ความคิดเห็นที่ 1 น่าสนใจค่ะ มารอฟัง จากคุณ : แม่หมีตัวอ้วน - [ 17 พ.ค. 50 13:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอาด้วยคน รอๆๆๆๆๆ จากคุณ : Moo_Dear - [ 17 พ.ค. 50 13:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าเอาภาพ anatomy มาลงจะกลัวไหมอ่ะค่ะ ตอนนี้มีแต่ภาพหัวกะโหลก เพราะไปหาข้อมูลฟันมา แต่อวัยวะภายในนี่ ภาพจะน่ากลัวหน่อยนะ แต่ถ้าคนที่เรียน anatomy มาแล้วคิดว่าไม่น่าเป็นอะไร เพราะคล้ายๆ ดูของคน แต่เค้าจะสีสดกว่า เพราะคิดว่าเค้าเอามาผ่าดู เพื่อการศึกษาเหมือนกับเวลาเราผ่าหนูดูอวัยวะภายใน แต่ anatomy มนุษย์ อาจารย์สีซีดแล้ว เพราะท่านต้องผ่านวิธีเยอะ กว่าเราจะได้เรียนน่ะค่ะ เพราะถ้าลงได้จะได้เอากะโหลกมาให้ดูก่อนค่ะ จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 14:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอาเป็นว่าตอนนี้มีเว็บที่น่ารักดี หัวข้อให้ศึกษาเพียบ ให้ข้อมูลดีด้วยค่ะ ลองเอาไปอ่านกันก่อนนะจ๊ะ http://www.hopperhome.com/hopperhome-anatomy.htm จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 14:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลืมไปว่ามีแบบภาพร่างด้วย **ที่มา haplosciences 2000-2005 จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 14:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพวาดอีกภาพ จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 14:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพอื่นติดเรทไปหน่อยอ่ะค่ะ เป็นภาพ Dissection แต่ให้ความรู้เยอะมากเลย แต่ถ้าใจไม่แข็งพอเราว่าอย่าเข้าไปดูเลยนะคะ เอาลิ้งค์มาฝากค่ะ คลิกหัวข้อด้านซ้ายนะคะ เลือก rabbit http://www.baa.duke.edu/companat/BAA_289L_2004/Natural_History/natural_histories.htm จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 14:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันจ้า กระดึ๋ย กระดึ๋ย ใจไม่แข็งอย่าได้ตามลิงค์ อันในคห 7 เด็ดขาด จากคุณ : แม่หมีตัวอ้วน - [ 17 พ.ค. 50 14:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ จริงเหรอคะพี่วิคกี้...อิอิ อย่างงี้ยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่เลยอ่ะจ้า...เพราะฉะนั้นต้องคลิกเข้าไปดู !!! หุหุ ขอบคุณคุณเจ้าหนูลูกชิ้นมากๆเลยนะคะสำหรับข้อมูลความรู้ดีๆมีประโยชน์แบบนี้ ขอบคุณคุณแม่ปีโป้กับปูนด้วยนะคะที่ตั้งกระทู้ดีๆ มีสาระแบบนี้ให้ได้รับความรู้กัน ^_^ จากคุณ : JDT - [ 17 พ.ค. 50 15:08:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรานะ อ่านไปซูฮกเด็กสัตวฯไป โหเรียนกันเยอะมากๆ นี่แค่กระต่ายนะเนี่ย ยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่เค้าเรียนกัน เราอ่ะแค่เรียน anatomy คนก็หัวจะแตกแล้ว --" เง้อ..คิดถึงเพื่อนจัง จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 15:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เจ้าหนูลูกชิ้นเรียนคณะอะไรจ้ะ พี่ก็เคยเรียน Anatomy (นานมาแล้ว...