ความคิดเห็นที่ 1         กล้วยไม้ที่ชื่อสกุลฟาเลนนอพซิส มีที่มาเริ่มแรกโดยบลูเม (Blume) ปราชญ์พฤกษศาสตร์ขนานสกุลผูกจากภาษากรีก คือ “ฝาไลนา” ว่า ผีเสื้อ และ “ออปสิส์” ว่า ละม้ายหรือคล้าย  รวมความว่า แม้นผีเสื้อ  โดยพิจารณาที่รูปทรงของดอกกล้วยไม้สกุลนี้  ชาวฟิลิปปินส์ก็เรียกขานว่า มาริโพเสส (mariposes) คือ ผีเสื้อ, ชีปะขาว, ผีเสื้อกลางคืน ที่ดอกคล้ายผีเสื้อกำลังกระพือปีก _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis sanderiana ภาพโดย Lanfu Wang จาก : http://www.phals.net/sanderiana/05ph0221.jpg แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 50 18:10:28 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 50 18:10:13 จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:09:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2          ฟาเลนนอพซิสพันธุ์แท้มีอยู่ประมาณ 40 ชนิด  ถิ่นกำเนิดกระจายอยู่กว้างขวางในเอชีย นับแต่เทือกเขาหิมาลัย ทิเบต เนปาล อินเดีย พม่า จีน ไทย อินโดจีน เรื่อยลงไปมาเลเซีย สุมาตรา บอร์เนียว เซเลเบส ฟิลิปปินส์ หมู่เกาะในหมาสมุทรแปซิฟิก อินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี รวมทั้งตอนเหนือของออสเตรเลีย  ที่มีพันธุ์ไม้พันธุ์กล้วยไม้ต่าง ๆ เหมือนกับปาปัวนิวกินี และหมู่เกาะตอนใต้  โดยมีการสันนิษฐานว่าในยุคก่อนเคยเป็นผืนแผ่นดินเชื่อมติดกันก่อนที่จะแยกตัวออก          มีการสำรวจกันมากบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนล่าง และหมู่เกาะในหมาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีฟาเลนนอพซิสหลายชนิดขึ้นอยู่มาก  ได้พบว่าฟาเลนนอพซิสมีขึ้นอยู่ทั้งบนต้นไม้สูง ๆ ในป่าที่มีความชื้น  บางทีอยู่บนต้นไม้สูงถึง 100 ฟุต  และตามต้นไม้เตี้ยที่มีร่มเงาบังแต่อากาศถ่ายเทดี  ในพื้นที่ต่ำ ๆ ก็ได้พบขึ้นอยู่เป็นกลุ่ม ตามริมลำธารใกล้ภูเขา  รวมทั้งบริเวณใกล้กับชายฝั่งทะเล _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis cornucervi ภาพโดย Allen Black จาก : http://www.phals.net/cornu-cervi/02ph0083.jpg แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 50 18:12:02 จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ในฟิลิปปินส์ที่ประกอบด้วยหมู่เกาะถึง 7,000 กว่าเกาะ  ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา  หลายลูกมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,500 – 6,000 ฟุต  ระดับอุณหภูมิจะแตกต่างกันตามระดับความสูง  กล่าวคือ  เมื่อความสูงเพิ่มขึ้นอุณหภูมิก็จะลดลงเรื่อย ๆ  กล้วยไม้แต่ละสกุลแต่ละชนิดจะเลือกขึ้นอยู่ตามลักษณะความชื้นและสภาพบรรยากาศที่ต้องการ  เช่นที่ ซูริกาโอ (Surigao) บนเกาะมินดาเนา (Mindanao) ซึ่งได้ชื่อว่า แวนด้าแซนเดอเรียน่า มีขึ้นอยู่เฉพาะเพียงที่นี่เท่านั้น  และบนเกาะนี้ก็ถือว่าเป็นบ้านของฟาเลนนอพซิสที่มีขึ้นอยู่มากมาย ณ บนเกาะนี้เรียกได้ว่าไม่มีหน้าแล้ง อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีต่ำสุดอยู่ที่ 72 – 75 องศาฟาเรนไฮต์ มีฝนประมาณ 25 ลูกบาศก์นิ้วต่อเดือน  ความชื้นสัมพัทธ์ 79 -88 %  มีเมฆปกคลุม 58 – 74 % ในระหว่างวัน _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis equestris ภาพโดย Helmut Demel จาก : http://www.phals.net/equestris/03ph0223.