ความคิดเห็นที่ 1 คนดูนกจะคุ้นกับ ราฟเฟิลส์ มาโคฮา อันหมายถึงนกบั้งรอกแดง คนชอบต้นไม้จะรูจัก ราฟเฟิลเซีย ดอกไม้ใหญ่ที่สุดในโลก เซอร์โธมัส สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ (Sir Thomas Stamford Raffles 1781-1826) เป็นชาวอังกฤษเกิดในเรือที่พ่อเป็นกัปตัน นอกฝั่งจาไมก้า เมื่อ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1781 เขากำพร้าพ่อตั้งแต่อายุ 14 โตขึ้นขวนขวายหาความรู้ทำงานจนได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น จากเสมียนบริษัทจนได้รับตำแหน่งผู้ว่าการรัฐชวาด้วยวัย30ต้นๆ จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 22 พ.ย. 49 00:42:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อายุ 38 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ปกครองเกาะสิงคโปร์ เขานั่งเรือขึ้นฝั่งสิงคโปร์ ณ สถานที่ที่เรียกว่า North bank of Singapore River เมื่อ 29 มกราคม ค.ศ. 1819 ที่   ละติจูด    1 องศา 17 ลิปดา 15 ฟิลิปดาเหนือ   ลองจิจูด 103 องศา 51 ลิปดา 02 ฟิลิปดาตะวันออก ทำไมนายเพกาต้องลงละเอียดขนาดนี้.... ก็เพราะสิงคโปร์ถือว่าจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นความเจริญของสิงคโปร์ ราฟเฟิลส์ได้วางรากฐานการปกครอง และพัฒนาเกาะแห่งนี้ จากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ จนเจริญก้าวหน้า เค้าทำอนุสาวรีย์ไว้ให้ที่หน้าอ่าวตรงนั้นเลย ดูๆก็หล่อไม่แพ้พี่เมฆ วินัย ไกรบุตรนะ จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 22 พ.ย. 49 01:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นอกจากการเป็นนักปกครองที่มีฝีมือแล้ว ราฟเฟิลส์ยังเป็นผู้สนใจในพืชและสัตว์ในธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง 20 พ.ค.ปี 1818 ได้เกิดการค้นพบที่สำคัญในวงการพฤกษศาสตร์ เมื่อเขาและหมออาโนลด์ (Joseph Arnold) ค้นพบดอกไม้ที่นับว่าใหญ่ที่สุดในโลกบนเกาะสุมาตรา ขนาดมหึมานั้นวัดได้ 1 เมตรเลย รายละเอียด พร้อมซากดอก และรูปวาดถูกส่งลงเรือไปตรวจในอังกฤษ ใช้เวลาตั้งปีกว่าจึงสรุปว่าเป็นพืชชนิดใหม่ของโลก ต่อมาได้ถูกตั้งชื่อสกุลว่า Rafflesia และชื่อชนิดว่า arnoldii เป็นเกียรติแก่หมออาโนลด์ (แต่หมอแกเป็นไข้ป่าตายไปเสียก่อนที่เขาจะตรวจตั้งชื่อกันเสร็จ เลยไม่ได้ปลื้มใจด้วยเลย) ขอบคุณที่มาของภาพ: galeria.digitalkamera.de/showphoto.asp แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 49 01:23:08 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 49 01:19:55 จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 22 พ.ย. 49 01:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นักพฤกษศาสตร์จัดบัวผุดไว้ในวงศ์ RAFFLESIACEAE ซึ่งมีพืชในสกุลต่างๆราว 9 สกุล จะไม่ขอลงหมดเดี๋ยวเอียนซะก่อน เอาเท่าที่พบในประเทศไทย บัวผุด          (สกุล Rafflesia) บัวรากก่อ     (สกุล Mitrastemma) บัวครั่ง         (สกุล Rhizanthes) กระโถนฤาษี (สกุล Sapria) บัวผุดสกุล Rafflesia ที่พบในประเทศไทยมีเพียงชนิดเดียว คือ Rafflesia kerrii Meijer ที่หมอคาร์ (A.F.G. Kerr)ค้นพบที่ระนองในปีพ.ศ.2470 ไปค้นรูปเก่ามาแปะ จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 22 พ.ย. 49 01:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ในวงการวิทยาศาสตร์ยังยกย่อง ราฟเฟิลส์ว่าเป็นนักธรรมชาติวิทยาคนสำคัญ เพราะมีพืชและสัตว์ที่เขาค้นพบมากมายทั้งบนเกาะชวาและสุมาตรา พืชและสัตว์หลายชนิดตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา พญากระรอกเหลืองที่พบได้ในเมืองไทย (Ratufa affinis Raffles 1821) นกบั้งรอกแดง Raffles' Malkoha (Phaenicophaeus chlorophaeus Raffles 1822) ขอบคุณที่มาของภาพ:www.naturestops.com จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 22 พ.