ความคิดเห็นที่ 204
ความเห็นค่ะ จากประสบการณ์ที่เคยทำงานด้านนี้มา ขอแยกเป็น 2 กรณีนะคะ
1. อัตราเสี่ยงของการเอา "สำเนาบัตรปชช." ไปทำอะไรต่างๆ
อันนี้ถ้าขีดฆ่า+ระบุว่าใช้เพื่อทำอะไร วันที่เท่าไรเป็นการเฉพาะไว้ ก็ ---ลด---ความเสี่ยงได้ค่ะ
2. อัตราเสี่ยงของการเอา "ข้อมูลในบัตรปชช." เช่น ชื่อ-สกุล ที่อยู่ วดป.เกิด ไปทำอะไรต่างๆ
ปัจจุบันในสังคมนี้ทุกคนมีความเสี่ยงเท่ากันเท่ากันค่ะ เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี การที่คนกลุ่มหนึ่ง จะได้ข้อมูลส่วนตัวของคนสักคนหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เช่น มีเพื่อน (หรือติดสินบนหรือหลอกถาม หรือเป็นเอง) ที่อยู่ในหน่วยงานของรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับฐานข้อมูลส่วนบุคคล พวก อำเภอ หรือ เทศบาล สถานีตำรวจ หรือ หน่วยงานเอกชน เช่น ธนาคาร แผนกบุคคลของบริษัทห้างร้าน หน่วยข้อมูลบัตรเครดิต ฐานข้อมูลโทรศัพท์เคลื่อนที่ ....ก็สามารถรู้ได้แล้วค่ะ
ข้อมูลส่วนบุคคลของคน คนหนึ่ง ตามฐานข้อมูลเหล่านี้ ไม่ใช่แค่รู้ ชื่อ-สกุล อายุ ที่อยู่ กรุ๊ปเลือด วดป เกิด ของเราหรอกนะคะ ฐานขัอมูลพวกนี้ จะ
รู้แม้กระทั่งว่า พ่อ-แม่ ชื่ออะไร สมรสแล้วหรือไม่ บุตรกี่คน เกิดที่ไหน ย้ายบ้านมาแล้วกี่ครั้ง แต่ละครั้งมาจากที่ไหน มีที่ดิน-รถยนต์หรือเปล่า ทำงานที่ไหน เบอร์บ้าน+มือถืออะไร เคยถูกฟ้องร้องทางแพ่ง/ อาญา หรือไม่ โอย อีก เยอะค่ะ บางที รู้มากกว่าที่เรารู้เรื่องของเราเองซะอีก
คนที่มีอัตราเสี่ยงน้อยหน่อย ก็คือ คนที่ตรงกับข้อต่อไปนี้มากที่สุดหรือถูกทุกข้อค่ะ
คนที่ยังไม่เคยทำบัตรประชาชน คนที่ยังไม่เคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎรที่ใด เลย คนที่ไม่มีการแจ้งการเกิด คนที่ไม่เคยมีบัญชีเงินฝาก ไม่เคยสมัครเรียน ไม่เคยสมัครงานที่ไหนเลย ไม่ว่าบริษัท ห้าง ร้าน สมัครทางเนต หรือแม้แต่ไปสมัครทิ้งไว้ตามที่ๆ มีงานต่างๆ (หรือเคยสมัครงาน แต่ที่นั่นเค้าไม่ใช้บัตรประชาชน+ไม่ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว สมัครปุ๊บ ถามชื่อเล่นแล้วรับหรือไม่รับทันที) ไม่เคยเป็นสมาชิกเวลาไปซื้อของแล้วเค้าให้กรอกข้อมูลส่วนตัว พวกเครื่องสำอาง (เช่นยี่ห้อแมค) กระเป๋า (เช่น เพลบอย) ไม่เคยซื้อ+ขอใช้โทรศัพท์มือถือ (แบบรายเดือนเป็นชื่อตัวเอง) ไม่เคยผ่อนรถ ไม่เคยซื้อหรือเช่าบ้าน ไม่เคยผ่อนของ ไม่เคยสมัครบัตรเครดิต หรือบัตรเอที่เอ็ม บัตรเงินสด ไม่เคยเป็นสมาชิกขายตรง ไม่เคยขอน้ำใช้-ไม่เคยขอไฟฟ้า... ไม่เคยเป็นสมาชิกหนังสือนิตยสาร แบบราย3เดือน 6เดือน 1ปี ไม่เคยส่งกล่องเปล่าไปชิงโชค ...อีกเยอะค่ะ
คือ เจตนาที่บอกทั้งหมดก็คือ อยากบอกให้ทราบกันค่ะว่า ทุกคนมีความเสี่ยง โดยไม่รู้ว่าใครทำด้วยซ้ำ
ในทางกลับกันค่ะ ถ้ามีคนเอาข้อมูลคุณไป แล้วทำให้คุณเสียหาย สิ่งที่คุณจะสืบหาว่าใครทำสิ่งแรกคือ คุณให้ข้อมูลเหล่านี้แก่ใครไปบ้าง แล้วติดตามไปที่คนนั้น แล้วดำเนินคดีกับคนที่เอาไปทำให้เสียหายได้