อายอายุจัง) พี่เรียนเทคนิคการแพทย์จ้า ตอนนั้นใจแข็งไม่พออยากเรียนอยู่นะสัตวแพทย์เนี่ย พอรู้ว่าต้องผ่าสัตว์เพื่อดูการทำงานในร่างกายเค้า...ทำใจเรียนไม่ได้อะ...อดเลย(รู้งี้...ตอนนั้นน่าจะเรียนตอนนี้เริ่มเบื่ออาชีพตัวเอง+จะได้ทำงานกับสัตว์ที่เรารักด้วย เสียดายจริงๆที่ไม่ยอมไป Ent ใหม่) จากคุณ : mtdarin - [ 17 พ.ค. 50 15:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ช่ายแล้วล่ะ  ซูฮกคนที่เรียนจริงๆๆ เพื่อนเราก้อเรียนอยู่เหมือนกัน เค้าบอกตอนผ่าศพนี่กินอะไรไม่ลงไปวันนึงเต็มๆๆอ่ะ เห็นบอกว่าเหม็นฟอร์มารีนอ่ะนะ และก้องดกินเครื่องในสัตว์ไปเลย แถมอนามัยขึ้นอีกตะหากอ่ะ....มานเปลี่ยนจากซกมกมาอนามัยจัดๆๆๆอ่ะ ขอบคุณสำหรัความรู้ใหม่นะคะ เจ้าหนูลูกชิ้น จากคุณ : sumojung - [ 17 พ.ค. 50 15:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตั้งแต่เด็กแล้วอยากเป็นสัตวแพทย์ แต่พอม.5 มั๊งคะ เพื่อนที่เอนท์ติดไปก่อนไปอยู่สัตวฯ เกษตร มาเยี่ยมโรงเรียนแล้ว หอบเอางานฝีมือมาด้วย งานฝีมือนั่นก็คือ ศพน้องกระต่าย ที่ dissection แล้ว เป็นกระดูก กับหนัง เราเลยรู้สึกว่าเรียนสัตวฯไม่ได้อ่ะ ทำใจไม่ได้ที่จะต้องผ่าสัตว์ แล้วที่สำคัญต้องปลดชีวิตเค้าเองอีก ไม่ไหวจริงๆอ่ะ น้ำตาต้องท่วมห้อง Lab แน่นอน เลยเปลี่ยนแนวไปเรียน health science แล้วก็ไปต่อ sports medicine น่ะค่ะ เรียนคนนี่ล่ะดีแล้ว สนุกดีไปอีกแบบ แถมได้เอามาใช้กับคนรอบๆ ตัวด้วย แล้วก็เห็นด้วยเลยค่ะว่าเรียนทางนี้จะอนามัยขึ้นเยอะเลยอ่า ยิ่งเทคนิคการแพทย์ เห็นอะไรเยอะแยะ ใช่ไหมอ่ะคะ **เติมข้อความนิดหน่อย แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 50 15:47:56 จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 15:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โห.. เยี่ยมมากๆๆ ค่ะคุณเจ้าหนูลูกชิ้น ขอบคุณมากๆๆ อยากรู้มานานแล้วเหมือนกันอ่ะ ขอบคุณทั้งคนตั้งกระทู้ & คนตอบเลยน๊า จากคุณ : Nikk Zarx - [ 17 พ.ค. 50 15:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอ่อ พูดถึงเรื่องผ่าศพก็ไม่ไหวเหมือนกันอ่ะ จริงๆก็อยากเรียนหมอนะ แต่ว่าๆๆๆ นึกถึงว่าต้องผ่าศพ เอาแค่กบก่อนนะ ก็ขอบ๊ายบายแล้วจ้า ใจไม่แข็งพอจริงๆ นี่ยังไม่กล้าคลิกไปดู #7 เลย จากคุณ : Nikk Zarx - [ 17 พ.ค. 50 15:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ลืมเอาภาพกายวิภาคกะโหลกและฟันค่ะ ไม่ย่อรูปนะคะ ตัวหนังสือเล็กมากๆ จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 16:03:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รูปๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 16:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สุดท้ายแล้ว...อยากได้กระต่ายตัวนี้อ่ะ จะขี่เล่นทุกวันเลย 5555 จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 16:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ค่ะ แรกๆก็กล้าๆกลัวๆเรียนกับอาจารย์ใหญ่เนี่ย วันแรกที่ได้กลิ่นฟอร์มาลีนน้ำตาไหลพรากเลยค่ะ ไม่กล้ากินเครื่องในเป็นวันๆ หลังๆ...เริ่มชิน ความซกมกเริ่มออกขนาดนั่งเรียนยังแอบหม่ำขนมในห้องเลยค่ะ ยิ่งเรียนแบคทีเรีย...