ความคิดเห็นที่ 1 ดึกแล้ว>>> ขอเวลาไปค้นเรื่องก่อนนะคะ อิ...อิ จากคุณ : แม่น้องแทน - [ 15 มี.ค. 50 00:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เจ้าของกระทู้น่ะ ดี คิดดี ทำดี ใจดี จากคุณ : ป้าจายแคราย (-.-) - [ 15 มี.ค. 50 09:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การฝึกแมว ด้วยนิสัยอิสระและทำทุกอย่างตามใจตัวเอง ทำให้หลายคนคิดว่าแมวเป็นสัตว์ที่ฝึกไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วสามารถฝึกแมวได้เช่นเดียวกับสุนัข ซึ่งก็ควรฝึกแมวตั้งแต่ยังเล็กอยู่ การฝึกแมวนั้นก็มีหลักเช่นเดียวกับการฝึกสุนัข ซึ่งได้มาจาการศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ที่เรียกว่า "การตอบสนองอย่างมีเงื่อนไข " ตัวอย่างง่าย ๆ ก็คือ " ทำดีมีรางวัลทำผิดโดนลงทัณฑ์ " เมื่อสัตว์ทำถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของคน จะได้รับรางวัลซึ่งอาจเป็นตั้งแต่ คำชม สัมผัส เช่น การลูบหัวไปจนถึงการได้รับของกิน เช่น ขนม อาหาร เป็นต้น เมื่อกระทำผิดคำสั่งอาจถูกดุโดยใช้น้ำเสียงที่หนักแน่นต่างจากปกติ หรือกระตุกเชือกที่คล้องคออยู่ นอกจากนี้อาจลงโทษโดยวิธีอื่น ๆ อีกเช่น การกักบริเวณ โดยใช้วิธีผูก หรือ ขังกรง การตีโดยใช้กระดาษหนังสือม้วนเป็นท่อนตีพอเป็นการเตือนที่บริเวณสะโพก เป็นต้น ฝึกนิสัยการเรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับคน ก่อนฝึกแมวในหลักการนี้ผู้เป็นครูต้องมีความรู้เกี่ยวกับนิสัยและพฤติกรรมของแมวนักเรียน พอสมควร แมวเป็นสัตว์หน้าซื่อใจคด (หน้าไหว้หลังหลอก) มีทั้งเล่ห์เหลี่ยมและความไร้เดียงสา ซึงต้องการขัดเกลา แมวไม่ซื่อและรักเจ้าของอย่างจริงใจเหมือนกับสุนัข การฝึกจึงต้องใช้ความอดทนที่จะอบรมสั่งสอนด้วยความลำบากใจมากกว่าการเลี้ยงสุนัข แต่ถึงกระนั้นแมวก็ยังเรียนรู้และสามารถฝึกให้มีระเบียบ ว่าง่ายและใช้ประโยชน์ได้ เช่น การเข้าใจกริยาท่าทางของแมวแสดงให้คนรับรู้อารมณ์ เมื่อจะเล่นกับมันควรดูท่าทางของมันก่อนว่าในขณะนั้นอารมณ์ดีพอที่จะเล่นด้วยหรือไม่ ถ้าแมวรู้สึกดีใจที่จะได้พบเจ้าของมันจะรีบวิ่งเข้ามาหาและใช้หางพันแข้งพันขาแสดงความยินดี หูตั้งตรง ตาขยายกลมโต หนวดกระดิก เหล่านี้ ถ้ามีการหยอกเย้าตอบกลับ ลูบหัวลูบตัวมันก็จะเลียมือตอบรับรู้การสัมผัสแสดงความรักตอบ แต่ถ้ามันโกรธ หูแมวจะพับไปทางด้านข้าง หนวดเหยียดตรงไปทางข้างหน้า แกว่งหางไปมาและเตรียมขาตะปบพร้อมกับใช้เล็บแหลมคมข่วน เจ้าของจึงควรระวังอย่าให้คนในบ้านเล่นกับแมวแรง ๆ จนแมวรู้สึกเจ็บ เพราะจะถูกตอบโต้ทันทีทันควัน เมื่อเห็นแมวมีอาการเงียบไม่เคลื่อนไหว ก็อย่าวางใจว่าแมวไม่ทำร้าย ความจริงแมวสามารถซ่อนอารมณ์ไว้ในท่าที เฉยเมย ได้อย่างมิดชิด แต่อาการที่สังเกตง่ายมากคือ เมื่อมีขนตั้งชันแสดงว่ามันกลัว หรือ โกรธและพร้อมที่จะต่อสู้อย่างรุนแรง โดยลวงศัตรูให้ตายใจด้วยท่าทีเฉย ๆ แบบน้ำนิ่งไหลลึก ในขณะเดียวกันแมวก็เป็นสัตว์ที่มีอารมณ์ละเอียดอ่อน และรักเจ้าของด้วยความรักใคร่ มันจะรับรู้ความรักจากมือคนลูบโดยจะหลับตาพริ้มแสดงความสุขใจ บางทีก็ซุกซนกับแก้ม และ ซอกคอคน หางจะกระดิกยกขึ้น เป็นช่วงเวลาที่มันมีความสุขมาก ฝึกเรียกชื่อ แมวรู้จักชื่อตัวเองได้เช่นเดียวกับสุนัข การตั้งชื่อให้แมวควรถือหลักคือ สั้น ออกเสียงจำได้ง่าย มักเป็นชื่อไม่เกิน 2 พยางค์ เมื่อมีชื่อแล้วก็ต้องหมั่นเรียกควรเริ่มฝึกเรียกตั้งแต่ยังเล็ก โตแล้วอาจไม่ได้ผล ยิ่งเรียกบ่อยแมวก็จำชื่อตัวเองได้เร็วขึ้นและเป็นประโยชน์ในการฝึก เมื่อเรียกแมวแล้วแมวเข้ามาหา ก็ควรให้ความสนใจ เป็นการให้รางวัลและตอกย้ำว่ามันเข้าใจถูกต้องแล้ว ฝึกขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง ตามธรรมชาติแล้วแม่แมวจะคอยดูแลและสอนวิธีทำความสะอาดแก่ ลูก ๆ เมื่อเริ่มขบวนการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายครั้งแรก เริ่มเมื่ออายุได้ 2 ถึง 3 อาทิตย์ ด้วยวิธีการเลียบริเวณปากทวารหนักหลังจากกินนมหรืออาหารป็นการกระตุ้นให้ลูกแมวขับถ่ายออกมา จึงควรเตรียมจัดถาดทรายตื้น ๆ ไว้ให้แก่ลูกแมวในช่วงนี้ มิฉะนั้นมันจะหาที่ขับถ่ายเองแล้วจะกลายเป็นนิสัยที่แก้ยาก นิสัยการขับถ่ายของแมวนั้นถ้าถูกขังอยู่ในกรงเมื่อปวดท้องเขาจะแสดงอาการคุ้ยพื้น ตะกุยกรงขอร้องอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเจ้าของไม่ใส่ใจสังเกตแล้วขังไว้หลายชั่วโมง แมวจะอั้นอุจจาระ และ ปัสสาวะเอาไว้ จนติดนิสัยกลายเป็นแมวท้องผูกทำให้กระเพาะปัสสาวะยืด แมวบางตัวสามารถอั้นได้หลายวันหรืออาจนานถึง 7 วัน สภาพเช่นนี้น่าสงสารมากซึ่งไม่ควรละเลย ถ้าแมวไม่ขับถ่ายในถาดที่เคยใช้อยู่เป็นประจำแล้ว วิธีแก้ไขก็คือเปลี่ยนทรายในถาดใหม่ หรือขยายกระบะให้ใหญ่ขึ้น การลงโทษแมวด้วยวิธีการรุนแรงต่าง ๆ จะไม่ได้ผล ควรรีบทำความสะอาดพื้นห้องที่เปรอะเปื้อนให้หมดกลิ่นเพราะลูกแมวจะจำกลิ่นของมันได้และย้อนกลับมาถ่ายที่เดิมอีก เราอาจสอนให้แมวขับถ่ายนอกบ้านได้อย่างง่าย ๆ แต่ต้องเตรียมที่ทางให้มันเข้าออกได้ง่ายโดยใช้บานปแระตูปิดเปิดสำหรับแมวโดยเฉพาะ โดยทั่วไปจะทำเป็นบานสปริง การสอนให้แมวรู้จักและใช้ บานเปิดต้องใช้ความอดทน แรก ๆ แมวอาจจะกลัวการถูกบานประตูหนีบขณะที่ผ่านเข้าออก ตอนแรกอาจจะคอยช่วยเหลือจับบานประตูไว้ให้แมวเข้าออกได้ก่อน จากนั้นจึงพยายามปล่อยให้แมวเข้าออกโดยใช้เส้นทางนี้ แล้ว ค่อย ๆ ลดความช่วยเหลือลง จนในที่สุดแมวจะคุ้นเคยและสามารถใช้อุ้งเท้าผลักบานประตูเปิดออกเอง การฝึกแมวในสายฝึก ตรงกันข้ามกับความชื่อที่คนส่วนใหญ่ว่าไม่สามารถฝึกแมวเหมือนกับสุนัขได้ แต่ที่จริงแล้วแมวจำนวนมากสามารถฝึกโดยให้อยู่ในสายฝึกได้อย่างไรก็ตามการฝึกแมวในสายฝึกจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แมวบางตัวจะทำตัวเรียบร้อยเหมือนสุนัขในสนามประกวดแต่แมวส่วนใหญ่ชอบหยุดนิ่งและมองไปรอบ ๆ จึงควรฝึกแมวในสายฝึกโดยจูงแมวให้เดินเล่นในบ้านก่อน การฝึกแมวในสายฝึกก็อาศรัยหลักการเบื้องต้น เช่นเดียวกับการฝึกชนิดอื่น ๆ ซึ่งต้องมีเครื่องมือฝึกที่เหมาะสมมีความอดทนและส่งเสริมให้กำลังใจ เนื่องแมวเป็นสัตว์ที่มีนิสัยนุ่มลึก มีความรู้สึกเร็ว ถ้าใช้กำลังในการฝึกจะไม่สามารถบรรลุผลได้เลยตรงข้ามต้องแสดงความรัก แสดงให้รู้ว่าต้องการให้มันทำและพยายามชักชวนให้ทำตามที่เราต้องการ ก่อนเริ่มการฝึก ควรหาอุปกรณ์ที่ดีเพื่อป้องกันไม่ให้แมวหนีหรือเป็นอันตรายได้ เพราะคอของแมวนั้นค่อนข้างบอบบางกว่าคอของสุนัข ปลอกคอจะไม่เหมาะกับการฝึกในสายฝึกมากนัก ควรเปลี่ยนจาปลอกคอเป็นอานที่มีขนาดเบา ลักษณะเป็นอานเลข 8 หรือรูปตัว H มีสายหนึ่งพาดผ่านลำตัวหลังขาหน้าอานดังกล่าวต้องพอดีไม่รัดแน่นจนเกินไป ห่วงโลหะที่อยู่ ช่วงกลางของอานจะเป็นที่ฝึกสายเหนือส่วนหลังของแมวสายฝึกควรเบาและสั้นไม่ควรยาวเกิน 5 ฟุต มีที่จับเป็นห่วงคล้องข้อมือของผู้ฝึกได้ เพื่อว่าหากมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นกับแมว ก็สามารถอุ้มมันขึ้นมาทันท่วงที ก่อนที่จะเริ่มฝึกแมวในสายฝึกนี้ต้องทำให้แมวเคยชินหรือยอมรับกับการใส่อานก่อน ไม่ว่าแมวนั้นจะอายุน้อยหรือมาก เทคนิคที่ใช้ได้เหมือนกัน ประการแรกควรเตรียมอาหารสำหรับให้เป็นรางวัล เริ่มขั้นแรกในบ้านที่ปลอดภัยก่อน โดยสวมอานให้ปราศจากการฝึก แมวอาจนอนกลิ้งโดยเอาสีข้างลงและไม่ยอมขยับเขยื้อนหรือวิ่งหนี ไม่ว่าอยู่ในลักษณะไหนก็อย่าได้กังวล ให้รางวัลแก่แมวแล้วรอดู เมื่อแมวยืนขึ้นแล้วเดินมาหาครูฝึก ให้รางวัลทันที ให้อานอยู่ที่ตัวแมวสัก 10 นาทีในแต่ละครั้ง ทำซ้ำอย่างนี้สองถึงสามครั้งต่อวัน เมื่อแมวรู้สึกชินกับอานก็ให้เกี่ยวสายฝึกกับอานได้ ต่อไปเป็นการฝึกขั้นที่สอง สอนให้แมวเดินในสายฝึก ผู้ฝึกถือสายฝึกอยู่ในมือให้ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวพร้อมกับกระตุกสายฝึกอย่างนุ่มนวลหากแมวเดินตามก็ให้รางวัลด้วยอาหารที่เตรียมไว้ หลังจากฝึกจนเป็นผลสำเร็จเป็นเวลาหลายวันแล้วก็ค่อย ๆ ลดการให้อาหารเป็นรางวัลลง การจูงแมวอาจจูงให้เดินไปทางขวาหรือทางซ้ายมือของผู้ฝึกหากแมวเดินเดินอยู่ทางซ้ายมือก็จะพันสายจูงเข้ากับข้อมือขวาและบังคับแมวด้วยข้อมือซ้ายในกรณีที่มีปัญหาอาจจะอุ้มแมวด้วยมือซ้อายและยึดสายฝึกให้อยู่กับที่โดยอาศรัยมือขวาหากแมวดิ้นพยายามจะหนีจากสายฝึก ขอให้อดทนและสุภาพ แต่ถ้าแมวปฏิบัติได้ดี เช่น เดินตามไปก็ให้รางวัลทันที เมื่อแมวเดินตามทางที่กระตุกสายจูงแบบนุ่มนวลก็ให้ดำเนินการฝึกขั้นที่สามต่อไป คือการฝึกนอกบ้าน การนำแมวออกเดินนั้นค่อนข้างจะแตกต่างไปจากการจูงสุนัขเดินเล่นเพราะแมวจะไวต่อสิ่งกระตุ้นแวดล้อมรอบตัว เช่น แมวมักจะหยุดดมดอกไม้หรือจ้องมองสิ่งของที่เคลื่อนไหวอยู่นาน ๆ ก็ต้องทำใจ อย่าบังคับให้แมวเดินเร็วเกินไป ควรเดินแบบช้า ๆ เดินให้สนุกเพื่อให้แมวรู้สึกสนุกด้วย ควรเตรียมใจที่จะเดินแล้วหยุด หยุดแล้วเดินอยู่บ่อย ๆ หากแมวเกิดความกลัวก็อย่าพยายามพาแมวเดินออกนอกบ้าน หากจะสอนให้แมวเดินตามโดยไม่มีสายฝึกก็ใช้วิธีเดียวกับที่ได้กล่าวมาข้างต้น อย่างไรก็ตามการฝึกแบบนี้ไม่ควรทำ เพราะแมวอาจจะตื่นกลัวและวิ่งหนีจนตามจับไม่ทัน และอาจสูญหายได้ ควรจำไว้ว่า การฝึกแมวในสายฝึกนี้ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ แต่การฝึกจะช่วยให้ สัมพันธภาพระหว่าง เจ้าของกับแมวดีขึ้น หากทำสำเร็จแล้วแมวจะไม่ต่อต้านและเต็มใจจะเดินไปไหน ๆ ด้วย ขอให้ระลึกไว้เสมอว่า ควรฝึกด้วยความระมัดระวังและให้เกิดความสนุกสนาน ***ได้มาจาก***http://www.geocities.com/kunavut_mail/training.html#train03 ค่ะ จากคุณ : neenabkk - [ 15 มี.ค. 50 09:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นทู้เก่าๆเรื่องทำของเล่น ทำที่ฝนเล็บ ไอเดียดีและประหยัด แต่มะได้เซฟไว้แฮะ จากคุณ : yingcs - [ 15 มี.ค. 50 09:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หลังๆ นี่ถ้าเจอความรู้ จะแอบก๊อบไปใส่บล๊อกไว้น่ะค่ะ ความรู้ไม่อยากให้หายไป แต่ก็นะ ก่อนหน้านี้มีความรู้มากมายที่ไม่ได้ก๊อบไว้ เสียดายจัง ค้นในคลังกระทู้เก่าก็ไม่ค่อยจะเจอ จากคุณ : ban_ri - [ 15 มี.ค. 50 10:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โรงพยาบาลกั๊บ โรงพยาบาลสัตว์ สุวรรณชาด สะพานสูง โทร 02 729 5706-8 โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย โทร 02 251 8938, 02 218 9715, 02 218 9750-52 โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ บางเขน โทร 02 942 8756-59 โรงพยาบาลสัตว์ บ้านหมอรักหมา แจ้งวัฒนะ โทร 02 575 3370-1 โรงพยาบาลสัตว์ กรุงเทพ-นนทบุรี โทร 02 965 1442-3, 02 642 1299 โรงพยาบาลสัตว์ ไกเซอร์ บางซื่อ โทร 02 585 7648 โรงพยาบาลสัตว ์ไกเซอร์ 2 รัตนธิเบศร์ โทร 02 594 3308 โรงพยาบาลสัตว์ ธนบุรี บุคคโล โทร 02 468 3472 โรงพยาบาลสัตว์ บางปะกอก โทร 02 428 2417 โรงพยาบาลสัตว์ ปทุมธานี โทร 02 975 7272-8 โรงพยาบาลสัตว์ สะพานใหม่ โทร 02 972 4737 โรงพยาบาลสัตว์ ประชาราษฎร์ โทร 02 527 5225, 02 527 5252 โรงพยาบาลสัตว์ พีเอส บางพลัด โทร 02 435 9129, 02 435 5980, 02 881 0235-6 โรงพยาบาลสัตว์ มหานคร ท่าพระ โทร 02 891 8377 โรงพยาบาลสัตว์ หนองแขม โทร 02 808 3420-1 โรงพยาบาลสัตว์ สุขสวัสดิ์ โทร 02 428 1443-4 โรงพยาบาลสัตว์ บางปะกอก โทร 02 428 2417 โรงพยาบาลสัตว์ ลาดปลาเค้า โทร 02 570 6060, 02 570 5939 โรงพยาบาลสัตว์ ศรีวราทาวน์อินทาวน์ โทร 02 530 7636-8 โรงพยาบาลสัตว์ ตลิ่งชัน โทร 02 448 6369, 02 887 8321-3 โรงพยาบาลสัตว์ เทพารักษ์ โทร 02 393 7351, 02 393 7560 โรงพยาบาลสัตว์ บางพลี โทร 02 752 2223 โรงพยาบาลสัตว์ นครินทร์ โทร 02 321 4468, 02 321 9830 โรงพยาบาลสัตว์ สุขุมวิท 49 โทร 02 392 0291 โรงพยาบาลสัตว์สวนสัตว์ ซ.