Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    "เรนโบว์เทราต์" ปลาราคาแพง รสชาติอร่อย-ตลาดรับไม่อั้น

    .........ศูนย์วิจัยประมงน้ำจืดดอยอินทนนท์ หนึ่งในหน่วยงานของโครงการหลวงอินทนนท์ ต.จอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ พยายามพัฒนาวิจัยเพาะพันธุ์ ปลาเรนโบว์เทราต์ ซึ่งใช้ระยะเวลายาวนานถึง 9 ปี

             โดยหวังจะให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ เพื่อลดการนำเข้าปีละถึง 900 ตัน ล่าสุด ปรากฏว่าประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม สามารถเพราะเลี้ยงปลาชนิดนี้ป้อนตลาดได้ปีละ 20 ตัน

               ประสาน พรโสภิณ นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยประมงน้ำจืดดอยอินทนนท์ บอกว่า ที่ศูนย์มีงานวิจัยปลาเทราต์ หรือเรนโบว์เทราต์มา 16 ปีแล้ว แต่ช่วงแรกไม่ประสบผลสำเร็จ ต่อมาเมื่อ 8 ปีก่อน ก็เริ่มวิจัยใหม่ในนามโครงการความร่วมมือระหว่างกรมประมงและมูลนิธิโครงการหลวง มีการนำเข้าไข่ปลาเทราต์จากประเทศสหรัฐอเมริกา มาทดลองฟักที่ดอยอินทนนท์ ราวเดือนกุมภาพันธ์ 2541 สามารถฟักไข่ได้ และลูกปลาที่ได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีขนาดตัวละ 300 กรัม เมื่ออายุเพียง 6 เดือนเท่านั้น ขณะที่ในประเทศแถบยุโรปจะใช้เวลาเลี้ยง 18 เดือน

                 ในปีเดียวกันได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยกอตทิงเกิน (Gottingen) จากประเทศเยอรมนี กระทรวงเกษตรประเทศเนปาล และสถานทูตฟินแลนด์ มอบไข่ปลาเรนโบว์เทราต์มาใช้ในการทดลอง และผลการทดลองทั้ง 4 สายพันธุ์พบว่าเจริญเติบโตได้ดี ปลาเพศเมียสามารถสร้างไข่ และปลาเพศผู้สามารถสร้างน้ำเชื้อ เมื่อทดลองทำการผสมพันธุ์สามารถจะฟักเป็นตัว โดยได้ลูกปลารุ่นแรกในเดือนธันวาคม 2542 ถึง 3,300 ตัว

                ต่อมา ปี 2543 สามารถผลิตลูกปลาได้เพิ่มเป็น 3 หมื่นตัว และปี 2544 ปลาเทราต์ที่เพาะพันธุ์ได้รุ่นแรก เอฟ 1 เจริญเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ เพราะเมื่อปลาอายุ 2 ปี ก็สามารถขยายพันธุ์ให้ลูก (เอฟ 2) ได้แล้ว จึงสรุปได้ว่า ปลาเทราต์สามารถเลี้ยงเจริญเติบโตดีในพื้นที่สูงที่มีอุณหภูมิน้ำระหว่าง 15-20 องศาเซลเซียส กระทั่งปัจจุบันทางศูนย์วิจัยประมงน้ำจืดดอยอินทนนท์สามารถเพาะเลี้ยงปลาเทราต์เพื่อธุรกิจได้ปีละ 15-20 ตัน อัตรารอดกว่า 90% พร้อมกันนี้ได้ให้ชาวบ้านบริเวณล้อมรอบศูนย์ ซึ่งเป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง และเผ่าม้ง 6 ราย แต่เป็นรูปแบบของการจ้างให้เลี้ยงก่อน เนื่องจากการเลี้ยงปลาเทราต์ต้นทุนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการขุดบ่อซีเมนต์ เป็นต้น

               "ผลจากการวิจัยเราพบว่าปลาเทราต์ชอบน้ำที่มีอุณหภูมิอยู่ที่ 18 องศาเซลเซียสมากที่สุด ต่อไปหากมีความเป็นไปได้อาจจะสนับสนุนเกษตรกรบนที่สูงให้เลี้ยงเอง โดยเราจะเป็นพี่เลี้ยง เพราะเอกชนคงลงทุนลำบาก เนื่องจากปลาชนิดนี้ชอบน้ำที่สภาพหนาวเย็น ต้องมีพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลอย่างน้อย 1,000 เมตรขึ้นไป ซึ่งสถานที่แบบนี้ล้วนแต่เป็นพื้นที่ของรัฐ ทั้งอุทยานแห่งชาติและป่าสงวนเท่านั้น" ประสาน กล่าว

                ประสาน บอกอีกว่า การเลี้ยงปลาเทราต์ที่ศูนย์ใช้ขุดบ่อซีเมนต์ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 50 เมตร ลึก 1.5-2 เมตร ต้องมีระบบน้ำไหล 1 บ่อ เลี้ยงปลาได้ 2,500 ตัว ใช้เวลา 6 เดือน ได้ปลาขนาด 300 กรัม ส่งขายตามโรงแรมชั้นหนึ่ง ภัตตาคาร ทั้งในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ในราคากิโลกรัมละ 300 บาท ซึ่งปัจจุบันยังไม่เพียงต่อความต้องการของตลาด เพราะแต่ละปีประเทศไทยต้องนำเข้าปลาเทราต์จากต่างประเทศถึง 900 ตัน

                 "ปลาเรนโบว์เทราต์ เป็นปลาน้ำจืดที่อาศัยอยู่ในลำธารตามธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ เป็นปลาที่มีรสชาติอร่อย ไขมันไม่อิ่มตัว ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด และประจุอิสระในกระแสโลหิตได้ ถ้าเราสามารถขยายพื้นที่เลี้ยงได้ จะชดเชยการนำเข้าจากต่างประเทศได้ไม่น้อยทีเดียว" ประสาน กล่าว

                ปลาเรนโบว์เทราต์นับเป็นอีกความหวังหนึ่ง ที่จะผลักดันให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจในอนาคต และระหว่างที่ "คม ชัด ลึก" จัดโครงการเกษตรทัศนศึกษา เพื่อไปดูงานมหกรรมพืชสวนโลกที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 15-19 ธันวาคมนี้ จะแวะดูการเลี้ยงและไปกินปลาเรนโบว์เทราต์ด้วย

    ที่มา http://www.phtnet.org/content.asp?mod=news&action=view&id=803

    จากคุณ : ญี่ปุ่น35 - [ 23 พ.ย. 49 17:22:18 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom