สืบเนื่องจากกระทู้
วันนี้อยากตามหาเจ้านายให้ หมาน้อยที่ทำงานก่อนจะโดนกวาดล้างค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J5162258/J5162258.html
เราได้ติดต่อเจ้าของกระทู้ ในวันรุ่งขึ้น และพบว่าที่ทำงานของเราทั้งสองอยู่รั้วติดกัน ช่วงเที่ยงเราได้ไปดูเจ้าเสือน้อย ซึ่งคุณ "นางสาวแสนสวย" ได้กรุณาจับไว้ในกล่องอย่างเรียบร้อย
เราตัดสินใจนำเจ้าเสือน้อยมาทั้งๆที่ไม่แน่ใจว่าจะเลี้ยงมันได้เพราะมันดูหวาดกลัวคนมากๆ และการที่ลูกเสือ เอ้ย ลูกหมาเคยอยู่เป็นฝูงใต้ถุนตึก แล้วโดนจับแยกจากฝูงหมา มาเลี้ยงกับฝูงคน มันจะรอดไหมเนี่ย
บ่ายวันนั้นเราได้ให้แม่บ้านตึกช่วยอาบน้ำด้วยแชมพูสระผมยี้ห้อดังรุ่นผมขาดการบำรุง จนตัวหอม แต่เห็บหมัด ยังเยอะมากๆ แต่ก็ช่างเถอะ มันจะได้อยู่เป็นเพื่อนเจ้าเสือน้อยซึ่งเป็นเพื่อนกลุ่มสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่
ตอนเย็นจับเจ้าเสือน้อยลงลังส้ม (สงสัยซื้อมาช่วงตรุษจีน) แวะรับลูกที่โรงเรียน แล้วกลับบ้าน ลูกๆนั่งกินหมูปิ้งในรถ แล้วพยามป้อนเจ้าเสือน้อยซึ่งมันก็ยอมกินไป 1 คำ
เด็กๆเริ่มตั้งชื่อให้มัน ลูกคนเล็กจะให้ชื่อเจ้าหมูปิ้งเพราะเป็นอาหารมื้อแรกที่ให้มันกิน แต่เราท้วงว่า ถ้าป้าหมูมาบ้านเรา คงไม่ชอบแน่ๆที่มีหมาชื่อหมู(ปิ้ง)
ไม่นานเจ้าเสือน้อยเริ่มน้ำลายฟูมปาก ลูกถามว่าในหมูปิ้งมียาพิษหรือเปล่าแล้วหนูจะตายไหมเพราะหนูกินไปตั้ง 3 ไม้ ทุกคนในรถเริ่มตกใจมารุมดูเจ้าเสือน้อยในลังส้ม และพบว่าน้ำลายฟูมปากเปียกชุมผ้าที่ปูไว้ น่าจะเมารถมากกว่า ตั้งแต่เกิดมาก็อาศัยอยู่ใต้ถุนตึก ไม่เคยเห็นรถติดบนถนนสุขุมวิท
อาหารค่ำเราให้ อาหารเม็ด pedigree รสตับ เพิ่มวิตามินอี และโอเมก้า 6 บำรุงสมองเผื่อมันจะฉลาดกว่าเจ้าของ (pedigree ที่เหลืออยู่เป็นของเจ้าดัมเมเชี่ยนตัวเก่าที่เพิ่งจากไปเมื่อสองสัปดาห์ในวัย 9 ปี ด้วยโรคหัวใจโตลิ้นหัวใจรั่ว เนื่องจากหนอนหัวใจ หลังจากที่ให้สัตวแพทย์ส่องกล้องคีบหนอนหัวใจออกมาได้ 3 ตัวมันก็อยู่กับเราแค่ 2 เดือน หากมีเวลาจะเล่าประสบการณ์การเลี้ยงหมาป่วย และต้องพาไปให้น้ำเกลือและออกซิเจนทุกวัน)
นอกเรื่องซะลืมเล่าว่าเจ้าเสื้อน้อยมันไม่ยอมกิน pedigree เพราะมันคงคิดถึงข้าวราดแกงที่เคยกินในโรงอาหาร
เราเริ่มเปิดอาหารสุนัขกระป๋อง(Prescription Diet H/D) อาหารสำหรับสุนัขป่วยโรคหัวใจ มันก็ไม่ยอมกินอีกเพราะคงรู้ว่าหนูไม่ได้เป็นโรคหัวใจแต่เป็นโรค Building Sick (ก็หนูไม่เคยอยู่บ้าน เคยอยู่แต่ใต้ถุนตึก) ตามมาด้วยปลากระป๋อง (ขอสงวนยี้ห้อ เพราะอาจถูกฟ้องร้องได้) แล้วก็จบลงด้วยขาหมูตรอกซุง (คากิ) ซึ่งเจ้าเสือน้อยก็ยอมกินอย่างเสียไม่ได้(2-3 คำ) เบื่อคนที่ดูวุ่นวายจัง
กลางคืนมันร้องหาแม่ทั้งคืน (เราเริ่มดีใจเพราะคิดว่ามันเป็นใบ้ ตั้งแต่อยู่กับมันมา 12 ชั่วโมงไม่ได้ยินเสียงเลย)
เมื่อเช้ามันหนีไปซุกอยู่ใต้พุ่มเข็มสีชมพู คลุกข้าวขาหมูที่แบ่งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน มันยอมกินอีก 2-3 คำ แล้วหนีไปนอนต่อ
ช่วงบ่ายกินข้าวมันไก่ที่เหลือจากลูก (ยอมกินแต่ไก่ 2 ชิ้น) มันเริ่มออกมานอนให้คนเห็นแต่ซึมมากๆ ตาเศร้าเหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้านอนไม่ขยับไปไหนมา 3 ชั่วโมงแล้ว (เรานั่งมองมัน ตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง) แดดลามมาถึงมันยังนอนเฉย ต้องอุ้มไปไว้ที่อื่น ถ้าไม่เห็นกับตาว่ามันเดิน ได้ต้องคิดว่านอกจากเป็นใบ้แล้วยังขาเสียอีก
เล่ามาซะยาว ตั้งใจจะขอคำแนะนำในการเลี้ยงหมาโรค Building sick และ โรคซึมเศร้า เราควรจะทำอย่างไรให้มันร่าเริงสมวัยหมาเด็ก ถ้ามันเล่นได้มันคงกินได้เหมือนกัน (ไม่สะดวกในการเลี้ยงหมามากกว่า 1 ตัว และไม่อยากคืนเสือน้อยให้เป็นหมาใต้ถุนตึกด้วยเพราะอีกไม่นานเขาคงให้เทศบาลมากวาดไปหมด)
ขอบคุณคะ
แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 50 17:51:47
แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 50 17:46:35
จากคุณ :
คุณนายนอกบ้าน
- [
24 ก.พ. 50 17:39:18
]