ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อภรรยากลับมาจากตลาด ชายหนุ่มก็แสดงทีท่าเฉยชามึนตึงไม่พูดด้วย เมื่อทำการเซ่นไหว้บรรพบุรุษเสร็จ ก็เก็บเสื่อเลย ไม่ยอมให้ภรรยาเซ่นไหว้ด้วย ภรรยาตกใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผู้ชายก็ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เดินหายเข้าไปในหมู่บ้าน เอาแต่ร่ำสุรา สามวันสามคืนไม่กลับมาเลย ภรรยาเสียใจร้องห่มร้องไห้ รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ทั้งๆ ที่อุตส่าห์เฝ้าคอยสามีมาตลอด แต่ทำไมถึงกระทำกับตนอย่างนั้น ราวกับว่าตัวเองไม่มีอยู่ในโลก เธอทนสภาพเช่นนี้ไม่ได้ ในที่สุดก็โดดน้ำตาย จากคุณ : ปิติ99 - [ 26 พ.ย. 49 11:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ชายหนุ่มกลับมาทำพิธีศพภรรยา ตอนเย็นก็กลับมาบ้าน พอจุดตะเกียง ลูกชายก็ตะโกนออกมาว่า “นี่ไงพ่อ” แล้วเด็กก็ชี้ไปที่เงาของพ่อบนกำแพง เด็กพูดต่อว่า “พ่อมาทุกคืนอย่างนี้แหละ แม่คุยกับพ่อทุกคืน ร้องไห้ด้วย ถ้าแม่นั่งพ่อก็นั่ง ถ้าแม่นอนพ่อก็นอน” ถึงตอนนี้ชายหนุ่มก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ความจริงก็คือว่า ภรรยาของเขาร้องไห้กับเงาของตัวเองทุกคืน ด้วยความคิดถึงสามี แล้ววันหนึ่งลูกสงสัยขึ้นมาว่าพ่อของตัวอยู่ไหน แม่จึงชี้ไปที่เงาบนกำแพงแล้วบอกว่า “นี่ไงพ่อของลูก” เด็กก็พาซื่อ เข้าใจว่าเงาบนกำแพงนั้นเป็นพ่อของตัวจริงๆ จากคุณ : ปิติ99 - [ 26 พ.ย. 49 11:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทั้งภรรยาและสามีต่างรักกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน แต่ทำไมเรื่องนี้จึงจบลงด้วยความเศร้า นั่นก็เพราะชายหนุ่มปักใจเชื่อความคิดของตน พอได้ยินคำพูดของเด็กซึ่งไร้เดียงสา ก็สรุปทันทีว่าภรรยาของตัวมีชู้ ดูจากลักษณะอาการที่ลูกเล่า มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น จะมีใครที่ไหนมาหาภรรยาของตนทุกคืน นอกจากชายชู้ เขาเชื่อว่าภรรยามีชู้ เพราะลักษณะอาการมันน่าจะเป็นอย่างนั้น ว่าโดยตรรกะก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ความจริงเป็นอีกอย่างหนึ่ง จากคุณ : ปิติ99 - [ 26 พ.ย. 49 11:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นเพราะชายหนุ่มด่วนสรุป โดยไม่รู้จักท้วงความคิดของตัวเองบ้าง ว่าความจริงอาจไม่ได้เป็นอย่างที่ตัวเองคิดก็ได้ แต่เมื่อสรุปและเชื่อความคิดอย่างนั้น ก็ทำให้เห็นภรรยาของตัวเป็นคนเลวทันที ที่จริงเรื่องนี้อาจไม่จบอย่างนั้น หากชายหนุ่มพยายามหาความจริง เช่น สอบถามภรรยาของตัวว่าอะไรเป็นอะไร แต่เป็นเพราะปากหนัก จึงทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก จากคุณ : ปิติ99 - [ 26 พ.ย. 49 11:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้ามีสติเราจะทักท้วงความคิดของตัวเองว่า อย่าเพิ่งสรุปอย่างนั้น คนที่มีสติ รู้ทันความคิด เขาจะไม่เชื่อความคิดของตัวเองง่ายๆ เพราะรู้ว่า ความคิดเป็นสิ่งที่วางใจไม่ได้ เวลาเราเจริญสติ จะรู้ดีว่าความคิดมันหลอกเราเก่งแค่ไหน คิดเป็นตุเป็นตะ น่าเชื่อถือ แต่บางทีก็ตีตนไปก่อนไข้ ถ้าเรารู้จักความคิดของเราดีพอ เราจะไม่ด่วนสรุป ไม่รีบตัดสินอะไรง่ายๆ สติจะช่วยทักท้วงหรือตักเตือนให้ช้าก่อน เพราะประสบการณ์หลายๆ ครั้งสอนเราว่า เมื่อด่วนสรุปแล้วมักจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น สิ่งที่เราคิดว่าแน่นอนแล้ว แต่ความจริงเป็นตรงกันข้าม ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เราไม่ด่วนสรุปหรือเชื่ออะไรง่ายๆ แม้แต่ความคิดของตัวเอง จากคุณ : ปิติ99 - [ 26 พ.ย. 49 11:22:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สติช่วยให้เราระลึกถึงกาลามสูตรข้อที่ว่า อย่าเชื่อเพราะรูปลักษณะมันน่าจะเป็นอย่างนั้น ความเป็นจริงอาจจะเป็นอีกอย่างหนึ่งซึ่งเรานึกไม่ถึงก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเรามีสติเราจะไม่ด่วนสรุปอะไรง่ายๆ โดยเฉพาะการสรุปไปในทางที่เป็นโทษกับตัวเองหรือเป็นภัยแก่ผู้อื่น ลองดูเถอะว่า กี่ครั้งกี่หนแล้วที่พอเราด่วนสรุปไปแล้วทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ และคนอื่นก็เดือดร้อนด้วย กี่ครั้งแล้วที่เราด่วนสรุปเพราะรูปลักษณะมันชวนให้เชื่อว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น เคยเจอไหม นัดกันแล้วไม่มาตามนัด เลยโกรธ หาว่าเขาโกหกเรา ไม่ให้ความสำคัญกับเรา เสร็จแล้วใจก็หวนไปคิดและขุดเอาเรื่องเก่าๆ ที่ไม่ดีของเขาออกมา เช่น มาสายเป็นประจำ พูดจาเชื่อถือไม่ได้ ไม่รับผิดชอบงานการ ฯลฯ จากคุณ : ปิติ99 - [ 26 พ.ย. 49 11:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเรามีความคิดแบบนี้ขึ้นมา น่าจะท้วงเอาไว้ก่อน เพราะเขาอาจจะมาแต่ยังมาไม่ถึง หรืออาจจะมาแล้วแต่ว่าไปรอคนละประตู หรืออาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน เช่น นัดกันสี่โมงเย็น แต่เขามาสี่โมงเช้า หรืออาจจะมาแล้วแต่เกิดอุบัติเหตุ หรือพ่อแม่เกิดป่วยกะทันหัน มีสาเหตุสารพัดที่ทำให้เขาไม่สามารถมาพบเรา ณ เวลานั้น หรือตรงจุดนั้นได้ แต่เรากลับปักใจว่าเป็นเพราะเขาไม่ได้เรื่องอย่างเดียว สุดท้ายก็พบว่าความจริงเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด จากคุณ : ปิติ99 - [ 26 พ.ย. 49 11:24:28 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ที่จริงถ้าสติของเรารวดเร็วฉับไว เราจะทักท้วงได้ดีขึ้นและลึกขึ้น ได้ดีขึ้น เวลามีคนมาด่าหรือตำหนิเรา ถ้าไม่มีสติ เราจะเป็นทุกข์ทันที เพราะใจจะสำคัญมั่นหมายว่า “ฉันถูกด่า” หรืออาจจะนึกต่อไปว่า “ทำไมถึงมาด่าฉัน” แต่ถ้ามีสติ มันจะท้วงขึ้นมาเลย “ทำไมฉันถึงทุกข์เพราะลมปากเขา” เคยไหม เราเคยให้สติมาทักท้วงบ้างไหมว่า ทำไมถึงต้องทุกข์เพราะลมปากเขา เราได้แต่บ่นว่าทำไมเขามาด่าฉัน ทำไมไม่เห็นความดีของฉัน แต่เราเคยถามตัวเราเองบ้างหรือเปล่าว่า ทำไมฉันถึงทุกข์เพียงเพราะลมปากของเขา บางทีก็บ่นเสียใจว่า “เขาไม่เข้าใจฉันเลย” ถ้าเรามีสติเราจะถามตัวเองใหม่ว่า “แล้วฉันเข้าใจเขาบ้างหรือเปล่า” จากคุณ : ปิติ99 - [ 26 พ.ย. 49 11:26:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าเรามีสติและปัญญาที่แคล่วคล่องฉับไว เมื่อประสบกับเหตุการณ์ไม่น่าพอใจ นอกจากจะไม่ทุกข์ คือ เฉยๆ หรือเสมอตัว คือไม่ทุกข์ เรายังสามารถทำให้มันกลายเป็นบวกขึ้นมา หรือเกิดเป็นประโยชน์ต่อจิตใจ เรียกว่ามีกำไรเกิดขึ้น อย่างคนที่เป็นมะเร็ง บางคนนอกจากจะไม่ทุกข์ที่เป็นมะเร็งแล้ว ยังรู้สึกโชคดีที่เป็นมะเร็ง ส่วนคนที่ประสบกับความพลัดพรากสูญเสีย นอกจากจะไม่ทุกข์เพราะถือว่าเป็นธรรมดาแล้ว ยังได้บทเรียนสอนใจ เกิดปัญญา เข้าใจธรรมะ นี่เรียกว่าได้กำไร คือ ได้ประโยชน์ จากคุณ : ปิติ99 - [ 26 พ.