อ่อนนุช โทร 02 331 8146 โรงพยาบาลสัตว์ โรจน์นิรันดร์ อุดมสุข 60 (สุขุมวิท103) โทร 02 746 5370-1 โรงพยาบาลสัตว์ ทองหล่อ โทร 02 712 6301-4 โรงพยาบาลสัตว์ เจริญสุข เอกมัย โทร 02 391 9707, 02 391 6469 โรงพยาบาลสัตว์ พัฒนาการ 30 โทร 02 319 2360, 02 719 5925 โรงพยาบาลสัตว์ อ่อนนุช โทร 02 311 1055, 02 311 6719 โรงพยาบาลสัตว์ ซ. อารีย์ โทร 02 271 3188 โรงพยาบาลสัตว์ ถ. สุโขทัย สวนจิตร โทร 02 243 0587 โรงพยาบาลสัตว์ ราชวิถี โทร 02 243 5011 โรงพยาบาลสัตว์ เอ็น พี ศูนย์การค้าแฮปปี้แลนด์ โทร 02 377 3764 โรงพยาบาลสัตว์ แฮปปี้แลนด์ โทร 02 378 0992 โรงพยาบาลสัตว์ บางกะปิ โทร 02 374 6349 โรงพยาบาลบ้านสัตว์เลี้ยง 1 สุขาภิบาล 1 โทร 02 944 8715 โรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง บางบอน โทร 02 895 3048-9 โรงพยาบาลสัตว์ ฮาเลลูยา โทร 02 899 7070 โรงพยาบาลบ้านสัตว์เลี้ยง 2 สำโรงเหนือ โทร 02 759 1553 โรงพยาบาลสัตว์ มาลีวัลย์ คลอง 2 โทร 02 996 2662 โรงพยาบาลสัตว์ แมวหมาร่าเริง โทร 02 9644288-9 คลินิกนกและสัตว์ป่า 356/7 ถ.ศรีอยุธยา ราชเทวี พญาไท กรุงเทพฯ 10400 น.สพ.ปานเทพ รัตนากร 0-2245-4946 ศูนย์สุขภาพสัตว์เลี้ยง เพ็ทมอลล์ 2 13 ถ.เทศบาลสงเคราะห์ ลาดยาว จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 สพ.ญ.วิภาวดี ปฐมรพีพงศ์ 0-2954-2220 โรงพยาบาลสัตว์ เจริญสุข 167 ซ.เจริญสุข เอกมัย ซ.5 สุขุมวิท 63 คลองตัน เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 น.สพ.เศรษฐพร เกษมสุวรรณ 0-2391-9707 โรงพยาบาลสัตว์ เอกมัย 916/23 สุขุมวิท55 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 สพ.ญ.สุธาสนาน เจียรพร 0-2390-0002 โรงพยาบาลสัตว์สุขุมวิท49 120/1-2 ถ.สุขุมวิท49 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 สพ.ญ.เกศินี ไกรครุฑรี 0-2392-0291 เพ็ท ไดเร็ค คลินิก ห้อง 3A เรคเกตคลับ ซ.พร้อมศรี 1 สุขุมวิท39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ สพ.ญ.ศิรินรัตน์ ศิลปานันทกุล 0-2712-8080-2,0-1313-5087 โรงพยาบาลสัตว์สวนสัตว์ 709/52-53 ซ.อ่อนนุช 7/1 ถ.สุขุมวิท 77 เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 สพ.ญ.ดร.ศิรยา ชื่นกำไร 0-2331-8146 โรงพยาบาลสัตว์ โรจน์นิรันดร์ 32/24 ปากซอยอุดมสุข 60 (สุขุมวิท103) ถ.สุขุมวิท หนองบอน ประเวศน์ กรุงเทพฯ 10250 น.สพ.เกียรติศักดิ์ โรจน์นิรันดร์ 0-2746-5370-1 สถานพยาบาลสัตว์ บ้านสัตวแพทย์ 19/3 หมู่ 1 ตรงข้ามตลาดหัวตะเข้ ลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520 น.สพ.ศักดิ์ชัย เรือนเพชร 0-2739-0899, 0-1689-4742 เพ็ทเฟรนด์ รักษาสัตว์ 55 หมู่17 ซอยหน้าห้างโลตัส ถ.สุวินทวงศ์ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ 10510 น.สพ.ศักดิ์ชัย เรือนเพชร 0-2540-6920, 0-1689-4742 คลินิกรักษาสัตว์ เพ็ทแคร์ เซ็นเตอร์ 66/14 ถ.รามอินทรา กม.7 เขตคันนายาว กรุงเทพฯ 10230 น.สพ.สง่า บุญโสดา 0-2945-8509,0-1820-4465 คลินิกสัตวแพทย์ กม.8 39/171 ถ.รามอินทรา กม.8 จระเข้บัว บางกะปิ กรุงเทพฯ 10230 น.สพ.อนุวัฒน์ ศีตะมโนชญ์ 0-2510-5439 คลินิกสัตวแพทย์ไดร์ฟอิน 2646-2648 ซ.ลาดพร้าว 128/2 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240 สพ.ญ.นุศรา ไพฑูรย์วงศ์วีระ 0-2378-0318 โรงพยาบาลสัตว์ เอ็น พี 213-215 ศูนย์การค้าแฮปปี้แลนด์ ลาดพร้าว คลองจั่น บางกะปิ กรุงเทพฯ 10240 น.สพ.พัฒนา รัตนชินกร 0-2377-3764 สัตวแพทย์ 4 โพลีคลินิค 5-5/1 ถ.เทศบาลรังสฤษเหนือ ลาดยาว จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 สพ.ญ.อารยา ผลสุวรรณ์ 0-2591-3995 โรงพยาบาลสัตว์ ด็อกเตอร์ เพ็ท 1 69/14-16 ซ.ปทุมวันรีสอร์ท พญาไท ราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 สพ.ญ. วจีรัตน์ กังสะนันท์ 0-2251-1338 คลินิกรักษาสัตว์ จัสโก้ สยามจัสโก้ รัชดา ถ.รัชดาภิเษก หว้ยขวาง กรุงเทพฯ 10320 น.สพ. สุรพงษ์ อาทิตย์วงศ์ 0-2548-4694-8 ต่อ 225 โรงพยาบาลสัตว์สวนหลวง 919 ถ.อรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 น.สพ.ธานินทร์ สันติวัฒนธรรม 0-2866-0260 โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน 37/7 ถ.บรมราชชนนี กม.3 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชั่น กรุงเทพฯ สพ.ญ.สมบูรณ์ สุธีรัตน์ 0-2887-8322-23 โรงพยาบาลสัตว์ฮาเลลูยา 114/187-188 หมู่4 ซอยธนาคารกสิกรไทย ถ.วงแหวนรอบนอก บางบอน กรุงเทพฯ 10150 น.สพ.พรชัย ชัยฤทธิ์เลิศ 0-2899-7070-1 ศูนย์สุขภาพสัตว์เลี้ยง เพ็ทมอลล์ 1 124/17 ถ.กรุงธนบุรี บางลำพูล่าง คลองสาน กรุงเทพฯ 10600 น.สพ.ธานินทร์ สันติวัฒนธรรม 0-2860-9316 พุทธมณฑลรักษาสัตว์ 81/82 หมู่9 ตลาดพุทธมณฑล ถ.บรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170 น.สพ.มงคล เทพเกษตรกุล 0-2441-9650,0-1636-8486 โรงพยาบาลสัตว์ ด็อกเตอร์ เพ็ท 2 88/8 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 น.