ความคิดเห็นที่ 1 หัวข้อ......ปุ๋ยอินทรีย์...ขุมพลังสำคัญของดิน            กรมพัฒนาที่ดิน แนะเกษตรกรผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปรับปรุงบำรุงดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มกำลังผลิตของดินในการเพาะปลูก และสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างยั่งยืน           นายชัยวัฒน์ สิทธิบุศย์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ดินเป็นปัจจัยสำคัญในการเพาะปลูกพืช ในอดีตที่ผ่านมามีความอุดมสมบูรณ์ด้วยธาตุอาหารต่าง ๆ ปลูกพืชอะไรก็ให้ผลผลิตดี แต่ปัจจุบันดินเสื่อมโทรมกลับมีปริมาณมากขึ้นเกือบทั่วประเทศไทย เพราะมีการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสมและใช้ปุ๋ยเคมีกันมาก โดยเฉพาะธาตุอาหารที่พืชต้องการ 6 ชนิดกลับลดน้อยลง เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม และกำมะถัน           จึงต้องเพิ่มเสริมให้กับดินในรูปของ “ปุ๋ย”ซึ่งเกษตรกรสามารถทำใช้เองในราคาถูกและประหยัด โดยใช้เศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นาร่วมกับผลิตภัณฑ์สารเร่ง พด. ชนิดต่างๆ ของกรมพัฒนาที่ดินที่แจกจ่ายให้ ฟรี!! ในการทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ โดยได้รับความรู้และคำแนะนำในการผลิตจากเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาที่ดิน และหมอดินอาสาที่กระจายอยู่ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ          โดยทั่วไปในปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ปุ๋ยชีวภาพ จะมีธาตุอาหารหลัก ( N-P-K) ไม่มากนัก แต่จะมีธาตุอาหารเสริมที่จำเป็นต่อพืช และพืชต้องการเป็นปริมาณมากน้อยเช่นกัน ดังนั้นการใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์จึงมิได้มุ่งเน้นเพื่อเพิ่มธาตุอาหารพวกธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัสและโปแตสเซียม แก่พืชเป็นหลักใหญ่แต่เพียงอย่างเดียว แต่วัตถุประสงค์ที่สำคัญยิ่งคือ เพื่อเป็นวัสดุปรับปรุงบำรุงดิน เป็นอาหารเสริมของดิน ทำให้ดินมีอินทรียวัตถุมากขึ้น ช่วยให้ดินร่วนซุยไม่จับตัวแน่น อินทรียวัตถุในดินจะเป็นตัวปรับสภาพความเป็นกรดเป็นด่างของดินให้อยู่ในสภาพที่พอเหมาะกับการเจริญงอกงามของพืช ช่วยให้พืชสามารถใช้ประโยชน์จากธาตุอาหารในดิน นอกจากนี้ในขณะที่จุลินทรีย์ทำการย่อยสลายอินทรียวัตถุนั้น จะเป็นการสังเคราะห์สารบางชนิดที่ช่วยให้ต้นพืชเจริญเติบโตเร็วให้ดอกผลและมีรสชาติอร่อยขึ้น          ข้อดีของอินทรียวัตถุ คือ เป็นอาหารของจุลินทรีย์ดิน ดินที่มีอินทรียวัตถุมากจะทำให้การเจริญและขยายพันธุ์ของเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีในดินดีขึ้น เช่น เชื้อไตรโคเดอร์ม่า คีโตเมียม เป็นต้น ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้จะช่วยควบคุมโรคพืชบางชนิดได้ และเกิดขบวนการปรับปรุงบำรุงดินโดยจุลินทรีย์ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สัตว์อื่นๆ เช่น ไส้เดือน แมลงในดิน ก็จะเจริญเติบโตขยายพันธุ์ในปริมาณที่มากขึ้น           ถ้าหากได้ปลูกหญ้าแฝกร่วมด้วยในพื้นที่ทางการเกษตรก็จะยิ่งดีขึ้นอีก เพราะรากหญ้าแฝกมีเป็นจำนวนมาก ลักษณะเป็นกอยาวหยั่งลึกลงในดิน 1 – 3 เมตร ทำหน้าที่ยึดเกาะดิน บริเวณรากจะมีความชื้นและเป็นแหล่งอาหารเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์หลายชนิดได้อย่างดี นับเป็นวิธีที่ประหยัดต้นทุนและเป็นแนวทางการแก้ปัญหาสภาพดินเสื่อมโทรมขาดความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน           ถ้าหากได้ปลูกหญ้าแฝกร่วมด้วยในพื้นที่ทางการเกษตรก็จะยิ่งดีขึ้นอีก เพราะรากหญ้าแฝกมีเป็นจำนวนมาก ลักษณะเป็นกอยาวหยั่งลึกลงในดิน 1 – 3 เมตร ทำหน้าที่ยึดเกาะดิน บริเวณรากจะมีความชื้นและเป็นแหล่งอาหารเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์หลายชนิดได้อย่างดี นับเป็นวิธีที่ประหยัดต้นทุนและเป็นแนวทางการแก้ปัญหาสภาพดินเสื่อมโทรมขาดความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน           เกษตรกรและท่านที่สนใจการผลิตปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ โดยใช้ผลิตภัณฑ์สารเร่ง พด.ต่าง ๆ ของกรมพัฒนาที่ดิน ในการปรับปรุงบำรุงดินร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกเพื่อให้ดินเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ดิน ติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 1-12 สถานีพัฒนาที่ดินทุกแห่ง หมอดินอาสาประจำตำบลและหมู่บ้าน หรือกลุ่มวิจัยและพัฒนาอินทรีย์เพื่อการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน โทร. 0-2579-0679   นางสาวอตินุช ผลดีอำนวยสุข:รายงาน (นายสมโสถติ์ ดำเนินงาม) หัวหน้าฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ที่มา http://ofs101.ldd.go.th/webprs/adminofs_5/ofsnews/report_empnews01.asp?ensid=00153/2549 จากคุณ : ญี่ปุ่น35 - [ 6 พ.ย. 49 18:02:05 ]