ย. 49 11:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เราต้องรู้จักเปลี่ยนทุกข์ให้เป็นคุณให้ได้ พระพุทธองค์เคยตรัสว่า คนฉลาดได้ประโยชน์จากศัตรูมากกว่าที่คนเขลาได้จากมิตร ถ้าความทุกข์เหมือนกับศัตรู เราก็พูดได้อีกอย่างหนึ่งว่า ความทุกข์ให้ประโยชน์แก่คนฉลาด มากกว่าที่คนเขลาจะได้จากความสุข จากคุณ : ปิติ99 - [ 26 พ.ย. 49 11:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผู้ที่มีปัญญาแล้ว สามารถจะได้ประโยชน์จากศัตรูหรือความทุกข์ได้มาก เช่น เวลาศัตรูมาด่ามาว่า มองให้ดี ก็จะเห็นตัวเราในอีกแง่หนึ่ง ซึ่งมักจะมองไม่เห็น เพราะศัตรูชอบเอาแง่ที่ไม่ดีของเรามาแฉ ในขณะที่เพื่อนๆ มองไม่เห็น หรือไม่กล้าพูด เพราะเกรงใจ กลัวมิตรภาพจะสั่นคลอน แต่ศัตรูเขาไม่แคร์ จึงเอาส่วนที่ไม่ดีของเราออกมาแฉ ประโยชน์ที่เราจะได้รับ ก็คือ เราได้เห็นความจริงอีกด้านหนึ่งของเรา จริงอยู่ส่วนที่ไม่จริงก็คงมีอยู่ เราก็ต้องรู้จักตัดออกไป แต่อันไหนที่เป็นความจริง แม้จะเป็นด้านลบ ก็ควรเอามาพิจารณาเพื่อแก้ไขปรับปรุงตัวเอง ด้วยวิธีนี้ชีวิตของเราจึงจะเจริญงอกงามได้ จากคุณ : ปิติ99 - [ 26 พ.ย. 49 11:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โหๆ เรื่องกับภาพไปได้สวยจริงๆ อ่ะครับ นับถือ ปล. บ่อในรูปชอบมากๆครับ จากคุณ : g_abac - [ 26 พ.ย. 49 13:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านจนลืมดูรูปปลากันเลยที่เดียวเชียว ผมอาจจะไม่เข้าใจในบ้างช่วงหรือไม่บรรลุธรรมที่แฝงไว้ในข้อความทั้งหมด แต่เอาเป็นว่า "ได้รับสิ่งดี ๆ จากการอ่านวันนี้จริง ๆ ครับ" ขอบคุณครับเฮียสำหรับสาระดี ๆ และรูปสวย ๆ ครับ จากคุณ : ครูเม้ง (ยอดหญิงนักชิม) - [ 26 พ.ย. 49 13:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ครับ จากคุณ : สะใจโรคจิต - [ 26 พ.ย. 49 14:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 กระทู้นี้แดงได้แดงดีจริง ๆ ครับ ภาพสวย ๆ กับเรื่องราวดีดี อ่านแล้วรู้สึกเศร้าและเสียดายกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ได้แง่คิดดีดีมากก เลยครับ ^_^ จากคุณ : kengpowerfish - [ 26 พ.ย. 49 14:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อยากมีบ่อแบบนี้บ้างจังครับ บ่อแบบนี้พอมีไหว แต่ปลาแดงในบ่อแบบนั้นคงมีไม่ไหวครับ แดงแปร๊ดดดด...^ ^ จากคุณ : Longhairguy - [ 26 พ.ย. 49 15:07:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ่าน..... จน ต้อง เลื่อนขึ้นไปดูปลา ทีหลังเลยครับ ปลาสวยจริงๆ และ บรรยากาศ ดีมาก ครับ อ่านเรื่อง "สติ" แล้ว รู้สึกดีมากเลยครับ ผมเองก็จะพยายาม มีสติ ให้มากขึ้นครับ ครั้งหน้า ขอเป็น เรื่อง "สตางค์" บ้างนะครับ เผื่อจะมี "สตัง" มากขึ้นบ้างครับ....อิ..อิ จากคุณ : ระเบิดทราย - [ 26 พ.ย. 49 15:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คะ   ต้องจำเอาไว้ จากคุณ : หนูศิ - [ 26 พ.ย. 49 16:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นกระทู้ที่ผมอ่านหลายรอบมากๆ ตั้งแต่เคยอ่านกระทู้มา จากคุณ : ณ.สร. - [ 26 พ.ย. 49 17:07:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆนะคะ... ปล. อ่านจนเกือบลืมดูปลาเลยค่ะ^-^ จากคุณ : นีออน - [ 26 พ.