----------------------------------------------------- --------------------- ขออนุญาตเล่าถึงเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเยอะมากในตอนนี้นะคะ
นางสาวสวย (พักอาศัยอยู่ที่คอนโด แต่ ทำงานที่นึง บัตรปชช.ระบุที่อยู่อีกที่นึง) ไปเปิดบัญชีธนาคาร..ก.. (โดยไม่ได้ขอมีบัตรเอทีเอ็ม) ฝากเงินออมทรัพย์ไว้ 500,000 บาท
ต่อมาปรากฏว่า มีคำขอจาก นางสาวสวยขอใช้บัตรเอทีเอ็มในบช. นั้น และปรากฏว่า มีชื่อ นางสาวสวย ไปเปิดบช. และขอเปิด บช กระแสรายวัน+บช.เดินสะพัด วงเงิน 1,500,000 บาท ที่ธนาคาร..ท.. และมีชื่อนางสาวสวย ไปขอบัตรเครดิตธนาคาร..ย.. ได้วงเงิน 100,000 บาท
โดยทั้งหมด นางสาวสวยไม่ทราบเรื่อง
นางสาวสวย มาทราบเรื่องเอาก็ตอนที่ ได้รับ หมายศาลให้ยึดทรัพย์ เพราะเป้นหนี้ธนาคารทั้งสองแห่ง จำนวนเกือบ 2ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย) ซึ่งผ่านไปแล้ว 1 ปี
และพอไปเช็คที่ธนาคารที่ 1 ก็พบว่าเงินฝาก 500,000 ถูกถอนไปแล้วโดยเอทีเอ็มของตนเอง (ที่ตนเองไม่ได้ขอเอง)
สุดท้าย แจ้งความสืบไปสืบมา จึงทราบว่า พนักงานธนาคาร..ก.. แอบเอา ข้อมูลในบัตร ปชช.ไปร่วมกับแฟนที่อยู่ สนง.เขต กระทำการขึ้นค่ะ แต่ว่า คนทั้งคู่ก็ไม่มีเงินเพราะใช่หมดแล้ว
คดีแบบ คนชื่อ นางสาวสวย แต่ ซรวย ไปหน่อยนี้ปัจจุบันเกิดขึ้นบ่อยมากในไทย และผู้กระทำที่ถูกจับได้ส่วนใหญ่ก็มักเป็นกลุ่มคนที่เป็นลูกจ้างหรือเกี่ยวข้องกับข้อมูล ค่ะ ....................................................................
---------------------------
ร่ายมาซะยาว แค่อยากบอกว่า
จะขอหมา จะให้หมา ไม่ว่าจะขอสำเนาบัตรหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสบายใจดีกว่าค่ะ ไม่มีใครผิดเลย ทั้งผู้ขอและผู้ให้
------ บางคนให้สำเนาบัตรมาแต่ว่าไม่น่าไว้ใจ (เพราะมีประวัติเป็นพวกกินหมา+มีแนวโน้มว่าขอไปกิน) ก็ไม่ควรให้หมาไปค่ะ------ อิ...อิ...อิ..
เอาความสบายใจเป็นหลักค่ะ ไม่งั้นทุกฝ่ายจะไม่สบายใจกันเปล่าๆ ฝ่ายให้หมาก็ไม่สบายใจอยากได้อะไรที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจในการรับเลี้ยง+กลัวไม่มีหลักฐานเหมือนซัมซุง ฝ่ายรับหมาก็ไม่สบายใจกลัวเอาข้อมูลไปทำมิดีมิร้าย มันจะไม่สบายใจกันไปหมด
ไม่สบายใจก็อย่าทำ ไม่อยากให้ก็ไม่ต้องให้ (ไม่ว่าจะไม่อยากให้ สำเนาบัตรหรือ หมา)
----แต่ไม่ต้องกังวลว่า จะทำให้เสี่ยงเพิ่มขึ้น-----
เพราะความเสี่ยงเท่ากัน แค่ความ ซรวย แล้วแต่โชคชะตาฟ้าจะกำหนด ค่ะ
ไม่แน่ตอนนี้ดิฉันเองอาจกำลังเป็นหนึ้ธนาคารอยู่
โดยที่ยังไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ - -"
ปล. 1. หากความเห็นของดิฉันไม่ถูกใจ หรือสะกิดต่อม โมโหใคร ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ เลยนะคะ เป็นเพียงความเห็นที่กลั่นกรองออกมาจากสมองเล็กๆ ของคนที่ เคย ทำงานด้านนี้มาเท่านั้น ไม่มีเจตนาใดๆ ให้ใครไม่สบายใจเลยนะคะ 2. ห้ามด่านะคะ ช่วงนี้งานเยอะ ขี้เกียจทำงานเพิ่มค่ะ อิ..อิ..
จากคุณ :
มิชิโกะ
- [
22 พ.ค. 50 00:56:59
]
|
|
|