Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ขอบคุณความรู้สึกดีๆที่มีให้แก่กัน จะจดจำไว้ไม่มีวันเลือน

                  ดอลลี่เป็นหมาตัวหนึ่งที่เราเคยเลี้ยงไว้ เธอเกิดวันที่ 15 พ.ย. 41 เธอเป็นหมาตัวเดียวที่ทำกิจกรรมพร้อมกับบ้านเราตลอด ด้วยความที่เธอตัวเล็ก เลยพาไปไหนมาไหนได้ ไม่ว่าจะเป็นพัทยา ระยอง หรือแม้กระทั่งเขาพระวิหาร เราก็กระเตงเธอขึ้นมาแล้ว ด้วยความที่เธอตัวเล็ก บ้านเราคิดว่าเธอยังเล็กตลอด เลี้ยงไปเรื่อยๆ ดีบ้างให้กินกับข้าวเดียวกับคนบ้าง (ตอนหลังพึ่งรู้ว่าเลี้ยงแบบนั้น จะได้สารอาหารที่ไม่ครบ ระยะหลังก็เลยเลิกให้ โดยให้เป็นอาหารเม็ดแทน) กินจุบกินจิบกับเราไปด้วย เวลาเรากินเธอเอาคางมาเกยที่โซฟา ประมาณว่าหนูขอบ้างนะคะ เราก็ว่าไป เธอก็เลยกลับไปนอนเฉยๆ (ถ้ารู้ว่าเธอจะป่วยแล้วทำให้เธอไม่อยากกินอะไรเลย คงให้เธอกินสี่งที่เธออยากกินทุกอย่าง) เธอพูดรู้เรื่อง เธอฉลาด และสอนง่าย บอกขอมือนะ เธอก็ให้ แต่จะให้ต่อเมื่อเธอเห็นเราถือหนมด้วย พอมีหนมล่อ ก็ทำได้ทุกอย่างจนถึง หมุนตัวหน่อยนะ เธอก็ยืนสองขาแล้วก็หมุนตัวโชว์ ถึงแม้ญาติจะรังเกียจเวลามาบ้าน ว่าเอ๊ ทำไมเลี้ยงหมาในบ้าน เธอก็ไม่เคยว่าอะไร เวลาเค๊าให้เธอออกไปอยู่ข้างนอก เธอก็ไปนอนสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่โรงรถ พอเรียกเธอเข้ามา เธอก็กระดิกหางและยิ้มแย้มรีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว เวลาใครเข้ามาในบ้านเธอจะเห่าตลอด ไม่ว่าจะเป็นคนส่งแก๊ส คนฉีดปลวก หรือแม้มีคนกดกริ่ง (พ่อใช้เธอเป็นตัวทดลองกริ่งเวลาไม่มีคนอยู่บ้าน) เวลาเธออยู่บนรถเธอจะคอยเห่ามอเตอร์ไซด์ที่ผ่านไปมา ครั้งนึงเคยถูกตำรวจค้นรถตอนเดินทางกลับ ตำรวจเค๊าเข้ามาค้นในรถไม่ได้เพราะเธอคอยเห่าตลอด จนเค๊าต้องพูดกับเราแก้เขินว่า หมาน่ารักนะครับ เธอจะทำตัวเหมือนองค์รักษ์ตลอด เวลาใครตีเรา เธอจะเห่าและกระโดดกัด ทั้งที่ตัวกระเปี๊ยกเดียว (เราและน้องแกล้งเธอบ่อยๆ ให้เธอโวยวายเล่น) เธอไม่เคยไม่สบายเลยตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา
                  จนกระทั่งวันที่ 1 ก.ค. 49 เธอเริ่มมีอาการแปลกๆ มีการเดินเซ ตอนประมาณเที่ยงๆ เราก็ว่ากลับจากธุระก่อนแล้วเราจะพาไปหาหมอนะแต่พอกลับมา เธอ ช๊อคไปแล้ว คือมีอาการตาค้าง แต่ยังหายใจอยู่ เราเลยรีบนำเธอส่งรพส. เกษตร หมอก็บอกว่า หัวใจหยุดเต้น แต่ปั๊มขึ้นมาได้แล้ว พร้อมส่งเธอไปห้อง CCU  จากนั้นเราก็กลับบ้าน ระหว่างทางนั้น ก็ได้รับโทรศัพท์ว่า ให้ไปดูใจนะ ดอลลี่อาจไม่พ้นคืนนี้ เราก็กลับไปดูใจพร้อมกับร้องไห้ตลอดทาง พอตอนเช้าก็ไปใส่บาตร ใส่ไปก็ร้องให้ไป ตอนสายๆ ก็ลองโทรถามหมอ หมอบอกว่าเธอฟื้นขึ้นมาตอนตีสี่ แต่ว่าตาเธอบอดนะ เราก็บอกหมอว่าขอเยี่ยม หมอก็ให้เยี่ยม พอวันรุ่งขึ้นปรากฏว่า ตาเธอไม่บอดแล้ว หลังจากนั้น สามถึงสี่วันผ่านไป คุณหมอก็บอกว่าให้มารับเธอกลับบ้าน เพราะเธอไม่เป็นไรแล้ว ซึ่งพอรับกลับ ตอนเย็นเธอเริ่มมีอาการชัก เลยพาไปโรงพยาบาลเดิม แต่คราวนี้ห้องไม่ว่างแล้ว ก็เลยต้องพาไปฝากไว้ที่อื่น พอรุ่งเช้าไปรับเธอก็ยังคงหลับ แต่ว่าพอสิบเอ็ดโมงเริ่มมีอาการร้องโหยหวน ก็เลยเข้าห้อง ER หมอก็จับตรวจเลือดและก็ให้ Admit เข้าห้องเดิม ซึ่งต่อมาก็รักษามาเรื่อยๆ จนเธอเกือบหาย แล้วก็ให้ออกมาพักฟื้นที่บ้าน (ซึ่งคุณหมอไม่บอกว่าเป็นอะไร พอตอนหลังถึงรู้ว่าเธอเป็นไข้หัด ทั้งที่เธอฉีดวัคซีนมาตลอด) ต่อจากนั้นกลับบ้านได้อาทิตย์นึงเธอก็เริ่มมือเย็นเท้าเย็นและเหงือกซีด คราวนี้ไปหาหมอ หมอก็จับเจาะเลือด คราวนี้ค่าเลือดต่ำต้องให้เลือดหมอบอกว่าเป็นพยาธิเม็ดเลือด (ตอนหลังก็ถึงรู้ว่าเกิดจากการติดเห็บที่ห้อง CCU นั่นเอง เพราะเอาออกจากห้องนี้ทีไรได้เห็บตัวอ้วนๆกลับมา 3-4 ตัวทุกที) ก็เลยเอาไปให้เลือด พอกลับมาก็เริ่มกินข้าวได้ แต่กินได้ไม่กี่วันก็เริ่มไม่กิน พอไม่กินก็ต้องบังคับป้อน คือป้อน A/D เธอก็ดกินบ้างไม่กินบ้าง จากนั้นก็สังเกตเห็นว่าข้างตัวเธอเป็นแผลปูด ก็เลยถามหมอ หมอบอกว่าคงเกิดจากการฉีดยา แต่อาทิตย์นึงผ่านไป ที่ที่ปูดกลับบวมขึ้น และหมอลองโกนขนดูปรากฏว่า เป็นรอยช้ำ หมอก็เลยลองเจาะดู ปรากฏว่าเป็นหนองเลยต้องเจาะแผลและบีบออก ก็ทำแผลทุกวันและป้อน A/d อีกราวๆครึ่งเดือน คราวนี้เธอก็เริ่มไม่กินเหมือนเดิมพรอ้ม อาเจียน และเหงือกซีด หมอก็เลยให้ถ่ายเลือดอีกครั้งแต่คราวนี้เลือดไม่มีเลยให้ลองเอาตัวที่บ้านมาบริจาค ปรากฏว่าเลือดดันเข้าได้พอดี  แต่กลับไปเธอก็คงยังไม่กินเองเหมือนเดิม