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลักษณะต้นและใบ          ฟาเลนนอพซิส มีความเจริญเติบโตแบบโมโนโพเดียล (monopodial) คือ เจริญทางยอดขึ้นไปเรื่อย ๆ แบบแวนด้า  ทรงต้นเตี้ย ใบกว้าง อวบน้ำ เรียงซ้อนสลับในด้านตรงข้าม 3 – 5 คู่ บางชนิดต้นใหญ่ ใบใหญ่ เช่น กิแกนเตีย (Phal.gigantea)  : บางท่านเรียก ไกแกนเตีย, ไจแกนเตีย ซึ่งใบกว้างถึง 25 ซม. และยาว 50 ซม. บางชนิดต้นเล็ก ใบยาวเพียง 4 -6 นิ้ว ความกว้าง 2 -3 นิ้ว และอีกประเภทใบลักษณะกลมทรงกระบอก (terete leaf) ใบแข็ง พุ่งตั้ง ดังเช่น ชนิด ดีนิวีอิ (Phal.denivei) : ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Paraphalaenopsis denevei เป็นต้น _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis gigantea ภาพโดย Ed Merkle จาก : http://merklesorchids.com/2Images/27JPEGS/phalaenopsis_gigantea_2.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:14:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การให้ดอก          ช่อดอกฟาเลนนอพซิสมี 2 ประเภท คือ ก้านช่อเดียวและก้านช่อแตกแขนง รวมทั้งมีความต่าง บางชนิดช่อดอกยาว บางชนิดช่อดอกสั้น และบางชนิดก้านช่อแบน  สำหรับดอก ขนาดก็ต่างกัน สีสันต่างกัน ลักษณะดอกโดยทั่วไปรู้สึกจะเป็นสกุลที่มีลักษณะพิเศษ คือ กลีบดอกบานผึ่งผาย ปากเชื่อมติดกับฐานเส้าเกสร เคลื่อนตัวไม่ได้ เดือยดอกไม่ปรากฏให้เห็นชัดเช่นแวนด้า  แต่บางชนิดเห็นเดือยดอกเป็นถุงเล็ก ๆ ใกล้ฐานของปาก ปากแบ่งเป็น 3 แฉก  มีแผ่นปาก (mid lobe) มีหูปากสองข้าง (side lobes) และมีติ่ง (appexdage) หรือปุ่ม (callus) อันหนึ่งหรือมากกว่า  ติ่งหรือปุ่มจะอยู่ตรงโคนแผ่นปากหรือกลางหูปาก  อันที่อยู่ตรงกลางมีแฉกที่ส่วนปลายมีลักษณะแข็ง  หรือลักษณะคล้ายหนวด หรืออาจมีติ่งหรือปุ่มเล็กยื่นออกภายใต้แผ่นปาก เส้าเกสรค่อนข้างยาวเรียว  มีฐานเส้าเกสรเห็นชัด เกสรตัวผู้ (polinia) สีเหลืองมี 2 เม็ด แต่ละเม็ดผ่าเป็นร่อง ทั้งคู่ติดอยู่บนก้านเกสรที่ยาวเรียวลงไปทางส่วนโคน          ด้วยลักษณะดีเด่นเป็นที่สนใจ จึงมีการค้นคว้าทางพฤกษศาสตร์ต่อเนื่องกันมา มีการจำแนกหมู่หลัก และหมู่ย่อย ทั้งเสนอ เพิ่มเติม และแก้ไขจนใกล้ความสับสน การเลี้ยงเล่นโดยทั่วไปจึงแยกประเภทอีกแบบ  โดยถือสีของดอกเป็นหลัก _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis stuartiana ภาพโดย Libor Jankovsky จาก : http://www.phals.net/stuartiana/01ph0112.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สภาวะแวดล้อมในการปลูกเลี้ยง          ดังที่ทราบกันแล้วว่าฟาเลนนอพซิสมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของเอเชียตอนใต้และตะวันออกเฉียงใต้  การปลูกเลี้ยงจะมีปัญหาอยู่บ้างสำหรับไม้ลูกผสมบางชนิดที่ต้องปรับสภาพและเพิ่มความเอาใจใส่  ข้อสำคัญแรกๆต้องคำนึงและจัดทำคือเรื่องความชุ่มชื้น  และการให้แสงสว่างและทางลมพอเหมาะ          ความชุ่มชื้นเราสามารถปรับได้ เช่น พื้นเรือนรังใช้ทรายหยาบรองพื้นปูอิฐมอญเรียงตั้งตามแนวนอน หรือจะปูเรียงราบบนทราย จากนั้นใช้ทรายโรยเกลี่ยลงซอกอิฐให้อยู่ตัว          การระบายอากาศให้หมุนเวียนกระจายความชุ่มชื้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเติบโต แข็งแรง สมบูรณ์ โดยจะใช้พัดลมขนาดเล็กเปิดเพื่อให้อากาศและความชื้นภายในโรงเรือนได้มีการถ่ายเทหมุนเวียนโดยทั่ว  