ความคิดเห็นที่ 1 มีสามสูตร ทำคล้าย ๆ กันนี่แหละลองดู บางคนเคยได้ยินมาแล้วบ้างแต่บางคนยังไม่รู้ลองอ่านดูน่ะค่ะ จากคุณ : เอื้องสายน้ำผึ้ง (primulinum) - [ 2 เม.ย. 50 11:38:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รอฟังค่ะ จากคุณ : ลูกปืน - [ 2 เม.ย. 50 11:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1. น้ำสะเดา ต้นสะเดานี่แหละค่ะ สะเดามี สองชนิด 1. สะเดาขม                        2. สะเดามัน ( จะไม่ค่อยขมเป็นชนิดที่คนนิยมทานกัน) แต่เราจะใช้สะเดาขม (จริง ๆ เขาก็กินได้ทั้งคู่นั่นแหละแต่สะเดาขมเนี่ยมันขมสุดยอดเลยน่ะคุณพี่ขา ....)   วิธีทำ  ไปเก็บใบสะเดามาใบสดน่ะ (ใบที่มีสีเขียวน่ะ) ใบร่วง ๆ ใต้ต้นไม่เอาน่ะ เอามากระสอบเล็กๆนึ้ง (ถุงพลาสติก ก็จะเล็กเกินไปเดี๋ยวไม่เข้มข้น)  เด็ดออกเป็นใบ ๆ สะเดาเขาจะเป็นไม้ยืนต้นใบร่วม ที่ว่า 1 ก้านใบจะมีหลายใบนั่นแหละเด็ดออกเป็นใบ ๆ น่ะ เอามาปั่นถ้ามีเครื่องปั่น......เครื่องปั่นน้ำผลไม้นี่แหละแบ่งปั่นจนกว่าจะหมด(ที่เก็บมาน่ะค่ะ) หลังจากนั้น....เอามาคั้นน้ำ  ให้ได้ 1 กระป๋อง  แบบเข้มข้นเขียวปึดขมปี๋เลยน่ะ   1  กระป๋องอย่างข้น สามารถผสมได้ โดยแบ่งเป็นสองกระป๋องแล้วเติมน้ำ ใช้รดแทนน้ำได้ถ้ารดตอนเครื่องปลูกแห้งจะได้ผลดีกว่า... จากคุณ : สายน้ำผึ้ง (primulinum) - [ 2 เม.ย. 50 11:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เออ...บางคนอยากออกกำลังกายใช้ครกตำก็ได้น่ะค่ะ เหนื่อยโครรรรรต  เลย ลองดูได้สุขภาพดีออกกำลังกาย เครื่องปั่นหลังปั่นสะเดาแล้วเนี่ย ก่อนเอาไปทำอย่างอื่น ล้างให้ดีน่ะค่ะ เดี๋ยวน้ำผลไม้ที่ได้จะไม่อร่อย ต่อไป สูตร 2 บระเพ็ด (ไม่รู้พิมพ์ถูกหรือเปล่า) ใช้ทั้งต้น ขอบอก....ขมมาก ตัดเป็นถ่อนสั้น ๆ แล้วใช้วิธีเดียวกันปั่นหรือตำ เลือกเอาค่ะตามสะดวกวิธีใช้เหมือนกันค่ะ สูตรที่ 3 โล่ติน (ใครรู้จักบ้าง) หายากหน่อย วิธีทำไม่เหมือนกัน โล่ตินเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เป็นพืชมีพิษชนิดรุณแรงเป็นต้นไม้ที่ขึ้นในป่าหายากหน่อยแต่ปัจจุบันจะมีปลูกตามอาคารสำนักงานหรือสวนสาธารณะ เพราะดอกมันสวยและจะได้ผลดีกว่าบระเพ็ด กับสะเดา ส่วนที่ใช้ ใช้เปลือกไม้หรือเนื่อไม้สด ถ้าเจอต้น เอาขวานหรือปังตอ ไปเฉาะเอาเนื้อไม้เขาออกมา  1 กระป๋อง เฉาะวันนั้นต้องใช้วันนั้นเลยเพราะจะใช้ยางของมันหาก ทิ้งไว้เพียง 1 คืน อาจได้ยาที่ไม่เข้มข้นพอเพราะฉะนั้นเก็บมาก็ใช้เลย นำมาแช่น้ำ หรือเอาค้อนทุบก่อนแล้วแช่น้ำก็ได้ จะข้นมากขึ้น หรือจะต้มก็ได้ แต่ต้องทิ้งไว้ให้เย็น  จะได้น้ำสีขาวขุ่นถ้าต้มจะเป็นสีน้ำตาลแดง ฉีดพ่นแบบฝอย ใช้ได้บ่อยเท่าที่คุณจะหาวัตถุดิบได้หรือเท่าที่คุณต้องการ ******สำหรับ โล่ติน*****ใช้เป็นยาเบื่อได้ด้วย เพราะฉะนั้น เป็นอันตรายกับคน และสัตย์เลี้ยงรวมถึงเด็ก การผสมยาโล่ตินหากเลอะมือถูกผิวหนัง ต้องล้างให้สะอาดด้วยน้ำมันพืชเพราะมันเป็นน้ำผสมยางไม้เช็ดด้วยน้ำมันแล้วล้างมือให้สะอาด....ถ้าเลี้ยงปลาหรือมีอ่างปลาใกล้โรงเรือน ก็ ระวังปลาตาย ถ้าจานข้าวหมาจานข้าวแมวอยู่ใกล้โรงเรือนขณะฉีดพ่นก็ระวังแมวหมาจะตายน่ะค่ะ จากคุณ : primulinum - [ 2 เม.