สพ.สมเกียรติ กังสะนันท์ 0-2424-1305,0-2424-2927 โรงพยาบาลสัตว์ รัตนาธิเบศร์ 103/3-4 เชิงสะพานพระนั่งเกล้า ถ.รัตนาธิเบศร์ ไทรม้า เมือง นนทบุรี 11000 น.สพ.พิเศษ อัศวหน้าเมือง 0-2921-8103 LOVELY PET 68/118 ถ.รัตนาธิเบศร์ บางกระสอ เมือง นนทบุรี 11000 น.สพ.สรัช คงเดชเกษมสุข 0-2969-8486 จากคุณ : chemmut - [ 15 มี.ค. 50 16:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ทำหมันฟรี กทม ทำหมันฟรีค่ะ / วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า ก็ฟรี ที่ทำหมันฟรีที่ไปกันคือ ที่ ดินแดงค่ะ อยู่ถนนมิตรไมตรี เยื้อง ๆ กับสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น โทร. 02 248 3311 ถ้าต้องการพาหมา แมว ไปทำหมันฟรี ต้องไปนัดก่อนค่ะ ไปนัดได้ทุกวัน .. เวลาราชการ การนัด นัดครั้งละกี่ตัวก็ได้ (แต่ควรพาไปให้ครบจำนวนค่ะ เพราะเราไปกันสิทธิ์ของคนอื่น) ............. ส่วนที่ทำหมันฟรีที่อื่น ๆ จะนัดได้คนละ 2 ตัว / ครั้ง ลองโทรไปสอบถามก่อนนะค่ะ ว่าไปนัดได้วันไหนบ้าง กรุงเทพมหานตร ได้เปิดศูนย์บริการทำหมัน-ตอน ฉีดวัคซีน ฟรี ในวัน-เวลาราชการ จำนวน 8 ศูนย์ ดังนี้ 1. ฝ่ายควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ดินแดง โทร.02 245-3311 (เฉพาะที่ศูนย์ใหญ่ - ไปนัดได้ทุกวันเวลา.. ราชการ) 2. ศูนย์บริการสาธารณสุข (วัดธาตุทอง) โทร.02 391 6082 / 02 381 6659 3. ศูนย์บริการสาธารณสุข 23 (สี่พระยา) โทร.02 236-4055 ต่อ 213 4. ศูนย์บริการสาธารณสุข 24 (บางเขน) โทร.02 579-1342 5. ศูนย์บริการสาธารณสุข 29 (ช่วงนุช-เนตร)โทร.02 476 6493 / 02 468-2570 6. ศูนย์บริการสาธารณสุข 33 (วัดหงส์รัตนาราม)โทร. 02 472 5895-6 ต่อ 109 7. ศูนย์บริการสาธารณสุข 43 (มีนบุรี)โทร. 02 914 5822 / 02 543-7334 8. กองระบาดวิทยา บางกอกน้อย โทร. 02 411 2432 จากคุณ : วชิรา   - [ 13 มี.ค. 50 17:50:11 ] จากคุณ : chemmut - [ 15 มี.ค. 50 16:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 วิธีทำตาข่าย กันแมวตกตึก  ข้อมูลของคุณ dokbotan อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 1 ตาข่ายพลาสติก เท่าที่เห็นมีสองสี สีเขียวกับสีดำ หน้ากว้าง 90 cm ของโบตั๋นให้เขาตัดให้ 3 ผืนๆละ 220 cm 2 ค้อนตอกตะปูคอนกรีต 3 ตะปูคอนกรีตตัวเล็ก 4 ลวดที่งอได้ง่ายๆด้วยมือ ตาข่ายราคาเมตรละ 30 บาท ใช้ 2.2 เมตรทั้งหมด 3 ผืน เป็นเงิน  198 บาท ช่องที่ต้องการกั้นประมาณ 2*2.5 เมตร ตัดตาข่ายเผื่อนิดหน่อย เพราะต้องทับกันช่วงรอยต่อนะคะ -.- ทำไมไม่ลิงค์ไม่เลยหว่า งง?? อิอิ นู๋ลิงค์ไปเลยนะค่ะ http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2007/02/J5128893/J5128893.html แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 50 16:33:35 จากคุณ : chemmut - [ 15 มี.ค. 50 16:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องวัคซีน  จากคลังแฟลตปลาทู http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J5156179/J5156179.html เรื่องอะไรอีกดีน๊า จากคุณ : chemmut - [ 15 มี.ค. 50 16:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 การฝีมือ เสนอ วิธีทำที่ฝนเล็บแมว แบบประหยัด.... โดยคุณศรเมฆา http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2006/11/J4907254/J4907254.html จากคุณ : chemmut - [ 15 มี.ค. 50 16:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ก๊อปปี้มาจากในอินเทอร์เน็ต แต่จำที่มาไม่ได้แล้วค่ะ = = = = = สิ่งไม่ดี 10 ประการที่คุณไม่ควรให้แก่สัตว์เลี้ยงของคุณ 1. กระดูก - กระดูกเป็นเป็นสิ่งไม่ดีต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ร่างกายสุนัขและแมวไม่สามารถทนของแข็งอย่างกระดูกได้ หากรับประทานเข้าไปกระดูกอาจติดคอ หรือหากเข้าไปได้ถึงในลำไส้ สุนัขหรือแมวของคุณคงจะถูกช่วยโดยการผ่าตัดเป็นแน่ 2. ช็อกโกแล็ต - ช็อกโกแล็ตมี Theobromine ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มจังหวะการเต้นของหัวใจ, กระตุ้นระบบสมองส่วนกลาง และเสี่ยงต่ออาการตีบหรือคอดของเส้นเลือด และแสดงออกในรูปแบบตั้งแต่อาเจียน, ท้องร่วง, กระสับกระส่าย จนถึงหัวใจทำงานผิดปกติ, หมดสติจนถึงตาย อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นเร็วมากเพียง 4-6 ชั่วโมงหลังรับประทาน ดังนั้นควรจะปรึกษาสัตวแพทย์ทันทีที่สัตว์เลี้ยงของคุณได้รับประทานช็อกโกแล็ตลงไป 3. แอลกอฮอล์ - แอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่สัตว์เลี้ยงของคุณควรหลีกเลี่ยง เพราะแอลกอฮอล์ปริมาณเพียงนิดเดียว ก็สามารถทำให้แมวหรือสุนัขเมาเดินโซเซชนข้าวของ หรือทำให้ตัวเองบาดเจ็บได้แล้ว นอกจากนั้นอาจทำให้มันไม่สามารถบังคับการขับถ่ายในขณะนั้นๆได้อีกด้วย สำหรับแอลกอฮอล์ในปริมาณสูง จะกดประสาทส่วนกลาง ทำให้การหายใจและหัวใจทำงานผิดปกติ และอาจร้ายแรงถึงขั้นตายได้ 4. นม - ท่านอาจคิดว่านมเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับสุนัขและแมวของคุณ แต่ที่จริงแล้วร่างกายของสัตว์เหล่านั้น ไม่สามารถรับแล็คโตสในปริมาณมากๆได้ จนทำให้เกิดอาการท้องร่วงนอกจากนี้สัตว์เลี้ยงมักจะขาดเอ็นไซน์ ในการย่อยน้ำตาลในนม ทำให้เกิดอาการอาเจียน, ท้องเสีย หรืออาการผิดปกติในลำไส้ 5. แฮมหรืออาหารที่ทำจากสัตว์ชนิดอื่นที่มีรสเค็ม - อาหารเหล่านี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงมาก นอกจากจะมีปริมาณไขมันสูงแล้ว ยังมีรสเค็มจนอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ยิ่งกว่านั้นสุนัขสายพันธ์ใหญ่ๆ หากได้รับประทานอาหารที่มีรสเค็มแล้ว มักจะดื่มน้ำมากจนเกิดอาการที่เรียกว่า bloat ซึ่งเป็นอาการ ที่เกิดจากภาวะที่มีปริมาณแก๊สในท้องมากเกินไป และจะตายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาหากไม่ได้รับการรักษา หรือปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง 6. หัวหอม - หัวหอมประกอบไปด้วย allyl propyl disulfide ซึ่งเป็นสารที่สามารถทำลายเซลเม็ดเลือดแดง และส่งผลให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการโลหิตจาง อ่อนแอและมีปัญหาในการหายใจ ดังนั้นควรพาสัตว์เลี้ยง ไปพบสัตวแพทย์ทันทีที่มันรับประทานหัวหอมเข้าไป 7. คาเฟอีน - คาเฟอีนประกอบไปด้วย methylated xanthine ซึ่งกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และการทำงานของหัวใจ นอกจากนั้นในหลายชั่วโมงต่อมาอาจแสดงอาการกระสับกระส่าย อาเจียน ในสั่นจนถึงขั้นเสียชีวิต 8. อโวคาโด - อโวคาโดมีปริมาณไขมันสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดท้อง และอาเจียน นอกจากนั้นเมล็ตของมันยังเป็นพิษ และอาจไปตกค้างในลำไส้จนสัตว์เลี้ยงของคุณต้องถูกผ่าตัดเลยทีเดียว 9. ปลาทูน่า - แปลกใจใช่มั๊ยคะว่าทำไมปลาทูน่าจึงส่งผลไม่ดีต่อแมวที่รักได้ คือกล้ามเนื้อหัวใจของแมวต้องการ กรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Taurine เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงาน ปลาทูน่าที่เราทานกันไม่มีกรดอะมิโนชนิดนี้ และหากแมวรับประทานทูน่าเหล่านั้นอาจทำให้การทำงานของหัวใจมีปัญหา หากท่านอยากให้แมวได้ลิ้มรสปลาทูน่า ท่านก็ควรแน่ใจก่อนว่าปลาทูน่านั้น เป็นทูน่าเฉพาะสำหรับแมว เพราะมันจะถูกเพิ่ม Taurine ให้เหมาะสมกับร่างกายของแมว 10. ลูกเกด และองุ่น - จากการศึกษาพบว่าการรับประทานลูกเกด และองุ่นในสัตว์เลี้ยงอาจทำให้ไตทำงานหนักมากขึ้น = = = = นอกจากอาหาร ยังมีพืชที่ไม่ควรปลูกในบ้าน เพราะเป็นพิษต่อแมว แต่ยังหาไม่เจอค่ะ ว่าเก็บไว้ที่ไหน จากคุณ : Quasar   - [ 29 พ.ย. 49 22:49:27 ] เอามาทั้งดุ่น อิอิ จากคุณ : chemmut - [ 15 มี.ค. 50 16:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาตรฐานขั้นต่ำในการเลี้ยงแมวให้มีความสุข http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2006/11/J4854147/J4854147.html จากคุณ : chemmut - [ 15 มี.ค. 50 16:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โรงพยาบาล(เพิ่มเติม ไม่รู้จะซ้ำกับข้างบนไหมนะค่ะ) อันนี้มีเยอะ 24 ชมกะต่างจังหวัดก็มีค่ะ http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2006/08/J4634752/J4634752.html แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 50 16:58:08 จากคุณ : chemmut - [ 15 มี.ค. 50 16:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 กระทู้น้ำดี ...มีสาระ **สำหรับทาสแมวมือใหม่ค่ะ*** ข้อมูลของคุณneenabkk http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J5223678/J5223678.html จากคุณ : chemmut - [ 15 มี.ค. 50 17:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แมวใหม่กับบ้านใหม่ เมื่อมาถึงบ้าน ให้ปิดประตูหน้าต่างให้หมด และดูแลให้ของทุกอย่างอยู่ในที่ของมัน ปล่อยให้เค้าออกมา ให้น้ำกินก่อน และให้รู้ที่กะบะทราย สองสาม ชม แรก เค้าจะไปเดินดมดูทุกซอกทุกมุม อย่างสนใจ ให้ความสำคัญกับการแสดงความรู้จักเยอะ ๆ หน่อย เตรียมของเล่นให้พร้ม แต่ถ้าเค้าเหนื่อย ก็ให้เค้าหลับก่อนได้ ถ้าเป็นลูกแมว ดีที่สุดคือให้เค้าในห้องนึงก่อน จนกว่าเค้าจะรู้สึกไว้วางใจ ถ้ามีเด็ก  ให้ระวังเรื่องเด็กทำเสียงดังและ การอุ้มแมว การจับแมวอย่างถูกวิธี  ส่วนเด็ก  ๆ ที่เด็กเกินไปที่จะเข้าใจเรื่องแบบนี้ ก็ควรยังไม่ให้เข้ามาใกล้ จนกว่าแมวจะเคยชินเสียก่อน ถ้าการแสดงการรู้จัก และค้นพบสิ่งแปลกใหม่จบลงแล้ว ให้พาไปที่ที่นอน ถึงลูกแมวจะยังไม่อยากไป แต่ก็ให้รู้ถึงที่นอนเสียก่อน เมื่อไหร่ที่แมวเริ่มทำความสะอาดขน นั่นแสดงว่า เค้าเริ่มมีความไว้วางใจและเริ่มสบายใจขึ้นแล้ว นั่นก็หมายถึงว่า เป็นเวลาที่ดีที่จะให้อาหารเค้าได้แล้ว  แมวที่มาจากเจ้าของเก่า ก็มักจะมีข้อมูลมาแล้วว่ากินอาหารประเภทไหน ยี่ห้ออะไร มาก่อน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมวเด็ก สำคัญมากที่จะต้องทำเมนูอาหารและตารางการให้อาหารที่เค้าเคยชินให้ เพราะจะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการเผาผลาญ  น้อยลง  ถ้าแมวโตขึ้น ก็ต้องให้อาหารมากขึ้นไปตามไป หลังอาหาร ให้พาไปที่กระบะทรายอีกครั้งนึง  ลูกแมวโดยมากเรียนรู้มาจากมาแล้วว่าจะใช้กระบะทรายยังไง  แต่บางตัวก็ต้องช่วยเค้าบ้าง สิ่งต่าง ๆ ที่จะเป็นการสั่งสอนให้เค้าเรียนรู้ตอนนี้ให้เริ่มทำซะเลย ตอนเข้าบ้านมาใหม่นี่แหละ เป็นเวลาที่ดีที่สุด ที่จะสอนเค้า ว่าตรงไหนแตะไม่ได้จับไม่ได้ เช่น โซฟาห้ามเกาหรือผ้าม่านห้ามไต่  และที่อื่น ๆ ที่ห้ามเค้าเข้าไปยุ่ง ก็ต้องสอนเค้าเสียแต่บัดนี้เลย สิ่งเหล่านี้อาจจะใช้เวลามาก แค่ก็ต้องพยายามค่ะ จากคุณ : ทิวลิบ - [ 15 มี.