แต่มิใช่ใช้พัดลมมากไปก็ไม่ดี ข้างฝาเรือนรังต้องกรองกระเสลมให้อ่อนลง เช่น ใช้ระแนง มู่ลี่เฝือก หรือซาแรน แล้วแต่ความเหมาะสม          สำหรับแสงสว่างจากแดด ซึ่งส่วนใหญ่เรือนฟาเลนนอพซิสหลังคาใช้กระจกหรือไฟเบอร์กลาสมุง เพื่อกันฝนตกชะ ทำให้ต้นใบชอกช้ำ และน้ำขังนานๆอาจเน่าได้  หลังคากันฝนนี้หากเลี้ยงไม่กี่ต้น บริเวณช่วงตอนนั้นอาจใช้แผ่นผืนพลาสติกใสกรุกรอบทำหลังคาก็ได้ และหลังคาเช่นนี้แดดส่องแล้วเกิดความร้อนอุณหภูมิสูง จึงควรมีระแนงหรือวัตถุกรองแสงอยู่ข้างบนหรือข้างล่างอีกชั้น _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ภาพโรงเรือนPhalaenopsis จาก : http://www.1888orchids.net/images/red-lip-phalaenopsis.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ภาชนะปลูก          ควรคำนึงถึงความต้องการของไม้ที่มีรากค่อนข้างใหญ่  ภาชนะปลูกควรมีลักษณะโปร่ง ระบายน้ำได้ดี อากาศถ่ายเทสะดวก รากสามารกเกาะพื้นผิว เจริญงอกงามได้ดี โดยอาจจะเป็นกระเช้าไม้สัก กระถางดินเผา หรือพลาสติกที่เจาะรูก้นและข้าง ๆ รวมทั้งการปลูกบนท่อนไม้ แผ่นไม้ ท่อนเฟิร์น โดยแขวนไว้ลอย ๆ ก็ได้ ทั้งนี้อยู่ที่ความต้องการและสภาพบรรยากาศเรือนรังเป็นหลัก _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ภาพภาชนะปลูกPhalaenopsis violacea ภาพโดย : Judy Benson จาก : http://www.phals.net/violacea/02ph0214.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ในเรื่องภาชนะปลูกนี้ มีข้อแนะนำของการเลี้ยงในต่างประเทศ โดย Mary Noble ในหนังสือ You Can Grow Phalaenopsis Orchids มีความว่า          “เกี่ยวกับเรื่องของกระถาง บางท่านชอบกระถางดินเผา และบางท่านชอบกระถางพลาสติก ข้อควรคำนึงถึง คือ ความสมดุลของแสงสว่าง, น้ำ, อุณหภูมิ รวมทั้งการให้ปุ๋ยของเราเป็นสิ่งสำคัญ          กระถางดินเผา มีคุณสมบัติในการระเหย โดยจะช่วยรักษาอุณหภูมิของรากมากกว่ากระถางพลาสติก ประมาณ 10 -15 องศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งเหมาะสำหรับบริเวณที่มีอากาศร้อน          กระถางพลาสติก จะรักษาความชื้นและเก็บกักปุ๋ยตกค้างไว้ได้นานกว่า  แต่จะเป็นอันตรายต่อต้นไม้ หากความชื้นและปุ๋ยถูกกักเก็บไว้นานเกินไป          มีข้อสังเกตด้วยว่า หากปุ๋ยถูกกักเก็บไว้ในภาชนะปลูกนานเกินไปจะทำให้รากเสีย รากไหม้เมื่ออากาศแห้งและได้รับแสงสว่างจัด กระถางพลาสติกตะเหมาะสมกว่ากระถางดินเผา และกระถางทรงตื้นจะมีการระบาอากาศออกดีกว่ากระถางทรงลึก          อย่างไรก็ตาม ภาชนะที่ใช้ใส่ต้องคำนึงถึงพื้นที่ที่กล้วยไม้ต้องการ  โดยที่การกักเก็บอาหารของฟาเลนนอพซิสบริเวณในลำต้นและใบมีอยู่เพียงเล็กน้อย อาศัยรากเป็นส่วนใหญ่ จึงควรถนอมรักษารากให้สมบูรณ์ที่สุด รากของฟาเลนนอพซิสงอกออกยาว โดยนอกจากลงขดในภาชนะแล้ว ยังทอดเลื้อยออกข้างนอก หรือตอนบน ๆ โคนต้น มีการใช้กระเช้าไม้ หรือตะกร้าขุดจากท่อนเฟิร์น ขนาดใหญ่ 12 – 14 นิ้ว ปลูกชนิดต้นใหญ่ เช่น Phal.luddemanniana หรือ Phal.gigantea” _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ภาพกระถางพลาสติก ที่ใช้ปลูกPhalaenopsis lueddemanniana ภาพโดย Lanfu Wang จาก : http://www.phals.net/lueddemanniana/06ph0216.