ย. 50 12:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อปฏิบัติ และ สรรพคุณ 1. ใช้ขณะเครื่องปลูกแห้งจะได้ผลดีกว่ามาก 2. สามารถไล่แมลง (บระเพ็ดและสะเดา) และฆ่าแมลง (โล่ติน) ได้ แต่อาจไม่ทุกชนิดที่ชัวตายแน่ ๆ จะมี หอยทาก ไส้เดือนฝอย เพลี้ยอ่อน มด ตั๊กแตน หนอนทั้งหลายที่กัดกินกล้วยไม้เวลากลางคืน ไล่กับฆ่า ไม่เหมือนกันน่ะ รสขม แมลงจะไม่กัดกินส่วนมีพิษแมลงจะไม่มารบกวน มีทำบุญกับทำบาปเลือกเอาจะใช้อะไร 3. สามารถสะดวกใช้ได้ถ้าหาพืชดังกล่าวหาใช้ได้ไม่ลำบากนัก 4. ฉีดพ่นเป็นละอองได้ รด ได้ ราดได้ ใช้รดแทนการให้น้ำได้ ไม่มีอันตราย เปียกต้นโดนหน่อได้จะดีมากค่ะ ยาจะได้เกาะ 5. ต้องทำในวันอากาศดี แดดจัด ลมเย็น ยาจะได้แห้งเร็วขึ้น 6. สำหรับบระเพ็ด และสะเดา เป็นยาสมุนไพรได้ด้วยจึงไม่เป็นอันตราย หากเข้าปากหรือสัมผัสผิวหนัง แค่ขมแค่นั้นเอง 7. การใช้ดล่ติน ต้องระวังให้ห่างของกินเป็นอันตรายต่อตนและสัตว์ ****จริง ๆ แล้วทำตอนเช้ากับตอนเย็นจะดีมาก หรือแล้วแต่ใครจะตื่นมาฉีดตอนดึกก็ได้ไม่เป็นไร การใช้สะเดา ถ้าไม่มีสะเดา ใช้ควินิน แทนได้ (ถ้าหาได้) จากคุณ : สายน้ำผึ้ง (primulinum) - [ 2 เม.ย. 50 12:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยาจากพืชอาจเห็นผลช้า หลังจากการใช้ประมาณ 1 อาทิตย์ ( ทุกวัน ) หรือ วันเว้นวัน จึงจะเห็นผล วัตถุดิบที่หาได้ยากต้องเตรียมให้พอในการใช้แต่ละคร้ง เป็นวิธีของหนูที่เอามาบอก ๆ กันไป ใครสนใจลองดู ใครไม่กล้าหรือไม่สะดวก อ่านไว้เพื่อรู้ก็ได้ค่ะ ตามแต่ทัศนคติ เออ ลืมบอกไป หลังฉีดยาไม่ต้องรดน้ำน่ะค่ะถ้าจะรดให้รดก่อน ****วิธีนี้สำหรับคนที่สะดวกหาใช้ได้ และไม่อยากซื้อยาฆ่าแมลงราคาแพง เห็นผลช้าหน่อยแต่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดค่ะ หากฉีดเป็นประจำ จะไม่มีไอ้ตัวที่ว่าแน่นอน... ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมค่ะ จากคุณ : สายน้ำผึ้ง (primulinum) - [ 2 เม.ย. 50 12:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับอย่างน้อยก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจ จากคุณ : mr.orchid - [ 2 เม.ย. 50 13:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมไม่ใช้ทั้ง ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ให้น้ำ/แสง/อากาศถ่ายเท  เท่านั้นพอ จากคุณ : ปลาหัวหิน - [ 2 เม.ย. 50 13:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับผม จากคุณ : หมอกฝน - [ 2 เม.ย. 50 13:35:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ........ จากคุณ : ปูไต่ - [ 2 เม.ย. 50 14:47:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบ คุณ ครับ จากคุณ : jeabnun - [ 2 เม.ย. 50 15:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากเลย อย่างนี้ก็เป็นวิธีที่ดีและปลอดภัย ที่สำคัญประหยัดเงินในกระเป๋า ช่วงนี้ที่บ้านหอยเริ่มมากันแล้วด้วยสิ แต่ไม่อยากฆ่านะ คงแค่ไล่ๆก็พอ จากคุณ : หนุ่มดอยสะเก็ด (polyline) - [ 2 เม.ย. 50 15:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณค่ะ สำหรับความรู้ใหม่ จากคุณ : siri jan - [ 2 เม.ย. 50 23:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : คนปากน้ำ - [ 3 เม.ย. 50 11:57:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบพระคุณมากนะครับ จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) - [ 3 เม.ย. 50 13:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เท่าที่ทราบ           โล่ติ๊น  สารพิษที่มีจะเป็นจำพวกไซยาไนด์  ซึ่งจะสะสมไว้มากในส่วนที่ไม่โดนแสงก็คือส่วนรากนั่นเอง  ถ้าสนใจจะเอาพิษมากๆ  ใช้รากดีกว่านะครับ  แค่ทุบแช่น้ำซักพักก็เอาไปเบื่อปลาได้เป็นสระกันเลย จากคุณ : บานดึก - [ 3 เม.ย. 50 21:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณค่ะ....นี่ไม่เคยใช้รากเพราะว่าแค่ฟันโคนต้นก็หอบแล้วค่ะ ขุดลงไปเอารากมันคงแย่ค่ะแต่จะพยายามลองแล้วจะทดสอบดูว่าแรงกว่าใช้ลำต้นแค่ไหนน่ะค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะสำหรับข้อมูลที่ช่วยเสริมค่ะยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ จากคุณ : สวายน้ำผึ้ง (primulinum) - [ 3 เม.ย. 50 21:47:48 ]