ความคิดเห็นที่ 1 เศร้าใจ.....ไม่ซื้อ.....อยากคืนป่า จากคุณ : kumlaisook - [ 14 ส.ค. 49 18:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นึกว่าขายหอมแดงซะอีก แล้วเค้าจะมีชีวิตรอดต่อไปหรือเปล่าเนี่ย จากคุณ : ลูกปืน - [ 14 ส.ค. 49 19:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อืมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม น่าสงสาร  สงสารอะไรหรือ ? .......สงสารต้นไม้ ๑ .......สงสารสภาพป่า ๑ .......สงสารคนที่ซื้อไป ๑ .......สงสารประเทศไทย ๑ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ถ้าคิดในอีกแง่...................... คนที่นำมาขาย..........เพราะว่าเค้าขายได้  จึงมีการขาย คนที่เข้าไปซื้อ..........เพราะว่าเค้าอาจไม่ทราบว่า  ต้นไม้ต้นนี้  มันเลี้ยงยาก เค้าได้เห็นแต่ดอก เค้าก็เลย เกิดกิเลส  อยากที่จะนำไปเลี้ยง เพื่อให้ออกดอกเหมือนอย่างที่เห็นบ้าง แต่...โอกาสน้อยมาก ประเทศไทย.............เพราะว่าประเทศของเรา ทำอะไร ทำแบบไฟไหม้ฟาง  หรือ ทำแบบต้องได้ผลประโยชน์  หรือทำเพื่อเอาหน้า  น่าสงสารกฏหมายของบ้านเมือง หมายเหตุ  ความเห็นข้างบนทั้งหมด  ของก๋ง  ก๋งรับผิดชอบขอรับ  เหอ  เหอ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ขอบพระคุณ น้าโหดด จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 14 ส.ค. 49 19:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ...มันเป็นเรื่องที่แก้ไขยากที่จะให้ทุกคนเลิกซื้อ เลิกขาย และเลิกเลี้ยงไม้ป่า เพราะในเมื่อมี"คนขาย" ก็ยังคงมี"คนซื้อ" และตราบใดที่ยังมี"คนซื้อ" ก็ยังคงมี"คนขาย" ...บางครั้ง เราไม่อยากที่จะสนับสนุนไม้พวกนี้ แต่ในใจมันก็อดใจไม่ได้ที่จะซื้อ ...และบางครั้ง ที่คนขายบางคนก็น่าสงสารมาก เคยเห็นไหม คนแก่ๆ พาหลานมานั่งขาย ถามเค้าว่า"ลูกไปไหน ทำไมปล่อยให้ยายมานั่งขายของแบบนี้ แล้วยังเอาหลานมาให้รับผิดชอบอีก" ยายก็ได้แต่บอกด้วยน้ำเสียงเศร้าๆว่า"แม่มันทิ้งลูกมันไว้ให้ยายดูแล แล้วก็ไปทำงานที่กรุงเทพ เงินทองก็ไม่ส่งมาให้ ถ้ายายไม่ขาย ยายก็ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ไม่มีเงินให้หลานไปโรงเรียน..." ...ที่พูดมาไม่ได้สนับสนุนให้ซื้อไม้ป่านะ แต่เป็นประสบการณ์จริงที่เคยได้พบเห็นมาด้วยสายตาตนเอง จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 14 ส.ค. 49 19:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ณ.บ้านพัก(กระท่อม)ในอุทยานฯแห่งหนึ่ง เหล่าเจ้าหน้าที่สำรวจเส้นทางกำลังหุงหาอาหารค่ำ หนึ่งในนั้นเหลือบเห็นกล้วยป่าขึ้นอยู่บริเวณนั้น เกิดอยากกิน หยวกกล้วยต้มปลากระป๋อง หยิบมีด พลางบอกเพื่อน แล้วตรงไปที่ดงกล้วย มีเสียงทักท้วงตามหลัง " อย่าเลย เก็บไว้ให้เขากิน ของกินเรามี " ใช่สิ " ของกินเรามี เยอะแยะเหลือเฟือด้วย " จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) - [ 14 ส.ค. 49 19:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับคนทั่วไปมักจะเห็นเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับพวกเราว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ แต่คนมีหน้าที่อนุรักษ์เขาคิดอย่างไร จากคุณ : ยุ่น..ดิ - [ 14 ส.ค. 49 19:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปลาการ์ตูน สีสวย เคยเป็นตัวเอกในการ์ตูน ไฟน์ดิ้ง นีโม่ การ์ตูนมีเนื้อหาถึงความไม่เหมาะสมของการพรากชีวิตไปเลี้ยงในตู้เพื่อความสวยงาม ปลาการ์ตูนสีสวยมากเมือ่อยู่ในทะเล และได้พึ่งพาอยู่กับกอดอกไม้ทะเลที่เอื้อประโยชน์กันอย่างน่าอัศจรรย์ ...... ปลาการ์ตูน หลายตัว เซื่องซึม สีออกหม่นๆเทาๆ ไม่ค่อยว่ายน้ำ หลบอยู่ตามซอกของตู้ปลาที่พยายามจัดให้สวยงาม สีสันสดใสจางหายไปหมดแล้ว ไม่นานมันคงตาย..... จากคุณ : สิงโตอ้วน - [ 14 ส.ค. 49 19:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ในมุมมองที่ต่างกัน สำหรับผู้ที่นำมันออกมา "มันคือสินค้าที่ทำเงินโดยที่เค้าไม่ต้องลงทุน" สำหรับคนที่ซื้อ "มันคือกล้วยไม้ป่า หายาก แสนสวยงามเชื้อเชิญให้ได้มาซึ่งความเป็นผู้ครอบครอง" สำหรับคนที่มีหัวใจของการอนุรักษ์ "มันคือการทำลาย ยากที่จะป้องกันหรือแก้ไข ในเมื่อต้นตอของปัญหาคือ การปลูกฝังจิตสำนึก ให้ตระหนักว่า ธรรมชาติคือผู้ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่งในโลก และมนุษย์คือผลผลิตของธรรมชาติ การทำร้าย ทำลายธรรมชาติอันแสนสวยงาม คือ การกระทำอัตวิบาตกรรม ตัวเอง" สำหรับผู้ที่รักธรรมชาติอย่างมีเหตุผลและเข้าใจธรรมชาติ "มันคือสิ่งที่ทำให้เกิดความสลดใจเป็นอย่างยิ่ง เหตุผลในการซื้อมา ไม่ใช่แค่เพียงสวยงาม หรือว่ามันเป็นสิ่งที่เรารัก เราอยากได้ เพียงเท่านั้นหรือ???" จากคุณ : ม่อนไข่ (ม่อนไข่) - [ 14 ส.ค. 49 20:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นแล้วเสียดายครับ ***เสียดายตังค์ (เพราะบางคนอาจจะคิดช่วยธรรมชาติเลี้ยง แต่ก็เลี้ยงไม่รอด) ***เสียดายโอกาส ที่อนาคตข้างหน้าอาจจะไม่เห็นดอกเอื้องสายวิสูตรในธรรมชาติ เพราะเก็บลงมาก็ตายหมด ***เสียดายความรู้ ที่ต้องเสียไปกับกล้วยไม้ป่าชนิดหนึ่งที่ไม่อาจจะศึกษาได้ เพราะไม่มีตัวอย่างให้ศึกษา ***เสียดายความรู้สึก ที่ในอนาคตอาจจะถูกบันทึกว่ากล้วยไม้ชนิดนี้ได้สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยแล้ว สุดท้าย*** ***เสียดายชีวิตกล้วยไม้ชีวิตหนึ่งที่ถูกคนทำลายโดยไม่มีความผิดใดๆเลย น่าเศร้าใจจริงๆที่ยังมีคนสิ้นคิดเก็บเอื้องสายวิสูตรมาขายเพียงเพื่อตอบสนองประโยชน์ส่วนตน แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 49 20:18:38 จากคุณ : Coccus - [ 14 ส.