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เครื่องปลูก          ในต่างประเทศเขาหาเครื่องปลูกประเภทไม่อมน้ำชื้นแฉะ ใช้ได้หลายอย่าง เช่น ออสมันดา (osmunda) มอส (moss) เปลือกไม้ต้นเฟอร์ (fir bark) เศษไม้จากต้นเรดวูด (red wood) คือ ผสมกันระหว่างเปลือกไม้กับเศษไม้แล้วใช้มอส หรืออสมันดาสับ โรยหน้าเครื่องปลูก หรือจะใช้สูตรการใช้ การผสมอย่างใดแตกต่างกันไป          ในบ้านเราส่วนใหญ่จะใช้เครื่องปลูกที่พอหาได้ง่ายเป็นส่วนใหญ่  บางอย่างที่หายาก หรือต้องซื้อจากต่างประเทศ ก็หลีกเลี่ยงหรือใช้เท่าที่จำเป็น อันต้องคำนึงถึงเรื่องทุน  ในสมัยก่อนนั้นพวกกล้วยไม้รากใหญ่ เราจะใช้ไม้สักตัดเป็นท่อน ขนาด 1x1 นิ้ว หรือใช้กิ่งไม้ทองหลางขนาดพอเหมาะมาซอยตัดเป็นท่อน และใช้เปลือกไม้พวกกลุ่มตะแบก, ก้ามปู, จามจุรี มาย่อยให้ได้ขนาดตามต้องการ ในปัจจุบันปลูกเลี้ยงกันมีทั้งใช้มอส ออสมันดา เศษท่อนเฟิน และตัวหลักคือถ่านหุงข้าวชนิดแกร่งไฟ สับย่อยเล็กใหญ่สุดแต่การปลูกไม้ต้นเล็กหรือต้นใหญ่ให้สัมพันธ์กัน  การปลูกอาจจะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งล้วน ๆ หรือใช้ถ่านรองล่างและใส่ทับขึ้นมา อีกวิธีใช้กาบมะพร้าวติดเปลือกหั่นเป็นทรงลูกเต๋าขนาดตามต้องการ คลุกเคล้าปนกับถ่านหุงข้าวสับเป็นก้อนในอัตราเท่า ๆ กัน จากนั้นโรยคลุ้มหน้าด้วยมอส ออสมันดาสับ หรือเศษท่อนเฟิน  รวมทั้งการใช้ของหาไม่ยาก คือ เส้นใยกาบมะพร้าว วนขดตัวไว้ส่วนบนหน้าเครื่องปลูกก็กระทำได้  แต่อย่าใช้ใยกาบมะพร้าวอัดจนแน่นเป็นเครื่องปลูกส่วนล่าง  ฟาเลนนอพซิสจะเน่าได้  ใยกาบมะพร้าวที่อัดค่อนข้างแน่นเหมาะกับหวายและแคทลียาใช้ได้ดี _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ภาพเครื่องปลูก Phalaenopsis จาก : http://i21.photobucket.com/albums/b253/daemondamian/Orchids/Phalaenopsis/Phal-3.jpg แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 50 18:21:54 จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 การปลูก         ฤดูกาลที่เหมาะแก่การปลูก หรือยกย้ายเปลี่ยนภาชนะควรกระทำก่อนในช่วงฤดูฝน  คือ ปลายกุมภาพันธ์ มีนาคม และต้นเมษายน  ถ้าปลูกช่วงฤดูฝนที่บรรยากาศมีความชื้นสูง กล้วยไม้กำลังอวบน้ำ ใบและยอดอาจเน่าได้ง่าย  แต่ถ้ามีต้นไม้เกิดโรคหรือจำเป็นจริง ๆ จะต้องทำการปลูกใหม่เพื่อไม่ให้ตายหรือทรุดไปกว่านั้น  ก็ทำการรื้อปลูกตอนใดก้ได้  แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างมาก         การปลูกวางต้นอยู่ในระดับต่ำกว่าปากภาชนะสัก 1/2 นิ้ว ใส่เครื่องปลูกจากก้นวางโปร่ง ๆ ส่วนบนใช้เครื่องปลูกเก็บความชื้นเกลี่ยทับ ระยะแรกค่อยพรมน้ำให้เพียงเล้กน้อย จนตั้งตัวแล้วค่อยทวีขึ้น _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis bastianii ภาพโดย Florence Schertzinger จาก : http://www.phals.net/bastianii/02ph0349.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 การจัดแขวนหรือวางตั้ง          ไม่ว่ากระเช้าไม้ หรือกระถาง รวมทั้งขอนไม้ แผ่นไม้ ที่ปลูกฟาเลนนอพซิส  จะใช้ลวดร้อยแขวนได้ 2 แบบ คือ อยู่ในแนวระนาบ หรือแนวปากภาชนะขนานกับระดับพื้น  และอีกแบบแขวนให้ด้านหนึ่งเอียงเทลงประมาณ 45 องศา  ให้มีความสูงจากระดับพื้นเรือนรัง 1 เมตรขึ้นไป  ส่วนการจัดวางตั้งบนม้าก็กระทำได้ โดยวางเว้นระยะห่างกันพอควร  ไม่ให้การเติบโตออกใบใหม่เกิดการเบียดเสียดเกินไป  การวางบนม้าตั้งนี้  หากรากออกนอกภาชนะยึดติดตัวม้าหรือเกาะเกี่ยวกับภาชนะตัวอื่น  เวลายกย้ายหรือนำออกจำหน่ายจะต้องรื้อตัดราก อาจเกิดการชะงักงันบ้างหากรากชอกช้ำหักขาดหลายราก _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis amboinensis ปลูกเกาะกับแผ่นไม้ ภาพโดย Lanfu Wang จาก : http://www.phals.net/amboinensis/05ph0332.