|
ข่าเหลือง..เงินล้าน สมุนไพรชุมชนทองหลางล่าง
.........พืชสมุนไพร....ที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งพืชชนิดอื่นๆในยามนี้ จนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของเกษตรกรจังหวัดระนอง และทำรายได้เข้าท้องถิ่นอย่างเป็นกอบเป็นกำก็คือ...ข่าเหลือง.
กรมส่งเสริมการเกษตร....จึงได้ส่งเสริมให้ เกษตรกรปลูกสมุนไพรชนิดดังกล่าวเป็นพืชแซมหรือพืชเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน อีกทั้งยังเป็นการแก้ไขปัญหาการชะล้างและพังทลายของหน้าดิน ทั้งนี้ เนื่องจากว่าพื้นที่การเกษตรของจังหวัดระนองส่วนใหญ่อยู่ตามไหล่เขา เป็นที่ลาดชันมีสภาพดินเป็นดินร่วนปนทราย
อีกทั้งมีฝนตกเฉลี่ยปีละ 8 เดือน ซึ่งมีอัตราเสี่ยงต่อการชะล้างพังทลายของดินค่อนข้างสูง การปลูกพืชแซมสวนไม้ผลจึงเป็นปัจจัยร่วมช่วยในการยึดหน้าดินมิให้ถล่ม... ข่าเหลืองจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เกษตรกรคนระนองให้การตอบรับ
นางนารี คำแสนราช ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรข่าเหลือง ชุมชนบ้านทองหลางล่าง หมู่ 7 ตำบลบ้านนา อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง บอกว่า....เดิมเกษตรกรในพื้นที่ตำบลบ้านนาประกอบอาชีพหลักคือทำสวน โดยเฉพาะสวนไม้ผล เช่น ทุเรียน มังคุด กาแฟ ทั้งยังมียางพาราและปาล์มน้ำมันด้วย และเริ่มปลูกข่าเหลืองเพื่อเสริมรายได้ มาตั้งแต่ปี 2542
ในช่วงแรกดำเนินการในลักษณะ ต่างคนต่างปลูกโดยมีพื้นที่ปลูกไม่มากนัก ขณะที่ตลาดทั่วไปให้การตอบรับดีมาก เมื่อชาวบ้านเห็นว่าข่าเหลืองสามารถทำเงินได้ด ีจึงสนใจหันมาปลูกกันมากขึ้น กระทั่งปี 2547 เกษตรกรได้รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกข่าเหลืองบ้านทองหลางล่างขึ้น โดยมีสมาชิก จำนวน 60 ราย พื้นที่ปลูกข่าเหลืองรวมกว่า 200 ไร่ ได้ผลผลิตปีละประมาณ 3,000 ตัน ทางกลุ่มได้ใช้ที่ดินอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ขณะเดียวกันสมาชิกกลุ่มยังมีการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตข่าเหลืองป้อนให้กับตลาดทั่วประเทศ ทำให้สมาชิกมีรายได้ตลอดทั้งปี นับเป็นวิสาหกิจชุมชนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จและพึ่งพาตนเองได้ โดยมีการระดมทุนเพื่อเป็นเงินออมสำหรับให้สมาชิกกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อใช้ลงทุนในการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มมากขึ้น เพื่อผลิตข่าเหลืองป้อนตลาดซึ่งกำลังมีความต้องการสูง
ปัจจุบันกลุ่มได้จดทะเบียนเป็น วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรข่าเหลืองทองหลางล่าง กับ สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว วิธีการปลูกในพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกข่าเหลืองได้ 4,500-5,000 กอ โดยปลูกเป็นแถวระยะ 80x80 เซนติเมตร ก่อนลงหลุมปลูก ควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 พร้อมด้วยปูนขาวประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
หลังจากปลูกแล้วเกษตรกรต้องกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบหลุมปลูกเป็นประจำและให้ปุ๋ยสูตรเดิม หรือ 46-0-0 เดือนละประมาณ 2 ครั้ง จนกระทั่งข่าเหลือง อายุได้ 7 เดือน ก็สามารถขุดจำหน่ายได้ แต่ช่วง 15 วัน-1 เดือน ก่อนที่จะขุดข่าเหลืองส่งตลาด ต้องใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นให้หน่อมีความสมบูรณ์ อวบใหญ่และมีน้ำหนักมากขึ้น
หากมีระบบจัดการที่ดี ข่าเหลือง 1 กอ จะให้ผลผลิตประมาณ 2-3 กิโลกรัม จำหน่ายได้ไม่ต่ำ กว่า 60 บาท/กอ หักค่าใช้จ่ายแล้วเกษตรกรจะมีรายได้ 150,000-200,000 บาท/ไร่
ในการประกอบการแทบทุกอาชีพจะมีปัญหา มากหรือน้อย หนักหรือเบานั่นก็แล้วแต่... ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผลิตข่าเหลืองบ้านทองหลางล่างนั้น มิใช่เรื่องลงทุนเหมือนกับชุมชนอาชีพอื่นๆ เพราะเกษตรกรมีเงินหมุนเวียนจากการขายผลผลิตมาลงทุนกันอย่างพอเพียง
แต่จะมีปัญหาในเรื่องโรคพืช เช่น โคนเน่า หนอนเจาะลำต้น และเชื้อราทำลายในช่วงฤดูฝน จึงอยากจะร้องขอให้ภาครัฐเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการรวมถึงเทคนิควิธีการจัดการเพื่อลดความเสียหาย
อีกทั้งยังต้องการให้ส่งเสริมการพัฒนา เพื่อยกระดับการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น และในยามนี้ ชุมชนบ้านทองหลางล่างก็เปิดกว้างที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยี
และประสบการณ์ต่างๆในการปลูกข่าเหลืองให้กับผู้ที่สนใจ หากต้องการเยี่ยมชมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรข่าเหลืองทองหลางล่าง สามารถกริ๊งกร๊างกันไปที่ 0-7789-0046.
ที่มา http://www.phtnet.org/content.asp?mod=news&action=view&id=756
จากคุณ :
ญี่ปุ่น35
- [
8 พ.ย. 49 16:26:26
]
|
|
|
|
|