ย. 49 17:22:37 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ...ต่อไปสงสัย คุณปิติแกจะเขียนหนังสือธรรมะ แล้วมีภาพปลาเป็นภาพประกอบ (อย่างน้อยใครไม่อ่านก็จะได้ดูปลา หรือคนที่อ่านก็ได้บรรยายกาศสงบๆ เย็นๆในสายน้ำ โหย...ว่าไปนั่น)... ... ปลาสวยบรรยายกาศดี แม้มิได้อ่านธรรมะ ก็หาความสงบให้เกิดสมาธิในใจได้ไม่ยาก ยิ่งได้อ่านธรรมะด้วยแล้วใยจะไม่เกิดปัญญาด้วยเล่า... จากคุณ : ปู่สิงห์ดำ - [ 26 พ.ย. 49 17:31:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สาธุ . . . จากคุณ : LuiJiNo - [ 26 พ.ย. 49 18:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและบทความดีๆครับพี่ ^____^ จากคุณ : aznsillygoose - [ 26 พ.ย. 49 18:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาดูกระทู้คุณปิติ99 ยอมรับว่าตัวผมเองนั้นบางมีความไม่รอบคอบทางสติ ยิ่งในเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องพุทธศาสนานั้นห่างวัดห่างวาเอาเสียเหลือเกิน เป็นกระทู้ที่น่าอ่านมากกระทู้หนึ่งครับ จากคุณ : JJ (ลูกเฟิร์น) - [ 26 พ.ย. 49 20:18:34 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆครับ จากคุณ : BlueZambia - [ 26 พ.ย. 49 20:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณพี่ปิติมากครับ สำหรับเรื่องดีดี และรูปดีดี แถมรูปคู่แฝดพี่ให้ละกันนะ จากคุณ : rukpujung - [ 26 พ.ย. 49 20:42:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีครับคุณปิติ ผมตามมาถึงนี่เลยนะครับ และนี่ผมคิดว่าน่าจะเป็นกระทู้ที่ดีและน่าจะติดโหวตอันดับหนึ่งก็น่าจะเป็นไปได้ หรือเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ว่าไงส่วนตัวผมหนึ่งเสียงดังๆๆครับ และก็ผมจะขอยึดเป็นแนวทางการใช้ชีวิต+ความคิดด้วยนะครับ ขอบคุณครับ . จากคุณ : gok (gok919) - [ 26 พ.ย. 49 21:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เป็นกระทู้ที่ดีมากเลยเครับ สำคัญมากๆเลยเรื่องสติและความคิด อีกอย่างผมว่าความสุขอยู่ที่ความพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ แต่เห็นปลาแล้วสั่นสะเทือนความพอใจที่มีอยู่จริงๆ ต้องข่มเอาไว้555 จากคุณ : festae2002 - [ 26 พ.ย. 49 23:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อยากให้สามีอ่านจังทำงัยดี  แบบว่าบรรลุเลยนะเนี่ย จากคุณ : saii1234 - [ 26 พ.ย. 49 23:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ^__________________________^ ตั้งใจอ่าน.....นะครับ จากคุณ : รักกัน - [ 27 พ.ย. 49 05:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 จากคุณ : fishie - [ 27 พ.ย. 49 07:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 32 บทความดี รูปประกอบสวย แด๊ง แดง อ่านกระทู้นี้ นึกว่าเข้าห้องผิดซะแล้ว อิอิ จากคุณ : หัวหน้าใหญ่ - [ 27 พ.ย. 49 08:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ปลาสวยมาก รูปสวย  ใบบัวก็เข้ากับเรื่องศาสนาได้อย่างลงตัวครับ ^_^ มัชฌิมา = ทางสายกลาง จากคุณ : e20ngx - [ 27 พ.ย. 49 09:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ปลาแจ่ม รูป แจ๋ว  บทความเยี่ยมเลยครับ จากคุณ : spec *tum* - [ 27 พ.