ย. 49 01:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นกกระสาใหญ่  Great-billed Heron (Ardea sumatrana Raffles 1822) นกกระสาปากเหลือง  Milky Stork (Mycteria cinerea Raffles 1822) ทั้งสองชนิดนี้ ราฟเฟิลส์เป็นผู้ค้นพบบนเกาะสุมาตรา ในบ้านเราปัจจุบันเป็นนกที่หายากยิ่งใกล้สูญพันธ์เต็มที ผมยังโชคดีได้เห็นนกกระสาปากเหลืองครั้งหนึ่งบริเวณทุ่งนาใกล้วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี เมื่อปลายเดือนกันยายนปี 2541 ในรูปเป็นนกกระสาปากเหลืองครับ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 49 20:58:37 จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 22 พ.ย. 49 02:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นกยางลายเสือ Malayan Night-Heron (Gorsachius melanolophus Raffles 1822) ที่พบเห็นกันในเมืองไทย และนกโพระดกหลากสี Red-crowned Barbet (Megalaima rafflesii) ที่ตั้งชื่อชนิดให้เป็นเกียรติแก่เขา ขอบคุณที่มาของภาพ:www.naturestops.com แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 49 10:52:46 จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 22 พ.ย. 49 02:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยังมีอีกเยอะครับ นกหัวขวานสามนิ้วหลังสีไพล Olive-backed Woodpecker (Dinopium rafflesii) ปลา Raffles' Coral Fish (Chaetodon rafflesii) มอธ (Hippotion rafflesii) ราฟเฟิลส์เสียชีวิตที่ประเทศอังกฤษ ด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 1826 ก่อนวันเกิดครบ 45 ปีเพียงวันเดียว ปัจจุบันอนุสาวรีย์ของราฟเฟิลส์ยัวคงยืนเด่นเป็นสง่า ได้ปรับปรุงเปลี่ยนให้สวยงามมากขึ้น ให้สมกับเป็นนักปกครองที่นำพาสิงคโปร์เจริญรุดหน้า ในอีกส่วนหนึ่งของชีวิต เขาก็เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่วงการวิทยาศาสตร์ และนักธรรมชาติวิทยารุ่นหลังอย่างเอนกอนันต์ เขาจากโลกนี้ไป 180 ปีแล้ว แต่โลกยังระลึกถึงอยู่เสมอ ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก ดร.ชยันต์ พิเชียรสมุทร และ Nature Explorer ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 49 10:38:41 จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 22 พ.ย. 49 02:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โอ๊ะ โหแฮะ มีแบบนี้ด้วย ขอบพระคุณคุณเพกาที่นำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 22 พ.ย. 49 07:38:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาขอบคุณสำหรับเรื่องน่าอ่าน น่าสนใจคะ..... แหม... คุณเพกา.... ชิงวาดบัวผุดตัดหน้าไปแล้ว.... วาดซะสวยเชียว.... แล้วถ้าเจ้บัววาดตามหลัง ถ้าสวยสู้ไม่ได้ก็แย่ซิค๊ะ....ฮือฮือ..... จากคุณ : เจ้บัวผุด....ค่า (naugat) - [ 22 พ.ย. 49 08:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มีความรู้ขึ้นโขเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ .... จากคุณ : nu-an - [ 22 พ.ย. 49 08:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : bigwores - [ 22 พ.ย. 49 08:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับความรู้ด้วยคนครับ จากคุณ : JJ (ลูกเฟิร์น) - [ 22 พ.ย. 49 09:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ จากคุณ : jasmin rice - [ 22 พ.