ค. 49 20:03:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อยากเป็นกรรมการคนที่แปด จากคุณ : รองเท้าชาตรี - [ 14 ส.ค. 49 20:22:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นแล้วนึกถึงเพลงเก่า เพลงหนึ่งที่ว่า " กล้วยไม้ ของเราแต่เก่าก่อน อยู่ในดงในดอน เจ้าซ้อนช่อชูใบ --------- เดี๋ยวนี้ดูหรือกล้วยไม้ เจ้าชูช่อ ชูใบ อยู่แต่ในกระเช้า......" ถ้าไม่มีคนซื้อ ก็ไม่มีคนขาย ถ้าไม่มีคลับกล้วยไม้ เรือนจตุจักร ที่เอาภาพกล้วยไม้ป่าสวยๆ มาอวดก้น  ก็คงไม่มีคนตามหาซื้อกล้วยไม้ป่า อย่าว่าแต่สายวิสูตรเลย สิงโตต้นกระจิ๋ว ยังโด่งดังได้ อย่าลืมว่า ชี้นิ้วว่าคนอื่นทำลายกล้วยไม้ในป่า อีกสามนิ้วที่เหลือ ชี้เข้าต้วเอง ถ้าจะสร้างจิตสำนึก  เริ่มจากที่เราก่อนดีมั้ยคะ จากคุณ : จันผา - [ 14 ส.ค. 49 20:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นแล้วนึกถึงผู้มีอำนาจปกครองจังหวัดนั้นๆ และก็ตำรวจป่าไม้  ว่าปล่อยให้เอาออกมาขายกันโจ่งแจ้งขนาดนี้ได้ยังไง  ด้วยอารมณ์ตอนนั้นคงจะโทรถาม1133 ว่าเบอร์ป่าไม้จังหวัดอ่ะเบอร์อะไร  ลองมาดูหน่อยไหม??  คงทำได้แค่นั้น  และยิ่งไปกว่านั้นสถานที่ขายไม้ป่าพวกนี้ดันไปอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการ!!!(ที่น้าโหดบอกไว้)   เลยคิดไปถึงว่าจังหวัดอะไรกันหนอปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ แล้ว... นับประสาอะไรกับพวกที่แอบค้าขายไม่มากมายมหาศาลหรอกเหรอ  ไม่แปลกเลยที่กล้วยไม้ในป่าจะหายไปๆ และสุดท้าย สมเภชตัวเองที่ครั้งนึงก็เคยซื้อด้วยอารมณ์ที่อยากได้เป็นที่สุด แล้วมันก็ตายอีกสองปีผ่านมา.... จากคุณ : เหลืองจันท์ - [ 14 ส.ค. 49 20:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รู้สึกเสียดายเพราะว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงกล้วยไม้ชนิดนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเลี้ยงไม่รอด เมื่อซื้อกลับไปเลี้ยงแล้วมันตาย ก็อาจเกิดความรู้สึกที่อยากจะเลี้ยงให้รอดให้ได้ ก็เลยซื้อมาเรื่อย ๆ เมื่อคนขายเห็นว่ามีคนซื้อก็จะมีการนำเอาออกมาจากป่าเรื่อย ๆ แต่ถ้าเราไม่ซื้อ(คนอื่นด้วย)ก็จะไม่มีการลักลอบนำออกมาขาย หรือนำออกมาน้อยลง จากคุณ : น้ง..โหน่ง - [ 14 ส.ค. 49 22:16:39 A:203.172.75.111 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ... เห็นแล้วก็นึกถึงตัวเองซิครับ... ความอยากมันไม่มีที่สิ้นสุด... เมื่ออยากได้...เขาก็อยากขาย... ร่ำร้องกันไปแล้ว...จะได้หยุดความอยากของตัวเอง... ผมขอหยุดความอยากของตัวเองให้ได้ก่อน... จากคุณ : นายยล - [ 14 ส.ค. 49 22:17:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอามาลงให้ดูอีกทีค่ะ ความในใจที่มี... เขียนไว้หมดแล้ว จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 14 ส.ค. 49 22:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ในงานประกวดเทพีปุ๋ยหมักเวทีหนึ่ง ขณะกำลังถึงคำถามตัดสินรอบตัดเชือก คนดูต่างลุ้นระทึกกับคำตอบของตัวเก็งทั้งสอง คือนางงามและนางอิจฉา ***คำตอบนางงาม*** "ไม่ควรซื้อกล้วยไม้ป่าเหมือนอย่างนางอิจฉานะคะ เพราะเป็นการทำลายธรรมชาติ ควรเก็บไว้ให้ลูกหลานดู กล้วยไม้จะงามที่สุดต่อเมื่ออยู่ในธรรมชาติเหมือนนางงามที่สวยอย่างธรรมชาติค่ะ พระเอกจะหล่อที่สุดก็ต้องอยู่บ้านนางงามค่ะ ไม่ใช่บ้านนางอิจฉา หากอยากจะเลี้ยง ก็ควรซื้อไม้ที่เพาะเลี้ยงแล้ว ซื้อไม้จากฟาร์มเอามาเลี้ยง จะได้ไม่เป็นการรบกวนธรรมชาติ คนอื่นจะได้ร่วมชื่นชมด้วย ไม่ใช่เห็นแก่ตัวเอามาเป็นสมบัติส่วนตัวดูคนเดียวเหมือนนางอิจฉาหวงพระเอกไว้คนเดียวค่ะ กล้วยไม้หลายอย่างก็เอามาปลูกเลี้ยงนอกถิ่นกำเนิดไม่ได้ เลี้ยงแล้วก็ตายไปอย่างสูญเปล่า  ถ้าจะตายก็ต้องตายแบบมีค่าอย่างนางงามนะคะ ไม่ใช่ตายสูญเปล่าอย่างนางอิจฉา" ***คำตอบนางอิจฉา*** "จะแน่ใจได้อย่างไรคะว่ากล้วยไม้พันธุ์แท้ที่นางงามแสนภูมิใจว่าซื้อไม้ที่ปลูกเลี้ยงแล้ว ไม่ได้ซื้อไม้กำไม้กิโลมาปลูก แน่ใจหรือคะว่าเมื่อสามสี่ปีก่อนมีถิ่นฐานมาจากไหน กล้วยไม้หลายอย่างเคยมีใครทำไม้ขวด เพาะเมล็ดไหม แล้วที่ขายกันอยู่ต้นโตๆ เกาะขอน ออกดอกพรู กำเนิดมาจากไหน พระเอกของนางงามไม่ได้เกิดจากลูกท้อ กระบอกไม้ไผ่นะคะจะได้โตทันใช้ นางงามชอบซื้อไม้พันธุ์แท้ปลูกเลี้ยงแล้วพร้อมกับภาคภูมิใจว่าเธอไม่ได้ทำลายธรรมชาติ ลองมองแม่น้ำทั้งสายตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำนะคะ อย่ามองแค่คุ้งน้ำแสนสวยเบื้องหน้าที่ตัวเองยืนชื่นชมความงามอยู่  นางงามแน่ใจนะคะว่านางงามไม่เคยไปพรากพระเอกมาจากป่า" พลันนั้น ไฟบนเวทีก็ดับลง พร้อมเสียงอึกทึกครึกโครม กรีดร้อง พร้อมกับความโกลาหลอลหม่านบนเวที นางงามและนางอิจฉาตบตีแย่งมงกุฎเทพีปุ๋ยหมักกันให้วุ่น พร้อมกองเชียร์ข้างล่างคอยส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน  ใครกล้าหน่อยก็ปีนขึ้นไปบนเวทีช่วยกระชากมงกุฎกันเป็นที่สนุกสนาน ***กรรมการ*** "เอาไปทำปุ๋ยหมักทั้งคู่นั่นแหละ" จากคุณ : Magnificum - [ 14 ส.ค. 49 23:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อย่าให้ใครเป็นเจ้าชีวิตเธอนะคนดี         เพราะเราเกิดมาในโลกแห่งเสรี          อย่าให้ใครเป็นเจ้าชีวิตเธอ............นะคนดี มองดาวบนฟ้าเราก็เป็นได้แค่ฝัน ทุกวันไม่มีที่สิ้นสุด แต่ใจเอ๋ยใจของมนุษย์ สุดจะลึกที่จะพรรณนา               จึงอยากกู่ร้องเป็นท่วงทำนองของชีวิต               ถึงอดีตบางครั้งยังปวดร้าว               แม้นบทเพลงที่เคยร้องรำทุกค่ำเช้า               นี่ชีวิตเราหรือใครเขาเป็นเจ้าของ เพื่อเธอคนดีแด่คนช่างฝัน อย่าให้มันต้องกลายเป็นฝันร้าย มองฟ้าคืนนี้ยังมีดวงดาวดูพราวพราย แค่อยากรู้ใครคือเจ้าของเธอ         อย่าให้ใครเป็นเจ้าชีวิตเธอนะคนดี         เพราะเราเกิดมาในโลกแห่งเสรี          อย่าให้ใครเป็นเจ้าชีวิตเธอ............