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การขยายพันธุ์          เราจะสังเกตว่า  ฟาเลนนอพซิส ที่ยอดและใบเน่าเหลือแต่ตอ  บางทีมีการแตกหน่อใหม่ขึ้น  และโดยปกติเมื่อต้นเดิมให้ดอกแล้วหรือเป็นต้นสูงใหญ่โตเต็มที่  จะแตกหน่อจากข้าง ๆ ลำต้นนับแต่ส่วนโคนล่าง หรือไล่สูงขึ้นไป  หน่อนี้จะเป็นต้นใหม่  เมื่ออกรากแข็งแรงสมบูรณ์ก็สามารถตัดออกไปปลูกใหม่ได้  เนื่องจากฟาเลนนอพซิสต้นละใบอวบน้ำเน่าง่าย  จึงต้องระมัดระวังการตัดแยกหน่อ  โดยใช้มีดคมและสะอาด (ดีกว่าใช้กรรไกรที่การบีบคมตัด อาจเกิดความชอกช้ำมากกว่า)  ระวังไม่ให้มีรอยช้ำ  แล้วใช้ปูนกินกับหมากป้ายแผลทั้งที่ต้นและหน่อ  ผึ้งหน่อให้แผลแห้งสนืท  จึงนำลงปลูก โดยค่อย ๆ พรมให้น้ำในระยะแรก          การแยกขยายให้ได้ปริมาณมากในลักษณะต้นเดิมทำได้โดยการปั่นตาเพาะเนื้อเยื่อจากตาที่ลำต้น หรือตาที่ก้านช่อ ซึ่งการตัดช่อหลังชมดอก เราจะตัดเพียงส่วนบนของช่อที่มีดอกออก  และคงเหลือก้านช่อต่ำลงมาที่มีตาและที่มีตานี้อาจแทงช่อดอกออกอีก  หรือแตกหน่อเป็นต้นใหญ่ขึ้นก็ได้          ประการสุดท้าย เพิ่มปริมาณขยายโดยผสมพันธุ์เพาะเมล็ด  นับว่าเป็นวิธีที่ดีได้ผลหลายแนวทางจากการได้ไม้ลักษณะใหม่ ๆ แปลก หรือดีเด่น ในคุณลักษณะอย่างชนิดที่ไม่เคยปรากฎมีใครทำมาก่อนก็เป็นได้ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ การแตกต้นใหม่บนก้านช่อของ Phalaenopsis lueddemanniana ภาพโดย Al Pickrel จาก : http://www.phals.net/lueddemanniana/04ph0082.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แมลงและศัตรูของฟาเลนนอพซิส          ส่วนใหญ่เช่นเดียวกับที่เราต้องต่อสู้กำจัดในการเลี้ยงกล้วยไม้ทั่วไป  ในหนังสือ You Can Grow Phalaenopsis Orchids เขาอธิบายเกี่ยวกับแมลงศัตรูต่าง ๆ ไว้ว่ามีดังนี้          1.Butterfly          2.Hairstreak butterfly and larvae          3.Orchid soft scale          4.Mealybug          5.Red spider mite          6.Thrips          7.Ant          8.Termite          9.Sowbug-pillbug          10.Springtails          11.Aphids          12.Snout beetle          13.Bee          14.Rat, Mouse          15.Grasshopper          16.Snail          17.Milipede          18.Centipede          19.Brown soft scale          20.Hemispherical scale          21.Long-tailed mealybug          22.Wasp          23.Katydid          24.Cabbage looper          25.Cricket          26.Plant bug          27.Bush snails          28.Philippine orchid beetle          29.Fazzy caterpillar          30.Smooth caterpillar          31.Slug          32.Worm          33.Cockroach _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis sumatrana ภาพโดย Alain Brochart จาก : http://www.phals.net/sumatrana/02ph0106.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 การจำแนกจัดหมู่สกุลฟาเลนนอพซิส          ดังได้ทราบแล้วว่า ฟาเลนนอพซิสได้สร้างความสนใจแก่นักพฤกษศาสตรือย่างกว้างขวาง  ยิ่งศึกษาสำรวจก็ยิ่งค้นพบชนิดและข้อมูลใหม  นำมาแก้ไขระบบการจำแนกหลายครั้งหลายหน  นับแต่ปี ค.ศ.1860 เป็นต้นมา บรรดาปราชญ์นักพฤกษศาสตร์เรียงแถวเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย  อาทิ Reichenbch, Bentham, Hooker, Quisumbing, Herman, R.Sweet, Davis Steiner, Yoneo Sagawa, Wallbrun, Thornton  ผลงานคิดค้นออกมาในแนวเดียวกันบ้าง  ขัดแย้งกันบ้างจากการจำแนกจัดเป็น 2 หมู่ เพิ่มเป็น 4 หมู่ แล้วมีการเสนอให้เพิ่มอีก 1 เป็น 5 ต่อ ๆ มานักสำรวจท้องถิ่นแหล่งกำเนิดเกิดรำคาญก็จัดแยกใหม่ให้เหลือเพียง 3 หมู่ และต่อมามีผู้จำแนกเพิ่มอีก 1 หมู่ โยกกันไปย้ายกันมาจากชนิดเดิม ๆ นั่นแหล่ะ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis lobbi ภาพโดย Alain Brochart จาก : http://www.phals.net/lobbii/05ph0061.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ฉะนี้ในการเลี้ยงเล่นกันในสากลทั่วไป  จึงมักจัดแยกตามความรู้สึกให้เข้าใจง่าย  โดยถือสีดอกเป็นหลัก แบ่งเป็นประเภท ไม่ใช่หมู่ คือ          ประเภทกลีบดอกสีขาว ได้แก่ Phal.amabilis, Phal.aphrodite, Phal.formosana, Phal.rimestadiana, Phal.grandiflora, Phal.stuartiana ฯลฯ          ประเภทกลีบดอกสีขาวปากแดง ได้แก่ Phal.equestris, Phal.lindenii, Phal.violacea ฯลฯ          ประเภทกลีบดอกสีชมพู ได้แก่ Phal.schilleriana, Phal.sanderiana ฯลฯ          ประเภทกลีบดอกเดินลายหรือมีแต้มประจุด ได้แก่ Phal.luddemmanniana, Phal.mariae, Phal.amboinensis ฯลฯ          ประเภทกลีบดอกสีเหลือง ได้แก่ Phal.fuscata, Phal.corningiana, Phal.cornucervi, Phal.sumatrana, Phal.mannii, Phal.cochiearis ฯลฯ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis lindenii ภาพโดย Lanfu Wang จาก : http://www.phals.net/lindenii/05ph0201.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 16 การตัดสินเเละให้คะแนน          เกี่ยวกับการพิจารณาหรือตัดสินให้คะเนนคุณลักษณะฟาเลนนอพซิส  ส่วนมากถือหลักเกณฑ์ของสมาคมกล้วยไม้อเมริกา (America Orchid Society - AOS) แต่บางสมาคมที่นำมาใช้อาจเปลี่ยนแปลงบ้าง  แต่ไม่ต่างจากหลักเกณฑ์เดิมมาก โดยแต่เดิม AOS กำหนดการให้คะแนน คือ          ฟอร์ม รูปทรงดอกตามลักษณะที่ควรเป็น 30  คะแนน          สี ชัดเจนสวยงาม 30  คะแนน          ขนาด จากมาตรฐานของชนิดนั้น ๆ 10  คะแนน          เนื้อหา ของกลีบดอก 10  คะแนน          ช่อดอก ลักษณะช่อ การจัดระเบียบดอก 10  คะแนน          จำนวนดอก ความดก 10  คะแนน          รวม 100 คะแนน _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis lowii ภาพโดย pramote vijitvanotayan จาก : http://www.phals.net/lowii/05ph0329.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องสุดท้าย ฟาเลนนอพซิส เป็นกล้วยไม้ใกล้ตัวที่เราปล่อยให้ทางยุโรป ฮาวาย อเมริกา เขานำไปพัฒนาผสมพันธุ์  แล้วส่งกลับมาขายเราและทางเอเชีย  พวกเราก็แสนจะตื่นเต้น ต่างคิดวิ่งตามทั้งนั้น  ซึ่งน่าจะคิดกันใหม่  เราสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้  เราเป็นเลิศเรื่องฝีมือ  ทำอะไรก็ได้ในการพัฒนาพันธุ์ดักหน้าเขาบ้าง  ฟาเลนนอพซิสนั้นผสมข้ามสกุลได้มากมาย  ผสมได้ไม่น้อยกว่า 18 สกุล  และเกิดเป็นสกุลใหม่ไม่ต่ำกว่า 51 สกุล  มีข้อสังเกตด้วยว่า  ลูกผสมข้ามสกุลในชุดหลัง ๆ ที่ให้ดอกสวยงามมากนั้น  เป็นลูกผสมข้ามสกุลกับโดไรติส (Doritis)  หรือ ม้าวิ่ง, ม้าบิน, แดงอุบล  ที่ขึ้นอยู่ทั่วไปในบ้านเรานั่นเอง  เมื่อผสมออกมาแล้ว กลายเป็นสกุล โดไรเทนนอพซิส (Doritaenopsis) หรือลูกผสมหลาย ๆ ชั้นที่มีคุณลักษณะดีเด่น  หลายชนิดต่างมีสายเลือดผ่านการผสมกับโดไรติสทั้งสิ้น _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis celebensis ภาพโดย Libor Jankovsky จาก : http://www.phals.net/celebensis/01ph0117.jpg จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ที่มาของข้อมูลทั้งหมด : หนังสือ ความสุข จาก กล้วยไม้ เล่ม 3 The Happiness From Orchids Vol.3 หน้า 153 -159 _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Phalaenopsis gibbosa ภาพโดย Ralf Mummel จาก : http://www.phals.net/gibbosa/04ph0183.jpg _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาอ่าน ใครมีข้อมูลเพิ่มติมอยากเสนอแนะไว้เพื่อเป็นความรู้ให้กับเพื่อน ๆ ในเรือน เชิญตามสบายเลยนะคะ จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 4 พ.ค. 50 18:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากจ้า น้องหงา จากคุณ : หมอกฝน - [ 4 พ.ค. 50 18:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ภาพสวยๆ เต็มไปด้วยความรู้  ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ป้าฟ้าใส - [ 4 พ.ค. 50 18:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 21 น้องหงา บ้านพี่ออกทีละดอกสองดอก   เห็นมาเป็นหมู่คณะแบบนี้..พี่ละอ่อนอกอ่อนใจ เลี้ยงยังไงก็ไม่งามสักที เสียข้าวสุดเอ้ย..เสียปุ๋ยจริงๆ555 แวะมาทัก..นานๆจะได้แตะคอม.. จากคุณ : anavrin - [ 4 พ.ค. 50 19:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวยมากๆ เลยเนอะ thank you จ้า จากคุณ : ลูกปืน - [ 4 พ.ค. 50 19:32:27 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพสวย..สาระครบ เข้ามาเก็บเป็นความรู้ดีๆ อีกเรื่อง ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ปานิสรา - [ 4 พ.ค. 50 19:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอเพิ่มเติมข้อมูลให้นิดหน่อย Phalaenopsis  บ้านเรา 7  ชนิด  ตอนนี้กลายเป็น  Doritis ไปแล้ว 3 ชนิด   คือ  ผีเสื้อน้อย (parishii)  ผีเสื้อชมพู (lowii) เอื้องหนูขาว (gibbosa) หลังจากเค้าใช้ DNA ในการจำแนก  และแถมยังยุบ  Kingidium  ไปรวมกับ Doritis อีก ทำให้  Doritis  มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 3 ชนิด ได้แก่ กาตาฉ่อ (deliciosum) ม้าลาย (minus) และ hainanensis ที่เหลือ  ก็มี Phalaenopsis  cornucervi  เขากวางอ่อน Phalaenopsis  fuscata       อันนี้เป็นรายงานใหม่มานานละ Phalaenopsis  sumatrana  ผีเสื้อสุมาตรา Phalaenopsis  talabanii     เขากวางทะเลบัน  (ซึ่งนักพฤษศาสตร์บางเท่าให้ความเห็นว่าเป็นเพียง var. หนึ่งของPhalaenopsis  cornu-cervi ) ครบ 7 พอดี kew hoya ให้ข้อมูล แต่ว่าผมได้เอกสารเต็มมาแล้ววันนี้ ไปขอมาจากสวนพฤกษศาสตร์แม่ริมครับ เดี๋ยวจะสรุปให้อีกทีนะครับ จากคุณ : JUNGLE MAN - [ 4 พ.ค. 50 19:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เจ๋งจ๊ะจ๋วย จากคุณ : ยุ่น..ดิ - [ 4 พ.ค. 50 20:00:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คห 16 นี่รูปคุ้นๆ นะ ของคุงคาเฟ่ ใช่อ่ะป่าว... จากคุณ : buaravong - [ 4 พ.