ายบอกคุณสมบัติ ของ ปริมาณ (Q) และความสูงที่ยกน้ำได้ (H) และที่สำคัญมาก คือ ความเร็วรอบเฉพาะ หรือ Specific Speed ซึ่งเราจะต้องให้ปั๊มหมุนด้วยความเร็วรอบไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ โดยวิธีทดรอบด้วย Pulley หรือที่ชาวบ้านเรียก มู่เล่ นั่นละคับ โดยเครื่องยนต์ดีเซลจะมีความเร็วรอบสูงสุด ประมาณ 2,200 รอบ ถ้ารอบใช้งานก้อคงราวๆ 1,800 - 2,000 รอบ/นาที ก้อทดรอบในอัตรา 2 : 3 อ้อใช้สายพาน ซัก  3 - 4 เส้น เผื่อหน่อยนะคับ ที่ผมจะไปออกแบบ อยู่ที่ บ้านห้วยลอย อ. บ่อเกลือ คับ ที่โรงเรียนท่านผู้หญิงสง่า คับ ตอนก่อสร้างคงไม่ได้ทำ เพราะผมมีหน้าที่ออกแบบ เท่านั้น สำหรับเครื่องสูบน้ำ ทางส่งไม่มีปัญหาคับ ร้อย สองร้อยเมตร ไหวคับ แต่ทางดูด หมายถึงระดับผิวน้ำกับตัวปั๊มอย่าให้เกิน 7 เมตร จริงๆ เผื่อหน่อยก้ออย่าให้มากเกิน 5 เมตรคับ เดี๋ยวสูบไม่ขึ้น อีกอย่างการวางท่อ บนสภาพภูมิประเทศที่เป็นลอนเขา หากไม่ไล่อากาศในท่อ อาจเกิด Air Pocket แล้วจะสงสัยว่าออกแบบถูกในเกณท์หมด แต่ทำไมน้ำไม่ไหล จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 24 ก.พ. 49 00:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รับแซ่บค่ะ หากได้ไปบ่อเกลือเอารูปมาฝากโตยค่า จากคุณ : Farm Girl in High Sierra - [ 28 ก.พ. 49 08:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอารูปปั๊มชักมาให้ดูครับ เป็นของใหม่ ยี่ห้อ สเปค สเมค หรือ สะ อะไรซักอย่าง จำชื่อไม่ได้ เผื่อว่า จะสนใจ เห็นบอกขายถูกครึ่งเดียวของราคาเคยขาย ตัวมันใหญ่ จากคุณ : พ่อไม้ - [ 28 ก.พ. 49 10:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมก็มองๆ ไอ้ตัวเล็กๆ อย่างนี้ อยู่ไม่รู้ว่าจะเหมาะกับงานแบบไหนดี จากคุณ : พ่อไม้ - [ 28 ก.พ. 49 10:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้า ต้องยกน้ำไม่เกิน 20 เมตร ซื้อปั๊มเครื่องยนต์เบนซิน สีแดงๆ ดีกว่าคับ ยกเว้น FatherWood จาซี้กับช่างนะคับ ถ้าอย่างนั้นก้อตามบายคับ เพราะอย่างที่ว่า ปั๊มลูกสูบมันกินน้ำมันดีคับ จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 28 ก.พ. 49 23:25:35 ]