ความคิดเห็นที่ 1 อยากบอกอีกอย่างครับ ปลาไม่ค่อยกินอาหารครับ ผอมลงผอมลง  อึสีขาว ตัวที่ตายไปแล้วก่อนตายช่วงท้องจะบวมเป่งเลย ทำไงดีนะครับ เสียดายนะครับ ตัวเท่าฝามือแล้วงะ รักษาไงดี ใครทราบช่วยที่ จากคุณ : icenate (icenate) - [ 21 มิ.ย. 49 04:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไนเตรทสะสมนะครับ แสดงว่า..ปริมาณการเปลี่ยนถ่ายน้ำไม่เพียงพอกับไนเตรทที่เกิดขึ้นในระบบ   ไม่แน่ใจว่าคุณเปลี่ยนน้ำทุกวันที่ปริมาณไหน  เดากว่าแค่นิดเดียวแค่พอดูด ๆ ขี้ปลาออกนะครับ แนะนำว่า..ให้เปลี่ยนถ่ายนน้ำทุกวันที่ 10-15% ในช่วงนี้  ในช่วงแรกค่าph จะยังไม่ขึ้นนะครับ  ต้องมีสัก1สัปดาห์ ปล. ขนาดนี้ประการัง..ค่า ph ยัง 5 แสดงว่า..น้ำแก่มากเลยนะครับ ไม่เปลี่ยนวัสดุกรองในช่วงนี้ครับ เดี๋ยวกรองล่มครับ จากคุณ : ปิติ99 - [ 21 มิ.ย. 49 17:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ามีอาการขี้เป็นสีขาวแสดงว่าเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย ภายในระบบทางเดินอาหารหรือมีพยาธิอยู่ภายในซึ่งจะตามมาด้วย การหยุดกินอาหารและตายในที่สุด การรักษา เป็นการติดเชื้อภายในต้องใช้ยาปฏิชีวนะผสมในอาหารให้กิน เนื่องจากการใส่ยาในน้ำจะเข้าสู่ภายในตัวปลาได้น้อยมาก กรณีเป็นพยาธิภายในให้ใช้ยาถ่ายพยาธิเด็กชื่อ ฟาร์จิล ครึ่งเม็ดละลายน้ำ 80 cc. แล้วผสมในอาหารทิ้งให้หมาดๆแล้วให้กินแต่ต้องพยายามให้ปลากินอาหารผสมยาให้ เร็วที่สุดทันทีที่อาหารลงไปในน้ำยาจะละลายในน้ำทำให้ยาถูกปลากินเข้าไป ได้น้อยลง การให้ยาถ่ายพยาธิอาจต้องให้ทุกสัปดาห์จนกว่าปลาจะดีขึ้น ข้อมูลจากคุณ พี่ปอม ที่ผมเก็บไว้ใช้ครับ ------------------------------------------------------------- อันนี้จาก คุณกร๋วย นะครับ ลองสังเกตอาการดูครับว่าเป็นยังไง "อืมม์ เนื่องจากว่าการบรรยายอาการไม่แน่ชัด จะให้ฟันธงไปเลยว่าปลาคุณเป็นโรคอะไร คงตอบยาก เพราะมันมีหลายสาเหตุ อย่างตัวแดงๆ เป็นจ้ำๆ ก็อาจเกิดจากสารพัดเชื้อ ในกรณีนี้ คงต้องตอบแบบแยกเป็นประเด็นไป โดยที่ให้คุณกลับไปสังเกตอาการปลาให้แน่ชัด แล้วพิจารณาทำการรักษาตามที่ผมจะแนะนำต่อจากนี้นะครับ ลองสังเกตดูว่าปลามีการขับเมือกออกมาตามลำตัวมากมั้ย แล้วชอบว่ายเอาตัวถูกับตู้หรือเปล่า มีอาการว่ายแบบทุรนทุรายมั้ย โดยมากมักจะลอยตัวดามผิวน้ำ ปลาจะผอม กระพุ้งแก้มเปิดปิดเร็วกว่าปกติ คล้ายๆหอบ ลองดูว่าอาการตรงมั้ยนะครับ เพราะบางทีอาการที่คุณบอกมาอาจจะเป็นโรคที่เกิดจากปลิงใสจำพวก เมตาซัว (Metazoa; Monogeneans) ชนิด Gyrodactylus sp. ที่มักจะอยู่ตามผิวหนังและครีบของปลา ทำให้เกิดอาการครีบฉีกกร่อน และที่ผิวหนังจะมีลักษณะคล้ายตกเลือด อาการแบบนี้รักษาได้โดยใช้ฟอร์มาลิน ในอัตราส่วน 2-4 ซีซี ต่อน้ำ 100 ลิตร แช่ปลาซัก 24 ชม. น่าจะดีขึ้น การรักษา ทำได้โดย แยกปลาป่วยออกมาใส่ภาชนะอื่นไว้ อาจจะเป็นถังหรืออะไรก็ได้ แต่ควรจุน้ำได้ไม่ต่ำกว่า 18 ลิตร และปากด้านบนเปิดโล่ง เพิ่มอากาศในน้ำให้เพียงพอ แต่อย่าปล่อยลมแรงเกินไป จนพัดตัวปลาปลิวว่อนไปทั่วตู้ และให้ระวังเรื่องอุณหภูมิน้ำให้เท่ากันกับในตู้เดิมด้วย (แต่กรณีของคุณผมว่ารักษาทั้งตู้เลยดีกว่า เพราะสันนิษฐานว่าปลาที่เหลือคงจะติดเชื้อเรียบร้อยหมดแล้ว) แต่ถ้าปลาไม่มีอาการคัน ไม่พยายามถูตัวกับสิ่งอื่น กรณีนี้ก็อาจจะเกิดจากเชื้อรา Saprolegnia parasitica (Saprolegnia sp.) ซึ่งเจ้าเชื้อรานี้มักจะไปผสมโรงร่วมกับโรคอื่นๆ ที่ปลาเป็นอยู่แล้ว เช่น ปลาของคุณอาจจะป่วยด้วยโรคพยาธิภายนอก เช่น เมตาซัว ที่ผมกล่าวมาข้างต้น หรือติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆที่ผิวหนังอยู่ก่อนแล้ว เจ้าเชื้อราตัวนี้ก็จะเข้ามาเกาะตามเนื้อเยื่อที่ตายซึ่งเกิดจากการที่เจ้าปลิงใสมันกัดจนเป็นแผล ซึ่งเจ้าตัวการแรกที่ก่อให้เกิดโรคแก่ปลาของคุณนั้น มันอาจจะตายไปก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเห็นคุณบอกว่าใส่ยาไปตั้งหลายขนาน แต่หลังจากนั้นเจ้าเชื้อราที่ว่ามันอาจจะอึดกว่า หรืออาจจะมาจากสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ ที่เป็นพาหะเช่น จากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายคุณที่จุ่มลงไปในน้ำ หรืออาจจะมาจากปลาที่โดนเจ้าเชื้อรานี้เล่นงานอยู่ก่อน หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ที่คุณใช้ในการเลี้ยงปลา อาทิกระชอนที่คุณนำไปใช้ตักปลาที่ตายแล้วไปทิ้ง แล้วคุณก็ไม่ได้เอามันไปฆ่าเชื้อ จากนั้นคุณก็เอามาใช้ใหม่ เชื้อรามันก็จะวนเวียนสร้างวงจรชีวิตภายในตู้ปลาคุณได้อีก ซึ่งเจ้าเชื้อรานี่มันเป็นตัวแสบ เพราะมันจะออกอาการก็ตอนที่เกิดแผลเปิดบนผิวหนัง หรือที่เหงือกไปแล้ว โดยมันมักจะไปอยู่ตรงบริเวณขอบแผล ซึ่งถ้าอาการหนัก เราจะเห็นว่าตรงแผลนั้นจะเป็นลักษณะเป็นขุยสีขาวเหมือนปุยนุ่นเกาะที่ผิวหนังปลา หรือบริเวณครีบปลาโดยเฉพาะปลายครีบหาง จึงเป็นสาเหตุให้ปลามีอาการครีบกร่อน เปื่อย แต่โดยลำพังด้วยตัวของมันเองแล้วไม่ค่อยจะทำให้ปลาตายเท่าไรนัก นอกจากปลาคุณจะมีอาการแทรกซ้อนอย่างที่ผมกล่าวมาแล้ว หรือสภาพน้ำในตู้คุณไม่เหมาะสมครับ การรักษา ทำได้โดย ลักษณะเดียวกับที่กล่าวมาแล้ว จากนั้นให้รักษาด้วยมาลาไคล์กรีน ผสมลงในน้ำเพาะเลี้ยงขนาด 0.1 ppm. (ppm = ส่วนในล้านส่วน) แช่ปลาไว้ 12-24 ชม. ติดต่อกัน 3 วัน โดยทุกครั้งให้เปลี่ยนน้ำออกครึ่งหนึ่ง หรืออีกกรณีหนึ่งคือปลาของคุณเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียจำพวก แอร์โรโมแนส ไฮโดรฟิลล่า ซูโดโมแนส ซึ่งปลาที่ป่วยด้วยโรคที่เกิดจากแบคทีเรียแบบนี้ ส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุโน้มนำโรคมาก่อน เช่นอาการป่วยเนื่องมาจากพยาธิภายนอก จากคุณภาพน้ำไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปลาที่อยู่ในสภาพที่มีความเครียด เช่น เปลี่ยนที่อยู่ใหม่ ตกใจ จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย ซึ่งอาการของปลานั้น โดยปกติปลาจะแสดงอาการซึมเซื่อง ปริมาณการกินอาหารลดลง มักจะว่ายเอื่อยๆตามผิวน้ำ มีอาการเกล็ดหลุด มีจุดแดงตามตัว ครีบฉีกกร่อน หายใจหอบถี่ เหงือกเปิดกว้าง ดูเหมือนจะหายใจลำบาก สังเกตดีๆจะเห็นว่าตรงโคนครีบอกจะมีอาการบวม และใกล้กัน คือบริเวณรอบๆ ทวารก็จะมีอาการบวมแดงเช่นกัน ในบางรายก็จะเกิดแผลตามผิวหนัง ท้องบวมอย่างเห็นได้ชัด ถ้าผ่าท้องดูจะพบว่ามีอาการบวมน้ำ โดยที่อวัยวะภายในเช่น ตับ ม้าม และไตจะมีขนาดใหญ่ผิดปกติ ลักษณะนี้ ถ้ารักษาไม่ถูกต้องโอกาสตายมีมากกว่า 80% ครับ การรักษา อาจใช้ยาจำพวกยาปฏิชีวนะใส่ลงไปในน้ำเพื่อแช่ปลา เช่น การใช้อ๊อกซีเต็ทตร้าชัยคลิน ขนาด 10 ppm. แช่ปลาไว้ 12-15 ชม. ติดต่อกัน 5-7 วัน โดยเปลี่ยนถ่ายน้ำ 50 % ในแต่ละวัน หรืออาจจะใช้ยาคลุกเคล้าผสมกับอาหารให้ปลากินในอัตราส่วน 50-75 mg./kg. (50-75 กก.ต่อน้ำหนักของปลา 1 กก.นะครับ) โดยเราจะให้ปลากินติดต่อกัน 7-10 วัน หรืออีกกรณีหนึ่งคือ เราอาจจะใช้อ๊อกโซลินิคแอซิคขนาด 10 ppm. แช่ปลาไว้ 24 ชม. เปลี่ยนถ่ายน้ำ 50 % วันละครั้ง ติดต่อกัน 5-7 วัน หรือผสมอาหารในขนาด 20 mg. ต่อปลาหนัก 1 kg. โดยให้กินติดต่อกันประมาณ 5-7 วัน ถ้าปลาคุณอาการไม่หนักหนา ก็น่าจะหายครับ อีกนิดนึงครับ.. โรคที่กล่าวมานั้น การป้องกันจะง่ายกว่าการรักษาโดยการปรับแต่งคุณภาพน้ำให้เหมาะสมตลอดเวลา ควบคุมสภาพแวดล้อมต่างๆ อย่าให้ปลาเกิดความเครียด จัดการด้านต่างๆ ให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ ให้อาหารที่มีคุณภาพและปริมาณที่พอเหมาะ อย่าใช้อุปกรณ์ร่วมกันกับปลาป่วย ถ้าจะใช้ต้องทำการฆ่าเชื้อโดยการนำไปนึ่ง แช่ด่างทับทิม อาหารก็ให้มีคุณภาพ ไม่เป็นรา ไม่หมดอายุ ทางที่ดี แนะนำให้นำปลาไป ให้สัตว์แพทย์ทำการวินิจฉัยโรค จะแน่นอนกว่ามานั่งรักษาเอง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ครับ" จากคุณ : ทัพหลวงมาช่วยแล้ว - [ 22 มิ.ย. 49 02:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 วันนี้เปลี่ยนน้ำในตู้มากขึ้นดู ปลาอาการดีขึ้นนะครับ ตัวที่ไม่กินอาหารก็เริ่มกลับมากิน แต่ปลาของเรายังสวยเหมือนเดิมนะครับ แต่มีปัญหาที่ว่าไม่ค่อยทานอาหารอย่างเดียวครับ เราว่าน่าจะเป็นเพราะคุณภาพน้ำไม่ดี และทำให้เกิดโรคนะครับ แต่เป็นโรคอะไรเนียะ ช่วยฟันธงหน่อยนะครับว่าปลาของเราเป็นโรคอะไรได้รักษาถูก จากคุณ : icenate (icenate) - [ 23 มิ.ย. 49 02:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ระดับ PH 5 ผมว่าน่าเป็นห่วงนะครับ มันหมายความว่าน้ำของคุณมีความเป็นกรดมากทีเดียว ระดับPH ที่เหมาะสมควรอยูที่ประมาณ 7 ครับ อันนี้อาจเนื่องมาจากระบบการกรองมีปัญหา มีของเสียสะสมในระบบกรองมาก ทำให้เกิดการย่อยสิ่งปฏิกูลแบบที่ไม่เหมาะสม อาจได้เป็นก๊าซ H2S ออกมา ทำให้นำมีค่า PH ต่ำ แก้ไขโดยการเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ ปรับปรุงระบบการกรองน้ำให้ดีกว่าก่อน ก็จะลดปัญหาได้ครับ จากคุณ : mapkha@fischcare.com - [ 30 มิ.ย. 49 08:49:03 A:58.8.169.232 X: ]