&&&&& อัพเดทหนูเอลซ่า และลูกน้อยทั้งสอง &&&&&
*** Elza คลอดลูกน้อยทั้งสองแล้วค่ะ ..แต่ตัวเล็กทั้งสองคงไม่มีบุญ และครอบครัวเราคงไม่ได้ทำบุญร่วมกันมา เค้าจึงจากไปทั้งสองตัวค่ะ
*** ไม่ได้นอนมาหลายคืน ตั้งแต่คืนวันพฤหัสที่ผ่านมา เพราะคอยเฝ้าดูเอลซ่า ที่ใกล้คลอด จนเริ่มปวดหัวตุ๊บ ๆ
*** บ่ายวันเสาร์ อาการเริ่มออกมากขึ้น ตัดสินใจนำส่ง รพ. เพราะมีแนวโน้มว่าจะออกกลางคืน
*** ก่อนหน้านั้น หลายๆ คน มีความเห็นว่า ต้องผ่าตัด เพราะมีแนวโน้มว่าจะออกไม่ได้ค่อนข้างแน่ ...
*** คุยกะหมอเบื้องต้น เช็คเลือด ตับ ไต ปกติทุกอย่าง แต่คุณหมอเจ้าของไข้ บอกคร่าว ๆ ว่า ลักษณะการหายใจของเอลซ่าเหมือนหลอดลมมีปัญหา ซึ่งหากวางยา ก็จะมีความเสี่ยงกว่าเคสปกติทั่ว ๆไป
*** จึงเป็นสาเหตุให้ตัดสินใจฝากคลอดในคืนนั้น และทิ้งเค้าไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อรอเวลาเค้าเบ่งคลอด โดยยังไม่ผ่าตัด
*** คืนวันเสาร์ หลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทั้งคืน แต่ใน
ใจ ก็หวังว่าตื่นเช้ามาคงได้รับข่าวดี ของเอลน้อย ๆ รวมทั้งปลอดภัยทั้่งแม่ทั้งลูก
*** เช้าโทรเช็คคุณหมอ ปรากฎว่า เอลยังไม่คลอด ทั้ง ๆ ที่อุณหภูมิลดลงพร้อมคลอดแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเค้าเครียดรึเปล่า
*** ออกไปทำธุระกันตั้งแต่เช้า แต่ใจก็ยังห่วงพะวงตลอด ตัดสินใจไปดูที่โรงพยาบาลดีกว่า ไปถึงประมาณเที่ยงกว่า ๆ ปรากฎว่าเอลไม่อยู่ในห้องฝากแล้ว รีบเดินไปดูในห้องฉุกเฉิน
*** ก็เจอว่าหนูเอลซ่าคลอดเอลน้อยตัวใหญ่ที่เคยลงฟิล์มเอ็กซ เรย์ให้ดูออกมาแล้ว ตอนแรกตามฟิล์มเอาหัวลง แต่ขณะที่เบ่งคลอดกลับเอาขาออกมาก่อน ซึ่ง คุณหมอบอกว่าตัวใหญ่มาก ๆ ดึงอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง จนเค้าหมดลมหายใจไปแล้ว
*** ตอนไปดู เอลน้อยตัวแรกนอนอยู่ข้าง ๆ เหมือนหลับ คุณหมอช่วยเป่าปาก นวดตัว ฯลฯ ซึ่งดูแล้วเราก็พอรู้ว่าไม่ค่อยมีความหวังเท่าไร
*** เราพ่อแม่ลูก อยู่เป็นเพื่อนหยิงเอลซักพัก และกลับมาตั้งหลักที่บ้าน รอเอลน้อยที่เหลืออยู่อีกตัวคลอด แต่ปรากฎว่า เอลไม่ยอมเบ่งคลอดอีกเรย..ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เราคงหลีกเลี่ยงการผ่าตัดไม่พ้นแน่นอน
*** ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้เรย ..กังวลไปหมด ...ไม่สามารถรอโทรศัพท์จากคุณหมอได้ โทรไปเช็คผ่าตัดเสร็จแล้ว แต่อาการยังไม่สู้ดีทั้งแม่ทั้งลูก..