ค. 50 21:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แมวเครียด เป็นอย่างไร หลายคนคงจะเคยเห็นว่าอยู่ดี ๆ แมวก็เกิดจะไม่กินขึ้นมา หรือมีอาหารประหลาด ๆ แสดงออกมา อาการเหล่านี้ บางทีดูเหมือนอาการป่วยทางร่างกาย เหมือนว่าจะไม่สบายมาก อาเจียน ไม่กินข้าว ไม่อยากอาหาร เบื้องต้นต้องไปให้หมอดูก่อนว่าเค้าไม่ได้เจ็บป่วยทางร่างกายจริงหรือเปล่า ลองสังเกตดูว่า ถ้าเป็นแมวแก่ก็จะเงียบหนักกว่าเดิม บางทีก็นอนมากขึ้น หรือกินน้อยลง แต่ที่กล่าวมานี้ก็เป็นอาหารปกติของแมวที่แก่ตัวขึ้น   ถ้ารุ้จักแมวดี จะรู้ว่าเค้าผิดปกติ  ก็จะเหมือนกับคน ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากได้ยินอะไร ไม่อยากกินด้วย แม้แต่นกที่เคยชอบไล่จับก็จะไม่สนใจเลย และสิ่งที่น่สังเกตคือ ถ้าเค้าไม่สนใจกับขนของตัวเอง ไม่มีการทำความสะอาดเท่าที่เคยทำ อันนี้เป็นข้อบ่งชัดเด่น ๆ เลยที่ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับเค้าแล้ว เพราะปกติแมวจะต้องทำความสะอาดตัวเองเสมอ บางครั้งความเครียดก็มีเหตุให้เห็นง่าย ๆ โดยมากกก็เกิดจากการที่อยู่ดี ๆ ก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เช่น การตายของเจ้าของ ซึ่งแมวรักเจ้าของมาก บางทีก็เป็นเพราะข้อเท้าหัก แล้วเอาเค้าไปขังให้อยู่ในที่แคบ ๆ  แต่สาเหตุพวกนี้จะหายไปไม่ยากนัก ถ้ามีการจากไปของแมวตัวอื่นที่เค้ารัก ก็ต้องมีการทดแทนด้วยการให้ความเอาใจใส่ เพื่อนบรรเทาความเศร้าใจในช่วงเวลานี้ลงบ้าง หลาย ๆ กรณี ความเครียดเกิดจากการ สาเหตุเล็ก ๆ  เช่น เวลาเปลี่ยน โซฟาตัวหใม่ หรือสิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาในบ้าน และรวมทั้งการมี เพื่อนใหม่ การมีลูก ย้ายบ้าน หรือการมีเพื่อนบ้าน (แมว) ใหม่   แมวที่ค่อนข้างจะเซนท์ซิทีฟ อ่อนไหว จะมีการตอบรับรุนแรงกับเหตุการณ์เหล่านี้  แมวบางตัวอาจจะไม่ยอมเข้ากะบะอึ จะอึ ฉี่ เรียราดไปเลย หรือ เกาโซฟาพังไปเลยก็ได้  ถ้าเจ้าของคอยสังเกตและช่วยแก้ไข อาการเค้าจะดีขึ้น  แต่ถ้าไม่ช่วยเค้าก็อาจจะแย่ลงค่ะ เรื่องอาหาร  เมื่อแมวเครียด  ไม่อยากกิน จะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับร่างกายตามมาอีก ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ก่อนอื่น ไม่งั้นจะนำมาซึ่งการป่วยไข้ ให้ให้อาหารที่เค้าชอบมาก ๆ หรือทำอาหารให้มีความอุ่น กลิ่นที่ออกมาจะทำให้อาหารน่ากินมากขึ้น หรือถ้าไม่กินจริง ๆ นี่ไม่ได้ อาจต้องป้อนกันก็ต้องยอม ไม่งั้นเค้าจะขาดวิตามินและสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย  อาหารอะไรที่เค้าชอบก็ค่อย ๆ ให้เค้าไปเรื่อย ๆ ก่อน ความเครียดของแมวนี้ เจ้าของต้องช่วยนะคะ  เพราะถ้าไม่ช่วย จะทำให้เคายิ่งแย่ลง ๆ  และมีผลกับระบบภายในร่างกาย  ซึ่งนำมาได้ซึ่งความอ่อนแอจนสามารถที่จะติดเชื่อได้ ข้อมูลนี้นำมาจากเวบไซท์แมวของฮอลแลนด์ เรื่องอาหารเครียดในแมว ซึ่งนำมากจากหนังสือ  อาร์ทออฟอนิมอล ค่ะ จากคุณ : ทิวลิบ - [ 15 มี.ค. 50 21:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ทำอย่างไรให้แมวกินน้ำได้มากขึ้น พูดถึงสัตว์ทั้งหลายแล้ว แมวต้องการน้ำน้อยกว่าเพื่อน แล้วพวกเราก็จะมักจะลำบากที่จะต้องหาทางทำให้แมวกินน้ำเพิ่มขึ้น  แมวที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไต มักจะต้องกินน้ำมากกว่าแมวปกติ เพื่อที่จะทำให้แมวกินน้ำมากขึ้น นี่ก็คือเทคนิคบางอย่างที่อยากจะแนะนำ - เพิ่มจำนวนภาชนะที่ใส่น้ำให้มากขึ้น วางภาชนะใส่น้ำไว้หลายๆจุดรอบบ้าน อาจจะวางในที่ที่ไม่ใช่ที่ปกติที่จะวางน้ำให้แมว  แต่แมวก็ดูเหมือนจะให้ความสนใจมากขึ้นด้วย  บ่อยครั้งที่เราจะเห็นแมวกินน้ำในที่แปลก ๆ เช่น เวลาเราอาบน้ำเสร็จ ในอ่างปลา ในที่ล้างชาม หรือกระถางต้นไม้ ( อันนี้ใช้ได้ผลกับแมวที่บ้าน จะชอบกินน้ำที่วางไว้ในห้องนอน และห้องอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ตรงที่ไว้อาหารแมว ) -------------------------------------------------- - เลือกภาชนะให้มีความหลากหลาย สูงมั่ง เตี้ยมั่ง  แบบแก้วบ้าง พลาสติก สเตนเลส  หรือใช้ชามของหมาบ้างก็ได้ แมวมักจะชอบลอง ------------------------------------------------- -พยายามให้ลองกินน้ำที่ไหล แมวบางตัวไม่กินน้ำในภาชนะที่เตรียมไว้ให้เลย ชอบกินจากก๊อกน้ำ หรือน้ำที่ไหล แต่ก็ไม่ต้องถึงกับเปิดน้ำให้ทั้งวัน เดี๋ยวนี้เค้ามีชามให้น้ำแมวแบบเป็นน้ำพุขายด้วยเหมือนกัน   -------------------------------------------------- จากคุณ : ทิวลิบ - [ 15 มี.ค. 50 21:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แมวกับกะบะทราย - หัดลูกแมวลงกระบะทรายด้วยการทราย ดูให้ดีถ้าลูกแมวทำท่าเหมือนะจะอึ รีบจับไปวางในกระบะทราย  แล้วจับเท้าหน้าเค้าเขี่ยที่ทราย -------------------------------------------------- -  ถ้าอยู่ดี ๆ แมวเกิดไม่ยอมใช้กระบะทรายขึ้นมา  อาจจะมีสาเหตุดังต่อไปนี้ - กระบะทรายสกปรก - ทรายมีน้อยเกิน - ทรายมีกลิ่นไม่สะอาด - กระบะทรายไม่สะดวกที่จะใช้ - กระบะทรายอยู่ท่ามกลางสายตาประชาขนเกินไป - กระบะทรายอยู่ในที่ที่ไม่น่าไว้วางใจ หรือน่ากลัวสำหรับแมว การที่แมวไม่เข้ากระบะเป็นการบ่งบอกให้รู่ว่ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นที่เค้าไม่พอใจจะใช้ ---------------------------------------------------- - ถ้าแมวเกิดดื้อหรือไม่ชินกับการใช้กระบะทราย ไม่ยอมเข้ากระบะทราย แล้วไปอึฉี่ไม่เป็นที่ทาง ก็ต้องเทรนกันใหม่ ในที่ที่เค้าไปอึฉี่นั้นให้ทำการพ่นด้วยน้ำส้มสายชู หรือเดทตอล นำกระบะสะอาด ๆ ไปวางให้เค้าเลือกสักสองสามที่ แต่อันนึงจะต้องอยู่ติดกับที่ที่เค้าชอบไปอึฉี่ ดูแลอย่าให้ไปวางใกล้ที่กินอาหาร ถ้าเค้ายอมเข้าไปใช้กระบะทรายอันใหม่นั่นแล้ว ให้ปล่อยเค้าใช้ไปสักหนึ่งอาทิตย์ แล้วค่อนทำการ “ เลื่อน” กระบะทรายนั้นทีละหน่อย ๆ ไปจนกว่าจะถึงที่ที่เราต้องการจะวางกระบะจริง ๆ   การที่เค้ายอมใช้กระบะใหม่แต่ละครั้งก็ควรให้รางวัลแก่เค้าด้วยการลูบ ชม หรือขนม ---------------------------------------------------- - ถ้าแมวที่ถูกเลี้ยงมาอย่าง รู้ที่รู้ทางในการขับถ่ายดีแล้ว  เคยขับถ่ายเป็นประจำติในกระบะทรายแล้วจู่ ๆ กลับไปถ่ายในที่อื่นแทน นั่นแปลว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นมากไปกว่านั้น อาจจะเป็นอาการของการฉี่ไม่ออก โรคไต หรือโรคกะเพาะปัสาวะอักเสบ นางงามที่บ้านก็เหมือนกันค่ะ ต้องเก็บอึให้ตามเวลาราชการ เช้าชามเย็นชาม เอ๊ย ไม่ใช่ เช้าหนเย็นหน ถ้าขาดไปมื้อนึงไม่ได้เก็บส้วมให้เธอ เธอไม่เข้านะคะ เธอ จะนั่งประท้วงขนลุกขนพองอยู่หน้าประตู ไม่ก็วิ่งพล่านไปมาแล้วไปมองดูกระบะทราย แล้วทำท่าเหมือน ทำใจไม่ได้ ข้าวปลาถึงหิวก็จะไม่แตะเลย ถ้าไม่ไปล้างส้วมให้หนูก่อน หนูไม่เข้าเจง ๆ  เฮ้อ นี่เก็บวันละสองหน เปลี่ยนทรายทุกสี่วัน เธอยังเรื่องมากขนาดนี้เลยนะเนี่ย จากคุณ : ทิวลิบ - [ 15 มี.ค. 50 21:36:00 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อันตรายของแมลงวันหัวเขียวกับแมว ตัวอ่อนของแมลงวันชนิดนี้ สามารถนำความหายนะมาสู่สัตว์เลี้ยงของท่าน ตามเรื่องราวต่อไปนี้ เรื่องราวต่อไปนี้ได้นำลงเผยแพร่ในหนังสือโลกของแมวในปี1992              ==== แน่นอนว่าเรื่องนี้มันเก่าแล้วแต่เนื้อหาของมันยังใช้ได้อยู่จนทุกวันนี้======= แมวตัวหนี่งตายไป  โดยที่แมวที่เหลือในบ้านไม่เป็นอะไร ทั้งที่สภาพภายในบ้าน มีที่อยู่อาศัยสะอาดสะอ้าน และข้าวของเครื่องใช้ของแมวทุกอย่างสะอาดเรียบร้อยดี  แมวก็ได้รับการดูแลอย่างดี  จากเรือนกระจกที่ต่อออกมาจากตัวบ้าน นั่นคือหนทางไปสู่สวนหลังบ้าน  แล้วมันเกิดอะไรขึ้นหรือ ? -------------------------------- ในวันที่อากาศร้อนมาก ๆ วันนึง เจ้าเหมียวตัวนี้ก็ผลักประตูหลังบ้านออกไป  ในที่ซึ่งแมวทั้งหลายชอบออกไปเดินเล่นกันนอกบ้าน และก็อยู่กันแบบนั้นทั้งวันเลย  ที่ถังขยะของเพื่อนบ้าน  มีแมลงวันไต่ตอมอยู่บ้าง นี่ก็เป็นเรื่องปกติเลยสำหรับหน้าร้อนแบบนี้ ตอนเย็น ๆ ก็เป็นเวลาที่แมวจะต้องเข้าบ้าน แน่หล่ะไม่ได้อยากเข้ามาด้วยใจ  อยากอยู่ข้างนอกมากกว่า ทันใดนั้นเองเจ้าของแมวมองเห็นเจ้า Chinook  (ชีนุ๊ก) เดินส่ายไปมาอยู่ในสวน เธอเลยเดินไปอุ้มเจ้า Chinook เข้าบ้าน  อะไรจะเกิดขึ้นต่อมาดูเหมือนหนังสยองขวัญไม่มีผิด หนอนสีขาว ๆ เป็นร้อย ๆ แย่งที่จะออกมาจากในท้องของชีโน๊ก  ผ่านออกมาทางปากจนทำให้ Chinook  สำลักและหายใจลำบาก  นอนน้อยเหล่านั้นหล่นลงมาเป็นกองบนรองเท้าของผู้เป็นเจ้าของ   ยิ่งมองหาดูว่ามันมาจากจรงไหน ก็ยิ่งมีออกมาจากข้างในเรื่อย เมื่อตอนเช้า เจ้าแมวยังดูแข็งแรงมากดี ๆ อยู่เลย  ไม่มีแววบอกเลยว่าจะเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ เจ้าของแมวรีบพาเจ้าชีโน๊กเข้าบ้าน ตรงไปยังห้องน้ำทันที และโดยไม่ต้องคิดอะไรเลย เธอจับชีโน๊กล้างน้ำ  ล้างไปก็ต้องปาดเจ้าหนอนพวกนี้ทิ้งไปด้วย  แล้วก็ฉีดใช้น้ำฉีดให้เข้าหนอนพวกนี้ไหลลงท่อน้ำทิ้งไปซะ   หลังจากที่เช็ดตัวให้ชีโน๊กจนแห้งแล้ว  ตอนนั้นชีโน๊กยังมีชีวิตอยู่  แต่ก่อนที่เธอจะไปหยิบตระกร้าเพื่อที่จะพาชีโน๊กไปหาหมอ ชีโน๊กก็ไม่หายใจซะแล้ว ------------------------------------------------- หลังจากการตรวจ สาเหตุการตายของแมวเกิดจาก เสียเลือดข้างใน  เจ้าหนอนไม่ได้ต้องการจะออกมาข้างนอกด้วยการเจาะตามแผลข้างในเท่านั้น แต่หาทางออกจากทุกส่วนที่หาได้ เช่น เส้นเลือด และอวัยวะภายในอื่น จากแหล่งข้อมูลอื่น ก็จะพบว่ามีแมวโชคดีกว่า ก็จะสามารถกำจัดไข่หนอนออกเองได้ทันเวลา บางทีก็เพราะว่าไปเจอเข้าซะก่อน หลังจากตัวอ่อนเพื่งจะออกมาจากไข่ ------------------------------------------------- อะไรทำให้เจ้าแมลงวันชนิดนี้อันตรายขนาดนี้ พบว่าลำไส้ของแมวมีความยาวและบางมาก โดยเฉพาะกับแมวเล็ก ก็ยิ่งจะอันตรายมาก แผลเล็ก ๆ จากการที่ไปกัดกับใครมา ก็เพียงพอสำหรับการที่แมลงวันจะเข้าไปเข้าไปข้างในและวางไข่ในส่วนที่ลึก  จากความร้อนมาก ๆ ช่วงหน้าร้อน  ทำให้ไข่กลายเป็นตัวอ่อนได้ภายในสองสามชั่งโมง  ในขณะที่ภายในร่างกายแมว ทางออกถูกปิดหมด  เจ้าหนอนอยากจะออกมาข้างนอก  แต่บางตัวกํไม่ออกมาข้างนอก แต่เข้าไปข้างใน   เหตุนี้ทำให้มันสามารถไปได้ทุกหนแห่ง  ส่วนมากแล้ว ก็เหมือนกับโดนสั่งตายแล้วและ จะตายภายในไม่กี่ชั่วโมง ที่อ่านมานี้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องตกใจมากไปเวลาที่เห็นแมลงวันพวกนี้ มันจะต้องมีจำนวนมากพอสมควรเหมือนกัน  ก็ให้ดูแลเรื่องถึงขยะ อย่าให้อยุ่ใกล้กับสิ่งที่แมวจะเลียหรือ กินเข้าไปได้ และดูแลแมวที่มีแผลเป็นพิเศษด้วย จากคุณ : ทิวลิบ - [ 15 มี.ค. 50 21:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อันนี้ มอบให้แด่เจ้าของกระทู้เป็นการพิเศษ หุหุ เพราะลูกๆผลัดกันหายบ่อย ฮ่า ฮ่า ------------------------------------------------------ เตรียมตัวไว้ ก่อนที่ลูกจะหาย ( หรือกำลังหาย ) ควรทำอย่างไร http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2006/11/J4907539/J4907539.html จากคุณ : ทิวลิบ - [ 15 มี.ค. 50 21:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เรื่องการฝังชิพ ในแมว http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2006/10/J4827123/J4827123.html จากคุณ : ทิวลิบ - [ 15 มี.ค. 50 21:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อันตรายที่คุณอาจจะมองข้าม เรื่องจริงผ่านจอ ฝากไว้เป็นอุทธาหรณ์ http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2006/11/J4857977/J4857977.html จากคุณ : ทิวลิบ - [ 15 มี.