เป็นเหตุการณ์ที่รวมไว้ด้วยความเศร้า และ ความโมโห ที่เกิดขึ้นกับผมเองเมื่อคืนวานนี้เองครับ 28/02/2007 ออกตัวก่อนครับ ผมไม่เคยแวะเวียนมาเยี่ยมชมฟอร์ลั่มนี้สักเท่าไหร่นัก (นานๆ ครั้ง ส่วนใหญ่จะไปห้อง tech เนื่องงานที่ทำอยู่เกี่ยวข้องโดยตรง) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อหมาของผมที่ตอนนี้จัดได้ว่า แก่ชราเป็นอย่างมาก นับอายุได้แล้ว ประมาณ 17 ปี แน่นอนครับสุขภาพเริ่มแย่เอามากๆ ตาเป็นต้อหินมองไม่เห็นมาประมาณเกือบ 2 ปีแล้ว (ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้เนื่องจากหมอเห็นว่าจะเป็นอันตรายเกินไป) ขาหลังสองขาไม่มีแรง และ เริ่มลีบ มาได้ประมาณ ปีกว่าๆ เมื่อประมาณหกเดือนที่ผ่านมา อาการเริ่มแย่ขึ้นเนื่องจากเดินไม่ถนัด และไม่มีแรง จึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอนราบกับพื้น รวมทั้งเวลาถ่ายด้วย ทั้งเลอะ และ ก็เปรอะไปหมด เป็นสภาพที่น่าสงสารมาก แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ (ในแง่ของการผ่าตัด หรือ ให้ยาเพื่อให้สภาพดีขึ้น) แต่เค้าก็ยังมีกำลังใจดีเยี่ยม และ อดทนมากๆอย่างไม่น่าเชื่อ กับพลังชีวิตที่อยู่มาได้จนวันนี้ โชคดีอยู่อย่างที่ยังทานได้ และ ขับถ่ายเป็นปกติ ถึงแม้จะเรี่ยรายก็ตามแต่ แต่เมื่อวานวันเกิดเหตุ เค้าไม่สามารถทานข้าวได้เนื่องจากสาเหตุที่ผม คาดเอาเองก็น่าจะมีผลมาจากบาดแผลที่เกิดจากการกดทับ หลายจุด ลืมบอกไปครับ ถึงแม้จะทานได้ปกติ แต่ร่างกายเค้าผอมจนจับได้แต่ซี่โครงแล้ว ดังนั้นเวลานอนกระดูกจึงสัมผัสกับพื้นและทำให้บริเวณนั้นๆ เกิดบาดแผลได้อย่างง่ายดาย เค้าคงเจ็บแผลมาก ผมเลยตัดสินใจพาเค้าไป พบสัตวแพทย์ใกล้บ้าน ซึ่งก็คือ สัตวแพทย์จุฬา (ขออภัยที่ต้องพูดชื่อ แต่ ถ้าอ่านไปจะทราบว่าผมเสียใจกับตัวบุคคลไม่ใช่สถาบัน) แรกๆ ที่ผมทราบว่าโรงพยาบาลมีการเปิดทำการในเวลา ที่คลีนิคอื่นๆ หรือ โรงพยาบาลสัตวอื่นๆไม่เปิดทำการ (โดยเฉพาะช่วงเวลา ตั้ง สามทุ่มเป็นต้นไป) ทำให้ผมรู้สึกชื่นชม และ ดีใจเป็นอย่างมากที่มีสถานพยาบาลสำหรับสัตว์เลี้ยงในลักษณะแบบนี้ อีกทั้งยังใกล้บ้านผมมากอีกด้วย ผมก็เลยได้ไปใช้บริการมาบ้างพอสมควร (ผมมีหมาที่เลี้ยงอยู่สองตัว ตัวที่พูดถึงอายุ 17 ปี อีกตัวเป็นพูดเดิ้ล toy อายุ 9 ปี) โดยที่ไม่ได้มีความคิดที่เป็นอคติกับการบริการแต่อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความล่าช้าบ้างในยามที่มีคิวสัตว์ที่เข้ารับการรักษา