นะคนดี จากคุณ : abman - [ 15 ส.ค. 49 02:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 1. คนซื้อ ถ้าไม่มีคนซื้อก็ไม่มีคนขาย พวกเราทุกคนรู้ความจริงเรื่องนี้ดี แต่ถ้าว่าใครเป็นคนซื้อ ผมว่าก็พวกเรานี่แหละที่เป็นลูกค้าขาประจำ เพราะฉะนั้นคงจะต้องทบทวนกันอีกทีว่าใครเป็นต้นเหตุ 2. คนขาย บางทีชีวิตก็ไม่มีทางเลือกมากนัก บางครั้งคนเราก็ต้องทำทั้งๆ ที่รู้ว่ามันผิด หากมีใครซักคนที่สามารถสร้างโอกาสและให้ทางเลือกในการดำรงชีวิต เรื่องแบบนี้ก็อาจจะน้อยลง การให้การศึกษา ให้ความรู้เป็นเรื่องสำคัญที่ยังไม่เพียงพอต่อการสร้างทางเลือกในการดำรงชีวิตของพวกเขา ถ้าผมเป็นเขา ผมก็อาจจะทำเหมือนที่พวกเขาทำ ถ้าพวกเราไม่ซื้อ (อันนี้อาจจะยากหน่อย) ถ้าพวกเรามีกิจกรรมสักอย่างที่สามารถให้ความรู้ และสร้างจิตสำนักให้พวกเขา ถ้าพวกเรา.... ฯลฯ ทุกอย่างเริ่มจาก พวกเรา จากคุณ : สุบัญชา (สุบัญชา) - [ 15 ส.ค. 49 05:50:43 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นการกระทำที่ควรสนับสนุนยิ่งนัก...จะได้มีชมกันทุกบ้าน ของในป่าจะเก็บไว้ทำไม ไม่มีใครได้เห็นความงามเค้าหรอก มันคงต้องเริ่มอย่างที่ควรเริ่ม และมันคงไม่จบอย่างที่หวัง ... จากคุณ : JUNGLE MAN - [ 15 ส.ค. 49 07:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นไปตามธรรมชาติ คนขายอยากได้เงิน คนซื้ออยากได้ดอก ป่าอยากได้คืน คนตั้งกระทู้อยากได้ใจ จากคุณ : บีคิว001 - [ 15 ส.ค. 49 07:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คือ...กล้วยไม้ที่ถูกมัดตราสังข์ รอเพียงวาระสุดท้ายแห่งชีวิตจะมาถึง จากคุณ : chakrits2001 - [ 15 ส.ค. 49 08:25:01 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตัวนี้ไม่มีไม้ขวด เพราะไม่มีคนเลี้ยงรอด และไม่มีใครเอาฝักป่ามาทำขวด และถึงทำก็น่าจะไม่รอด เพราะขายไม่ได้ เพราะใครจะซื้อเลี้ยง 2-3 ปีกระมัง ถ้ารอดถึงได้ดูดอก  แต่ต้นป่า(ท้องป่า) 2-3 เดือนก็ได้ดูดอก แล้วก็ตายยยยยย เอ ชักสับสนว่าจะตอบยังไง 5555555 เอาเป็นว่า ถ้าจะไม่ให้มีไม้ป่ามาขาย 1.คนซื้อใจเย็นพอจะซื้อไม้ขวดพันธุ์แท้ มาเลี้ยงซัก2-3 ปีรอดูดอกมั้ย 2.คนซื้อซื้อไม้ขวดพันธุ์แท้(ที่ไม่ใช่รองเท้า)ในราคา 300 - 400 บาท แพงกว่าซื้อไม้กำ หลัก 10 บาท แล้วออกขวดจะรอดจนออกดอกกี่ต้น พูดตรงไปเปล่าเนี้ย สรุปเป็นว่า กล้วยไม้จะป่าหรือเมืองถ้าสวยก็หนีไม่พ้นกลไกตลาด อืมม............. จะทำยังไงให้มันมีไม้ป่าพันธุ์แท้ต้นใหญ่ๆขายทั่วไปในท้องตลาดราคาถูกเลี้ยงง่ายตายยากแบบหวายตัดดอก หละ.............   ใครๆๆๆๆๆๆ จะเป็นคนวิจัย ลงทุน ปรับปรุงพันธุ์ จนถึงวันนั้น จากคุณ : ลิงเล - [ 15 ส.ค. 49 08:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 บ้านผมเวลามีงานแข่งเรือ ประมาณต้นกันยายน จะมีกล้วยไม้ป่ามาขายทุกที  หลายเจ้าด้วย ก็คิดเหมือนน้าๆ ป้าๆ ข้างบนครับ ใจก็อยากลองเลี้ยงดูนะ  แต่กล้วยไม้ธรรมดายังตายเลย... จากคุณ : prakorbs - [ 15 ส.ค. 49 08:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 11   เห็นแล้วนึกถึงเพลงเก่า เพลงหนึ่งที่ว่า " กล้วยไม้ ของเราแต่เก่าก่อน อยู่ในดงในดอน เจ้าซ้อนช่อชูใบ --------- เดี๋ยวนี้ดูหรือกล้วยไม้ เจ้าชูช่อ ชูใบ อยู่แต่ในกระเช้า......" ถ้าไม่มีคนซื้อ ก็ไม่มีคนขาย ถ้าไม่มีคลับกล้วยไม้ เรือนจตุจักร ที่เอาภาพกล้วยไม้ป่าสวยๆ มาอวดก้น  ก็คงไม่มีคนตามหาซื้อกล้วยไม้ป่า อย่าว่าแต่สายวิสูตรเลย สิงโตต้นกระจิ๋ว ยังโด่งดังได้ อย่าลืมว่า ชี้นิ้วว่าคนอื่นทำลายกล้วยไม้ในป่า อีกสามนิ้วที่เหลือ ชี้เข้าต้วเอง ถ้าจะสร้างจิตสำนึก  เริ่มจากที่เราก่อนดีมั้ยคะ จากคุณ : จันผา   - [ 14 ส.ค. 49 20:23:22 ] คลับกล้วยไม้ เรือนจตุจักร หรือ คลับจตุจักร เรือนกล้วยไม้ ในเวปพันทิปนะหรือคะ เป็นต้นเหตุ... จากคุณ : นพนะลิน - [ 15 ส.ค. 49 09:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อก่อน ภูมิใจนะ กับกล้วยไม้ป่า ไม้กำ ไม่กิโล ได้ของราคาถูกเดี๋ยวก็ออกดอกแล้ว ตอนนี้ หันกลับไป เห็นหวายต้นละ 35 บาท ออกดอกยังดีใจมากกว่าไม้กำที่ซื้อมาอีก ... แต่ทำไงได้ล่ะครับ ละอายใจก็ต้องเลี้ยงต่อไป จะเอาไปปล่อยวัด ก็ไม่ได้นี่นา เลี้ยงแค่ที่มีไม่ซื้อเพิ่ม ก็พอแล้ว ใช่ป่าวครับ จากคุณ : ปูไต่ (อมยิ้ม) My blog (ปูไต่) - [ 15 ส.ค. 49 10:42:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ทั้งคนซื้อและคนขายก็รู้ทั้งนั้นค่ะ ว่ามันผิด .....แต่ก็ยังเข้าข้างตัวเอง คนซื้อ....."เราน่าจะเลี้ยงรอด....เราจะเอาไปขยายพันธ์ต่อ....เราเป็นคนสะสมไม้....ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ต้องบอกว่า  ลองเลี้ยงดู ถูกๆ ไม่กี่ตังค์เอง ไม่ต้องคิดมากหรอก......." คนขาย...กล้วยไม้มีเยอะจะตายไป....มันไม่หมดง่ายๆหรอก..ถ้าเราไม่เอามาขาย  คนข้างบ้านก็เอามาขายอยู่ดี ... อย่างที่เคยบอกไว้ เราก็เคยซื้อ ทั้งๆที่เราเคยอยู่กลุ่มอนุรักษ์มาก่อน เคยเข้าข้างตัวเองเหมือนกัน ซื้อได้ไม่กี่ครั้ง ก็ต้องกลับมาคิด แล้วก็เลิกซื้อแล้วค่ะ จากคุณ : เฮลิโคเนีย - [ 15 ส.ค. 49 10:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ซื้อมาเลย แล้วก็คืนสู่ป่าเหมือนเดิมครับ ผมยอมรับว่าสมัยก่อนผมก็ซื้อของพวกนี้ แต่พอมาอยู่ในวงการอนุรักษ์นี้ ผมก็เอากล้วยไม้บางส่วนคืนสู่ป่าจริง ๆ ครับ ทุกวันนี้ผมไปดูเขาก็ยังอยู่เหมือนเดิม อ้อ! ลืมไปว่าเพื่อนผมเป็นป่าไม้อยู่บุรีรัมย์ ไปทุกปีก็เอาไม้ไปปล่อยทุกปีครับ ผมว่าเราหน้าจะทำโครงการคือไม้สู่ป่าบ้าง หน้าจะดีนะครับ จากคุณ : รักษ์ไม้ (รักษ์ไม้) - [ 15 ส.ค. 49 11:31:19 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นภาพแล้ว  ทำให้นึกถึงรวงข้าวที่เกี่ยวเสร็จแล้วมามัดรวมกัน จากคุณ : ช้างบางนา - [ 15 ส.ค. 49 11:55:02 ]