มันยังกล้าแอบขนมเข้าไปกินตอนอ่านผลเพาะเชื้ออีก(ความซกมกเฉพาะตัวนะคะ...คนอื่นที่เค้าเรียนคณะนี้เค้าทำแบบพี่ไม่ได้หรอก) ค่ะพี่ว่าเรายิ่งรู้เกี่ยวกับร่างกายเรามากขึ้นเท่าไหร่เรายิ่งคิดมากขึ้นเท่านั้น ตอนเรียนระแวงกลัวเป็นมันทุกโรคเลยที่รู้จัก จะกินอะไรก็ระแวง...แต่ถ้าระแวงมันทุกอย่างคงอดกินค่ะ เพราะยังไงเชื้อโรคมันมีอยู่ทุกที่แหละขึ้นอยู่กับว่าเค้าสามารถเข้ามาก่อโรคในร่างกายเราได้ไหม พี่ไม่กลัวหรอกเรื่องศพอะเรื่องเลือดก็ไม่กลัว...แต่กลิ่นคาวเลือดนี่ขอบายค่ะ เคยเห็นคนไข้อาเจียนเป็นเลือดตอนไปเจาะเลือดคนไข้ครั้งนึงเกือบเป็นลม...โดนแซวเลยว่าทำงานเกี่ยวกับเลือดมากลัวเลือดอย่างนี้ได้ไง จากคุณ : mtdarin - [ 17 พ.ค. 50 16:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอามาฝากอีกรูปนะคะ พยายามคัดกรองและคาดการณ์ว่าอวัยวะไหนชื่ออะไร ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ เอ่อ..โปรแกรมที่บ้านไม่มีภาษาไทยอ่ะค่ะ (ความจริงไม่รู้ว่าใส่ภาษาไทยยังไงต่างหาก 555) ปล. คุณmtdarin พอชินกับอาจารย์แล้วก็ไม่เหม็นแล้วล่ะค่ะ  เคยแสบตาครั้งนึงมากๆ ตอนเรียนเรื่องสมอง เพราะ แช่ไว้ในอ่างฟอมาลีนใหญ่มากๆ พัดลมเพดานก็เป่าๆ แสบตาสุดๆ ส่วนเรื่องเชื้อโรค ก็เป็นห่วงแต่พวกที่ร้ายๆจริงๆ แต่ว่าเราจะห่วงเรื่องการใช้ชีวิตมากกว่า คนเดี๋ยวนี้ทานโน่นทานนี่เยอะแยะ แถมออกกำลังกายน้อย ระบบข้างในนี่จะทรุดเมื่อไหร่เราก็ไม่รู้ เรียนมากก็รู้มากก็เลยคิดมาก  เป็นปกติค่ะ จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 16:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ้อ..แล้วในเว็บเนี่ยบอกเลยว่า "The digestive system of the rabbit was extremely easy to expose and remove.  The rabbit’s abdominal muscles are thin and easy to cut through." ก็คือช่วงท้องกระต่ายบอบบางมากนะคะ มีกล้ามเนื้อบางๆปกคลุมเท่านั้นเอง เราเองเวลามองดูพุงแมวน้ำยังเห็นลำไส้เคลื่อนตัวเลยค่ะ ลองๆ สังเกตดูนะคะ ท้องเค้าเคลื่อนๆ หมุนๆ เส้นขนจะขยับเป็นจังหวะวนๆ จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 16:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มีอีกเรื่องนึงนะคะ "We did not find a gallbladder in our rabbit.  The literature states that there should be a small one but it was absent in our rabbit or so reduced that it was lost in the dissection.  It makes sense that the gallbladder would be reduced because the rabbit does not eat a lot of fatty foods and the main purpose of the gallbladder is to store bile which is used in the breakdown of lipids.  Animals such as carnivores, on the other hand, may be expected to have a larger gallbladder." กระต่ายจะมีถุงน้ำดีขนาดเล็กมาก เพราะโดยธรรมชาติเป็นสัตว์ที่กินอาหารไขมันต่ำ (ถุงน้ำดีมีหน้าที่เก็บน้ำดีไว้ใช้ในการย่อยไขมัน) ใครที่ให้กระต่ายกินขนมกรุบกรอบ เค้ก หรือ อาหารคนนี่ เลิกเถอะนะจ๊ะ สรีระเค้าไม่อำนวยในการย่อยอาหารที่มีไขมันมากๆ เดี๋ยวจะเป็นอันตรายด้วยล่ะ จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 17:00:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อืมๆๆๆๆ เข้ามาดูอีกรอบ ลองไปดูรูปมาแล้วค่ะ ลำไส้เค้ายาวมากๆๆๆเลยเนอะ ว่าแต่ caecum คืออะไรเหรอคะ ทำหน้าที่ + มีประโยชน์ยังไงในกระต่ายอ่ะ เห็นมันยาวมากๆเลยเหมือนกัน ? จากคุณ : Nikk Zarx - [ 17 พ.