จากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J4826611/J4826611.html
จากที่มิ้นไปรับน้องน้ำตาล ซึ่งมิ้นเรียกว่า "น้องนางฟ้า" มาจากพี่วชิรามาในวันที่ 25 ต.ค. จากกระทู้ข้างต้น...
2 วันผ่านไป ... วันที่ 27 ต.ค. น้องนางฟ้าเริ่มมีอาการรอบตาขวาแดงและบวมเล็กน้อย มิ้นจึงพาไปหาสัตวแพทย์ที่คลินิกใกล้ๆ ที่พักมิ้นแถวๆ ลาดกระบัง ... คุณหมอตรวจแล้วบอกว่า เป็นตาอักเสบ ให้ยาหยอดตาอักเสบมาหยอดทุกๆ 2 - 4 ชั่วโมง 1 ขวด ... รวม 60 -.
ตาข้างซ้ายของนางฟ้า เริ่มมีอาการแดงและบวมขึ้น ในขณะที่ตาขวาก็บวมขึ้นเหมือนกัน ... นางฟ้าชอบขยี้ตา มิ้นเลยเอากระดาษมาทำเป็นลำโพงครอบคอกันน้องเค้าขยี้ตา และหยอดตาอีกเรื่อยๆ จนอาการตาแดงเริ่มน้อยลงบ้าง และแล้ว ...
... น้องนางฟ้าเริ่มมีน้ำมูกใสๆ ... วิ่งไปวิ่งมา ก็จะสั่งฟืดๆ ... ถึงแม้ไม่บ่อยมาก แต่มิ้นก็ไม่สบายใจ วันที่ 31 ต.ค. มิ้นเลยพาไปหาสัตวแพทย์ที่คลินิกเจ้าเดิมอีกหน
คุณหมอบอกว่า นางฟ้าเป็นหวัด ฉีดยาไป 1 เข็ม แล้วให้ยาลดน้ำมูกกับวิตามินมา ให้ทานเช้า - เย็น รวม 200 บาท
น้องนางฟ้าอาการตาแดงดีขึ้น แม้จะยังไม่หายสนิท แต่มิ้นไม่อยากให้เค้ารำคาญเลยถอดลำโพงออก แต่อาการสั่งน้ำมูกยังเป็นอยู่เหมือนเดิม น้ำมูกใสๆ เริ่มมีสีออกเหลืองนิดๆ
วันที่ 2 พ.ย. มิ้นไปทำงาน กลับมาตอนดึกหลังจากไม่ได้เจอเค้าประมาณ 20 ชั่วโมง พบว่าอาการนางฟ้าแย่ลงมาก เยื่อบุตาขวาบวมแดงย่นออกมาแทบจะปิดตาดำ (ตอนแรกที่เห็น มิ้นนึกว่า เค้าตาบอดไปแล้ว นึกโกรธตัวเองที่ใจอ่อนไม่ใส่ลำโพงให้เค้า) ส่วนตาซ้ายรอบตาก็ดูแดงๆ เสียงหายใจไม่ดีเลย น้ำมูกสีเหลืองเกาะอยู่รอบๆ จมูก พยายามสั่งขี้มูกเป็นระยะ สังเกตุได้ว่า เค้าง่วงแต่ไม่ยอมนอน ... พอหัวลู่ลงต่ำๆ แป๊บๆ ก็จะรีบชันตัวขึ้น เหมือนว่า หายใจไม่ถนัดพอก้มหัวลงต่ำ
วันที่ 3 พ.ย. มิ้นป่วยเป็นอาหารเป็นพิษ อาเจียนและท้องเสียทั้งวัน จนตอนแรกเกือบจะไม่ได้พานางฟ้าไปหาหมอแล้ว พอดีคุณพ่ออุปถัมภ์น้องนางฟ้าเค้าว่างและยินดีช่วยมารับแม่ป่วยๆ ไปส่งลูกป่วยๆ ไปหาหมอ ... คุณพ่ออุปถัมภ์แนะนำให้ไปโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง ย่านพระราม 3 (ไกลมากกกกกก) เพราะน้องหมาของเค้าก็หาหมอที่นี่ และก็เห็นว่า ที่คลินิกที่เก่า พานางฟ้าไปรักษาแล้วไม่หาย น่าจะลองหา second opinion ดู
คุณหมอตรวจนางฟ้า ล้างตา เช็ดน้ำมูก ... ผลการวินิจฉัยคือ นางฟ้าเป็นหวัดแมว คุณหมอสั่งงดยาเดิมทั้งหมด และสั่งยาใหม่ให้ ... คุณหมอให้คำแนะนำและให้ความเข้าใจดีมากค่ะ บอกว่า เชื้อหวัดแมวเป็นไวรัสที่ไม่มียารักษา ทางที่ดีที่สุดคือ ต้องทำให้เค้าแข็งแรงพอที่จะมีภูมิคุ้มกันต่อต้านไวรัสได้ น้องนางฟ้าอายุน้อยมาก ภูมิคุ้มกันเค้าน้อย ฟังเสียงปอดแล้วทึบๆ ... มีโอกาสตายได้นะ (T-T) ... หมอสั่งยาอย่างดีให้ ราคาแพงหน่อย ... ได้มาหลายตัวมากค่ะ หมอบอกว่า ถ้ากินแล้วไม่หาย ก็คงเหลือแต่รมยาเป็นทางเลือกสุดท้าย
คุณหมอถามเรื่องนม มิ้นก็บอกว่า ตอนนี้ชงนมแพะผงให้เค้าทานอยู่ คุณหมอสั่งนมแมวกระป๋องมาให้ด้วย รวมทั้งจับทานยาถ่ายด้วยเลย ... สิริค่ายา ค่านม ค่าหมอ ก็พันกว่าบาท (แม่มันอาหารเป็นพิษ ยังไม่ไปหาหมอเลย ฮือ...)
มิ้นทำตามคำสั่งคุณหมออย่างเคร่งครัด ... ใส่ลำโพงให้ ไม่ยอมถอดให้อีกแล้ว ... จากที่เคยใจดีให้เค้าวิ่งเล่นในห้องไปทั่ว อยากนอนไหนก็นอน ก็จับใส่ลังทีวีขนาดใหญ่ ตั้งน้ำ อาหาร ทราย ผ้านุ่มๆ ในนั้นเสร็จสรรพ ... ตอนกลางคืน หนูต้องอยู่ในนี้เท่านั้น เวลากลางวันจะวิ่งเล่นไปมาได้ แต่เวลาจะหลับก็ต้องหลับในนี้
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 49 09:21:50
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 49 08:34:32