***เดินทางไป โรงพยาบาลตอนหนึ่งทุ่มครึ่ง เห็นเอลซ่านั่งหน้าตาแป๋วแหววอยู่ในห้องพักติดกระจก ..รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก..เพราะหมายความว่า เค้าปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว 100 % แถมยังส่งเสียงหอนดังมาก ๆ
ตะกุยตะกายออกแรงอยากจะมาหา
*** นั่งคุยกะคุณหมอ ถึงรายละเอียดต่าง ๆ เราเกือบต้องสูญเสียเอลซ่าไปแล้ว คุณหมอแจ้งว่า วิกฤติมาก ๆ เพราะตรวจเจอว่า เค้าไม่ใช่แค่หลอดลมผิดปกติ แต่เค้ามีการผิดปกติในระบบกล่องเสียง และการหายใจ ซึ่งเคสนี้ส่วนใหญ่จะพบในน้องหมาพันธ์บลูด๊อก , ปั๊ก หรือบางพันธ์มากกว่า บีเกิ้ลยังเป็นส่วนน้อย
*** ในช่วงที่วางยา ต้องสอดท่อช่วยหายใจ ซึ่งไม่สามารถใช่ท่อขนาดปกติได้ เพราะมีความผิดปกติในระบบกล่องเสียงของหนูเอลซ่า ต้องใช้ขนาดเล็กกว่าปกติทั่วไป ขณะนั้น คุณหมอตัดสินใจเลือกช่วยชีวิตหนูเอลซ่าก่อน ทำให้เอลน้อย ๆ อีกหนึ่งชีวิต โดนยาไปมากพอดู
***แต่ก่อนนั้น เราก็พยายามหาสาเหตุ และสอบถาม จากทุกคน ถึงอาการหายใจแรง ๆ ของเค้าแต่ก็ไม่รู้สาเหตุแน่นอน จนถึงวินาทีที่เค้าต้องผ่าตัดถึงได้ทราบว่า เกิดจากตรงนี้
*** ส่วนเอลน้อยที่เหลืออีกตัว ณ ตอนเย็นวันอาทิตย์้ คุณหมอช่วยปั๊มหัวใจ จนอาการดีขึ้นเป็นลำดับ ร้องได้ แต่ต้องกกไฟอยู่ตลอด
*** ตอนที่เราไปเยี่ยมเอลน้อยอีกตัว ได้ยินเสียงเค้าร้อง ดีใจมาก ๆ เค้าอ้วนจ้ำม่ำ ปุ๊กลุ๊ก น่ารักมากๆ
*** สรุป ในเย็นวันอาทิตย์ เราฝากสองแม่ลูก เอลซ่า และลูกน้อยที่เหลือให้อยู่ในความดูแลของคุณหมออีก
หนึ่งวัน กะว่า จะไปรับเค้ากลับในวันจันทร์ ให้เค้าแข็งแรงอีกนิด เพราะดูเอลน้อย ยังไม่แข็งแรงเท่าไร แต่ก็มีความหวังว่าเค้าจะรอด
*** คืนนั้น เรากลับบ้านด้วยความหวัง ถึงจะเสียใจกะหนึ่งชีวิตที่จากไป แต่ก็นึกภาพ ความป่วน ความน่ารัก ของอีกหนึ่งชีวิตที่ยังเหลืออยู่
*** คิดจินตนาการ ฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย ถึงความเติบโตของเค้า วิ่งเล่น สนุกสนาน หลากหลายความน่ารัก ที่หวังว่าเราจะได้เห็นภาพเหล่านั้น ในวันข้างหน้า
*** เช้าวันจันทร์ ครอบครัวเราต้องสูญเสียเอลน้อย ๆ ไปอีกหนึ่งชีวิต เอลซ่าไม่ยอมให้ลูกทานนม ไม่เลี้ยงลูก รวมทั้ง เข้าใจว่า เอลน้อย ๆ คงโดนยาไปเยอะ สมองขาดอ๊อกซิเจนไปนาน สภาพร่างกายคงไม่แข็งแรงพอที่มีชีวิตอยู่ต่อให้เราได้ชื่นใจ หรือสู้ต่อไปได้
แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 49 19:13:38