ย. 49 09:44:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ  ภาพดอกบัวผุดสวยมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : ดาวเรือง (mti) - [ 22 พ.ย. 49 09:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เพกาพีเดีย..อิอิ เจ้บัว  คราวหน้าเจ้วาดดอกไม้ประจำตัว เจ้บัววาดรูปเจ้ประกอบด้วย  รับรองไม่ซ้ำใคร ฮี่ๆๆ อาจารย์เพกาทำไมขยันอ่านหนังสือจัง ไม่รู้เรื่องอะไรถามทีไร อาจารย์รู้ทุกเรื่องเลย นับว่าเป็นขุมคลังความรู้ตัวจริงอ่ะค่ะ.. คารวะสามจอก.. เรื่องแบบนี้น่าอ่านค่ะอาจารย์..มาโพสเรื่อยๆก็ไม่เบื่ออ่าน หนูอ่านอะไร  อีกสามเดือนลืมแระ.. กลับไปญี่ปุ่นคราวหน้าจะฟาดใบจิงโกะ ให้หมดต้นเลย เขาว่ากันว่า...มันบำรุงสมอง..555 จากคุณ : กาสะลอง (anavrin) - [ 22 พ.ย. 49 10:42:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชื่นชมมากมายค่ะ ขอให้ พนักงานก่อร่างสร้างกล่อง สร้างเว็บ นำกระทู้นี้ ไปเก็บไว้ในเว็บด่วนค่ะ คุณเพกาวาดรูปบัวผุดสวยมากค่ะ  ป้าขอส่งภาพเข้าหอน้อยนะคะ กรุณาส่งภาพแบบไม่เอียงให้ป้าด้วย จะเป็นพระคุณยิ่ง จากคุณ : ป้าดาวกระจาย (-.-) - [ 22 พ.ย. 49 12:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณค่ะ .... จากคุณ : สเลเต - [ 22 พ.ย. 49 17:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องบัวผุดครับ จากคุณ : ม่วงระย้า (กะได) - [ 22 พ.ย. 49 17:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ชื่อนี้เป็นที่มาของชื่อโรงแรมชั้นหนึ่งที่เก่าแก่ของสิงคโปร์ด้วยใช่มั้ยคะ แรฟเฟิลโฮเต็ล... จากคุณ : อุมาวดี - [ 22 พ.ย. 49 17:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เพิ่งเห็นดอกบัวผุด ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้ดี ๆ จากคุณ : เดหลีค่ะ (แม่หมูอ้วนพี) - [ 22 พ.ย. 49 18:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ จากคุณ : siri jan - [ 22 พ.ย. 49 18:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณค่ะ  ได้รับความรู้มากมายค่ะ ภาพวาดดอกบัวผุดสวยมากค่ะ จากคุณ : ดอกสารภี - [ 22 พ.ย. 49 19:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แวะมาตอบครับท่านผู้ชม คุณบุหงากระสุตครับ มีแบบนี้ด้วยครับ เจ้บัวผุดครับ เจ้วาดต้องสวยกว่าอยู่แล้ว ผมเชื่ออย่างนั้นครับ ขอบคุณครับคุณ nu-an ขอบคุณครับคุณbigwores ขอบคุณครับคุณJJ (ลูกเฟิร์น) ขอบคุณครับคุณข้าวหอม ขอบคุณครับคุณดาวเรือง คุณกาสะลองก็เรียกซะเขินเลย ขอบคุณป้าจายครับ เดี๋ยวผมหาเวลาถ่ายใหม่ไม่ให้เอียงแล้วส่งไปครับ ขอบคุณคุณสเลเตครับ ขอบคุณคุณม่วงระย้าด้วยครับ ความจริงเรื่องพวกนี้ผมค้นเก็บไว้นานจนเวลาจะโพสต์ต้องไปรื้อ เขียนแล้วมาอ่านก็ยังงง ไม่รู้จะไปทางนก หรือต้นไม้ หรือวาดรูป ติชมมาได้ครับ ผมน่ะเกรงเพื่อนๆจะเบื่อซะก่อน ว่าแล้วก็แถมหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่เขาตั้งชื่อให้เกียรติแก่ราฟเฟิลส์อีกสักชนิดนะครับ ชื่อวิทยาศาสตร์ Nepenthes rafflesiana ขอบคุณภาพจาก Wikipedia ครับ จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 22 พ.ย. 49 21:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ใช่เลยครับคุณอุมาวดี ใครไปสิงคโปร์จะพบสถานที่ที่มีชื่อราฟเฟิลส์เกี่ยวข้องมากมาย ทั้งโรงแรม โรงพยาบาล พลาซา โรงเรียน แม้กระทั่งสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ที่นอกจากจะมีอีโคโนมีคลาส บิสสิเนสคลาส เฟิร์ทคลาส ยังจะมีราฟเฟิลส์คลาสอีกด้วยแฮะ ผมไม่รู้ว่านั่งส่วนไหนของเครื่อง ใครทราบช่วยหน่อยนะครับ จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 22 พ.