ค. 50 21:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 27 บทความดีๆ แบบนี้ ขอเอาไปเก็บในคลังกระทู้เก่าด้วยนะครับ จากคุณ : gemo001 - [ 4 พ.ค. 50 21:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ จากคุณ : เจ้าพระยาสุราบาน (เจ้าชายเคโระ) - [ 4 พ.ค. 50 21:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณคร๊าบบ จากคุณ : มาดามนิบง - [ 4 พ.ค. 50 22:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากครับ ความรู้ยิ่งแบ่งปันยิ่งเพิ่มพูนครับ จากคุณ : sakaekrang - [ 4 พ.ค. 50 22:33:08 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณครับ  สำหรับความรู้ดีๆ จากคุณ : the_gift - [ 4 พ.ค. 50 22:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สา-วี-ดัด..... จ้า นู๋บุหงา สาระเยอะมากๆเลย.... ดีค่ะ แต่หลายต้นที่บ้านเจ้บัวไม่มี ว่างๆเอาของนู๋บุหงามาให้เจ้ยืมเลี้ยงบ้างได้หรือเปล่า.....ฮิฮิ จากคุณ : เจ้บัวผุด (naugat) - [ 4 พ.ค. 50 23:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขยันจริงๆ เค้าเลี้ยงกันได้งามากๆอะ จากคุณ : Paphmania - [ 4 พ.ค. 50 23:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณมากเลยครับ น้องหงาและคุณคนป่า.. จากคุณ : บ้านค่าย - [ วันฉัตรมงคล 00:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณ สำหรับภาพสวย ๆ และข้อมูลดี ๆ คับ จากคุณ : ศิระศิลา - [ วันฉัตรมงคล 02:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โอพระเจ้าอะไรกันนี่ทำมันมันสวยยยยยยยยยยยยยอย่างนี้ จากคุณ : เอื้องพวงพลอย - [ วันฉัตรมงคล 06:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณสำหรับกล้วยไม้สวยๆ และข้อมูลที่น่าสนใจครับ ไม่ใช่แต่ฟาแลนฯครับ แวนด้า แอสโคฯ หวายทางฮาวายเขาก็พัฒนามาก่อน แต่เรามาทำทีหลังแล้วแซงได้ครับ จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) - [ วันฉัตรมงคล 07:30:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณมาก บุหงา จากคุณ : jeabnun - [ วันฉัตรมงคล 09:07:54 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณมากในข้อมูล... แต่จำได้ไม่หมดอ่ะ ทำไงดี...อิอิ จากคุณ : 180/kg - [ วันฉัตรมงคล 11:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุงครับ จากคุณ : na_nin - [ วันฉัตรมงคล 13:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แจ๋ว... จากคุณ : ปราวตรี - [ วันฉัตรมงคล 17:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 'งามมาก ๆ เลยครับ จากคุณ : Pic-s - [ วันฉัตรมงคล 18:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สวยๆๆๆๆๆๆๆๆ แทงกิ้ว จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ วันฉัตรมงคล 19:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ชอบไวโอจังค่ะ จากคุณ : บัวนลิน - [ วันฉัตรมงคล 22:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณทุกท่านค่ะ และขอบคุณน้าจังเกิลด้วยค่ะที่ช่วยเพิ่มเติมข้อมูลให้ จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 7 พ.ค. 50 14:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอตบมือดังๆให้กับความพยายามที่นำเสนอข้อมูลดีๆและที่สำคัญภาพสวยมากๆๆๆๆๆ ครับ จากคุณ : หนุ่มดอยสะเก็ด (polyline) - [ 7 พ.ค. 50 23:55:58 ]