ความคิดเห็นที่ 29 กล้วยไม้ เป็นส่วนหนึ่งของป่า ชาวบ้านเอาของป่ามาขายเทียบกับการรุกล้ำป่า ตัดไม้ทำลายป่า ของพวกนายทุนใหญ่แล้ว เล็กน้อยมาก กล้วยไม้สามารถขี้นเอง เจริญเติบโตเองตามธรรมชาติที่มีป่าอุดมสมบูรณ์ได้อยู่แล้ว ถ้าป่ายังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ???? แต่ไม่ได้สนับสนุนให้เอาของป่าออกมาขายนะครับ ส่วนกรณีเอามาลองปลูกเลี้ยงดู ศึกษาดู ก็ทำให้พวกเราเองนั้นแหละที่ได้รับความรู้กว้างไกลขี้น ไม่งั้นเราจะรู้ได้อย่างไรครับ ถ้าไม่มีชาวบ้านที่เก็บของป่าประทังชีวิต อย่าไปว่าเขาเลยครับ จากคุณ : Borin - [ 15 ส.ค. 49 12:20:50 A:58.9.77.248 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 น้ามองแล้วปลงเถอะน้า ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ใจของแต่ละคน เราไม่สามารถจะอ่านใจเขาได้ และทำไมเราไม่มองที่ตัวเราด้วยละว่ากำลังคิดอะไรอยู่ และกำลังจะทำอะไรต่อไป จากคุณ : เจ้าพระยาสุราบาน (เจ้าชายเคโระ) - [ 15 ส.ค. 49 12:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เอ่อ รางวัลที่ 4 เอา ไม้นิ้วเบลลีนา ไหมครับ นิ้วจริงๆ ผมออกขวดมาหกเดือนแล้ว ยกให้ 1 นิ้วนะน้าโหด ใครได้ที่ 4 ทวงมาเลยนะครับ จากคุณ : เสือจุ่น - [ 15 ส.ค. 49 12:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กล้วยไม้  >>>><<<< ใกล้ม้วย สายวิสูตร >>>><<<< สุดวิสัย คนเลี้ยงกล้วยไม้ >>>><<<< กล้วยไม้เลี้ยงคน คนกินกล้วยไม้ >>>><<<< แต่กล้วยไม้ไม่เคยกินคน จากคุณ : Drosera (Drosera) - [ 15 ส.ค. 49 14:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สมัยก่อนคนไทยที่อาศัยตามชายป่านิยมเก็บกล้วยไม้ในป่ามาเกาะต้นไม้รอบๆบ้าน เพื่อเลียนแบบในธรรมชาติด้วยรู้ในคุณค่าความงามเหล่านั้น หากแต่คนในสมัยนี้กลับแปรคุณค่าความงามเหล่านั้นเป็นเงินทอง หากมิได้เห็นคุณค่าความงามที่แท้จริงของมัน ภาพนี้ก็เป็นหนึ่งในการตอกย้ำถึงความไร้ค่าของคนอยู่บนความมีค่าของกล้วยไม้เหล่านั้น... จากคุณ : หนุ่มสตางค์ - [ 15 ส.ค. 49 14:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 จากกล้วยไม้ในเรือนป่ามาหากรุง ถูกใส่ถุง มัดใส่ห่อ มากองขาย มัดละ สิบ ยี่สิบ มีมากมาย วางขายได้ ขายดี ในป่ากรุง แล้วยังนี้ ป่าจริง เป็นไรเล่า คงจะเศร้า ขาดสีสัน พรรณพฤกษา หากพวกเรา ยังอุดหนุน อย่างเป็นมา อีกไม่นาน นักหนา...........คงมลาย คงไม่ต้องบรรยายกันมากกว่านี้แล้วครับ จากคุณ : คอนหวัน49 - [ 15 ส.ค. 49 14:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พลัดพราก..............จากป่า................ถิ่นกำเนิด สายวิสูตร.............แสนประเสริฐ .............มากหนักหนา รอนแรม................ฝ่าดง....................พงไพรมา ออกจากป่า..............สู่แผ่นปูน...............ชุมชนเมือง เค้าจะทำอะไร............อันใด ...............กับเจ้าหนอ เฝ้ารอดู....................ชะตากรรม.............ช้ำหนักหนา กำแล้ว..................กำเล่า...............เศร้าอุรา ตั้งมัดกำ............เหมือนผักปลา..............ดูไร้ค่า (เธอ) ฉันเคยอยู่.................ดีดี...........ที่ฉันอยู่ สุขน่าดู..................ป่าชะอุ่ม...........คุ้มธารา มามองดูตอนนี้..........เหี่ยวแห้ง .............แลโรยรา ฉันเกิดมา ...............คู่ป่าไม้...............ใช่ป่าเมือง จากคุณ : แวนด้าใบกลม - [ 15 ส.ค. 49 15:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 36 1.ผมว่าหน่วยงานขอรัฐต้องเริ่มทำไม้ขวดกล้วยไม้หรือไม้นิ้วมาขายเพราะมีแลปกระจายอยู่ทุกจังหวัด 2.ที่สำคัญการให้ความรู้การปลูกเลี้ยงกล้วย บ้านเราจะหาหนังสือที่มีเนื้อหาอ่านแล้วทำได้น้อย จากคุณ : asuorchid - [ 15 ส.ค. 49 16:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 รู้สึกเสียดายต้นไม้ และจะบอกทั้งคนขายและคนซื้อว่าอย่าเลี้ยงเลยไม่รอดหรอก จากคุณ : ไอยเรศแดง (ไอยเรศแดง) - [ 15 ส.ค. 49 19:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 38 แสงราบเรียบ ภาพออกแบน ๆ โฟกัส ไม่ชัด เชือกหายไป ไม่รู้แขวนด้วยอะไร ราก กะยอด ไม่ครบ ไม่สื่อ ความงาม ความยากลำบากในการเติบโต ใช้เวลาเท่าไร จึงโตได้เพียงนี้ ให้คะแนน ไม่ผ่านครับ ** ตามหัวข้อ คิดอย่างไร กับภาพนี้  ** จากคุณ : กาฝากไร้ใบ - [ 15 ส.ค. 49 21:22:26 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอโทษคุณนพนะลิน ที่ทำให้เข้าใจผิด คิดว่าเรากล่าวหา  เอาเป็นว่า  เป็นแค่เหตุหนึ่งในหลายๆ เหตุก็แล้วกัน สารภาพว่าตัวเองก็เคยเป็นหนึ่งที่เคยบุกป่าไปล่าฟ้ามุ่ยกับช้างในป่าเมืองตาก  แล้ววันก่อนๆ ที่เข้ามาในบอร์ดเห็นรูปสวยๆ แล้วอยากเลี้ยงอีก  สุดท้ายก็ไม่รอด ตอนนี้เลยได้แต่ตามดูรูปสวยๆ แทน ไม่เหนื่อย ไม่ลำบาก เอาเป็นว่า ตอนนี้หันมาเลี้ยงไม้ตามวัย  แวนด้าลูกผสมเลย จากคุณ : จันผา - [ 15 ส.ค. 49 21:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ปี ๆ นึงมีกล้วยไม้ออกจากป่ามากมาย อยากทราบว่า "มันออกมาได้ยังไง" แล้วมายกมือยอมรับว่าใครบ้างที่เลี้ยงไม้ป่าโดยที่ไม่เคยซื้อไม้แบบนี้ ที่ไร่แค่หวายตะมอยยังมีคนขโมยไปขาย คนที่ไม่มีความรู้เห็นดอกก็อยากซื้อ คนที่มีความรู้อยากซื้อไปเลี้ยงเผื่อรอด ปัญหามันอยู่ที่ไหน ตอบไปก็เหมือนพายเรือในอ่าง แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 49 22:51:19 จากคุณ : ไม่รู้หนูไม่ได้ทำ - [ 15 ส.