ย. 49 22:02:06 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณครับคุณเดหลี ขอบคุณคุณ siri jan ครับ ขอบคุณอาจารย์ดอกสารภีที่แวะมาชมครับ จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 22 พ.ย. 49 22:07:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตามมาอ่านเรื่องเล่า เก็บไว้เล่าต่อให้เด็กๆฟังค่ะ จากคุณ : ยิปโซ (MissPenguin) - [ 22 พ.ย. 49 22:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้เรื่องบัวผุดกับนก น่าสนใจมากค่ะ จากคุณ : เอื้องผึ้ง (มงกุฎไพร) - [ 22 พ.ย. 49 23:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 more infor. about Rafflesia; the giant rafflesia, also known as the 'stinking corpse lily' has blossoms that can reach 3 feet in diameter and weigh up to 11 kg. its pedtals can grow 1.5 feet long and 1 inch thick.the flowers give off a smell similar to rotting meat,which attracts insects to help spread the rafflesia's pollen. จากคุณ : freesia (freesia flower) - [ 23 พ.ย. 49 02:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณครับ จากคุณ : ปักษาสวรรค์ (เงือกลม) - [ 23 พ.ย. 49 08:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ของบัวผุดค่ะ ป่าแถวพังงาจะมีแถบที่เป็นเชิงเขาชื้น ๆ แต่ดอกเล็กกว่าที่สุราษฏร์ จากคุณ : pit_phangnga - [ 23 พ.ย. 49 08:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เพื่อนๆทั้งหลาย.... คุณเพกา..... ไปดูบัวผุดกันไหมช่วงไหมช่วงต้นปีที่เขาสก.... ไปช่วยๆกันบริจาคเลือดให้เจ้าทากน้อยกันหน่อย..... ไปหรือเปล่าคะ.....ฮิฮิ ปล. เจ้บัวผุดคนนี้ ยืนระยะ 3 เมตร ก็ได้กลิ่นเหมือนกันนะ แต่กลิ่นอะไรก็ไม่รู้....ฮ่าฮ่า แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 49 08:56:59 จากคุณ : เจ้.....ผุด (naugat) - [ 23 พ.ย. 49 08:56:00 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านสนุกมีสาระอีกแล้วค่ะ   ขอบคุณค่าคุณเพกาพรเลิศ จากคุณ : เจ้าเอ๋ย - [ 23 พ.ย. 49 15:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ดีครับคุณยิปโซ เก็บไว้เล่าให้เด็กๆฟัง แต่อย่าเก็บนานนะครับ เดี๋ยวลืมโม้ด ขอบคุณคุณเอื้องผึ้งครับ ขอบคุณคุณ freesia ที่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม อย่างที่คุณ freesia บอกมาครับ ดอกนี้บานแล้วส่งกลิ่นเรียกแมลงวันในป่า ให้มาผสมเกสร เพราะบัวผุดนี้มีทั้งดอกเพศผู้และดอกเพศเมียแยกกันคนละดอก แมลงวันจะเป็นกลไกสำคัญในการผสม โดยคลานเข้าไปที่ Anther (ตามรูป) ละอองเกสรจะติดหลังแมลงวันไปผสมที่ Anther ในดอกเพศเมีย จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 23 พ.ย. 49 16:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณคุณปักษาสวรรค์ครับ พี่พิศครับ ดอกที่พบที่พังงาคนละสกุลกับบัวผุดครับ ที่บอกไว้ในคห.4 บัวผุดอยู่ในสกุล Rafflesia ที่พังงาเป็นสกุลอื่นที่ดอกจะเล็กกว่ามาก ผมเคยพบกระโถนฤาษี สกุล Sapria ที่ทุ่งใหญ่นเรศวรและที่ดอยอินทนนท์ ขนาดดอกประมาณชามแกงจืดครับ จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 23 พ.ย. 49 17:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จักนักเดินป่าคนจริง..>> เจ้บัวผุด จริงด้วยครับบัวผุดชนิดเดียวของไทยต้องไปดูที่อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นั่นมีธรรมชาติสวยมีนกน่าสนใจเยอะครับ ทากก็คงแยะเหมือนกัน จากคุณ : นายเพกา (พรเลิศ) - [ 23 พ.ย. 49 17:23:43 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ....ดีจัง... เห็นบัวผุดที่ผุดเป็นดอก ๆ อยากเห็น..บัวผุด...