ที่ดูจะเป็นเรื่องหลักๆ แต่ทำอย่างไรได้หละครับในเมื่อมีอยู่ที่เดียวที่สามารถเปิดทำการได้ในลักษณะแบบนี้ (เท่าที่ผมรู้นะครับ ถ้ามีที่อื่นด้วยก็ขออภัย) เท่าที่ผมทราบส่วนใหญ่ของสัตว์แพทย์ที่ทำงาน จะยังเป็นนักศึกษาอยู่ ทั้งหมอที่ใส่ชุดขาว หรือ ผู้ช่วยที่ใส่ชุดเหมือนเป็นเสื้อช๊อปสีน้ำเงินมีตราพระเกี้ยวอยู่บนกระเป๋าหน้าอก แต่ก็จะมีผู้ช่วยที่ใส่เสื้อสีน้ำเงินเช่นเดียวกัน ที่ไม่น่าจะเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย
เหตุการณ์ที่ผมได้รับคือ ผมไปกับพี่เขยขับรถ และนำหมาผมไปเพื่อรับการรักษา แน่นอนเมื่อไปถึง ก็มีคิวท่านอื่นๆที่ได้รับการรักษาอยู่แล้ว ผมเองก็ร้อนใจ แต่ ก็เข้าใจไม่อยากไปทำการเร่งให้ผู้ช่วยนำหมาผมเข้าห้องรักษา แต่เนื่องจากสภาพอันน่าเวทนาของหมาผม ในสายตาของเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่กำลังเข้ารอคิวรักษา พูดกับผมว่า "ไปเร่งหมอหน่อยเถอะคุณ" ตัวผมเองจากที่วนเวียนๆ ชะเง้อหน้าห้องหมอ อยู่ ก็เลย ต้องผลักประตูเข้าไปเพื่อ "ขอร้อง" ให้หมอออกมาดูสภาพหน่อย ผู้ช่วยเลยอนุญาตให้ผมนำหมาผมเข้าไปได้ แต่ ก่อนเข้าห้องผมคงใจร้อนมากไป พอดีกับผู้ช่วยบอกให้ผมนำหมา ชั่งน้ำหนัก ผมเลยตอบกลับไป ว่า "ยังต้องชั่งด้วยเหรอกครับ" (ในใจประมาณว่าอาการแบบนี้ อยากให้หมอดูอาการก่อน) ผู้ช่วยก็ตอบสุภาพ ว่า "ครับ" แต่หลังจากนั้นก็หายตัวไป เข้าๆ ออกๆ ในห้อง แต่ไม่ได้มาทำอะไรสักเท่าไหร่นัก (เข้าใจว่าเวลานั้น มีผู้ช่วยแค่สองคน หมอสองคนเท่านั้น เท่าที่ผมเห็น) ที่นี้ หมอมาถึงผมก็ถามอาการ ซักประวัติสุนัขต่างๆ แล้วถามผมว่า "เจ้าของสุนัขต้องการให้หมอทำอะไรให้" ผมงงไปนิดหน่อย เพราะเป็นคำถามที่น่าจะได้รับคำตอบอยู่แล้ว ว่าผมต้องการให้รักษา โดยเฉพาะบาดแผล แล้วผมก็ตอบไปในลักษณะแบบนั้น โดยไม่ได้คิดอะไรมากนอกจาก ความคิดที่ว่า ลงมือรักษาเถอะครับหมอ! จากนั้นหมอก็ขอเจาะเลือด และ ให้ผู้ช่วย (ที่ไม่น่าจะเป็นนักศึกษา)ทำการโกนขนบริเวณรอบๆแผล รวมทั้งทำความสะอาดบาดแผลทั้งหมด ผมเองก็อยู่ห้องคอยช่วยจับไม่ให้หมาผมดิ้น อยู่ตลอดเวลา ส่วนพี่เขยผม ผมให้กลับไปก่อนเนื่องจากเวลานั้นประมาณเกือบเที่ยงคืนแล้ว ผมเองกะว่าลางานแน่ๆ เนื่องจากหมอแจ้งไว้แล้วว่าให้น้ำเกลือต้องใช้เวลานาน ผมเองยังไงก็ได้อยู่แล้วเวลานั้น