ค. 50 21:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แมวของคุณซนหรือ แล้วคุณเข้าใจแมวดีพอแล้วหรือยัง เรื่อง ช่วงเวลาบ้า 5 นาที ของแมว แมวจะมีเวลาที่อยู่ดี ๆ เปลี่ยนจากนแมวนอนหวดมาเป็นแมวเทอร์โบในชั่วพริบคา แค่เสี้ยววินาทีมีจรวดมีชิวิตแถมหาง พุ่งปรู๊ดอยู่ในบ้าน และทุก ๆ วันจะเกิดขึ้นในเวลาเดิม ๆ ( อันนี้ใช่เลย ที่บ้านก็เป็นทุกเช้ามืดกับตอนค่ำ บางทีแถมตอนดึกอีกรอบ ) บางทีก็ถึงกับทำข้าวของเสียหายด้วย หลังจากช่วงบ้าห้านาทีของแมวเทอร์โบผ่านไป  เธอก็จะกลับมาเป็นแมวเชื่องนอนหวดเหมือนเดิม ทำความสะอาดคัวเอง แล้วกลับไปนอนตามเดิม มัน..มัน เกิดอะไรขึ้น ไม่มีชนวนหรือซินแสไหนจะมาฟันธงให้ อยู่ดี ๆ เธอจะลุกขึ้นมาไล่กวดกันเป็นบ้าเป็นหลัง กระโจนจากที่นึงไปอีกที่นึง  เหาะราวกับนกว่างั้นเถอะ บางทีก็โดดขึ้นที่สูงปรี๊ด แล้วโดดลงตุ๊บมาในชั่วพริบตา บางทีถ้าคุณดันไปยืนขวางทางเสือเผ่นเธออยู่  เธอก็จะหยุดรอเดี๋ยวนึง  แล้วจะวิ่งทะยานต่อไปทันที อาการแบบนี้เดือดร้อนถึงต้นตระกูลเลยนะเนี่ย ทำให้คนเค้าต้องมาสืบสาวกันว่า เธอมาจากต้นตระกูลไหน เผ่าพันธ์ใด ทำไมเธอจึงเหมือนลิงมากกว่าเหมือนแมวอย่างนี้ พวกสายพันธ์ที่มาจากแมวป่าก็จะเทอร์โบมากหน่อย ----------------------------------------------------------- ช่วงไล่ล่าหาเหยื่อ ส่วนมากอาการนี้จะออกตอนเช้ามืด หัวค่ำ หรือไม่ก็ตอนพระจันทร์เต็มดวง ( อึ๊ยยย )  มันเป็นช่วงเวลาสลัว ๆ ที่ใช้บดบังตัวเองได้  เป็นเวลาที่แมวป่าออกล่าเหยื่อ  สำหรับแมวบ้าน ก็เป็นสัญขาติญาณดิบอย่างหนึ่งเหมือนกันที่เค้าจะต้องกำจัดพลังงานที่มีมากในตัวเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธ์ของแมวด้วย  ยิ่งถ้ามีสองตัวหรือมากกว่านั้นอยู่ด้วยกัน ก็สามารถมีอานุภาพทำลายล้างข้าวของในบ้านได้มากขึ้น แมวบางตัวจะลอคคอทาสแมวไว้เป็นตัวประกัน เพื่อเอาไว้เล่นล่าเหยื่อ ถ้าคุณแม้แต่จะเดินไปแค่ก้าวเดียว เธอก็จะโดดมางับขาเหมือนคุณโดนงูฉก แล้วก็เลื้อยหนีไป แล้วจะกลับมาใหม่เมื่อคุณไม่ต้องการ  สำหรับแมวเด็ก ช่วงนี้ไมใช่ แค่ช่วงเวลาบ้าห้านาที แต่สามารถขอต่อเวลานอกไปได้ถึงครึ่งชั่วโมง ----------------------------------------------------------- จะปราบเจ้าตัวน้อยยังไง ยาขนานเอกสุดคือ เล่นกับเธอให้ถูกเวลาที่เธอต้องการจะเล่น เมื่อพลังงานของเธอเพิ่มมากขึ้นจนจะทะลุปรอด และช่วงนี้  คุณต้องไม่รอให้เธอออกปาก ดังนั้นคุณจึงต้องครีเอท ศัครูของเธอขึ้นมา  อะไรก็ตามที่สามารถโยนไปได้รอบห้อง แน่หล่ะ อย่าโยนไปให้มันใกล้กับของที่มันจะแตก ไม่งั้นคุณก็จะซวยต้องมานั่งเก็บเอง  กล่องหรือที่ที่เธอสามารถจะเข้าไปปลดปล่อยสัญชาติญาณการไล่ล่าของเธอได้ ----------------------------------------------------------- ถ้าเกิดอาการนี้ตอนกลางดึกทำไง  คุณก็ควรจะนอนนิ่งเฉย อย่าเคลื่อนไหว แต่อย่าถึงกับไม่หายใจเลยนะตรงนี้ขอ หายใจปกติ อย่าแรง  ใช้ความสงบสยบเคลื่อนไหวไว้  แมวส่วนมากเหมือนนักแสดง ไม่มีคนดูก็ไม่อยากโชว์  ไม่มีคนเล่นด้วยก็เลิกไปเอง  แต่ก่อนเข้านอน ให้ดูว่าก่อนนอนเธอได้สลายพลังงานกันไปบ้างหรือยัง ตรงนี้คุณต้องเสียสละเวลามาเล่นกับเธอก่อน หลังจากช่วงเวลาที่เธอพอใจจบลง เธอก็จะเลิกไปเอง  วันนึง ๆ เธอก็แค่ต้องการโชว์เทคนิคใหม่ ๆ ให้คุณเห็นว่าเธอไม่ได้กินกับนอนเป็นอย่างเดียว แต่สามารถทำอย่างอื่นได้ด้วยนั่นคือความภูมิใจของเธอ จงเสียเวลาดูเถิด ----------------------------------------------------------- (เอาให้จบไปแลยนะ) ช่วงเวลาออดอ้อน เอาใจ ( ไม่รู้ใครเอาใจใคร ก็คงต้องเราอีกหล่ะวะที่ต้องไปเอาใจท่านทั้งหลาย ) รู้ไม๊ การที่เราลูบไปบนตัวแมว มันไม่ได้การลูบส่งเดชไปเฉย ๆ นะ ถึงแม่ใครบางคนอาจจะจะคิดยังงั้นก็เถอะ   มันมีความหมายด้วย ช่วงเวลาที่เราลูบขนเค้าเนี่ย  บางทีเค้าจะสยายเล็บออกมาจิกเนื้อเรา ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมของแมวนั้น  เค้าบอกว่า แมวไม่รู้หรอกทำกำลังอะไรอยู่  ก็อาจจะประมาณได้ว่า เป็นช่วงเคลิ้มฝันไปความสุขสบายที่ได้รับจากการสัมผัส ( แหม เคลิ้มจนทาสแมวขาลายแขนลายไปตาม ๆ กัน ) การลูบสัมผัสคือชนวนแห่งการมีสุขภาพ ความอบอุ่นและมีความสุขของแมว และ มันเรียกช่วงเวลาของการเคยเป็นลูกแมวกลับมาด้วย   แต่ ถ้าช่วงนี้ สังเกตว่ามีอาการประหลาดออกมา เช่น  หางเริ่มสั่น หายใจครืด ๆ  กระตุกขน      ก็ขอให้หยุดการลูบไล้ไว้ก่อน  แล้วก็ ค่อย ๆ เปิดการเจรจากับเธอดีๆ  ไปจนถึงไปชวนเธอเล่นอะไรสนุก ๆ ก่อน ก็จะทำให้เธอได้เผาผลาญและลืมอาการหลงไหลความสุขนี้ไปได้จนเกินขอบนี้ไปได้ จากคุณ : ทิวลิบ - [ 15 มี.ค. 50 22:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กระทู้น่ารัก.. จากคุณ : รักแมวดำ (kikucat) - [ 15 มี.ค. 50 22:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ว่างๆนั่งหามาได้อีก แย้ว   มา DIY ที่ลับเล็บน้องแมวกันเถอะ ข้อมูลโดยคุณKoko_milk http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2006/08/J4654373/J4654373.html จากคุณ : chemmut - [ 16 มี.ค. 50 17:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ... เจ้าเหมียว ~ บอกรัก ~ ...  โดยคุณเหมียวอารีย์ http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2006/06/J4420020/J4420020.html จากคุณ : chemmut - [ 16 มี.ค. 50 17:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เบอร์โทรศัพท์ของ รพ.สัตว์เล็ก ที่ ม. จุฬา กับ ม. เกษตร http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/J3562551/J3562551.html จากคุณ : chemmut - [ 16 มี.ค. 50 18:12:30 ]