ค. 50 17:20:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านเจออีกอันนึง "The lungs of the rabbit seemed to wrap around the heart.  The functional significance of this specialization is that when the rabbit is running, the lungs act as a cushion for the heart to keep it in place and protect it from trauma.  Since rabbits must make quick, rapid movements, it is imperative that their hearts are protected during locomotion.  None of the other specimens in class had this specialization." หัวใจของกระต่ายจะถูกหุ้มด้วยปอดอีกทีหนึ่ง โดยปอดจะทำหน้าที่เป็นผ้าบุกันกระแทก และรักษาตำแหน่งของหัวใจให้คงเดิม เพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่มีการเคลื่อนไหวอย่ารวดเร็ว โดยที่ยังไม่พบสัตว์อื่นใน class เดียวกันที่มีความพิเศษนี้ จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 17:24:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 caecum เป็นส่วนนึงของลำไส้ใหญ่ค่ะคุณNikk Zarx เป็นลำไส้ส่วนท้าย ซึ่งในสัตว์กินพืชจะยาวกว่าสัตว์กินเนื้อเพราะเป็นส่วนที่สามารถย่อยสลายเซลลูโลส (ผนังเซลล์ของพืช หรือ เรียกง่ายๆว่ากากใย) ซึ่งคนเราจะไม่มีความสามารถย่อยเซลลูโลสได้ "The cecum provides the space, bacteria and enzymes that allow the food to ferment for up to a week so that the cellulose can be converted to absorbable carbohydrates." caecum ยังเป็นส่วนที่มีแบคทีเรีย และ เอ็นไซม์ ที่จะทำให้กากอาหารถูกหมักจนเซลลูโลสถูกเปลี่ยนไปเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ดูดซึมได้ และส่วนของ caecum ยังผลิตอึที่มีปรโยชน์ต่อระบบขับถ่ายของกระต่ายอุดมไปด้วย วิตามิน K วิตามินบีรวม กรดอะมิโน และกรดไขมันที่จำเป็น ซึ่งอึชนิดนี้จะออกมาแค่ตอนกลางคืนและตอนเช้าตรู่เท่านั้น ส่วนอึที่มีในระหว่างวันจะไม่ใช่อึที่มีสารอาหารนะจ๊ะ จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 17 พ.ค. 50 17:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณมากๆค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย จากคุณ : มามี้@ian - [ 17 พ.ค. 50 19:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หูยยยยยยยยยย สยองปนความรู้..สุดยอดไปเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ จากคุณ : แก้มน้อยกลอยใจ - [ 17 พ.ค. 50 21:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จริงด้วยคะ  สยองปนความรู้จริงๆ   ขอบคุณค๊าบบบบ จากคุณ : แมวบ้า - [ 17 พ.ค. 50 23:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณความรู้ดีๆนะครับ จากคุณ : bunny_society - [ 18 พ.