ตลอดเวลาที่ทำแผลผมสงสัยเค้ามาก เนื่องจากความเจ็บบาดแผลหลายส่วน หลังจากทำแผลเสร็จ ก็นำผมและหมาไปที่ห้องพักรวม ในนั้นมีเจ้าของหลายๆคนกำลังอยู่ ส่วนใหญก็จะเป็นการรองให้น้ำเกลือ และ ยาบำรุงนะครับ ของหมาผมเป็นแค่น้ำเกลือ จากนั้นจนถึงน้ำเกลือหมดใช้เวลาไปประมาณ 5 ชั่วโมง เวลานั้น ก็ราวๆ ตีสี่ครึ่งได้ ตลอดเวลาที่ผมอยู๋ในห้องรวมนั้น ไม่มีหมอมาพูดให้คำแนะนำผมเลยว่าผมต้องทำอย่างไรบ้าง หรือ ในขณะที่เตียงอื่นๆ หมอก็มีเดินไปดู พูดคุย และให้คำแนะนำ (เข้าใจว่าอาการคงหนักว่าหมาผม ผมไม่ได้คิดน้อยใจใดๆจริงๆ ณ เวลานั้น) ผมเองไม่ได้นอน เพราะต้องคอยจับหมาผมพลิกตัวตลอดเวลา คอยลูบหัวเค้าเนื่องจากเค้าจะเริ่มร้องเวลาที่เจ็บแผลอีกข้าง เสร็จเมื่อน้ำเกลือหมด ผู้ช่วยหมอ (ที่เป็นนักศึกษา)มาถึงก็ตัดสายน้ำเกลือ พร้อมพันแผล ผมเลยได้โอกาสถามว่า
"เออ...ขอคำปรึกษาหน่อยครับ คือ หมาผมมันกินอาหารไม่ได้....แล้ว ทำอย่างไรดีครับ" (ในใจผมเองก็พอทราบคำตอบพื้นฐานอยู่แล้วว่าอาหารก็ต้องทำให้เหลว หาslingมาฉีดอาหารหรือ อะไรก็ว่าไป ตามเรื่อง แต่คิดว่าผู้ช่วยฯ อาจจะมีคำแนะนำอะไรบ้าง)
คำตอบที่ได้รับคือการทำสายตากึ่งๆเย็นชานิ่งๆ แต่น้ำเสียงราบเรียบ พร้อมกับคำพูดว่า
"แล้วงั้ยครับ"
ผมคิดว่าหูไม่ดีเลย ถามกลับว่า
"อะไรนะครับ"
ผู้ช่วยตอบ
"แล้วยังงั้ยครับ"
น้ำเสียงดังขึ้นอีกนิด ผมเลยบอกไปว่า
"ก็มันทานไม่ได้ปากไม่ยอมขยับ มีวิธีการแนะนำอย่างไรบ้างครับ เนื่องจากมันตอนทานข้าว ทานยา ที่นี่ถ้าทานไม่ได้ก็จะแย่"
ผู้ช่วยฯตอบมา
"กินไม่ได้ก็ตามพยายามให้กิน กินอาหารอ่อนๆ ถ้ากินไม่ได้อีก ก็ต้องมาให้น้ำเกลือทุกๆวัน" ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความเซ็งปนเบื่อ
ผมได้ยินดังนั้นใจก็พยายามไม่คิดอะไร แต่ก็เริ่มโมโหนิดๆ พอดีผู้ช่วยให้ออกไปข้างนอกเพื่อจ่ายค่ารักษา ทั้งหมด 1,060 บาท จ่ายเสร็จผมก็ไม่รู้ว่าต้องมีอะไรอีก รับยาไหม? หรือ จะมีผู้ช่วยนำหมาผมออกมา ผมก็รออยู่ประมาณ เกือบสิบนาที จนเจอหมอ ก็เลยถามไปว่าผมเข้าไปรับหมาผมกลับได้ไหม ก็ได้รับคำตอบมาว่าพากลับได้เลย จ่ายค่ารักษาแล้วใช่ไหม? ผมก็เลยวีนกลับไปว่าผมรออยู่ตั้งนานไม่มีใครแจ้งผมเลย เสร็จ ผมอุ้มหมาผมออกมาก็เลยถามว่าไม่มียาให้ผมเหรอ (ถามเพื่อความแน่ใจเพระเห็นในบิลค่ารักษามีระบุค่ายา) ได้รับคำตอบจากหมอว่า
"ยาเบิกไม่ได้ห้องยาปิด"