ค. 49 22:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 41 บางครั้ง การที่ไม่ทำตามความต้องการของใจตัวเอง จะนำสิ่ง ดีๆกลับคืนมา แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 49 23:12:58 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : SmileOrchid - [ 15 ส.ค. 49 23:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอผิดกติกาครับน้าโหด ทีแรกคิดมุขไว้แล้วว่าจะตอบแบบไหน  แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ผมอ่านความเห็นของเพื่อนๆ แล้วมีความสุขครับ อ่านไปยิ้มไป ทุกคนในห้องนี้ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร และทุกคนก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ผมเห็นทุกคนกำลังพยายาม พยายามหักห้ามใจไม่ให้ซื้อ พยายามหาวิธีต่างๆ ที่จะทดแทนการเก็บไม้ออกจากป่า ออกขวดบ้าง คืนไม้สู่ป่าบ้าง พยายามป้องกันไม่ให้ไม้ถูกเก็บไปมากกว่านี้ และผมเห็นน้าโหดกำลังพยายามในหลากหลายวิธีเพื่อรักษาชีวิตน้อยๆ ไว้กับผืนป่า...... ผมขอเอาใจช่วยน้าต่อไปครับ ส่วนตัวผมเองก็จะลดละเลิกให้ได้เร็วที่สุดครับ... จากคุณ : หมอกฝน - [ 15 ส.ค. 49 23:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ^ ^ ^ ^ จากคุณ : abman - [ 15 ส.ค. 49 23:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่เห็นด้วยกับการนำกล้วยไม้ป่ามาขาย แต่ก็ไม่ปฎิเสธกับการทำมาหากินเพื่อความอยู่รอดของชีวิตเขา และก็ไม่ปฏิเสธว่าเคยซื้อไม้ป่ามาเลี้ยงเหมือนกัน รวมทั้งไม่ปฏิเสธกับการใช้ประโยชน์จากของป่าอย่างรู้คุณค่าที่แท้จริงของเขา สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับพวกเราเองแหละว่า ซื้อเขามาเพื่ออะไร เพื่อเลี้ยงดูด้วยความรัก เพื่อการพัฒนาพันธุ์ เพื่อมาใช้เป็นแม่พันธุ์ในการเพิ่มปริมาณโดยติดฝัก หรือซื้อมาเพื่อติดขอนแล้วจำหน่ายหวังผลกำไร...... แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามกรุณาศึกษาสักนิดว่ามันเลี้ยงได้กับสภาวะแวดล้อมของท่านหรือไม่ แล้วก็เพียงชนิดละต้นสองต้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว จากคุณ : บ้านค่าย (บ้านค่าย) - [ 16 ส.ค. 49 05:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 45 stop...stop...stop....ท่องไว้ในใจ จากคุณ : เอื้องพวงพลอย - [ 16 ส.ค. 49 06:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สูญพันธุ์แน่ ถ้าเป็นผม ผมแจ้งตำรวจเลย คราวหลังเขาจะได้ไม่รับมาขาย เมื่อไม่มีคนซื้อ คนขายก็ไม่มี คนเก็บกล้วยไม้ป่าก็จะหมดไป ที่มันไม่หมดเพราะกิเลสของคนเราเข้ามาดูแล้วเกิดกิเลสอยากได้อยากเลี้ยงทั้งที่ไม่มีความรู้ที่จะรูว่าเลี้ยงไม่รอด ผมเห็นหลายคนในเวป นี้โพสต์ไม้ป่ามาเสียส่วนมาก บางครั้งเราก็บอกว่าไม่ควรชื้อของป่าแต่ในเวปกลับโพสต์ไม้ป่า หรือบางเวปมีการประมูลไม้ป่ากันอยู่ จากประสบการของผมที่สนใจกล้วยไม้มากว่า 30 ปีไม้ป่ามันอยู่ป่าถึงจะงาม ปล่อยให้มันอยู่ในธรรมชาติเถอะการที่เราชอบกล้วยไม้กันทุกคนก็จะพูดว่า เรารักธรรมชาติ แต่การนำกล้วยไม้ป่าออกมาเลี้ยงนั้น จะมีสักกี่คนที่เลี้ยงสำเร็จและให้งดงามเหมือนในธรรมชาติ จงคิดอีกที่ว่าที่เราพูดเขียนออกมานั้นมันตรงกับใจเราที่มีกิเลสเกาะกุมอยู่มากหรือไม่ จากคุณ : bjb (bjb) - [ 16 ส.ค. 49 08:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 47 กำลังพยายามอยู่ค่ะ... ลด..ละ...เลิก... ไอ้ที่ซื้อมาแล้วก็ต้องเลี้ยงดูกันต่อไปให้ดีที่สุด ปลอบใจตัวเองว่าเริ่มต้นตอนนี้มันคงยังไม่สาย... ขอสนับสนุนรางวัลที่ 4 รวมกับไม้นิ้วเบลลินา ของเสือจุ่น เป็นไม้นิ้ว ดังนี้ เอื้องสายหลวง x เอื้องครั่งสายสั้น จำนวน 1 นิ้ว กุหลาบมาลัยแดง x กุหลาบเหลืองโคราช จำนวน 1 นิ้ว ช้างกระ จำนวน 1 นิ้ว จากคุณ : อินถวา - [ 16 ส.ค. 49 10:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 48 กำลังพยายามลดการซื้อลงเหมือนกันครับ แล้วก็พยายามเพาะออกมาบ้างเหมือนกันเผื่อไว้เป็นทางเลือกแทนไม้ป่าครับ จากคุณ : Pic-s - [ 16 ส.ค. 49 11:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คิดอย่างไรกับภาพ........ ทันทีที่เห็น...สงสารไม้  แล้วความคิดความสงสัยก็ตามมาถามว่า เสรีภาพในการกระทำมีได้ถึงขนาดนี้แล้วหรือ.... จากคุณ : 180/kg - [ 16 ส.ค. 49 11:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ก่อนจะโทษคนอื่น สำรวจตัวเองก่อน ก่อนจะตอบ ตอบตัวเองก่อน ทุกสิ่งในโลก ต้องเปลี่ยนแปลง มีเกิด ก็มีดับ สายวิสูตร ก็แค่สายวิสูตร... สายวิสูตร ก็ได้ชื่อแค่สายวิสูตร เราคิดว่ามันหายาก เราคิดว่ามันมีน้อย เราให้คุณค่ามัน เราคิดว่ามันงาม เราคิดว่ามันมีค่า เราคิดว่า เราควรรักษา เราคิดว่า เราควรเลี้ยงดู เราคิดว่า ควรอนุรักษ์ ถามว่า ถ้าอยู่เฉยๆ มันอยู่เฉยๆ มันก็อยู่ของมัน... เราเอง ไปคิด ไปให้ค่ากับมัน ถ้ามันหมด มันก็หมด ถ้ามันมี มันก็มี ตอบแบบนี้อาจจะไม่ได้ช่วยอะไร กับไม้กำนี้... ไม้เมื่อล้านปี ที่แล้ว เกิดขึ้น ไม้เมื่อล้านปีที่แล้วหมดไป ไม้ตอนนี้มีขึ้น ไม้ตอนนี้หมดไป... ทุกอย่างเป็นไป ตามกฎของมันเอง เราเป็นแค่ผู้เร่ง... คงต้องย้อนถามตัวเอง... ก่อนจะโทษคนอื่น สำรวจตัวเองก่อน ก่อนจะตอบ ตอบตัวเองก่อน... ใช่ไหม กับคำถาม คิดอย่างไร ? กับภาพนี้ มันก็แค่ภาพ... การตีความ การให้ความหมาย ! จากคุณ : buaravong - [ 16 ส.