ความคิดเห็นที่ 3
ตอบคำถามก่อนนะคะ ผิดค่ะ ไม่จำเป็นที่สัตว์ทุกๆเคสที่ป่วยเป็นพยาธิเม็ดเลือดจะจบลงด้วยการตายนี่คะ เมื่อเจ้าของพาสุนัขมาพบสัตวแพทย์ เราจำเป็นต้องประเมินสภาพร่างกายเบื้องต้นของสุนัขตัวนั้นก่อน เช่น อาการทางคลีนิก(อาการที่แสดงให้เห็น) ตรวจร่างกาย,เจาะเลือด เพื่อตรวจดูค่าทางโลหิตวิทยา ร่วมกับการตรวจหาพยาธิในเม็ดเลือด แก้ไขปัญหาเบื้องต้น หรืออาจมีหลายๆขั้นตอนร่วมกันเพื่อที่จะหาสาเหตุ และ ดำเนินการแก้ไขอาการเจ็บป่วยนั้นโดยเร็วทีสุด ดังนั้นการที่คิดว่า สุนัขที่ป่วยเป็นพยาธิเม็ดเลือดจะต้องตายทุกเคสก็ไม่เป็นความจริงค่ะ เพราะมีปัจจัยหลายๆอย่างร่วมกันที่จะทำให้สุนัขตัวนั้น หาย หรือ ตาย เช่น 1.สภาพของสุนัข เมื่อเจ้าของพามาพบหมอ ถ้าพามาในระยะแรกเริ่ม โอกาสที่จะหายก็มี มากกว่าตัวที่เจ้าของ พามาเมื่อ อาการเพียบ ร่างกาย ทรุดโทรมมากๆแล้ว 2.พยาธิในเม็ดเลือดเป็นคำเรียกรวมๆ ของ ปรสิตที่อยู่ใน กระแสเลือด ซึ่งมีอยู่หลายตัว และแต่ละตัวก็มีความ รุนแรงในการก่อโรค,มีแหล่งที่ชอบไปอยู่แตกต่างกันไป บางตัวทำลายเม็ดเลือดแดง , บางตัวก้อชอบเม็ดเลือด ขาว , บางชนิดขออยู่ในน้ำเลือด ถ้าหากว่า สุนัขตัวใด เข้าข่ายแจ๊กพอต ก็อาจพบพยาธิเม็ดเลือดมากกว่า 2 ชนิดร่วมกันก็ได้ค่ะ 3.การวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้องและ รวดเร็ว 4.ความร่วมมือของเจ้าของสุนัขและคนเลี้ยงเช่นการป้อน ยา อย่าง ต่อเนื่องทุกวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หรือใน กรณีที่ป้อนเองไม่ได้ หมออาจพิจารณาให้ admit ก็ขึ้น อยู่กับความรับผิดชอบของเจ้าของ สำหรับข้อนี้คิดว่าคุณ เจ้าของกระทู้นี้ สอบผ่าน 100% แน่นอนค่ะ 5.การดูแลหลังการรักษา เช่น การกำจัดเห็บ ที่เป็นตัวพาหะของโรคเหล่านี้ เห็บแค่ตัวเดียวก็สามารถทำให้ป่วยเป็นพยาธิเม็ดเลือดได้ หมอจะอธิบายให้เจ้าของเข้าใจ และ เจ้าของควรให้ ความร่วมมือในการกำจัดต้นเหตุค่ะ เพียงแค่นี้สุนัขของ คุณก็จะปลอดภัย จากพยาธิเม็ดเลือด กรณีของคุณ puppy the neighbourhood ได้ลองคุยกับคุณหมอเจ้าของเคสรึยังคะ อาจสอบถามว่า - ผลการตรวจเลือด,ค่าเลือดเป็นอย่างไร - เจอพยาธิเม็ดเลือดหรือไม่ , ตัวไหน - วงจรชีวิตของมันเป็นอย่างไร -แนวทางการรักษา และอื่นๆ เข้าใจเอาเองจากข้อมูลที่ให้มาว่า จะมีการถ่ายเลือด การถ่ายเลือดไม่ใช่การซื้อเวลาค่ะ กรณีของโรคพยาธิเม็ดเลือด ยกตัวอย่างเช่น พยาธิเม็ดเลือดไปทำลายเม็ดเลือดแดง เมื่อเจาะเลือดตรวจพบว่าค่าเม็ดเลือดแดงต่ำกว่ามาตรฐานมากๆ ก็จำเป็นต้องมีการถ่ายเลือดค่ะ แนะนำว่า เจ้าของสงสัยอะไรให้ถามคุณหมอเจ้าของเคส ดีที่สุดค่ะ เพราะว่าจะทราบข้อมูลทั้งหมดและเห็นตัวเป็นๆ เห็นอาการ , สภาพโรค และ เป็นคนที่จะอธิบายได้ขัดเจน มากที่สุด (แต่ไม่ผิดนะคะที่เจ้าของจะ consult กับหมอ ท่านอื่นๆ หรือ หาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคที่สุนัขของ เราเป็น ดีใจค่ะที่เห็นเจ้าของสุนัขรักสัตว์เลี้ยงของตัว เอง ) อย่าเพิ่งตกใจค่ะ ลองคุยกับคุณหมอให้เคลียร์ สุดท้ายแล้วค่ะ ขอให้สุนัขของคุณหายป่วยเร็วๆค่ะ
จากคุณ :
ชินจาง (ชินจาง)
- [
20 ต.ค. 49 01:07:37
]
|
|
|