ค. 50 00:22:34 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ๋อๆๆ อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณมากคะ คุณเจ้าหนูลูกชิ้น จำได้คลับคล้ายคลับคลาแล้ว ตอนเรียนชีวะนี่เอง เอิ่กกกกกกกก เรื่องสัตว์กินพืชกับกินเนื้อ โอวววว ความทรงจำสีจางง ...555 จากคุณ : Nikk Zarx - [ 18 พ.ค. 50 00:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เอิ่ม แน๊ต น้องรัก พี่เพิ่งกินอิ่มๆมา ของดีๆ ทั้งนั้นเรย เปิดดูรูปแรก ก็พรวด กี๊ดๆๆๆๆ ก๊าซซซซซ พอแล้วๆๆๆ ยกนิ้วให้ใครดูได้หมด ใจถึงมั่กๆ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 18 พ.ค. 50 00:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แนทเขียนคำเตือนไว้แล้วนา พี่แดง ก็คิดว่าเราดูเพื่อการศึกษา ก็จะชินไปเองน่ะค่ะ ขอขอบคุณอาจารย์ใหญ่ตัวน้อยๆ ที่เสียสละชีวิตให้ความรู้กับเรา เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่จริงๆ จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 18 พ.ค. 50 01:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ปล. เขียน Liver (ตับ) เขียนผิดเป็น River (แม่น้ำ) ต้องเข้ามาแก้ก่อนเดี๋ยวอาจารย์ที่เคารพจะตามมาดีดหู หุหุหุ จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 18 พ.ค. 50 01:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 34 555  พี่แดง หมวยมาบอกว่ากดดูหมดเลยล่ะ...มานแปลกดีอ่ะ แต่มู๋ม่ะกล้าดูบอกกินข้าวม่ะลง พี่แนท หมวยเข้าไปดูแล้ว แต่อ่านม่ะออกเลยอ่ะ...แบบว่าโง่อังกฤษมั่กมาก ขอบคุณนะคะที่มาแปลให้อ่าน... จากคุณ : sumojung - [ 18 พ.ค. 50 09:43:54 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นรูปเเล้วอยากกินก๋วยจั๊บเลยอ่ะ.... เอาเซ่งจี๊กะเลือดนะหิวๆ จากคุณ : อู๋ (ปลาทองความจำสั้น) - [ 18 พ.ค. 50 11:07:20 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่กล้าเปิด คห.7  กลัวสยอง  แต่เป็นความรู้ดีค่ะ จากคุณ : หม่ามี้ฝน - [ 18 พ.ค. 50 11:12:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 --- น้องหมวยค่อยๆอ่านเดี๋ยวก็รู้เรื่อง นักวิชาการเค้าเขียนอ่านง่ายกว่าบ้านเราเยอะ --- แสดงว่าคุณอู๋เรียนทางนี้ได้แน่ 55555 มีวันนึงทางคณะแพทย์จัดทำบุญให้อาจารย์ใหญ่ แล้วเค้าก็จะให้นิสิต มอบพวงมาลัย แล้วหลังจากนันก็กินข้าวกัน กินในห้องน่ะค่ะ อาจารย์ใหญ่ก็นอนอยู่บนเตียงเรียงแถว ดีที่ทุกคนชินแล้วเลยไม่รู้สึกอะไรกัน --- คุณหม่ามี้ฝนลองเข้าเว็บแรกก่อนได้ค่ะ อันนั้นก็ให้ความรู้เยอะเหมือนกัน จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 18 พ.ค. 50 14:49:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38 = =' ไม่กล้าดูอ่ะ แต่รูปกระต่ายข้างบนขาย๊าว ยาว จากคุณ : Kellina - [ 18 พ.ค. 50 17:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณนะค่ะ คุณเจ้าหนูลูกชิ้น เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ ต่อไปนี้ต้องคอยระวังเรื่องอาหารของปูนค่ะ เพราะเขาชอบมาขอกินข้าว กับขนมปังอยู่เรื่อย รูปใน คห ที่ 7 น่ากลัวได้ใจมากค่ะ จากคุณ : แม่ปีโป้กับปูน (แม่ปีโป้กับปูน) - [ 18 พ.ค. 50 18:10:31 ]