ค. 49 12:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่านอีกรอบ แล้วก็.... อยากได้รางวัลที่ 4 อิๆ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 16 ส.ค. 49 13:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ก่อนจะโทษคนอื่น สำรวจตัวเองก่อน ก่อนจะตอบ ตอบตัวเองก่อน ทุกสิ่งในโลก ต้องเปลี่ยนแปลง มีเกิด ก็มีดับ สายวิสูตร ก็แค่สายวิสูตร... สายวิสูตร ก็ได้ชื่อแค่สายวิสูตร เราคิดว่ามันหายาก เราคิดว่ามันมีน้อย เราให้คุณค่ามัน เราคิดว่ามันงาม เราคิดว่ามันมีค่า เราคิดว่า เราควรรักษา เราคิดว่า เราควรเลี้ยงดู เราคิดว่า ควรอนุรักษ์ ถามว่า ถ้าอยู่เฉยๆ มันอยู่เฉยๆ มันก็อยู่ของมัน... เราเอง ไปคิด ไปให้ค่ากับมัน ถ้ามันหมด มันก็หมด ถ้ามันมี มันก็มี ตอบแบบนี้อาจจะไม่ได้ช่วยอะไร กับไม้กำนี้... ไม้เมื่อล้านปี ที่แล้ว เกิดขึ้น ไม้เมื่อล้านปีที่แล้วหมดไป ไม้ตอนนี้มีขึ้น ไม้ตอนนี้หมดไป... ทุกอย่างเป็นไป ตามกฎของมันเอง เราเป็นแค่ผู้เร่ง... คงต้องย้อนถามตัวเอง... ก่อนจะโทษคนอื่น สำรวจตัวเองก่อน ก่อนจะตอบ ตอบตัวเองก่อน... ใช่ไหม กับคำถาม คิดอย่างไร ? กับภาพนี้ มันก็แค่ภาพ... การตีความ การให้ความหมาย ! จากคุณ : buaravong   - [ 16 ส.ค. 49 12:19:44 ]     ถูกต้อง...ตรงประเด็นเป๊ะครับ........ แต่ปัญหามันก็คือ.......เราจะทำอย่างไรกับผู้เร่ง...... เพราะถ้ามีผู้เร่ง นั่นหมายถึงมันไม่ใช่ธรรมชาติของมันที่ควรจะเป็น......... ตรงนี้แหละที่สำคัญละครับ....... จากคุณ : abman - [ 16 ส.ค. 49 15:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาอ่าน อีกรอบ เหมือนกัน --------------------------------------------------------- รู้สึกจะเครียดกันน่าดู ก็ดีใจที่ทุกคนรักกล้วยไม้  แต่อย่าอารมย์รักรุนแรง  จนกลายเป็นตัวอิจฉากันเสียหล่ะครับ จากคุณ : กาฝากไร้ใบ - [ 16 ส.ค. 49 17:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เหลือเวลาอีก 22 ชั่วโมงครับ ต้องรบกวนขึ้นไปอ่านกระทู้ด้านบนใหม่อีกครั้ง มี update เรื่องรางวัลใหม่ด้วยจ้า จากคุณ : น้าโหด - [ 16 ส.ค. 49 18:47:45 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาอ่านอีกรอบ รางวัลเพิ่มมาเยอะเลย อิ อิ จากคุณ : สิงโตอ้วน - [ 16 ส.ค. 49 20:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 56 แวะมาอ่านครับ อ่านแล้วก็รู้สึกเห็นด้วยกับความเห็นของหลายๆคน และก็ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของหลายๆคน กล้วยไม้อยู่ในป่าก็มีความสุขดี แต่ถามว่าในแต่ละความเห็นของหลายๆคนในเรือนนี้มีกล้วยไม้ป่าไว้ในครอบครองหรือไม่ มีกันเกือบแทบทุกคนว่าแต่มากหรือน้อย จุดเริ่มแรกของการเลี้ยงไม้ป่าก็คือเห็นแล้วดอกน่ารักหรือหอม ราคาถูก แต่สิ่งหนึ่งที่กระตุ้นความอยากก็คือรูปสวยๆซึ่งไม่ได้ลงรายละเอียดต่างๆ เช่นขนาดดอก หรือความยากง่ายในการดำรงค์ชีวิตของกล้วยไม้ หรือถึงแม้มีการบอกว่าเป็นไม้ที่เลี้ยงยากแต่ก็จะมีความรู้สึกอยู่อย่างหนึ่งคืออยากจะลองเลี้ยงดู แล้วก็ตาย แล้วก็อยากลองเลี้ยงใหม่ หรืออาจอ่านเจอกระทู้ที่บอกว่าเลี้ยงสายวิสูตรรอดเลี้ยงมณีไตรรงค์รอดก็อยากลองเลี้ยงดูบ้าง คนอื่นยังเลี้ยงรอดเลย แล้วก็ตายอีก คนหาไม้ก็หามาขายอีกเพื่อเหยื่อรายต่อไป ในการพัฒนาสายพันธุ์ก็จำเป็นต้องใช้ไม้ป่าบ้างเพื่อที่จะได้สายพันธุ์ที่ดี แต่พอออกจำหน่ายละต้นละ200หรือมากกว่านั้น เทียบกับไม้กำกำละ10-50-100บาทได้เป็นกำหรือได้เป็นกิโล อยากจะฝากบอกว่าการโพสไม้ป่าควรให้รายละเอียดที่มากกว่านี้เพื่อเป็นข้อแม้ในการตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ เช่นขนาดดอก ต้องเลี้ยงในอีแวปหรือความชื้นในโรงเรือน ความสูงต่ำจากน้ำทะเลหรือการใกล้จะสูญพันธุ์ หรือสามารถเพาะได้แล้ว การเลี้ยงกล้วยไม้ก็เป็นความชอบของแต่ละบุคคลแต่ถ้าผู้ที่อยากเลี้ยงไม้ป่าควรที่จะต้องทำการศึกษาให้มาก และพยายามเลี้ยงให้ดีที่สุดและต้องมีความพร้อมในการดูแล เพราะไม่รู้ว่าต้นที่ท่านเลี้ยงอาจเป็นต้นสุดท้ายของประเทศหรือเปล่า และผมว่าควรจะหารูปกล้วยไม้ที่ไม่ใช่ไม้ป่ามาโชว์เยอะๆหรือบ่อยๆ เป็นการช่วยสนับสนุนชาวสวนกล้วยไม้ของประเทศไทยด้วยเช่นแคทหรือแวนด้าที่พัฒนาสายพันธุ์แล้วหรือฟาแลนที่พัฒนาสายพันธุ์ และอีกจำนวนมากมายที่พัฒนาสายพันธุ์แล้ว ซึ่งมีดอกที่ใหญ่ ลวดลายน่าสนใจ หรือมีกลิ่นหอมมาก ขอฝากไว้ด้วยแล้วกันครับ(ไม่ได้หวังว่าจะอยากได้รางวัลอะไรแต่อยากฝากให้คิดกัน)...:-) จากคุณ : C Cont (เอสบี) - [ 17 ส.ค. 49 00:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ภาพ และการตีความ เราให้ความหมายจากภาพที่เราเห็น หากเราบอกว่า สิ่งที่เราเห็นคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ คนบางคน จะเชื่อว่ามันไร้ประโยชน์ แต่หากเราให้คุณค่ากับมันว่า มันมีค่า มันก็จะกลายเป็นสิ่งมีค่า เพราะมนุษย์เราได้ให้ความหมายกับสรรพสิ่ง การให้ความหมายบางทีแฝงเร้นไว้ด้วยเรื่องของอำนาจและความชอบธรรม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า คำอธิบายและความหมายของใคร สร้างความชอบธรรมแบบไหน ให้ผลประโยชน์กับใคร รวมไปถึงแว่นตาของแต่ละคนที่ใช้มอง... แว่นตาบางแว่นอาจจะมองบางอย่างผิดพลาด แว่นตาบางแว่นมองเรื่องเดียวกัน อาจจะเห็นว่าถูกต้อง เป็นเพราะการอธิบายไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเพียงตัวมันเองและเราผู้ให้ความหมายเท่านั้น ยังรวมไปถึงบริบทที่เกี่ยวข้องอีกด้วย เรื่องระบบความคิดและการให้คุณค่าที่แตกต่างกันในแต่ละคน บางครั้งใช้เป็นข้อตัดสินคนอื่นไม่ได้ และบางครั้งคนเราก็ใช้คำอธิบายของเราสร้างคุณค่าให้กับสิ่งที่เราอธิบายสร้างคุณค่าและความชอบธรรมให้กับตัวเองก็มี...