ที่ตัวเป็น ๆ อ่ะ ' จารย์ คุณพี่เพกาช่วยวาดหน่อยนะเจ้าคะ ดูซิ...ไผจะแน่กว่าไผ.... ลืมชมคุณเพกา....อ่านเพลินดีเจ้าค่ะ รูปก็สวยดี...ชอบนกอ่ะค่ะ.... จากคุณ : จันทร์กระจ่างฟ้า - [ 23 พ.ย. 49 20:11:21 A:203.150.105.71 X: TicketID:109219 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอเพิ่มเติมข้อมูลบางส่วนนะคะ ในคห.ที่ 4 คุณ นายเพกาได้อ้างถึงชื่อหมอคาร์ (A.F.G. Kerr) ผู้ค้นพบบัวผุดสกุล Rafflesia ที่พบในประเทศไทยเพียงชนิดเดียว ในจ.ระนอง เมื่อในปีพ.ศ.2470 คือ Rafflesia kerrii Meijer ในวงการโบราณคดีนั้นคุณหมอคาร์ ถือเป็นผู้ที่มีคุโณปการท่านหนึ่งในแวดวงนี้ เพราะคุณหมอคาร์คนนี้ล่ะค่ะ เป็นผู้ที่ค้นพบภาพเขียนสีบนผนังถ้ำ ที่ถ้ำฝ่ามือแดง อ.สีบุญเรือง จ.มุกดาหาร ที่มาของภาพ www.rbgkew.org.uk/herbcat/gotoKerr.do;jsessio... จากคุณ : สเลเต - [ 23 พ.ย. 49 21:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อูวว์..หัวข้อกระทู้นี้ได้ความรู้มากมาย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : บานไม่รู้โรย (ภ.สำเภากางใบ) - [ 23 พ.ย. 49 22:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้ำฝ่ามือแดงแห่งนี้ ต้งอยู่ที่บ้านส้มป่อย ตำบลสีบุญเรือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร แหล่งภาพเขียนสีถ้ำฝ่ามือแดงแห่งนี้ ตีพิมพ์เผยแพร่เป็นแห่งแรกของภาคอีสาน โดยนาย เอ. เอฟ. จี. คาร์ (A. F. G. Kerr) ในวารสารสยามสมาคมเมื่อปี พ.ศ. 2467 และต่อมาในปี พ.ศ. 2525 กรมศิลปากรได้ดำเนินการสำรวจเก็บข้อมูล และคัดลอกภาพเขียนสีเหล่านี้น อันประกอบไปด้วยภาพบุคคล ภาพสัตว์ ภาพวัตถุและภาพมือ ภาพมือ พบมือคนจำนวนทั้งหมด 9 มือ (กลุ่มใหญ่ประกอบด้วยมือ 7 มือ) ใช้เทคนิควิธีพ่น (stencil) 4 มือ และแบบทาบ (imprint) 5 มือ ทั้งหมดเป็นมือข้างขวา มีมือข้างซ้ายเพียงมือเดียว เขียนด้วยสีแดงคล้ำ ที่มาของภาพ www.era.su.ac.th/Rockpainting/northeast/tumfhamaudang แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 49 00:10:44 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 49 22:43:04 จากคุณ : สเลเต - [ 23 พ.ย. 49 22:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 41 A. F. G. Kerr เป็นนายแพทย์ชาวไอริช ที่รับราชการอยู่กับรัฐบาลไทย ต่อมาได้สนใจในเรื่องพันธุ์พืชในประเทศไทย และหันมารับราชการเป็นนักพฤกษศาตร์ จนเป็นหัวหน้ากองตรวจพันธุ์รุกขชาติ กระทรวงพาณิชย์   คุณหมอคาร์เป็นนักพฤกษศาตร์คนสำคัญ ของประเทศไทย และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ได้เก็บตัวอย่างพืชพันธุ์กว่า 2 หมื่นชนิดในไทย ในระหว่างการทำงานในช่วงปี 2445- 2475 ก็นับได้ว่าคุณหมอคาร์ท่านนี้ เป็นบุคคลที่มีความสำคัญ ทั้งในวงการพฤกษศาสตร์ และโบราณคดีเลยนะคะ ที่มาของภาพและข้อมูล www.phukradung.com/story จากคุณ : สเลเต - [ 23 พ.ย. 49 22:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เข้ามาอ่าน เรื่องราว และพรรณไม้ที่น่าสนใจครับ ขอบคุณครับ พี่พรเลิศ จากคุณ : อั้วดาวธาร (Paphmania) - [ 23 พ.ย. 49 23:14:09 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบพระคุณมากครับเรื่องราวที่ดีแบบนี้ ได้ความรู้และแนวทางครับ^ ^ จากคุณ : ส้มแปะ ส้มป่อย (สิงโตอ้วน) - [ 24 พ.ย. 49 07:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านสนุกมีสาระ   ขอบคุณค่าคุณเพกาพรเลิศ &สเลเต จากคุณ : freesia (freesia flower) - [ 25 พ.ย. 49 06:46:21 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆ มาให้ชมกันค่ะ.. จากคุณ : นู๋พุดซ้อน (ระเบียงไม้) - [ 27 พ.ย. 49 14:11:22 ]