.........นายสุขุม วงษ์เอก ผอ.สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ถึงแม้ขณะนี้จะเริ่มเข้าสู่ต้นฤดูหนาวและเกือบทุกภาคของประเทศจะไม่มีฝนตกแล้ว แต่จากสภาพอากาศร้อนชื้นที่เหมาะต่อการเจริญของเชื้อรา Corynespora cassiicola ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคใบจุดก้างปลา กรมฯ จึงขอเตือนเกษตรกรที่ปลูกยางหมั่นดูแลแปลงติดตายางชำถุง แปลงกิ่งตาและในแปลงยางใหญ่ โดยเฉพาะในเขตปลูกยางใหม่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนทางภาคใต้บางพื้นที่ฝนตกชุกอาจเป็นสาเหตุให้เชื้อราแพร่ระบาดได้ โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค. ทั้งนี้อาการจะพบจุดกลม ขอบแผลสีน้ำตาลดำ กลางแผลเป็นสีเทาแล้วร่วง ถ้าเชื้อเข้าทำลายในระยะใบเพสลาด แผลจะขยายลุกลามเข้าไปตามเส้นใบ ทำให้เห็นเป็นรูปก้างปลา มีสีซีดและใบร่วงในที่สุด ถ้าเชื้อเข้าทำลายก้านใบ กิ่งแขนงและลำต้นตรงกลางแผลจะช้ำบุ๋มลง และขยายขนาดลุกลามจนทำให้ยอดกิ่งก้านและลำต้นแห้งตาย
สำหรับวิธีป้องกัน ไม่ควรปลูกพืชอาศัยเชื้อรา เช่น รา ถั่วเหลืองและมะละกอ เป็นพืชแซมยาง นอกจากนี้ ควรใช้สารเคมีพ่นใบยางก่อนฤดูกาลระบาด เช่น ไตรคีมอร์ฟ หรือ คาลิกซิน 75% EC ในอัตรา 10 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือใช้บีโนมิล หรือเบนเลท 50% WP ในอัตรา 40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร กับต้นยางอายุน้อยกว่า 2 ปี โดยฉีดพ่นบนใบยางตั้งแต่เริ่มผลิใบอ่อนทุก 7 วัน จะช่วยลดการระบาดของโรคและบำรุงต้นยางให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอจะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้
ที่มา http://www.phtnet.org/content.asp?mod=news&action=view&id=785
จากคุณ :
ญี่ปุ่น35
- [
20 พ.ย. 49 19:53:18
]