บางทีก็ไปขัดแย้งกับคนอื่น คำถามอาจจะอยู่คำว่า จริยธรรม หรือคุณธรรมอยู่ที่ไหน ? คำตอบอาจจะอยู่ที่การให้คุณค่า การให้ความหมาย และความชอบธรรมดังที่กล่าวมา... คำถามที่ว่า ความขัดแย้งและความเห็นของเรานั้นถูกต้องจริงหรือ ? คำตอบคงอยู่ที่ว่า อะไรคือ ความถูกต้อง ? และอะไรคือความขัดแย้ง ? ความขัดแย้งเป็นความงดงามอย่างหนึ่งของสังคมมนุษย์ หากปราศจากความขัดแย้งเสียแล้ว เราอาจจะไม่เห็นคุณค่าของสิ่งบางสิ่ง ดังเช่นภาพที่ยกมาก็ได้... อดีต ก็เกิดความเห็นที่ไม่ต้องกันมาแล้ว ปัจจุบัน ก็มีความเห็นที่ไม่ต้องกันอีก... อย่างศาสนา การเมือง เรายังเห็นไม่ต้องกัน กับบางคน บางกลุ่ม... เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน บริบทเปลี่ยน ความหมายเปลี่ยน คุณค่าเปลี่ยน แล้วอะไรคือ “ความจริง” จากคุณ : buaravong - [ 17 ส.ค. 49 12:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 58 // จากคุณ : moonlover - [ 17 ส.ค. 49 12:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ชอบความเห็นที่11จัง เห็นแล้วนึกถึงเพลงเก่า เพลงหนึ่งที่ว่า " กล้วยไม้ ของเราแต่เก่าก่อน อยู่ในดงในดอน เจ้าซ้อนช่อชูใบ --------- เดี๋ยวนี้ดูหรือกล้วยไม้ เจ้าชูช่อ ชูใบ อยู่แต่ในกระเช้า......" ถ้าไม่มีคนซื้อ ก็ไม่มีคนขาย ถ้าไม่มีคลับกล้วยไม้ เรือนจตุจักร ที่เอาภาพกล้วยไม้ป่าสวยๆ มาอวดก้น  ก็คงไม่มีคนตามหาซื้อกล้วยไม้ป่า อย่าว่าแต่สายวิสูตรเลย สิงโตต้นกระจิ๋ว ยังโด่งดังได้ อย่าลืมว่า ชี้นิ้วว่าคนอื่นทำลายกล้วยไม้ในป่า อีกสามนิ้วที่เหลือ ชี้เข้าต้วเอง ถ้าจะสร้างจิตสำนึก  เริ่มจากที่เราก่อนดีมั้ยคะ จากคุณ : จันผา   - [ 14 ส.ค. 49 20:23:22 ] _________________________________ โดยเฉพาะข้อความ "อย่าลืมว่า ชี้นิ้วว่าคนอื่นทำลายกล้วยไม้ในป่า อีกสามนิ้วที่เหลือ ชี้เข้าต้วเอง" คิดดูดีๆแล้วเห็นอะไรตั้งเยอะ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดีๆค่ะ จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 17 ส.ค. 49 13:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 60 หลักวิชา นักวิชาการ (เกิน) บางคนมักมองภาพสังคม และสิ่งแวดล้อมแบบ โรแมนติคเกินความพอดี พวกเขาคิดว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคม ควรจะถูกแช่แข็งไว้อย่างนั้น และพยายามทุกทางในการรักษาสิ่งที่เขาคิดอย่างนั้นไว้ด้วย คำถามอยู่ที่ว่า คนในสังคมนั้นเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ? เขาคิดเหมือนที่นักวิชาการคิดหรือไม่ ? มีพี่คนหนึ่งไปที่ลาวมา รู้สึกว่า สังคมที่เขาไปเห็นเป็นสังคมที่ดีงาม งดงาม ยังเป็นสังคมแบบเกษตรกรรมอยู่ เขาเล่าเรื่อง ความงดงามให้พวกเราฟังและคิดว่าจะทำงานสักชิ้นที่นี่ อาจารย์ได้ถามพี่คนนั้นว่า คุณคิดว่า สังคมมันเป็นสิ่งที่คุณเห็นหรือ ? ภาพที่คุณถ่าย บางภาพ คำที่คุณพูดเกี่ยวกับสังคมนั้น บางคำ มันขัดแย้งภายในตัวเอง คุณคิดว่าคุณจะเข้าไปรักษาสภาพสังคมนั้นให้ดำรงอยู่เช่นนั้น ภาพของบ้านพักตากอากาศที่เรียงราย หรือภาพป้ายโฆษณา มันคือภาพของทุนนิยมในสังคมนั้น คุณยังจะกล่าวว่า ในสังคมนั้นยังบริสุทธิ์ได้อีกหรือ ? ถนน ไปที่ใด ความหายนะก็ไปที่นั่น... จากเรื่องเรานี้อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับภาพที่เห็นเป็นมัดๆ ก็ได้... พูดถึงคำพูดสวยๆ หรูๆ ดูดี เรามักเรียกกันว่า “วิสัยทัศน์” มันเหมือนกับป้ายที่ติดตามโรงพยาบาล มหาวิทยลัย หรือหน่วยงานทางราชการอื่นๆ ที่อ่านแล้วดูดี มีหลักการ แต่ไม่เคยทำได้จริง...เป็นเพราะ เขาไม่ได้เข้าใจถึงปัญหาอย่างลึกซึ้ง ไม่ได้มอง “บริบท” อย่างรอบด้าน... หากไม่เข้าใจบริบทที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด เราคงต้องโทษว่าคนนั้นผิด คนนี้ผิด คนนั้นถูก คนนี้ถูก ธรรมชาติไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ผืนป่า กับมนุษย์ไม่ได้แยกออกจากกัน... นับแต่โบราณมาแล้ว ไฉนเราจึงคิดแยก... แต่ไฉนเราจึงคิดเก็บเกี่ยว ? เป็นเพราะเราไม่รู้จักรักษา ไม่รู้จักความกลมกลืน หากจะย้อนก็ต้องโทษใครเล่า ? ทุนนิยม ? ที่สอนให้มนุษย์แสวงหาผลประโยชน์ หรืออาจจะเป็นอดัม สมิทธ์ เจ้าพ่อความคิดทุนนิยม ? หากเป็นเขา เราคงโง่มากที่เอาโทษคนเพียงคนเดียว เพียงแค่เขาคิด...แต่เราคือผู้กระทำ... หรือจะโทษ โปแตสแตนท์ที่ทำให้เกิดความคิดทุนนิยมขึ้นมาในอเมริกา...คงเป็นเรื่องยุ่งยากมากขึ้นไปอีก เพราะดูแล้วไม่เห็นเกี่ยวกับภาพตรงไหนเลย... หรือจะโทษคนเก็บ...ที่เก็บไม้มาขาย เขารู้หรือไม่ว่าไม้ชนิดไหนใกล้สูญพันธุ์หรือควรหวงแหนไว้ ดูเหมือนเราจะโทษเขามากเกินไป..หรือดูถูกสติปัญญาของพวกเขามากเกินไปนะ... หรือจะโทษคนซื้อ ที่ซื้อไม้ เพราะไม่มีคนซื้อ ก็ไม่มีคนเก็บ เรื่องนี้เหมือนปัญหาไก่กับไข่อะไรเกิดก่อน หรือจะโทษตำรวจที่ไม่ยอมจับ ผมว่าเขาไปจับรถมอเตอร์ไซค์ดีกว่าเยอะ... ไม้จับได้ก็เอาไปต้มยำทำแกงไม่ได้ หรือจะโทษฝรั่งที่ไปกวาดไม้เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ แต่นั่นเขาไม่ใช่ผู้ทำลายเพียงคนเดียว เขาอาจจะคิดเรื่องเงินๆ ทองๆ ผลที่ได้รับ และนี่เป็นผลจากลัทธิทุนนิยม จะโทษเพียงผู้เดียวไม่ยุติธรรมเลย... น่าจะโทษคนไปถ่ายรูปไม้ หรือคนทำหนังสือ เพราะทำให้หลายคนดูรูปไม้สวยๆ แล้วอยากได้ อยากเก็บ ผมว่าคงต้องโทษนักวิทยาศาสตร์ด้วยที่เข้าไปศึกษาเก็บตัวอย่างข้อมูลและทำให้พืชชนิดนั้นได้รู้จัก...คำถามอีกแล้ว... เขาคิดเหมือนที่เราคิดหรือไม่ ? คงต้องย้อนกลับไปที่การให้ความหมาย การตีความ การให้คุณค่า มุมมองแว่นตา การปฏิบัติ และบริบทที่เกี่ยวข้อง... จากคุณ : buaravong - [ 17 ส.