เท่านั้น ผมโกรธมาก แล้วทำไมไม่แจ้ง ไม่บอกผม ให้ผมรอ ให้ผมถาม คำแนะนำไม่มี ทุกอย่างเหมือนกับไม่ต้อนรับหมาพันธุ์ทางแก่ๆใกล้ตายของผม อย่างนั้นแหละ ผมยืนนิ่งสักพัก อยากเอาบัตรเขวี้ยงใส่หน้าผู้ช่วยหมอที่ยืนอยู่ตรงนั้นมากๆ เพราะผมก็ถามเค้าไปเรื่องยาหนหนึ่งได้รับคำตอบว่า
"ไม่ต้อง ก็หมอฉีดให้แล้วพร้อมน้ำเกลือ" (คำนี้เป็นคำพูดของผู้ช่วยที่ไม่น่าจะเป็นนักศึกษา ส่วนอีกคนไม่สนใจครับ นั่งเล่น PSP, เข้าไปในห้องพักสัตว์รวม ก็นั่งเล่นเว็ปไซต์ เกมส์อยู่ได้หมาเห่า หรือ ร้องไม่หันมามองเท่าไหร่)
ผมยืนมองหน้าได้สักพัก สองจิตสองใจว่าจะโวยดีไหม แต่คิดว่าพรุ่งนี้อาจต้องแวะพาหมามาทำแผลอีก หรือ จะไปคลีนิคดี เลยคิดไม่ออก ได้แต่พาหมาผมกลับ
เขียนมาทั้งหมด ผม อยากจะระบายสิ่งที่ได้รับ แม้ว่าอาจะเป็นผมเพียงคนเดียวก็ได้ที่เจอความเย็นชา และ การขาดความเอาใจใส่ ของคนที่กำลังจะเป็นหมอในอนาคต ทำให้เกิดความรู้สึก แย่ๆ โดยเฉพาะนาย "ผู้ช่วยหมอ" ที่ผมไม่รู้ว่าผมไปกวนต่อมอะไรคุณเข้า หรือ นี่คือนิสัยที่เป็นปกติของคุณ ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมคงทำใจว่า คุณมีแต่ความรู้ แต่ จริยธรรม คุณตกหวะ อนาคตผมคงไม่อยากเดาว่าคุณจะไปเปิดคลีนิคแล้วกระทำเยี่ยงนี้ แต่ถ้าระหว่างทางที่คุณใช้ชีวิตดำเนินไปนั้น มีบางอย่างทำให้คุณนึกขึ้นมาได้ก็คงจะดี ขออวยพร
ทั้งนี้ผมขอชื่นชมกับเหล่าสัตวแพทย์ท่านอื่นๆ ที่ทำงานด้วยใจรักสัตว์เลี้ยงอย่างจริงจัง และ ขอบอกว่าโรงพยาบาลสัตว์จุฬา concept ดีมากๆ แต่เรื่องบุคคลากรยังขาดแขลน ผมหมายถึงจำนวนนะ แต่ถ้ามีการคัดเลือกในส่วนของจิตสำนิกบ้างก็คงจะดีมากกว่านี้ สุดท้ายขออวยพรให้เหล่าสัตว์แพทย์ทั้งหลายที่มีจิตสำนึกที่ดีที่ทำงานในโรงพยาบาลสัตว์จุฬา จงมีแต่ความก้าวหน้าด้วยครับ
ป.ล. หวังว่านายผู้ช่วยคนนั้นคงจะไม่เห็นกระทู้ผมแน่ ก็นายเล่นเข้าแต่เว็ปเกมส์ ถ้าจะดีนายแวะมากระทู้นี้บ่อยๆนะ จะได้ประเทืองสมองส่วนอื่นบ้าง
ป.ล. 2 สัตว์แพทย์ที่อุทิศแรงกายและใจให้กับโรงพยาบาลสัตว์จุฬาทั้งหมดผมนับถือมากๆ แต่ถ้าคุณไม่มีใจ อย่าได้หวังได้รับคำนับถือจากผม หรือ จากคนอื่นเลยดีกว่า
ป.ล.3 ถ้าคิดว่าหมาผมตายหรือ ป่าว แล้ว ผมโวยทำไม ผมอยากจะบอกว่าความที่ไม่เอาใจของคุณจะนำพามาซึ่งความเสียหายกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายๆคน
จากคุณ :
Niceball
- [
28 ก.พ. 50 21:18:33
A:58.10.84.39 X:
]