ย. 49 10:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความดีๆ รูปปลาสวยๆ อ่านแล้วได้อะไรดีๆ ได้คิดตาม ได้สติ หากเพียงเพราะเราไม่มีสติ..บางอย่างอาจจบลงด้วยไม่ดี จากคุณ : i-guppy - [ 27 พ.ย. 49 10:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ^________________________^ จากคุณ : เป๋าตังค์ - [ 27 พ.ย. 49 11:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณครับกับบทความดีๆ จากคุณ : ote78 - [ 27 พ.ย. 49 11:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 38 บทความเยี่ยม รูปปลาก็สวยมากคับ อยากได้แดงๆอย่างนี้มั่งจัง จากคุณ : lord of the ลิง - [ 27 พ.ย. 49 12:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 39 รูปปลาในบ่อ อยากเห็นตอนขึ้นตู้จังครับ ว่าจะงดงามแค่ไหน ขอบคุณคร้าบบบเฮีย กับ คติธรรมดีๆๆ   อย่างที่เฮียบอกไว้แหละครับ  สติ  ถ้าไม่มี  เรื่องร้ายๆคงได้เกิดขึ้นมา....... จากคุณ : tp14d - [ 27 พ.ย. 49 13:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เป็นข้อคิดที่กินใจมากครับพี่ ขอบคุณครับ จากคุณ : Danny Boy - [ 27 พ.ย. 49 15:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณพี่ปิติครับ ที่นำมาให้ผมได้อ่าน ได้ข้อคิดมากๆครับ จะนำมาใช้ในชีวิตจริงครับผม ขอบคุณครับ จากคุณ : โรจน์ (The__circle) - [ 27 พ.ย. 49 17:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สติ นะพอมี แต่ สตังค์ ไม่ค่อยจะมี ครับ รูปสวย จริงๆ จากคุณ : OMEGA 3 - [ 27 พ.ย. 49 18:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ปลาสวยมากๆครับพี่ เรื่องก็ดีจะนำไปใช้ครับ จากคุณ : เด็ดบุบผาต่อหยก - [ 27 พ.ย. 49 18:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มาดูปลา ปลาของเจ้า ชวนคิดดู จากคุณ : อโนชา - [ 28 พ.ย. 49 19:33:11 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ^_^ จากคุณ : จุงเกี๊ยก - [ 28 พ.ย. 49 20:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เป็นกระทู้ที่เยี่ยมมากครับ จากคุณ : แกะแหนม - [ 29 พ.ย. 49 11:32:44 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ชอบนิทานเรื่องนี้จังเลย อโรในบ่อก็ดูสวยดีไปอีกแบบนะคะ รูปสวยมากเลย รูปปลาในบ่อถ่ายยากมากเลยขอบอก ทำไงจาได้อย่างนี้เนี่ย จากคุณ : Joie_Girl - [ 29 พ.ย. 49 13:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ยอมรับว่าต้องอ่านช้าๆ หลายรอบ แล้วจะเข้าใจจริงๆ จากคุณ : bta_crazy - [ 29 พ.ย. 49 20:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มันจะไปโดนใจใครบางคนหรือเปล่าหนอ............... มันคนนั้นน่าจะเข้ามาอ่านไปแล้ว.......... มันคงจะได้คิดบ้างเด้อ................ ฮิฮิฮิฮิฮิฮิฮิ.................... ปล.นิยายเรื่องนี้มีคติธรรมแฝงมาเยอะมากเลยครับ จากคุณ : J.สุริน169 - [ 29 พ.ย. 49 20:26:38 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ามาชมครับบบ   อ่านแล้วได้ควมรู้สึกเลยครับบบบ จากคุณ : โฟกัส 2515 (โฟกัส 2515) - [ 1 ธ.ค. 49 10:56:38 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณมากเลยครับ จากบทความมันทำให้ผมรู้สึกได้สำนึก ในเรื่องของสติและสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ดีเลยครับ จากคุณ : น้องด๋อย (น้องด๋อย) - [ 7 ธ.ค. 49 23:41:01 ]