ค. 49 13:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 รอคะแนนจากกรรมการทั้ง 7 ท่านครับ เพียงระบุความเห็นที่ชอบอันดับ 1-4 ให้ผมทางหลังไมค์หรือโทรศัพท์ก็ได้ เมื่อครบแล้วจะรวบรวมและรีบแจ้งให้ทราบครับ ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็นครับ จากคุณ : น้าโหด - [ 17 ส.ค. 49 17:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 62 กรรมการตอบกลับมาแล้ว 2 ท่านครับ เหลืออีก 5 ท่าน จากคุณ : น้าโหด - [ 17 ส.ค. 49 18:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 63 อยากรู้จริงๆ ว่าใครจะได้น๊า....  ตื่นเต้นๆๆๆๆ แต่อ่านไปอ่านมาแล้วชักงง  มันกลายเป็นเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อนงำมากๆเลยนะคะ รูปของน้าโหดเนี่ย  เฮ้อ.... งั้นขอตั้งชื่อภาพได้ไหมน้าโหด  "a simplified picture with a complicated people" จากคุณ : เหลืองจันท์ - [ 17 ส.ค. 49 19:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เหลือกรรมการอีก 2 ท่านที่ยังไม่ส่งครับ รีบด่วนหน่อยนะครับ จากคุณ : น้าโหด - [ 18 ส.ค. 49 06:19:26 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เหลือกรรมการอีก 1 ท่านยังไม่ส่งคะแนนมาให้ครับ แต่น่าจะถึงเวลารวบรวมคะแนนและประกาศผลแล้ว (เพราะผมจะต้องไปต่างจังหวัด) คะแนนต่อไปนี้ได้จากกรรมมการทั้ง 6 ท่าน ดังนี้ครับ รางวัลที่ 1 คุณก๋งแก่ ได้ 15 คะแนน โดยคะแนนจากบทความ 12 คะแนนและคะแนนจากการตอบเร็วอีก 3 คะแนนครับ อันดับที่ 2 คุณจันผา ได้ 14 คะแนน จากความคิดเห็น  12 คะแนน จากการตอบเร็วเพิ่มอีก 2 คะแนน อันดับที่ 3 คุณสุบัญชา ได้ 14 คะแนน จากความคิดเห็น  12 คะแนน จากการตอบเร็วเพิ่มอีก 2 คะแนน อันดับที่ 4 คุณ Chakrits2001 ได้ 11 คะแนน จากความคิดเห็น 11 คะแนน และการตอบเร็วอีก 1 คะแนน อันดับที่ 5 คุณ Smile orchid ได้ 11 คะแนนเท่ากัน จากความคิดเห็นล้วนๆ ทั้ง 11 คะแนน แต่เนื่องจากอันดับของความเห็นของคุณ Chakrits2001 ดีกว่าจึงต้องขอให้ credit กับคุณ Chakrits2001 ก่อนครับ อันดับที่ 6 คุณม่อนไข่ ได้ 10 คะแนน ได้คะแนนจากความเห็น 7 คะแนน และการตอบเร็ว 3 คะแนนครับ อันดับที่ 7 นายยลครับ ได้ 10 คะแนน จากความเห็น 8 คะแนนและการตอบเร็ว 2 คะแนน คะแนนเท่ากับคุณม่อนไข่ แต่ขออนุญาตให้ credit คุณม่อนไข่ที่ตอบก่อนครับ นอกจากนี้มีผู้ที่ได้คะแนนจากความเห็น (ไม่เรียงตามคะแนน) ดังนี้ คุณDrosera คุณบ้านค่าย คุณแวนด้าใบกลม คุณเฮลิโคเนีย คุณ bjb คุณหนุ่มสตางค์ โดยมีผู้ทำผิดกติกาเขียนเกิน 200 พยางค์ 3 ท่านคือคุณเอสบี คุณ magnificum และคุณ buaravong ครับ ผู้ที่ได้รางวัลผมจะติดต่อทางหลังไมค์หลังจากกลับจากต่างจังหวัดสัปดาห์หน้าครับ ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นครับ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 49 10:35:14 จากคุณ : น้าโหด - [ 19 ส.ค. 49 10:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แล้วจะรอเล่นเกมส์ ใหม่ครับ น้า จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) - [ 19 ส.ค. 49 19:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สุบัญชา อยู่แทสมาเนียครับน้า รางวัลฝากไว้ที่ผมได้เลย จากคุณ : หมอกฝน - [ 21 ส.ค. 49 22:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อันดับ 4 จะให้ผมส่งไม้ทางไปรษณีย์ให้เลยไหมครับ หรือว่า จะรับไม้ทางไหน หลังไมค์มาด้วยนะครับ ทั้งน้าโหดด้วยครับ จากคุณ : เสือจุ่น - [ 25 ส.ค. 49 14:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ข้อความเหมือนกับเสือจุ่น แต่เป็นอันดับ 5 6 7   จากคุณ : อินถวา - [ 26 ส.ค. 49 10:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เดี๋ยวผมประสานงานให้นะครับ ขอบคุณพี่อินถวากับพี่เสือจุ่นมากๆ ครับ จากคุณ : น้าโหด - [ 26 ส.ค. 49 16:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ผมแจ้งที่อยู่ไปทางหลังไมค์แล้วครับพี่น้าโหดและพี่เสือจุ่น  ขอบคุณสำหรับกิจกรรมดี ๆ ที่ทำให้เราได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่าง และขอบคุณกรรมการและผู้สนับสนุนทุกท่านอีกครั้งครับ จากคุณ : chakrits2001 - [ 28 ส.ค. 49 08:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เพิ่งเข้ามาอ่านวันนี้เอง เล่าให้ฟัง เคยติดบุหรี่ขนาดสูบวันละเกือบสองซอง รู้รสชาดว่ายี่ห้อไหนที่ตัวเองสูบกลิ่นควันมันหอมชื่นใจกระปี้กระเป่า รู้ว่าเวลาไหนอารมณ์ไหนสูบแล้วเหมือนได้ริ้มรสชาดที่เอร็ดอร่อย พยายามเลิกแล้วก้อกลับมาสูบอีกเมื่อหวลคิดถึงกลิ่นและรสชาดของมัน เด่วนี้เลิกได้มา7ปีแล้วแถมใส่จริตว่าเหม็นเสียอีก กำลังจะทำแบบที่เลิกบุหรี่เหมือนกันแต่..... .....แล้วส่วนที่มีอยู่ก้อไม่สามารถทิ้งปล่อยปละละเลยเหมือนทิ้งบุหรี่ที่เหลือได้ -หวังเพียงว่าทำได้แค่พยายามหักใจไม่เห็นจะได้ไม่หาซื้อ -ไม่ซื้อไม้ที่ไม่สามารถเจริญได้ในสภาพของเรือนเรา -คัดสรรขยายพันธุ์ที่มีปรับปรุงให้ได้ความแปลกใหม่(ซึ่งมีทั้งผลดีและผลเสีย) -เมื่อคิดว่ามีความสุขทำแล้วสบายใจทำไปเถอะ/// -คิดด้านเศรษฐศาสตร์ราคาแพงใช้เวลาหาไม้ป่าเดี๋ยวเดียวแค่หลักสิบ  พระเจ้าจอร์จมันยอดม๊ากกกกกกกกก * แต่อย่าลืมว่าแหล่งที่มาแล้วต้นสายมันก้อมาจากในป่าเหมือนกันเพียงต่างกรรมต่างวาระ การเปลี่ยนแปลงค่อยค่อยๆทำค่อยๆเป็นไปไม่มีใครสร้างโลกได้ในวันเดียว  กาลเวลา/การรอคอย/การค่อยๆช่วยกันสักวันคงเลิกได้เหมือนเลิกบุหรี่ จากคุณ : wichitarjam - [ 5 ก.ย. 49 10:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ^ ^ แล้วกัญชาเลิกหรือยังครับพี่ ล้อเล่นนะครับ จากคุณ : น้าโหด - [ 5 ก.ย. 49 20:03:01 ]