                  พอเมื่อวันที่ 1พ.ย. เราป้อนอาหาร เธอก็ยังคงอ้วกอยู่ แต่เราก็ป้อนไปเรื่อยๆ แล้วเราก้ออกจากบ้าน ขากลับก็ได้แวะซื้อกิ๊บมาให้เธอแต่ พอเข้าบ้านก็ยังเห็นเธอมายืนกระดิกหางให้ จนกระทั่งเดินเข้าบ้าน ก็เห็นอ้วกเป็นกองๆ ก็คิดว่าเธอคงไม่เป็นไร แล้วพรุ่งนี้จะเอาเธอไปหาหมอ พอตอนเย็น เราก็เริ่มป้อนยาและป้อนข้าว ก็เหมือนปกติ แบบที่ป่วยมาตลอดก็คือ ต้องบังคับกิน แต่คราวนี้กินยากหน่อย เพราะพอป้อนเธอก็เริ่มพะอื่ดพะอมและอ้วกออกมา เราก็บีบปากไม่ให้อ้วก (คงทรมานมากเลย แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้อาหารก็ไม่มีในท้องแล้วร่างกายหนูก็จะไม่ไหว) แล้วก็ปล่อยให้เธอนอน  ซึ่งคืนนี้เธอก็พยายามอ้วกตลอด จนกระทั้งประมาณตีห้า เราก็ได้ยินเสียงเหมือนเธอจะอ้วกเลยบีบ ปากเธอ แต่เอ๋ รู้สึกแปลกๆ เลยเปิดไฟดู ปรากฏว่า เธอตาค้างและไม่หายใจแล้ว เราก็ไม่รู้ทำไง ก็ได้แต่ตะโกนเรียกพ่อกับแม่ให้มาดู พร้อมบอกว่าเธอไม่หายใจแล้ว พ่อกับแม่มาดูก็ลงความเห็นว่าไม่หายใจจริงๆ เพราะเหงือกเธอซีด และ ตาค้างไม่หายใจ ไม่ตอบสนอง เลยทำอะไรไม่ได้ จะพาไปโรงพยาบาลก็ไม่รู้จะพาไปทำไม เพราะคราวก่อนที่พาไปคือเธอตาค้างแต่เธอยังหายใจ ไม่เหมือนคราวนี้ที่เธอไม่หายใจแล้ว จากนั้นก็เอากระดาษสามาห่อ เพราะรู้ว่าเธอที่ชอบที่แฉะๆ เพราะในสมัยก่อนเวลาพาเธอไปเที่ยว หรือแม้จะเป็นอยู่ที่บ้าน เธอไม่ชอบเดินไปเหยียบน้ำหรือสนามหญ้า เธอเลือกที่จะเดินเลี่ยงทั้งที่ทางที่ไปนั้น ก็สุดแสนจะอ้อม ตอนที่ห่อ ก็ดูพุงเธอว่า เธอยังหายใจอยู่เปล่า คิดว่าอาจมีปาฎิหารย์ แต่ก็ไม่มี จากนั้น ก็เอาเธอฝังไว้ใต้ต้นมะม่วง พร้อมทั้งกล่าวลาเธอ และหวังว่าเธอจะได้เกิดในภพที่ดีกว่านี้ และขอให้เธอโชคดี ซึ่งวันนี้ทั้งวันก็เดินมาใกล้ที่ที่เธอนอนและหวังว่าเธออาจฟื้นขึ้นมาและตะกุยดินออก แต่เธอก็ไม่ฟื้นขึ้นมา............................
    ขอโทษที่ดูแลเจ้าได้แค่นี้ ขอโทษกับสิ่งที่เคยทำกับเจ้ามา ขอโทษที่เคยละเลย
    ขอบคุณความรู้สึกดีๆที่มีให้แก่กันมาโดยตลอด ขอบคุณสำหรับความซื้อสัตย์ที่ไม่เคยจางหาย ขอบคุณที่รักกันมาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน และขอบคุณทุกๆสิ่งและทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเรา
    ดอลลี่จะอยู่ในใจนี้ตลอดไป.......................................

    Dolly_jung
    2 November 2006

    แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 49 23:57:30

     
     

    จากคุณ : MyLoveRichy - [ 2 พ.ย. 49 23:54:28 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom